ชาย 10 คน กับการจ่ายค่าเบียร์
โพสท์โดย Mashi
ในเมืองเล็กๆแห่งหนึ่งในอเมริกา
ทุกๆวันจะมีชาย 10 คน ไปกินเบียร์ที่บาร์แห่งหนึ่ง
และค่าเบียร์จะอยู่ที่ 100 ดอลลาร์เท่ากันทุกวัน
ชายสี่คนแรก เป็นคนที่จนที่สุดในกลุ่มจึงไม่ต้องเสียค่าเบียร์
ชายคนที่ 5 จ่ายเพียง $1
คนที่ 6 จ่าย $3
คนที่ 7 จ่าย $7
คนที่ 8 จ่าย $12
คนที่ 9 จ่าย $18
คนที่ 10 ซึ่งเป็นคนที่รวยที่สุดในกลุ่ม จ่าย $59
เวลาผ่านไป หนึ่งเดือน ...สองเดือน พวกเขาก็ยังมาเป็นประจำทุกวัน
วันหนึ่ง เจ้าของร้านก็บอกข่าวดีกับพวกเขาว่า เนื่องจากพวกเขาเป็นลูกค้าที่ดีมาตลอด
เขาจึงอยากจะลดค่าเบียร์ให้ $20 เป็น $80
ชายทั้ง 10 ดีใจมาก ที่ต้องจ่ายค่าเบียร์ลดลงเหลือเพียง $80
อย่างไรก็ตาม การลดราคาครั้งนี้ ก็ไม่ได้กระทบกับชายสี่คนแรกอยู่ดี
เพราะในราคาปกติ พวกเขาก็ไม่ต้องจ่ายอยู่แล้ว...
แล้วชายอีกหกคนที่เหลือหละ??? พวกเขาจะหารส่วนลด 20 ดอลลาร์ยังไง
ชายคนนึงเสนอว่า ให้หารเท่าๆกันเพื่อ “ความยุติธรรม”
20 ดอลลาร์ หาร 6 คือ 3.33 ...
แต่ว่า ถ้าหากลดให้ทุกๆคน คนละ 3 ดอลลาร์
ชายคนที่ 5 และ 6 ก็จะไม่ต้องเสียอะไรเลย
นั่นหมายถึงว่า ชายสิบคนที่มากินเบียร์ มีเพียง 4 คนเท่านั้นต้องจ่าย
เจ้าของร้านจึงเสนอไอเดียว่า ให้ทุกๆคนลดจำนวนเงินที่ตัวเองต้องจ่ายลง ในสัดส่วนที่เท่ากัน
จากนั้นเขาก็คำนวณให้เรียบร้อย ผลออกมาก็คือ...
ชายคนที่ 5 ไม่ต้องเสียอะไรเลย เหมือนชายสี่คนแรก (ลดลง 100%)
คนที่ 6 จ่าย $2 จาก $3 (ลดลง 33%)
คนที่ 7 จ่าย $5 จาก $7 (ลดลง 28%)
คนที่ 8 จ่าย $9 จาก $12 (ลดลง 25%)
คนที่ 9 จ่าย $14 จาก $18 (ลดลง 22%)
คนที่ 10 จ่าย $49 จาก $59 (ลดลง 16%)
ทุกคนก็เหมือนจะเห็นด้วยตามไอเดียนี้ จนกระทั่งบาร์ปิด
ชายคนที่ 6 ก็นึกขึ้นมาได้ จึงพูดออกมาว่า “ทำไมฉันได้ส่วนลดเพียง 1 ดอลลาร์ จาก 20 ในขณะที่เขาได้ตั้ง 10 !!!”
