ทำไม พระนามรัชกาลที่ 1 และ 2 จึงขึ้นด้วย พระพุทธ
ครั้งเมื่อรัชกาลที่ 1 ทรงขึ้นครองราช และได้ประกาศตั้งพระราชวงศ์จักรีขึ้นนั้น รัชกาลที่ 1 ซึ่งมีพระนามตามที่เราทุกคนรู้จักดีคือ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ครั้นรัชกาลที่ 2 ทรงสืบราชบัลลังก์ต่อจากนั้นก็มีพระนามว่า พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย แต่จะเห็นว่ามีเพียงสองพระองค์เท่านั้นที่มีคำว่า "พระพุทธ" อยู่หน้าชื่อ ซึ่งเรื่องนี้มีที่มาจากรัชสมัยของสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 ซึ่งท่านจะได้อ่านต่อไปนี้ครับ
พระพุทธรูป พระพุธยอดฟ้าจุฬาโลก
พระพุทธรูป พระพุธเลิศหล้านภาลัย
ภาพในโบสถ์วัดพระแก้ว
องค์ซ้ายคือพระพุทธรูป พระพุธยอดฟ้าจุฬาโลก องค์ขวาคือพระพุทธรูป พระพุธเลิศหล้านภาลัย
เป็นปรางปางห้ามพระญาติแย่งน้ำในสมุทร ที่เราเรียกสั้นๆว่า ปางห้ามญาติบ้าง ปางห้ามสมุทรบ้าง
เมื่อพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จเถลิงถวัลราชสมบัติ มีพระราชปรารภว่า ในสมัยอยุธยาสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 2 ทรงหล่อพระศรีสรรเพชญ์ และพระเจ้าแผ่นดินองค์ต่อๆ มา ทรงหล่อพระรูปสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 (พระเจ้าอู่ทอง) ผู้ทรงเป็นบรมกษัตริย์ขึ้นไว้สักการบูชา
และอีกประการ สมัยนั้นชาวบ้านมักจะเรียกสมัยรัชกาลที่ 1 ว่า "แผ่นดินต้น" และเรียกสมัยรัชกาลที่ 2 ว่า "แผ่นดินกลาง" รัชกาลที่ 3 ทรงเห็นว่าหากให้เรียกแผ่นดินพระองค์ว่า ไแผ่นดินปลาย" ก็จะเป็นอัปมงคล
ด้วยอาศัยปรารภเหตุดังกล่าวนี้ จึงทรงพระราชศรัทธาสร้างพระพุทธรูปใหญ่ หุ้มด้วยทองคำ เพื่อให้เป็นพระพุทธรูปฉลองพระองค์ รัชกาลที่ 1 และรัชกาลที่ 2 เมื่อทรงปรึกษาพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเมื่อครั้งยังทรงผนวช จึงมีพระราชดำริว่าพระพุทธรูปความมีความสูงในราวหกศอก จึงได้ทรงสร้างพระพุทธรูปทรงเครื่อง อย่างจักรพรรดิราช 2 องค์ จารึกพระนามองค์หนึ่งว่า พระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก อีกพระองค์หนึ่งจารึกพระนามว่า พระพุทธเลิศหล้าสุลาลัย จึงมีพระบรมราชโองการให้ตั้งนามแผ่นดินตามพระพุทธปฏิมากรทั้ง 2 พระองค์ แผ่นดินต้นให้ใช้ว่าแผ่นดินพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก แผ่นดินกลางให้ใช้ว่าแผ่นดินพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้าสุลาลัย ซึ่งต่อมาพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดให้เปลี่ยนสร้อยพระนามเป็น “นภาลัย”
ด้วยเหตุนี้ทั้งพระนามของทั้งสองรัชกาลนี้ จึงมีคำว่า "พระพุทธ" อยู่ด้วย
บางคนอาจแปลกใจว่าทำไมต้องสร้างเป็นพระพุทธรูป ที่เป็นอย่างนี้ก็เพราะไทยเราไม่มีธรรมเนียมสร้างพระบรมรูปกันในสมัยนั้น แต่พอหลัง ๆ มาเมื่อเราเริ่มรับธรรมเนียมอย่างฝรั่งเข้ามา ก็เริ่มมีการสร้างพระบรมรูปพระมหากษัตริย์ในแต่ละรัชกาลขึ้นมา
หวังว่าเพื่อนๆ ที่ไม่เคยได้ศึกษาคงได้รับประโยชน์จากบทความนี้นะครับ หลายเรื่องราวในประเทศไทยยังมีเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยให้เราได้เรียนรู้อีกมากมาย ขออนุญาตบทความนี้ฝากถึงเพื่อนๆ ทุกคนที่เข้ามาอ่านและโหวตให้ เนื่องด้วยบางบทความก็เหนื่อยในการหาข้อมูลที่ถูกต้องและต้องเรียบเรียงให้กระชับและเข้าใจได้ง่าย ก็เป็นธรรมดาที่เวลาเพื่อนๆ เข้ามาอ่านหรือคอมเม้นท์ทำให้รู้สึกว่าไม่เสียดายเวลาที่นั่งค้นคว้าหาข้อมุล ก็ต้องขอขอบคุณทุกคนครับที่อ่านกัน แล้วพบกันใหม่นะครับ...mata
เรียบเรียงโดย พรชัย สังเวียนวงศ์ (mata)
ขอบพระคุณภาพประกอบ จากหนังสือวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ถ่ายโดย หม่อมเจ้า สุภัทรดิศ ดิศสกุล และ Bloggang.com
ที่มา: http://www.thaiweekender.com/index.php/watphrakaew.html#ixzz2Cm2vsjM0, th.Wikipedia.org