ใครจำ เธอได้บ้างครับสเตฟ นักร้องเกาหลี ที่เคยได้ฉายาว่า นักเต้นเก่งที่สุดในเกาหลีใต้

นึกว่าจะเลิกเป็นนักร้องไปซะแล้วสำหรับ สเตฟานี่แห่งชอนซังจีฮีเดอะเกรซ (คิมโบกยอง วัย 25 ปี) ที่หายหน้าหายตาจากวงการเพลงไปพักใหญ่ มีเพียงแค่ข่าวของเธอออกมาบ้างประปราย

เมื่อปี 2008 ระหว่างเตรียมการสำหรับคอนเสิร์ตในญี่ปุ่น เธอเกิดบาดเจ็บที่หลังจนต้องกลับไปรักษาตัวที่อเมริกา
เป็นเวลาสองสามปีที่แทบไม่ได้ยินข่าวของเธอเลย
ขณะที่ทางชอนซังจีฮี ดาน่ากับซันเดย์ก็ได้เริ่มทำกิจกรรมอีกครั้งภายใต้ยูนิตพิเศษ แต่แล้วจู่ๆก็มีข่าวเซอร์ไพรส์จากสเตฟานี่ที่แอบเก็บตัวอยู่ว่าเธอได้เป็นนักบัลเลต์ของ LA Ballet

แฟนที่เกาหลีต่างก็พากันสงสัยว่า ‘สเตฟานี่ลาออกไปแล้วหรือ?’ แต่เธอผู้นั้นได้กลับมาอีกครั้งด้วยการเป็นนักร้องเดี่ยว และพร้อมที่จะโชว์ให้ทุกคนเห็นถึงการเต้นที่แสนเซ็กซี่และทรงพลัง มากกว่าทุกเวทีที่คุณได้เคยเห็นมา

“ถ้าแค่คล้ายกับของเดิมมันก็ได้แค่เท่าทุน ตอนนี้ต้องทำให้ทุกคนเห็นว่าเราไม่ใช่ไอดอลที่จะยิ้มกลบเกลื่อนเมื่อทำผิดพลาดอีกแล้ว ทั้งการร้องทั้งการเต้นเราต้องทำให้คนรู้สึกให้ได้ว่าเราต่างจากไอดอลทั่วไปที่มีอยู่ตอนนี้ ไม่อย่างนั้นแล้วการกลับมาแบบเดี่ยวครั้งนี้ก็จะไม่มีความหมายอะไรเลย”

หลังจากผ่านการบำบัดที่เข้มงวดและกลับมายืนบนเวทีได้อีกครั้ง เราสามารถเห็นถึงความมุ่งมั่นที่แข็งแกร่งของ
สเตฟานี่ผ่านทางโชว์บนเวทีของเพลง ‘Game’ ได้เป็นอย่างดี

▶ หายหน้าหายตาไปนานมาก กลับมาร้องเพลงในรอบกี่ปี

“เมื่อปี 2008 ตอนเตรียมงานคอนเสิร์ตที่ญี่ปุ่นเกิดอาการบาดเจ็บขั้นที่หลังค่ะ เพราะเป็นคอนเสิร์ตใหญ่ครั้งแรกเลยต้องทุ่มเทมาก ทำให้ต้องใส่ส้นสูงซ้อมวันละ 11 ชั่วโมง หลังไม่ได้หยุดพักเลย คอนเสิร์ตก็ขึ้นไม่ได้ต้องกลับไปรักษาตัวที่อเมริกา เพราะกระดูกสันหลังคดงอเลยต้องทำการรักษาค่ะ”