พร้อมกับชี้ไปหา ชายคนที่สิบ
“นั้นนะสิ” ชายที่คน 5 พูดเสริมออกมา “ฉันลดไปเพียง 1 ดอลลาร์”
ทุกคนบ่นออกมาต่างๆนานา ว่าไอเดียนี้ไม่ยุติธรรมเลย
จากนั้น ชายสี่คนแรกที่ไม่ต้องจ่ายอะไรเลยตั้งแต่แรก ก็พูดออกมาว่า
“พวกเราไม่ได้อะไรเลย จริงๆเราควรได้อะไรบ้างสิ นี้มันเอาเปรียบคนจนชัดๆ”
ชายคนที่ 8 และ 9 ก็รวมหัวช่วยกันรุมชายคนที่ 10
คืนต่อมา...ชายคนที่ 10 ก็ไม่ได้มากินเบียร์กับพวกเขา
เมื่อถึงเวลาต้องจ่ายเงิน พวกเขาก็ได้เรียนรู้บางอย่างที่สำคัญ
ก็คือ จำนวนเงินที่พวกเขาเคยจ่ายนั้น รวมกันยังไม่ถึงครึ่งหนึ่งของค่าเบียร์
-David R. Kamerschen, Ph.D.-
---------------------------------------------------
นี้เป็นการอธิบายระบบภาษีที่เขียนออกมาในรูปแบบการใช้ชีวิตประจำวัน
เลยอยากแปลมาให้อ่านกันคะ เป็นวิธีการเข้าใจระบบภาษีที่อ่านง่ายและสนุก
นี้เป็นเหตุผลว่าทำไมเมื่อเกิดมาตรการ “ลดหย่อนภาษี”
คนรวยถึงได้รับผลประโยชน์มากที่สุด
นั้นก็เพราะว่า เมื่อใดที่ นักลงทุนหรือ คนรวย รู้สึกว่าตัวเองต้องจ่ายภาษีมากเกินไป
พวกเขาก็สามารถไปหากิจกรรมการลงทุนที่อื่นที่ภาษีต่ำกว่า หรือ
ออกไปหาร้านอื่นที่ค่าเบียร์ถูกกว่า....
ระบบภาษีในไทยก็ไม่แตกต่างจากอเมริกาค่ะ คิดภาษีเป็นลำดับขั้น
ที่ต่างกันก็คือ ขั้นสูงสุดของไทยจ่าย 37% แต่อเมริกา ต้องจ่ายถึง 50%
อย่างที่หลายๆคนเคยพูดไว้ว่า "เหรียญมีสองด้าน"
การมองอะไรหลายๆด้านก็จะทำให้เราเข้าใจอะไรได้มากขึ้นนะคะ
ปล. การดื่มสุราเป็นอันตรายต่อสุขภาพนะคะ
ชายคนที่ 5 จ่ายเพียง $1
คนที่ 6 จ่าย $3
คนที่ 7 จ่าย $7
คนที่ 8 จ่าย $12
คนที่ 9 จ่าย $18
คนที่ 10 ซึ่งเป็นคนที่รวยที่สุดในกลุ่ม จ่าย $59
เวลาผ่านไป หนึ่งเดือน ...สองเดือน พวกเขาก็ยังมาเป็นประจำทุกวัน
วันหนึ่ง เจ้าของร้านก็บอกข่าวดีกับพวกเขาว่า เนื่องจากพวกเขาเป็นลูกค้าที่ดีมาตลอด
เขาจึงอยากจะลดค่าเบียร์ให้ $20 เป็น $80
ชายทั้ง 10 ดีใจมาก ที่ต้องจ่ายค่าเบียร์ลดลงเหลือเพียง $80
อย่างไรก็ตาม การลดราคาครั้งนี้ ก็ไม่ได้กระทบกับชายสี่คนแรกอยู่ดี
เพราะในราคาปกติ พวกเขาก็ไม่ต้องจ่ายอยู่แล้ว...
แล้วชายอีกหกคนที่เหลือหละ??? พวกเขาจะหารส่วนลด 20 ดอลลาร์ยังไง
ชายคนนึงเสนอว่า ให้หารเท่าๆกันเพื่อ “ความยุติธรรม”
20 ดอลลาร์ หาร 6 คือ 3.33 ...
แต่ว่า ถ้าหากลดให้ทุกๆคน คนละ 3 ดอลลาร์
ชายคนที่ 5 และ 6 ก็จะไม่ต้องเสียอะไรเลย
นั่นหมายถึงว่า ชายสิบคนที่มากินเบียร์ มีเพียง 4 คนเท่านั้นต้องจ่าย
เจ้าของร้านจึงเสนอไอเดียว่า ให้ทุกๆคนลดจำนวนเงินที่ตัวเองต้องจ่ายลง ในสัดส่วนที่เท่ากัน
จากนั้นเขาก็คำนวณให้เรียบร้อย ผลออกมาก็คือ...
