หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Team Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน ราคาทองคำ กินอะไรดี
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

บทสรุปเนื้อเรื่อง RESIDENT EVIL 6 : ตอนที่1 -Jake Muller-

โพสท์โดย ~...No NamE...~

 

เรียงจากในภาพ เพียรส์ คริส ลีออน เชอร์รี่ เจค เอด้า เฮเลน่า
 
นี่คือบทสรุปเนื้อเรื่องไบโอ6 ที่กะจะเขียนแบบรวดรัด แต่ไปๆมาๆรวบรัดเป็นบางช่วง ละเอียดเป็นยางช่วง... จะว่าไปเดี๋ยวนี้คนไม่ค่อยเรียกว่าไบโอกันแล้วยกเว้นพวกเกมเมอร์แก่ๆอย่างเรา 555 แถมบางคนยังรู้จักแต่หนังและคิดว่าเนื้อเรื่องมันเหมือนๆกันซะอีก ไม่นะ! เกมมันดีกว่าหนังเยอะเลยนะ อย่าเอาไปเหมารวมกัน 
 
เกมก็ออกมาได้อาทิตย์นึงแล้ว(ถ้าไม่นับแผ่นหลุดก่อนหน้านี้) เนื้อเรื่องภาคนี้ก็สนุกสนานดี ถึงบางจุดจะโม้ๆ บังเอิญเยอะไปหน่อย(พยายามไม่คิดมาก) กำกับคัทซีนได้ดี เสียงพากย์ก็ยอดเยี่ยม ส่วนเกมเพลย์สนุกไม่สนุกนั่นอีกเรื่องนึงไปลองกันเอาเอง 
 
ในภาคนี้เนื้อเรื่องแบ่งออกเป็น4แคมเปญ คือ
1.ลีออน
2.คริส
3.เจค
4.เอด้า
โดยเรื่องราวจะเกิดขึ้นพร้อมๆกัน บางทีตัวละครก็จะมาเจอกันในที่ต่างๆระหว่างเคลียร์เรื่องราวของตัวเอง แต่หลักๆแล้วก็จะโฟกัสเนื้อเรื่องไปที่จุดต่างกัน ฉากจบก็คนละแบบ แนวเนื้อเรื่องก็คนละอารมณ์
 
บทสรุปเนื้อเรื่องตอนนี้เป็นเนื้อเรื่องจากแคมเปญของเจค ปริศนาหลายๆอย่างหรือคำตอบทางเนื้อเรื่องจะไปเฉลยที่แคมเปญของตัวละครอื่น ต้องรู้เรื่องทั้งสี่แคมเปญก็จะเข้าใจเนื้อหาได้ครบถ้วนเอง และที่เลือกเขียนแคมเปญของเจคก่อนก็เพราะเป็นเนื้อเรื่องที่แยกตัวออกมาจากพล็อตหลักมากที่สุด ตัวเจคเองเป็นคาแรกเตอร์สำคัญในการคลายปมของพล็อต แต่ก็ไปมีการผจญภัยเป็นของตัวเอง ไม่ได้ไปเจอกับเหตุการณ์สำคัญๆในเรื่องแบบจะๆเท่าไหร่นัก
 
ก่อนจะเริ่มก็ขอแนะนำตัวเอกสองตัวในแคมเปญนี้ก่อน
 
เจค มัลเลอร์

-เขาเป็นลูกชายของอัลเบิร์ต เวสเกอร์ ตัวร้ายผู้โด่งดังประจำซีรีย์นี้นั่นเอง แต่เจคไม่เคยรู้จักพ่อของตัวเองมาก่อน เพราะเวสเกอร์ทิ้งแม่เค้าไปตั้งแต่ยังท้องอยู่ เจคเติบโตมากับแม่แค่สองคน ตัวเค้าเองมีพลังกายที่แข็งแกร่งกว่าคนทั่วไป (แต่ยังไม่ถึงขั้นเทพแบบเดอะเมตทริกซ์เท่าเวสเกอร์) และยังมีสายเลือดพิเศษที่เค้าไม่รู้ตัว
เจคใช้ความสามารถพิเศษที่แข็งแกร่งนี้ในการหาเลี้ยงตัวเองและแม่ด้วยการเป็นทหารรับจ้าง แต่หลังจากแม่ตายไป เจคก็ไร้จุดหมายในการมีชีวิตอยู่ เค้ามองเห็นเงินเป็นสิ่งสำคัญในชีวิตเพราะเค้าคิดว่าถ้ามีเงินมากพอตั้งแต่ยังเด็กก็คงรักษาแม่เค้าได้ และแม่ก็คงไม่ป่วยตาย ปัจจุบันเจคร่อนเร่อยู่ในประเทศอีโดเนีย(ประเทศที่แคปคอมสมมุติขึ้นมา) เลี้ยงชีพด้วยการรับจ้างเป็นบอดี้การ์ด เป็นทหาร เป็นผู้ก่อการร้ายหรืออะไรก็ตามแต่ที่คนจะจ่ายเงินให้
 
เชอร์รี่ เบอร์กิ้นส์

-ลูกสาวของวิลเลี่ยม เบอร์กิ้นส์ เชอร์รี่เคยปรากฏตัวในภาค2 เป็นเด็กที่ลีออนและแคลร์ช่วยเหลือ หาวัคซีนมาให้และพาหนีออกมาจากแรคคูนซิตี้ เหตุการณ์นั้นทำให้เชอร์รี่เสียพ่อและแม่ไป แต่เธอก็ยังมีลีออนและแคลร์เป็นผู้ใหญ่ที่คอยดูแล แม้จะไม่ได้เจอกันบ่อยนักแต่เธอก็ยังคิดถึงทั้งคู่เสมอ ปัจจุบันเธอเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลของสหรัฐอเมริกา ซึ่งต่อต้านการก่อการร้ายด้วยอาวุธชีวภาพ จากการฝึกฝนในภาคนี้เชอร์รี่เติบโตเป็นสาวบู๊เต็มขั้น ใช้ปืนได้อย่างเชี่ยวชาญ อาวุธประจำตัวคือกระบองไฟฟ้า
 
ก็มาเริ่มกันเลย เนื้อเรื่องของResident Evil 6ตอนที่1 
 
*ขอบคุณภาพประกอบจาก HassanAlHajry ชาเนลยูทูปที่อัพเดตเกมได้ตรงใจดิฉันมาก อัพเร็ว เยอะ ชัด ไม่มีเสียงพูดมากน่ารำคาญ เล่นเก่งไม่ตายบ่อย แถมยังเล่นแต่เกมแนวเดียวกันอีกตังหาก
 
*หากผิดตรงไหนก็ช่วยท้วงติง หรือใครอยากแลกเปลี่ยนความคิดเห็นแง่มุมใด ก็เชิญเลยจ้า ;D
 