▶ ตอนมีอาการบาดเจ็บที่หลัง รู้สึกท้อจนอยากเลิกเป็นนักร้องบ้างไหม

“ตอนกลับไปอเมริกาก็กลัวมากว่าจะกลับมาเป็นนักร้องไม่ได้อีกแล้ว แม้จะเพิ่งได้มีโอกาสพูดตอนนี้ แต่ตอนอยู่ที่อเมริกานั้นฉันไม่สามารถออกไปข้างนอกได้เลย อยู่แต่ในบ้านเป็นเวลา 8 เดือนเต็ม มันเป็นเรื่องที่น่าเศร้ามาก สำหรับคนที่เคยกระโดดโลดเต้นได้แต่อยู่มาวันหนึ่งกลับขยับตัวไม่ได้เลย แต่ก็คลายความเศร้าไปได้บ้าง เพราะในขณะที่รับการรักษาอยู่นั้นก็มีคุณครูชาวอเมริกาที่เคยสอนบัลเลต์ให้ แนะนำให้ลองไปสอบใบอนุญาตการสอนดูค่ะ ในการบำบัดนั้นฉันต้องทำการยืดหยุ่นและเริ่มเรียนโยคะด้วย และตอนนั้นเองที่ฉันเริ่มฝึกซ้อมและฟื้นพื้นฐานบัลเลต์ที่ได้เรียนมาตั้งแต่ห้าขวบอีกครั้ง”

▶ ได้แสดงใน The Nutcracker กับคณะ LA Ballet ด้วย

“ต้องกัดฟันกลับมาเต้นบัลเลต์อีกครั้งค่ะ สำหรับนักเต้นแล้วไม่ควรปล่อยให้เส้นเอ็นฉีกขาดหรือได้รับบาดเจ็บค่ะ แม้ร่างกายจะเจ็บแต่ก็ต้องอดทน ปีถัดมาก็ได้มีโอกาสไปออดิชั่นที่ LA Ballet และแถมยังโชคดีสอบเข้า Korea National University of Arts ได้อีกด้วย และตอนนั้นก็ไม่เคยคิดทิ้งอาชีพนักร้องเลย แถมยังพูดคุยเรื่องแผนคัมแบคที่เกาหลีกับคุณคิมชังฮวานเอาไว้เรียบร้อยแล้วด้วย”

▶ ครั้งนี้เป็นการร่วมงานกับคุณคิมชังฮวาน CEO บริษัท Media Line ไม่ใช่ SM

“ถึงจะอยู่ที่อเมริกาแต่ก็ยังติดต่อกับทางบริษัท SM อยู่ตลอด เมื่อประมาณสองปีก่อน คุณโปรดิวเซอร์คิมชังฮวานที่ค่อนข้างสนิทสนมกับคุณอีซูมานอยู่แล้ว ได้เปรยว่าอยากทำเพลงแด๊นซ์ให้กับฉันและคุณอีซูมานก็เห็นดีด้วย ฉันได้เจอกับเขาและมีการพูดคุยกันครั้งแรกเมื่อปีก่อน ตอนที่กลับมาสอบเอ็นทรานซ์เข้าฮันเยจง เหมือนฝันเลยค่ะที่ได้รับโอกาสให้กลับมาเป็นนักร้องอีกครั้ง”

▶ เนื่องจากเดบิวต์ภายใต้ SM อาจจะรู้สึกไม่คุ้นเคยกับ Media Line

“บรรยากาศภายในบริษัทเป็นกันเองเหมือนครอบครัวมากค่ะ เลยทำความคุ้นเคยกันได้เร็ว คุณคิมชังฮวานโปรดิวซ์เซอร์ให้อิสระกับเราได้ตัดสินใจว่าอยากทำสไตล์ไหน เขาจะบอกว่า ‘ทำอย่างที่อยากทำให้เต็มที่เลย’ แถมในบริษัทยังมีรุ่นพี่อย่าง คุณคิมกอนโม, พัคมีกยองและพี่คูจุนยอบสุดเท่ แถมยังเป็นคนที่สนุกสนานด้วย ไปทานข้าวกับบริษัทแต่ละครั้ง ในเวลาแค่ไม่กี่ปีเราก็สนิทสนมกับทุกคนมากขึ้นค่ะ”