ชายคนที่ 5 ไม่ต้องเสียอะไรเลย เหมือนชายสี่คนแรก (ลดลง 100%)
คนที่ 6 จ่าย $2 จาก $3 (ลดลง 33%)
คนที่ 7 จ่าย $5 จาก $7 (ลดลง 28%)
คนที่ 8 จ่าย $9 จาก $12 (ลดลง 25%)
คนที่ 9 จ่าย $14 จาก $18 (ลดลง 22%)
คนที่ 10 จ่าย $49 จาก $59 (ลดลง 16%)
ทุกคนก็เหมือนจะเห็นด้วยตามไอเดียนี้ จนกระทั่งบาร์ปิด
ชายคนที่ 6 ก็นึกขึ้นมาได้ จึงพูดออกมาว่า “ทำไมฉันได้ส่วนลดเพียง 1 ดอลลาร์ จาก 20 ในขณะที่เขาได้ตั้ง 10 !!!”
พร้อมกับชี้ไปหา ชายคนที่สิบ
“นั้นนะสิ” ชายที่คน 5 พูดเสริมออกมา “ฉันลดไปเพียง 1 ดอลลาร์”
ทุกคนบ่นออกมาต่างๆนานา ว่าไอเดียนี้ไม่ยุติธรรมเลย
จากนั้น ชายสี่คนแรกที่ไม่ต้องจ่ายอะไรเลยตั้งแต่แรก ก็พูดออกมาว่า
“พวกเราไม่ได้อะไรเลย จริงๆเราควรได้อะไรบ้างสิ นี้มันเอาเปรียบคนจนชัดๆ”
ชายคนที่ 8 และ 9 ก็รวมหัวช่วยกันรุมชายคนที่ 10
คืนต่อมา...ชายคนที่ 10 ก็ไม่ได้มากินเบียร์กับพวกเขา
เมื่อถึงเวลาต้องจ่ายเงิน พวกเขาก็ได้เรียนรู้บางอย่างที่สำคัญ
ก็คือ จำนวนเงินที่พวกเขาเคยจ่ายนั้น รวมกันยังไม่ถึงครึ่งหนึ่งของค่าเบียร์
-David R. Kamerschen, Ph.D.-
---------------------------------------------------
นี้เป็นการอธิบายระบบภาษีที่เขียนออกมาในรูปแบบการใช้ชีวิตประจำวัน
เลยอยากแปลมาให้อ่านกันคะ เป็นวิธีการเข้าใจระบบภาษีที่อ่านง่ายและสนุก
นี้เป็นเหตุผลว่าทำไมเมื่อเกิดมาตรการ “ลดหย่อนภาษี”
คนรวยถึงได้รับผลประโยชน์มากที่สุด
นั้นก็เพราะว่า เมื่อใดที่ นักลงทุนหรือ คนรวย รู้สึกว่าตัวเองต้องจ่ายภาษีมากเกินไป
พวกเขาก็สามารถไปหากิจกรรมการลงทุนที่อื่นที่ภาษีต่ำกว่า หรือ
ออกไปหาร้านอื่นที่ค่าเบียร์ถูกกว่า....
ระบบภาษีในไทยก็ไม่แตกต่างจากอเมริกาค่ะ คิดภาษีเป็นลำดับขั้น
ที่ต่างกันก็คือ ขั้นสูงสุดของไทยจ่าย 37% แต่อเมริกา ต้องจ่ายถึง 50%
อย่างที่หลายๆคนเคยพูดไว้ว่า "เหรียญมีสองด้าน"
การมองอะไรหลายๆด้านก็จะทำให้เราเข้าใจอะไรได้มากขึ้นนะคะ
ปล. การดื่มสุราเป็นอันตรายต่อสุขภาพนะคะ
ที่มา: ==maytawee==
http://www.stock2morrow.com/showthread.php?t=37909
http://www.stock2morrow.com/showthread.php?t=37909
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
64 VOTES (4/5 จาก 16 คน)
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
สับปะรดแห่งทางเท้า : ความสวยงามน่ารักของธรรมชาติ ที่เกิดขึ้นด้วยความบังเอิญ เป็นภาพที่เรียกรอยยิ้มได้ดีทีเดียวเลยหนา...มังคุดคัด 8 ลูก 699 บาท! "พี่เอ ศุภชัย" เจอดราม่า ราคาแรงแซงโค้งนักแสดงดัง แจ้งข่าว ติดเชื้อ “HIV” ก่อนโพสต์สุดเศร้าHot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
จอนนี่ โซมาลี Youtuber คนดัง ก่อวีรกรรมป่วน! ชาวเน็ตแห่ #แบนจอนนี่โซมาลีอุ๊งอิ๊งเดินหน้าเอ็มโอยู44!ลั่นไม่เกี่ยวกับ'เกาะกูด'