----------------------------
 
เปิดฉากที่ประเทศอีโดเนียซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันออกของยุโรป
ชายหนุ่มคนหนึ่งโยนแอปเปิ้ลเล่นและนั่งผิวปากอยู่ในแหล่งรวมพลของกลุ่มกองโจร เขามองเข็มฉีดยาที่บรรจุตัวยาบางอย่างเอาไว้ภายในและจึงฉีดมันเข้าที่ต้นคออย่างไม่แยแส ใช่แล้ว เขาคือเจค มัลเลอร์ หนึ่งในทหารรับร้างที่กลุ่มโจรนี้จ้างมา
ในห้องห่างไปไม่ไกล สมาชิกในกองกำลังคนอื่นๆก็ฉีดตัวยานี้เข้าไปเช่นกัน แต่นั่นกลับทำให้พวกเขาเจ็บปวดทรมานแสนสาหัสและกลายร่างจนมีรูปลัษณ์เป็นกึ่งคนกึ่งสัตว์ประหลาดน่าสยดสยองที่เรียกว่าจาโว หนึ่งในนั้นวิ่งอย่างคลุ้มคลั่งออกมาทำร้ายเจค
 
"ไอ้นี่น่ะ มันเป็นยากระตุ้นกำลังอะไรทำนองนั้นสินะ แต่ชั้นไม่รู้สึกอะไรเลยว่ะ"
 
"ว่าแต่นายรู้อะไรมั้ย พวกเราน่าจะเรียกค่าจ้างให้มากกว่านี้นะ"
แม้ศัตรูจะใช้มีดตัดแอปเปิ้ลที่ถืออยู่จนขาดกระเด็นเฉี่ยวหน้าไปนิดเดียว แต่เจคก็ไม่สะทกสะท้าน และจัดการกับจาโวตัวนั้นด้วยมือเปล่าอย่างสบายๆ และแล้วเชอร์รี่ที่แอบดูเหตุการณ์อยู่ก็โผล่ออกมา
 
"คุณฉีดยานั่นไปแล้วรึเปล่า?"
 
"...อ่าฮะ ถ้าอยากได้กับเค้าบ้างละก็เธอต้องไปเซ็นสัญญาจ้างกับผู้หญิงที่ชั้นล่างนั่นน่ะ  แต่ก็ไม่แนะนำหรอกนะ"
 
เจคพูดพลางมองที่ร่างของศัตรูที่กำลังเปลี่ยนสภาพกลายเป็นฝุ่นผง
เชอร์รี่มองดูเวลา ถ้าหากเป็นคนทั่วไปเจคก็คงจะต้องกลายร่างไปแล้ว ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเจคมีแอนติบอดี้(สารที่เป็นภูมิต้านทาน)อยู่ในตัว หน้าที่ของเชอร์รี่คือการหาตัวผู้มีแอนติบอดี้แล้วคุ้มครองคนๆนั้นและนำตัวไปส่งให้กับรัฐบาล
 
"เจค มัลเลอร์ คุณอาจจะเป็นกุญแจสำคัญในการช่วยโลกเราได้" 
 
"ชั้นว่า เราเอาตัวเองให้รอดก่อนดีกว่านะ" 
 
เจคและเชอร์รี่หนีกลุ่มโจรที่ไล่ตามมา โดยมีผู้หญิงคนหนึ่งแอบมองเหตุการณ์ทั้งหมดอยู่
 
เมื่อหนีมายังที่ปลอดภัย เจคก็เริ่มต้นต่อรองธุรกิจทันที
 
"เอาล่ะสาวน้อย บอกค่าตัวไว้ก่อนเลยละกันนะ ค่าวางมัดจำสองแสน อีกสองแสนจ่ายหลังจบงาน ส่วนค่าจัดการพวกB.O.Wตัวแสบนั่นคิดต่างหากเป็นรายตัวนะครับผม"
 
"เข้าใจผิดแล้ว ชั้นไม่ได้มาจะจ้างคุณ"
 
"...อ้าว แล้วมาทำไมล่ะ"
 
"เราต้องการเลือดของคุณ!"
 
"อ้อ เป็นพวกกาชาดเหรอ"
 
"ไม่ใช่! ฟังนะ พวกที่โจมตีเราล้วนแต่เป็นคนที่ติดเชื้อด้วยไวรัสตัวใหม่ที่ชื่อว่าซี-ไวรัส แบบเดียวกับที่คุณฉีดเข้าไปเมื่อกี้นี้ แต่คุณไม่กลายร่างเพราะคุณมีเลือดที่มีสารต่อต้านไวรัส! ตอนนี้วัคซีนคือสิ่งที่สำคัญที่สุดในการหยุดยั้งการก่อการร้ายด้วยอาวุธชีวภาพ เลือดของคุณจะช่วยชีวิตคนได้มากมายนะเจค เราต้องการคุณ!"
 
เจคนิ่งเงียบไปนาน จนสุดท้ายก็พูดออกมาว่า..
 
"50ล้านเหรียญ เงินสด ห้ามต่อรอง ตกลงมั้ย"
 
"ด้วยราคานี้ ชั้นจะยอมบริจาคเลือดสักกระติกนึงละกัน"
 
 
จากนั้น ทั้งคู่ก็เดินทางไปด้วยกันเพื่อหลบหนีออกจากอีโดเนีย ระหว่างทางก็ได้เจอกับ Ustanak อาวุธชีวภาพที่ร้ายกาจฆ่าเท่าไหร่ก็ไม่ตาย มันถูกสร้างขึ้นมาเพื่อไล่ล่าเจคตามคำสั่งของนีโออัมเบรลล่า หลังจากสู้และหนีหัวชุกหัวชุน ทั้งสองคนก็ได้พบกับคริสที่นำทีมBSAAมาควบคุมสถานการณ์ในอีโดเนียพอดี
 
เชอร์รี่แนะนำตัวเองกับเหล่าทหารBSAAทั้งหลาย ทำให้คริสจำเธอได้เพราะแคลร์เคยเล่าเรื่องของเชอร์รี่ให้เขาฟัง(เรื่องที่แคลร์เจอกับเชอร์รี่ในแรคคูนซิตี้ และคอยปกป้องเธอตอนเด็กในภาค2) ระหว่างนั้นเพียรส์ก็สังเกตเห็นเจคที่ยังใส่เสื้อของกลุ่มผู้ก่อการร้ายอยู่ แต่คริสก็ห้ามเพียรส์ที่อยากจะจับกุมเจคเอาไว้ด้วยเหตุผลว่าตอนนี้สิ่งที่สำคัญมากกว่าคือภารกิจหลักในการกำจัดB.O.W.ต่างหาก
คริสติดต่อกับHQให้เตรียมเฮลิคอปเตอร์ไว้ให้เชอร์รี่กับเจค แต่ก่อนที่ทั้งคู่จะแยกตัวจากไปคริสก็ถามเจคขึ้นมา
 
 
"เฮ้ นายน่ะ"
 
"เราเคยเจอกันมาก่อนหรือเปล่า?"
 