▶ เลือกเพลง ‘Game’ เป็นเพลงโปรโมท

“ตอนแรกเพลงที่จะใช้โปรโมทคือเพลง ‘Dance(Nanana)’ค่ะ ด้วยว่าเป็นเพลงมีบีทที่ค่อนข้างหนัก ทันทีที่ได้ฟังก็คิดท่าเต้นออกเลยค่ะ แต่เพราะเพลงค่อนข้างหนักเกินไปสำหรับการแสดงสดบนเวทีเลยรู้สึกหนักใจอยู่บ้าง แต่หลังจากได้ฟังเพลง ‘Game’ ก็คิดว่ามันน่าจะติดหูและเป็นที่นิยมมากกว่า และดนตรีบางช่วงก็ยังสามารถแทรกท่าเต้นในแบบของเราลงไปได้ด้วย เลยคิดว่ามีหลายอย่างอยากจะโชว์ให้ทุกคนได้เห็นกันด้วยค่ะ”

▶ ท่ากังหันตีลัง 360 องศากลายเป็นประเด็นที่คนพูดถึงกันเยอะ

“แม้ในส่วนท่าเต้นของแดนเซอร์จะมีคนช่วยคิดให้บ้าง แต่ในส่วนของฉันจะทำเองเกือบทั้งหมด ให้ท่าเต้นออกมาดูครีเอตและมีความพิเศษ  และเพื่อให้การทำงานง่ายขึ้นและไม่ให้เกิดความผิดพลาด จึงต้องมีการปรับเปลี่ยนอยู่ตลอดเวลา เมื่อไม่กี่วันก่อนการคัมแบค เราอยากให้มีท่อนที่ดูมีพลังจึงคิดท่ากังหันขึ้นมาค่ะ ฉันอยากจะทำให้มันออกมาดีที่สุดจะได้ไม่ต้องมานั่งเสียใจทีหลัง แม้จะได้แผลมาเต็มตัว แต่ภาพรวมออกมาดีฉันก็รู้สึกดีค่ะ”

▶ ถือว่าเป็นรุ่นพี่ในบริษัท SM มานานเลยต้องมีการถือตัวบ้าง

“เพราะเดบิวต์มาตั้งแต่ปี 2005 เลยเป็นรุ่นพี่ของ SNSD,f(x), SHINee การถือตัวนั้นไม่จำเป็นเลยค่ะ รุ่นน้องในบริษัท SM ทุกคนจะทักทายด้วยความสุภาพและให้ความเคารพรุ่นพี่อยู่แล้ว อย่างรุ่นพี่คังตะก็มักจะทักทายพนักงานและบอกรุ่นน้องให้ตั้งใจทำงานอยู่เสมอ ครั้งแรกที่เห็นแอมเบอร์มาเกาหลี ฉันก็เข้าไปทักทายก่อนแอมเบอร์ก็ลุกขึ้นมาโค้งให้แบบ 90 องศาเลยค่ะ เพราะเห็นสีหน้าที่มุ่งมั่นนั้น ฉันเลยขอให้มาร่วมแร็พในเพลงของฉันด้วยค่ะ”

▶ หายไปนาน กลับมาคราวนี้ดูมีความกระตือรือล้นมาก

“เมื่อมีคนให้ความสนใจมากก็ต้องดีใจเป็นธรรมดาค่ะ ในทวิตเตอร์ก็มีแฟนชมว่า ‘ยังเจ๋งเหมือนเดิมเลยนะ’ ก็ต้องขอบคุณมากจริงๆค่ะ ในฐานะนักร้องที่เน้นการแสดงบนเวทีเลยคิดว่าต้องเน้นในเรื่องเต้นให้ดี เพราะฉะนั้นงานเพลงครั้งนี้ก็อยากได้กระแสตอบรับเยอะๆ ยิ่งถ้าคนรู้จักเราในฐานะนักร้องหญิงเดี่ยวที่สามารถร้องสดและเต้นท่ายากๆบนเวทีได้ดี ก็จะดีใจมากเลยค่ะ เมื่อก่อนอย่างเวลาทำอะไรผิดพลาดก็แค่ทำน่ารักกลบเกลื่อนไปได้ แต่ตอนนี้อายุก็เยอะขึ้นคงทำแบบนั้นไม่ได้แล้ว ต้องทำให้ดีให้สมกับเป็นมืออาชีพค่ะ”