"หึ โทษทีนะพวก ทหารหัวเกรียนอย่างนายหน้าตาเหมือนกันหมด ชั้นจำไม่ได้หรอก"
 
"ฮะๆ งั้นชั้นคงจำผิดน่ะ"
 
กล่าวคือคริสสะดุดใจ รู้สึกคลับคล้ายคลับคาว่าเคยเจอเจคมาก่อนเป็นเพราะว่าเจคทำให้เขาคิดถึงใครบางคน นั่นก็คือเวสเกอร์ แต่ตอนนั้นคริสยังไม่รู้ว่าเจคคือลูกชายของเวสเกอร์
 
หลังจากขึ้นเฮลิคอปเตอร์ที่คริสเตรียมไว้ให้แล้ว เจคก็ถามเชอร์รี่เรื่องของคริสเพราะดูเหมือนเจคจะขัดใจอะไรบางอย่าง แต่แล้วเจคก็เปลี่ยนใจเลิกถาม ตอนนั้นเองUstanakก็ตามขึ้นมาล่าตัวเจคจนสุดท้ายก็ทำให้เครื่องตก ทั้งคู่คว้าร่มชูชีพเอาไว้ได้ แต่เมื่อมาถึงพื้นก็พบว่าเชอร์รี่บาดเจ็บสาหัส ถูกแผ่นเหล็กขนาดใหญ่ปักกลางหลัง ขณะที่เจคกลัดกลุ้มไม่รู้จะทำยังไงดีเชอร์รี่ก็ได้สติตื่นขึ้นมา
 
 
"ดึงออกให้ที"
 
"เธอจะเสียเลือดจนตายนะ"
 
"ไม่ต้องห่วง ดึงออกให้ที"
 
"...ชั่นเตือนเธอแล้วนะ"
 
เจคดึงแผ่นเหล็กออก เชอร์รี่บิดตัวด้วยความเจ็บปวด แต่แผลของเธอกลับค่อยๆสมานตัวเอง ทำเอาเจคตกใจตาค้าง
 
 
"....อะไรกันเนี่ย"
 
 "...เรื่องมันยาวน่ะ"
 
 "เลือดเธอมากกว่ามั้งที่น่าจะเอาไปทำวัคซีนน่ะ"
 
"พวกเค้าทดลองแล้วล่ะ..."
 
"...ทดลองจนชั้นแทบจะทนไม่ไหว แต่ก็ไม่ได้ผล"
 
ตั้งแต่ลีออนและแคลร์ช่วยเชอร์รี่ออกมาจากแรคคูนซิตี้ ทางการก็ได้ทำการทดลองกับเธอมากมายเพราะรู้ว่าเธอมีความสามารถในการฟื้นตัวจากการที่เคยได้รับวัคซีนจี-ไวรัส แต่ถึงแม้จะต้องผ่านการทดสอบแสนทรมาน เชอร์รี่ก็อยากจะมีประโยชน์ในการช่วยเหลือคนอื่นเช่นที่ลีออนและแคลร์เคยช่วยเธอเอาไว้...
 
จากนั้นทั้งคู่ก็ค้นหาแฟลชไดรฟ์ข้อมูลของเจคที่ต้องใช้ในการสร้างไวรัสที่ดันหล่นหายไประหว่างกระโดดลงมาจากเฮลิคอปเตอร์ และได้พบกับศัตรูชนิดใหม่ จาโวประเภทกลายพันธ์ขั้นรุนแรงที่ไม่ได้เปลี่ยนไปแค่ส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกาย แต่จะสร้างเมือกเหนียวเป็นเปลือกหุ้มร่างกายก่อนจะฟักออกมาเป็นสิ่งมีชีวิตชนิดใหม่ เจคเปรยว่าดีชะมัดที่ตัวเองมีแอนติบอดี้ ไม่งั้นป่านนี้หลังจากไม่รู้อิโหน่อิเหน่ฉีดไอ้ยานั้นเข้าไปก็ไม่หล่อแล้ว พอหาแฟลชไดรฟ์ในความมืดยามค่ำคืนจนครบ ก็เข้าไปหลบในกระท่อมรอพายุหิมะซา... แล้วเจคก็ชวนคุย
 
"เป็นมานานแล้วเหรอ ไอ้พลังฟื้นตัวนั่นน่ะ"
 
"...พ่อชั้นเป็นนักวิทยาศาสตร์น่ะ เค้าทดลองเกี่ยวกับB.O.W."
 
"เกิดเรื่องที่ทำให้ชั้นต้องติดเชื้อ แต่ก็โชคดีที่มีคนหาวัคซีนมาให้ได้ทันเวลา"
 
"ไวรัสในร่างกายจึงปรับตัว แล้วก็ได้เป็นความสามารถนี้มานับแต่นั้น"
 
"แล้วพ่อของเธอล่ะ"
 
"เค้าตายแล้วล่ะ ด้วยการทดลองของเค้าเอง ตอนที่เค้าตาย ร่างของเค้ากลายพันธ์ไปเสียจนชั้นจำเค้าไม่ได้เลย"
 
"ขอโทษนะ...ชั้นไม่ได้ตั้งใจ"
 
"ไม่เป็นไร อย่างน้อยชั้นก็ได้สิ่งสำคัญมาจากบทเรียนครั้งนั้น ได้เจอกับลีออนและแคลร์ ทั้งสองคนเป็นเพื่อนที่สนิทที่สุดในชีวิตของชั้น"
 
"พวกเค้าเสี่ยงชีวิตเพื่อช่วยชั้นเอาไว้ จนถึงตอนนี้ ชั้นก็ยังอยากเดินทางตามรอยพวกเขา"
 
"จงอย่ายอมแพ้ ไม่ว่าโอกาสจะน้อยเพียงใด"
 
 
ขณะที่บรรยากาศกำลังเป็นใจ กองโจรก็ไล่ตามมาถล่มกระท่อมพอดี ทั้งสองคนต่อสู้และต้องเอาตัวรอดจากภูเขาหิมะถล่มด้วยการขี่สโนวไบค์หลบหนี จนไปสุดทางที่เหมืองแห่งหนึ่ง ทว่าเมื่อเข้าไปก็เจอกับUstanakที่รออยู่แล้ว แล้วเราจะได้เล่นเกมซ่อนหากับUstanak...โดยการหลบซ่อนๆตามมุมตึกหรือซ่อนตัวในกล่องถังต่างๆ 
แต่แล้วUstanakก็จะหาตัวเราพบแล้วไล่ล่าอยู่ดี เจคและเชอร์รี่จึงต้องขับรถขุดแร่ชนสู้กับUatanakและบดขยี้จนมันแน่นิ่งไป เมื่อออกมาก็พบว่าเป็นเวลาเช้าแล้ว..
 
 
เชอร์รี่ชี้ให้ดูจุดนับพบกับทีมช่วยเหลือที่อยู่ไกลออกไป แต่กองโจรก็ปรากฏตัวขึ้นแล้วรุมยิงใส่ทั้งคู่ ระหว่างที่ยิงตอบโต้กันนั้น Ustanakที่ฟื้นตัวขึ้นมาก็เข้าโจมตีจากด้านหลัง ซัดจนเชอร์รี่กระเด็น แล้วก็เหยียบตัวเจคเอาไว้ เจคมองไปที่เชอร์รี่อย่างเป็นห่วง แต่แล้วผู้หญิงในตอนเริ่มที่เป็นคนว่าจ้างกองโจรก็เดินเข้ามามองเจคด้วยสายตาเย้ยหยัน 
 
 
"เธอนี่เอง ลูกของเวสเกอร์"
 
"เวสเกอร์อะไรวะ"
 
"ก็ชายคนที่พยายามจะทำลายโลกนี้ไงล่ะ จอมวายร้าย อัลเบิร์ต เวสเกอร์ เขาคือพ่อของเธอ"
 
"ว่าไงนะ"
 
"นั่นแหล่ะ คือเหตุผลที่ทำให้เธอมีสายเลือดพิเศษยังไงล่ะ"
 
เมื่อพูดจบ เธอก็ส่งสัญญาณให้Ustanakจัดการเจคจนสลบไป
 
6เดือนต่อมา...
 
เจคนอนอยู่บนเตียงทดลอง ณ ห้องทดลองของนีโออัมเบรลล่า ตลอดหกเดือนที่ผ่านมาเขาถูกทำการตรวจสอบและทดลองมากมายหลายอย่างถึงคุณสมบัติของสายเลือดของเขา
 
ในวันนี้เจ้าหน้าที่ก็เดินเข้ามาคุมตัวเขาไปทดลองเช่นเคย แต่เมื่อเห็นช่องว่างเจคก็ตัดสินใจโจมตีใส่ผู้คุมทันที
เมื่อจัดการเจ้าหน้าที่ทั้งหมดในห้องแล้วหลบหนีออกมาจนพบกับเชอร์รี่ที่ถูกจับตัวมาพร้อมกัน(จุดนี้ถ้าเลือกเล่นเป็นตัวละครใดก็จะแยกไปเล่นเป็นตัวละครนั้นจนกว่าจะมาพบกัน)
ทั้งคู่ดีใจที่ได้เจอกันอีกครั้งถึงเจคจะเขินนิดหน่อยหน่อยที่ชุดคนป่วยของเชอร์รี่มันน้อยชิ้นซะเหลือเกิน เชอร์รี่ถามว่าเกิดอะไรขึ้นกับเจคบ้าง เจคตอบว่าพวกนั้นวิจัยและทดลองร่างกายของเขาเพื่อต้องการที่จะหาทางเพิ่มประสิทธิภาพของซี-ไวรัสให้ร้ายกาจยิ่งกว่าเดิม และเขาก็ได้รู้เรื่องใหม่อีกเรื่องนึงคือพ่อของเขา...
"เธอรู้จักอัลเบิร์ต เวสเกอร์หรือเปล่า?"
 
"...รู้สินะ...พวกมันพูดเรื่องเขาเยอะแยะเลย ทั้งเรื่องที่เขามีแอนติบอดี้ต่อต้านไวรัสทุกประเภท แต่กลับเอาไปใช้ในทางที่เลวร้าย แล้วสุดท้ายก็กลายเป็นสัตว์ประหลาด และโดนฆ่าตายไป"
 
"หึ แล้วชั้นก็ไม่เคยรู้อะไรเลย เข้าใจมาตลอดว่ามันก็คงเป็นแค่ไอ้ผู้ชายห่วยๆที่ทิ่งครอบครัวไป"
 
"เปล่าเลย ที่จริงแล้วมันเป็นไอ้บ้าเสียสติที่คิดจะทำลายโลกนี้ แล้วก็เกือบจะทำสำเร็จด้วย!"
 
เจคโกรธที่ตัวเองเพิ่งมารู้ความจริงและก็รู้สึกโทษทุกอย่างทั้งเรื่องที่ตัวเองแปลกแยกจากคนอื่น เรื่องที่ต้องมาเจออะไรร้ายๆ ต้องโดนไล่ล่า ว่าเป็นความผิดพ่อ การที่ตัวเองไม่ได้ทำตัวเป็นคนดีๆอย่างชาวบ้านเขาก็อาจจะเป็นเพราะสายเลือดชั่วๆนี้ก็ได้  แต่เชอร์รี่กลับบอกว่าเรื่องที่เวสเกอร์ทำก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ไม่เกี่ยวอะไรกับเจค ส่วนเรื่องราวในตอนนี้ และเรื่องที่เจคทำ เป็นสิ่งที่เจคจะต้องรับผิดชอบด้วยตัวเอง ไม่สามารถโทษคนอื่นได้
 
หลังจากงอนกันเล็กน้อย เจคและเชอร์รี่ก็หาทางออกจากตึกทดลองนี้ จนโผล่มายังชั้นบน เป็นคฤหาสถ์ที่มีสถาปัตยกรรมแบบจีน หลังต้องแก้ปริศนาหยอดเหรียญเปิดประตูแล้วก็จะวิ่งมาพบกับห้องควบคุม ซึ่งมีข้อมูลของเจคตลอดการทดลองทั้ง6เดือนบันทึกอยู่ เจคเจอมือถือของเชอร์รี่ที่ศัตรูเก็บเอาไว้ในห้องนี้จึงส่งให้เชอร์รีจัดการติดต่อกับศูนย์บัญชาการซะ(6เดือนแบตมันยังไม่หมดเรอะ...) และระบุจุดนัดพบที่กลางเมือง
แล้วก็จะเจอกับเหตุการณ์ชวนอึ้งว่าแคปคอมคิดได้ยังไงคือการหนีรถถังในคฤหาสถ์ พอออกมาข้างนอกได้แล้วเจคก็จะแว้นมอไซค์ให้เชอร์รี่ซ้อนท้ายและขับหนี เราจะได้บังคับเป็นเจคขี่มอไซค์หนีเหล่าเฮลิคอปเตอร์และเหล่าจาโวแบบโคตรเว่อร์ยิ่งกว่าหนังไมเคิลเบย์ 
หนีจนมอไซค์พังก็จะได้พักเหนื่อยครู่หนึ่งก่อนศัตรูจะมาล้อมอีกรอบ
แต่เจคก็สังเกตเห็นบางอย่างเข้าที่ตึกด้านบน
"โอ้ะโอ เรดฟิลด์กับพวกลูกเสือของหมอนั่นก็มาเจอเรื่องวุ่นๆที่นี่เหมือนกันแฮะ"
 
หลังจากจัดการศัตรูโดยมีกลุ่มของคริสคอยช่วยโจมตีจากด้านบน เชอร์รี่ก็จะกระตุ้นให้เจครีบไปต่อ แต่เมื่อเห็นสายตาของคริส เจคจึงครุ่นคิดบางอย่าง
 
"เขาจะรู้มั้ยนะ ว่าเวสเกอร์คือพ่อของชั้น"
 

 
"คงไม่รู้นะ ทำไมเหรอ"
 
"...ช่างเถอะ เขาคงแค่ไม่ถูกชะตาด้วยเฉยๆมั้ง"
 
ตั้งแต่เจอกันครั้งเมื่อหกเดือนก่อนที่อีโดเนีย เจคก็รู้สึกไม่ค่อยชอบคริสเป็นทุนเดิม
เช่นเดียวกับที่คริสรู้สึกว่าเจคมีอะไรบางอย่างที่ไม่ใช่แค่วัยรุ่นเลือดร้อนทั่วไป...
 
หลังจากนั้นก็เดินทางมาจนถึงลานเก็บตู้คอนเทนเนอร์ที่มีไฟลุกไหม้ เชอร์รี่ตกใจเมื่อพบกับลีออนและเฮเลน่า 
 
"ลีออน!"
 
"เชอร์รี่? เธอมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง"
 

 
"...มันเป็นภารกิจลับของราชการค่ะ"
 
"ใช่...ชั้นได้ยินมาว่าเธอกลายเป็นเอเจนท์แล้ว"
 
"แล้วลีออน คุณมาทำอะไรที่นี่"
 
"มาเปิดโปงตัวการที่อยู่เบื้องหลังทั้งหมดนี้ ดีเรค ซิมมอนส์"
 
"!...ไม่จริง ต้องมีอะไรผิดพลาดแน่ เขาเป็นผู้บังคับบัญชาของหนูนะ...เรากำลังจะไปพบเขาที่จุดนับพบอยู่"
 
"มันอยู่ที่ไหน?"
 
เมื่อค้นพบว่าผู้บังคับบัญชาที่เป็นคนมอบหมายหน้าที่ตามหาและคุ้มครองตัวเจคเพื่อนำมาสร้างวัคซีนคือคนร้ายที่เป็นตัวการ เชอร์รี่ก็ยังคงเชื่อไม่ลงและลังเลใจที่จะบอกสถานที่นับพบกับลีออน ระหว่างที่เชอร์รี่อึกอัก ลีออนก็เดินเข้ามาประชิด
 
"บอกชั้นมา" 
 
"เฮ้ย!"
 
เจคเข้าใจว่าลีออนข่มขู่เชอร์รี่ก็เลยผลักออกลีออนออกไป แต่เชอร์รี่ก็ห้ามไว้ เจคจึงดึงตัวเชอร์รี่มากระซิบ
 
 
"ไหนว่าเป็นมีคำสั่งห้ามติดต่อกับคนแปลกหน้าไง"
 
"ลีออนไม่ใช่คนแปลกหน้า! เขาเป็นคนช่วยชีวิตชั้นไว้ที่แรคคูนซิตี้"
 
"ก็ได้..."
 
ทันใดนั้นUstanakเจ้าเก่าก็ปรากฏตัวที่ยอดตู้คอนเทนเนอร์ มาโยนถังน้ำมันใส่กลุ่มตัวเอก ลีออนยื่นมือไปจะช่วยเชอร์รี่ แต่เจคก็พุ่งตัวไปคว้าเชอร์รี่เอาไว้แล้วกลิ้งไปข้างๆ หลังจากหลบได้อย่างหวุดหวิด
 
ลีออนเหลือบไปมองเจคที่กำลังช่วยฉุดเชอร์รี่ให้ลุกขึ้นยืน แล้วลีออนก็แอบยิ้มออกมา...(อารมณ์คุณพ่อเห็นลูกโตเป็นสาว) จากนั้นเฮเลน่าก็เตือนให้ระวังUstanakที่เตรียมจะพุ่งเข้าใส่ ทั้งสี่คนจึงตั้งท่าเตรียมตัวช่วยกันปราบมัน
 
"ไอ้นี่อีกแล้วเหรอเนี่ย"
 
"เพื่อนนายเหรอไง"
 
"หึ เหมือนเป็นแฟนเก่ามากกว่า เป็นพวกติดหนึบไม่ยอมเลิกราน่ะ"
 
"งั้นก็ขอต้อนรับเข้าสู้ชมรมคนดวงซวย"
 
"เดี๋ยวนายก็ชิน"
หลังจากสู้กับUstanak หอคอยจะถล่มลงมาพังทางเชื่อมระหว่างคู่หูทั้งสองคู่ เชอร์รี่จึงตะโกนบอกลีออนว่าจุดนับพบกับซิมมอนส์นั้นอยู่ที่ไหน ขณะที่ลีออนกำลังจะเตือนให้เชอร์รี่ระวังตัวด้วย ถังน้ำมันแถวนั้นก็เกิดระเบิดขึ้นทำให้ต้องแยกย้ายกันกลางคัน
 
เมื่อเดินทางมาถึงริมแม่น้ำ เจคก็สังเกตเห็นว่าเชอร์รี่กลุ้มใจเรื่องของซิมมอนส์ เธอสับสนว่าซิมมอนส์เป็นคนเลวจริงหรือเปล่า ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง การที่เธอจะนำตัวเจคไปมอบให้เขาก็จะกลายเป็นการส่งความหวังเดียวที่มีให้กับคนร้าย แต่เจคก็ให้กำลังใจเธอว่าอย่าคิดมากเลย ตอนนั้นเองจาโวมือเลื่อยวิปริต(ภาคนี้ทำหน้าตา+การเคลื่อนไหวมือเลื่อยได้ทุเรศดีมาก)ก็โผล่ขึ้นมา ทำให้ทั้งคู่ต้องวิ่งหนีลงเรือ ส่วนมือเลื่อยที่กำลังจะโดดตามขึ้นมากลับโดนผู้ช่วยเหลือปริศนาเอาสไนเปอร์ส่องหัวซะนี่ 
ขณะที่เจคขับเรือออกไป มันก็ฟื้นตัวขึ้นมาอีกครั้ง และโดดลงน้ำว่ายตามมา ทำให้เราต้องสู้ไปด้วยขับเรือไปด้วยจนถึงจุดหมายปลายทางแล้ว ขณะที่เจคโดดขึ้นฝั่งเรียบร้อย มือเลื่อยกลับโดดมาขวางเชอร์รี่เอาไว้ ในขณะที่เรือถอยไปสู่ใบพัดขนาดยักษ์ ก็มีสไปเดอร์แมน(เหมือนมาก)โหนสลิงมาช่วยเชอร์รี่เอาไว้แล้วส่งต่อให้เจค ส่วนมือเลื่อยก็โดนใบพัดสับเละเป็นอุนจิไป ทั้งคู่มองตามผู้ช่วยเหลือปริศนาคนนั้น แต่'เธอ'ก็จากไปซะแล้ว
ในที่สุดทั้งคู่ก็เดินทางมาถึงจุดนัดพบ แต่ก่อนที่จะเปิดประตูเข้าไป เชอร์รี่ก็ขอร้องเจค
 
"ถ้าลีออนพูดถูกเรื่องซิมมอนส์"
 
"หนีไปเลยนะ"
 
เจคหัวเราะอย่างไม่เชื่อฟัง แต่เชอร์รี่ก็ไม่ยอมแพ้ 
 "ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น"
 
"สัญญาสิ"

หลังจากนิ่งเงียบไปสักพักเจคก็ตอบตกลง เชอร์รี่จึงเปิดประตูเข้ามาเจอกับลีออนและเฮเลน่าที่ประจันหน้ากับซิมมอนส์อยู่ก่อนแล้ว
เชอร์รี่เข้าไปขวางตรงกลางพร้อมห้ามปรามซิมมอนส์เอาไว้ และถามว่าเขามีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อการร้ายจริงหรือเปล่า(แหมมม มันคงจะยอมรับเนอะะะ) แต่ซิมมอนส์ก็บอกว่าทั้งหมดก็เพื่อความแข็งแกร่งของสหรัฐและความปลอดภัยของทั้งโลก และยังใส่ความลีออนอีกว่าเป็นคนฆ่าประธานาธิปดี จากนั้นซิมมอนส์ก็สั่งให้ลูกน้องโจมตีพวกเราซะ
 
ในขณะที่หลบกระสุน ลีออนจะบอกให้ทั้งสองคนหนีออกไปทางประตูข้างๆ เชอร์รี่จึงส่งไฟล์ข้อมูลของเจคที่เป็นรายละเะอียดในการใช้สร้างวัคซีนให้กับลีออน 
 
 
เมื่อแยกทางกับลีออน เชอร์รี่ก็สั่งให้เจคหนี
 
"หนีไปสิเจค"
 
"ไม่อ่ะ"
 

 
"สัญญาแล้วนะ!"
 
"ชั้นโกหกไง"
 

 
เจคไม่ยอมทิ้งเชอร์รี่หนีไป แต่ขณะที่กำลังสู้มะรุมมะตุ้มเชอร์รี่กลับเป็นฝ่ายโดนจับ
 
เจคเสียสมาธิและโดนจับตัวไปด้วย จนเมื่อตื่นขึ้นมาก็พบว่าเขาถูกขังพร้อมกับเชอร์รี่อยู่ในห้องขังแห่งนึง...
 
"ขอโทษนะ ถ้าชั้นรู้ตัวเร็วกกว่านี้ว่าซิมมอนส์โกหก..." 
 
"ไม่ใช่ความผิดเธอหรอก"
 
"ก็เธอคิดว่ามันเป็นเรื่องที่ถูกนี่นา หาวัคซีน...เพื่อช่วยโลก ใช่มั้ยล่ะ"


 
แล้วจู่ๆก็มีสัญญาณเตือนพร้อมกับที่ทั้งสองคนถูกปลดล็อค ราวกับว่ามีคนกดยกเลิกปุ่มควบคุม เมื่อออกมาจากห้องขังแล้วก็พบว่าที่นี่เป็นเหมือนสถานทดลองอะไรบางอย่าง แต่กลับไม่มีคนอยู่เลย เมื่อเดินไปเรื่อยๆก็จะพบกับลาวาด้วย เท่ากับว่าที่นี่ตั้งอยู่ใต้ดิน
 
หนีการโจมตีของศัตรูยึกยือไม่มีวันตายที่เป็นจาโวอีกประเภทหนึ่งมาได้ก็จะพบกับคริสและเพียรส์ ทำให้รู้ว่าพวกเขาเป็นคนช่วยปลดล็อคเครื่องควบคุมเมื่อกี้นั่นเอง ทั้งสองคนมาเพื่อช่วยเจคและเชอร์รี่ออกไปจากที่นี่ตามคำขอร้องของลีออน แล้วคริสก็ตัดสินใจพูดกับเจค
 
 
"นายคล้ายพ่อนายนะ"
 
"เดี๋ยวคริส คุณรู้ได้ยังไง.."
 
"นายรู้จักเขางั้นสิ"
 
"ใช่ ชั้นรู้จัก"
 
"และชั้นก็เป็นคนฆ่าเขาเอง"
 
 
เจคหันไปมองหน้าเชอร์รี่ แต่เชอร์รี่ก็หลบสายตา ทำให้เขารู้ว่าเธอรู้เรื่องนี้อยู่แล้ว ด้วยความโกรธและสับสน เจคหยิบปืนขึ้นมาจ่อหน้าคริส ทันทีกับที่เพียรส์ก็เล็งไปที่เจคเช่นกัน
 
 
"นายเองสินะ"
 
"ใช่แล้ว"
 
"หัวหน้า!" เพียรส์ร่ำๆจะเหนี่ยวไกยิงเจค
 
"สั่งให้เจ้าลูกหมานั่นเชื่องๆหน่อยจะดีกว่ามั้ง" เจคพูดถึงเพียรส์ คริสจึงยกมือห้ามและสั่งเพียรส์ให้ลดปืนลง
 
"ยิงเลยถ้านายต้องการ นายมีสิทธิ์จะทำแบบนั้นทุกอย่าง"
 
"แต่นายต้องสัญญาว่าจะรอดไปให้ได้ โลกทั้งใบขึ้นอยู่กับนาย"
 
"แกเป็นใครมาจากไหนถึงจะมาสั่งให้ชั้นทำนู่นทำนี่!เจคจ่อปืนเข้าไปใกล้มาขึ้น
 
เชอร์รี่พยายามห้ามเจค ส่วนเพียรส์ก็ทนไม่ไหวต้องยกปืนขึ้นมาอีกครั้งพร้อมตะคอกให้เจคลดปืนลง
 
 
"นายทำเพราะหน้าที่ หรือเพราะการตัดสินใจของนายเอง"
 
"ทั้งสองอย่าง"
 

 
คำตอบนั้นทำให้เจคทนไม่ได้ และตะโกนออกมาพร้อมกับนิ้วที่ลั่นไกท่ามกลางเสียงห้ามของเชอร์รี่และเพียรส์
 

 
"ตอนนี้..."
 
"มีเรื่องที่สำคัญกว่าเรื่องระหว่างนายและชั้น"
 
ในที่สุดเจคก็ตัดสินใจที่จะปล่อยมันไป ให้กระสุนนัดนั้นฝังที่อยู่ผนังแทน...
สิ่งที่จำเป็นกว่าตอนนี้คือการหยุดยั้งสถานการณ์แพร่เชื้อของซี-ไวรัส เจคเริ่มเข้าใจว่าตัวเองมีความสำคัญต่อโลกมากเกินกว่าจะให้เรื่องส่วนตัวของเขามาสร้างปัญหาได้
 
เมื่อความขัดแย้งสงบลง ทุกคนก็สังเกตเห็นดักแด้ขนาดใหญ่มีลักษณะคล้ายเปลือกของจาโวที่เคยเห็น ถ้าหากตัวข้างในฟักออกมาก็คงจะงานเข้า ทุกคนเลยพยายามหาทางขัดขวางมันพร้อมๆกับขึ้นไปยังด้านบนเพื่อหาทางออก ระหว่างทางก็จะได้ยินบทสนทนาระหว่างคริสเพียรส์ โดยเพียรส์บอกว่าคริสไม่จำเป็นต้องรับผิดชอบ เวสเกอร์นั้นสมควรตายแล้ว แต่คริสก็บอกว่าเป็นสิทธิ์ของเจคที่จะรู้ความจริง และถึงยังไง เวสเกอร์ก็เป็นพ่อของเจค ส่วนเชอร์รี่ก็บอกเจคว่าหลังจบเรื่องนี้แล้วให้ไปคุยทำความเข้าใจกับคริสดีๆ แต่เจคที่ยังไม่หายเคืองก็ยังไม่อยากรับปาก
จนเมื่อลิฟต์เลื่อนมาถึงด้านบน ตัวอ่อนในเปลือกดักแด้ก็แตกออกมาเป็นB.O.W.ขนาดยักษ์ คริสบอกให้เจคและเชอร์รี่รีบไปซะ เขาจะจัดการเอง เชอร์รี่ลังเล แต่เจคก็กระตุ้นมาว่ามีเรื่องสำคัญที่พวกเราต้องทำให้สำเร็จ เมื่อเจคมองหน้าคริส คริสก็พยักหน้ากำชับ
 
พอแยกตัวจากมาเชอร์รี่ก็ยังคงอยากจะกลับไปช่วยคริส
 
 
"พวกเขาจัดการมันไม่ไหวหรอก เขาอาจจะตายนะ!"
 
"งั้นนั่นก็เป็นเรื่องที่เขาตัดสินใจเอง!"
 
"ถ้าเขาตัดสินใจเสียสละแบบนั้น เราก็ไปห้ามอะไรเขาไม่ได้"
 
"เจค..."
 

 
"รู้อะไรไหม"
 
"ชั้นก็คือชั้น..."
 
"ไม่ใช่พ่อ"
 
"และมันจะเป็นแบบนี้ตลอดไปอย่างแน่นอน"
 
"รีบออกไปจากที่นี่"
 
"แล้วก็ไปช่วยโลกอย่างที่เธอต้องการกัน"
 
"...อื้อ"
 
เจคตัดสินใจว่าเค้าจะไม่มีวันเดินตามรอยพ่อ แม้จะสายเลือดเดียวกันแต่เขาก็จะใช้ความสามารถนี้เพื่อช่วยคนอื่น ไม่ว่าพ่อของเค้าจะเคยทำเรื่องเลวร้ายเพียงไหน แต่การกระทำของเค้าจะเป็นสิ่งที่เค้าเลือกเองและจะรับผิดชอบมัน 
 
มาถึงด่านสุดท้าย Ustanak จะก็ยืนรออยู่แล้ว พอกันทีกับการไล่ล่าที่ยืดเยื้อยาวนาน เปิดฉากการต่อสู้ครั้งสุดท้ายกลางลาวา 
 
 
ร่วมแรงร่วมใจโจมตีใส่มันจนใกล้ตาย สุดท้ายเจคจะได้ต่อยกับมันแบบตัวต่อตัว เมื่อระดมต่อยไปทั่วตัวของมันแล้ว เจคก็จะฝังหมัดลงทีใบหน้าเป็นการทิ้งท้ายจนมันตกลาวาไป
 
 
เมื่อหนีออกมาด้วยลิฟต์ความเร็วสูง ในขณะที่คิดว่าหลุดพ้นแล้ว Ustanak ก็กระโดดตามมาด้วยลิฟต์อีกอันหนึ่ง
 
"ไอ้บ้าเอ้ย! เมื่อไหร่จะเลิกตามซะทีวะ"
 
ทันใดนั้นเชอร์รี่ก็สังเกตเห็นปืนอันหนึ่ง
 
"เจค ปืน!"
 
"เยี่ยม"
 

 
เชอร์รี่หยิบปืนขึ้นมา แต่มือเธอก็สั่นเกินไปจนเล็งไม่ได้ เจคเอื้อมมือมาช่วยจับไว้อีกแรง
 
"ให้เรื่องบ้าๆนี่มันจบไปได้แล้ว"
 
 
แล้วทั้งคู่ก็จะรวมพลัง ฝังกระสุนแมกนั่มเข้ากลางอกUstanak
ส่งมันไปยังนรกเบื้องล่างเป็นครั้งสุดท้ายจริงๆซะที 
 
 
ในขณะที่ลิฟต์พุ่งตัวออกมาจากฐานทัพ เจคนึกถึงเรื่องที่ผ่านมาแล้วเค้าก็ต้องขอบคุณคนๆนึงที่ช่วยฝ่าฟันอุปสรรคทั้งหมดร่วมกันมาโดยตลอด...
 
 
"เธอช่วยชั้นเอาไว้..."
 
"เธอรู้ใช่มั้ย"
 
"ขอบคุณนะ"
 
 
เชอร์รี่พูดอะไรไม่ออก เธอได้แต่เอื้อมมือมาจับมือเจคไว้อย่างอ่อนโยน ณ เบื้องหน้า แสงสว่างส่องเข้ามาจากทางออก การผจญภัยของทั้งคู่จบลงแล้ว.....
 
 
----------------------------
 
บทส่งท้าย...
 
บนเครื่องบินลำหนึ่ง เชอร์รี่กำลังพิมพ์รายงานของเรื่องราวที่เกิดขึ้น ข้อมูลของเลือดของเจคที่ได้มาจากนีโออัมเบรลล่านั้นถูกส่งต่อให้กับหน่วยวิจัยของยูเอ็น เมื่อข้อมูลอยู่ในมือขององค์กรที่ถูกต้องแล้ว วัคซีนถูกผลิตขึ้น เรื่องราววุ่นๆทั้งหมดก็คลี่คลายลง ประวัติของเจคถูกเก็บเป็นความลับสุดยอด หน้าที่ในภารกิจครั้งนี้ของเธอเสร็จสิ้นเสียที
 
 
แล้วก็มีข้อความใหม่เข้ามาในมือถือของเชอร์รี่ อ่านจบแล้วก็ทำให้เชอร์รี่ต้องยิ้มออกมา และมองไปนอกหน้าต่าง...
 
 
"จาก เจค
ถึง เชอร์รี่
 
ลดราคาให้...เหลือ50เหรียญละกันนะ"
 
 
ณ พื้นดินเบื้องล่าง เจคมองส่งเครื่องบินที่เชอร์รี่นั่งบินผ่านไปจนลับตา ก่อนจะส่งยิ้มออกมาพร้อมสวมแว่นกันแดดและสตาร์ทมอไซค์
 
 
กว่าหกเดือนที่ผ่านมาการผจญภัยครั้งนี้ได้ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงหลายๆอย่าง
 
ได้รู้จักผู้คนต่างๆมากมาย ได้เพื่อนรู้ใจคนสำคัญ ได้เข้าใจชาติกำเนิดและพลังของตัวเอง
 
ได้เข้าใจว่าหลายๆครั้งก็มีบางสิ่งที่สำคัญมากกว่าทรัพย์สินเงินทอง 
 
เข้าใจถึงความสำคัญในการช่วยเหลือคนอื่นโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน
 
เจคขับมอไซค์พุ่งไปตามถนนที่ทอดยาว
 
เขาพร้อมจะดำเนินชีวิตต่อไปด้วยทัศนคติใหม่ที่ได้รับมาจากเดินทางครั้งนี้แล้ว...
 
 
THE END.
----------------------------
 
ทิ้งท้าย...
-ในสามแคมเปญ เนื้อเรื่องแคมเปญนี้ดูจะไม่เกี่ยวข้องกับพล็อตหลักมากที่สุดเลย LOL เหมือนใส่มาเพื่อให้ทำความคุ้นเคยกับตัวเอกใหม่เฉยๆ
-และก็เป็นเนื้อเรื่องบทที่คนไม่เคยเล่นซีรีย์นี้มาเล่นแล้วจะงงน้อยที่สุดล่ะมั้ง
-เจคอายุ20 เชอร์รี่อายุ27 นะเออ หน้าแก่สลับกันมากมาย แต่ถ้าเอาแผลเป็นออก บางมุมเจคก็หน้าเด็กเหมือนกัน
-หลายๆคนคงจะเบื่อUstanakสินะ...
-เจคใส่แว่นแล้วหน้าเหมือนเวสเกอร์เลยทีเดียว ลองเอาภาพไปเทียบดูกับเวสเกอร์ภาค5ก็หน้าคล้ายกันหลายส่วน
-และแล้วเราก็ได้เห็นแฟนด้อมคู่นี้ผุดขึ้นมามากมาย เพราะความเอาจริงเอาจังของเชอร์รี่และความกวนตีนของเจค ก็ออกมาเป็นส่วนผสมที่น่ารักดี
-จะว่าไป...คนเขาจิ้นกันมาตั้งกะรุ่นพ่อแล้วนี่หว่า....อัลเบิร์ต เวสเกอร์กับวิลเลี่ยม เบอร์กิ้นส์เป็นเพื่อน(?)สนิทกัน ทำเรื่องชั่วๆด้วยกันเยอะแยะ(ฮา) มารุ่นลูกก็ร่วมมือกันช่วยโลกแทนนะ
 
ป.ล.กะจะเขียนสรุปสั้นๆนิดเดียวกลายเป็นยาวเยื้อยเลยง่ะ เห็นตรงนู้นก็อยากแปลเห็นตรงนี้ก็อยากเขียน 
 
ป.ล.2 (บ่น)เราเองก็ติดตามเนื้อเรื่องของซีรีย์นี้มากตลอดทุกภาค ก็คิดว่าเนื้อเรื่องมันพยายามพัฒนาตลอด ปรับสเกลให้มันสมจริงสมจัง ไม่ได้ยึดติดกับซอมบี้หรือคฤหาสถ์อย่างเดียว ก็ไม่เข้าใจพวกที่เรียกร้องจะเอาซอมบี้ๆ พวกนี้แค่มองยังไม่ได้ลอง พอเห็นว่ามันแตกต่างก็บ่นแล้วหรือเปล่า รำคาญพวกยึดติดแล้วยังลอกขี้ปากเขามาชอบตามน้ำ เจอมันทั้งไบโอ(อี๋ๆ ไม่ใช่ซอมบี้ ไม่สยอง) ทั้งไฟนอล(อี๋ๆ ไม่ใช่ยุคกลาง ไม่ใช่เทิร์นเบส) ทั้งเมทัลเกียร์ไรซิ่ง(อี๋ๆ ไม่ใช่แนวลอบเร้น)และซีรีย์อื่นๆอีกมากมายที่พอลองแนวทางใหม่ๆก็จะมีพวกนี้มาบ่นเพ้อเจ้อเสมอ รำคาญนะคะ ไม่ได้หมายความว่าจะยัดเยียดให้ชอบแนวทางที่เค้าเปลี่ยนไป หลายๆทีเราก็ไม่ชอบเช่นกัน แต่การด่าแบบแผ่นเสียงตกร่องทั้งๆที่คุณเองยังไม่รู้จริง มันไม่สร้างสรรค์ซะเลยนิ เล่นจริง ไม่มีอคติ ตั้งอยู่บนเหตุผล แล้วค่อยวิจารณ์ จะดีกว่ามั้ย?
 
ป.ล.3 คิดว่าตอนหน้าจะเขียนแคมเปญของคริส....แล้วค่อยลีออน แล้วก็เอด้า ไล่ตามความสำคัญของพล็อต
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
~...No NamE...~'s profile


โพสท์โดย: ~...No NamE...~
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
20 VOTES (4/5 จาก 5 คน)
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
เจาะสเปก กริเพน ทําไมกองทัพไทยถึงเลือกใช้"มัดหมี่ พิมดาว" แฉกลลวงสูญเงิน 8 ล้านบาท จากแรงศรัทธาบทเรียนราคาแพง 111 ล้าน เมื่อความเชื่อใจกลายเป็นช่องโหว่ให้คนสนิทฉกฉวยนรกแตกก่อนวันเซ็นสัญญา F16 ไทยบึ้มสะพาน คืนหมาหอน "ฮุนเซน" อกแตก แพ้หมดรูป จำยอมเซ็นสงบศึกเปิดอายุแท้จริงของ น้องจินนี่ ลูกสาว คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ทำให้หลายคนเข้าใจผิดเปิด 2 ข้อหาหนัก "ป้าแอน" แม่บ้านทคดีผสมเดทตอลในขวดนมเด็ก พบประวัติอาชญากรรมเมื่อปี 67ไม่ปวกเปียกเป็นปลาป่วยเบสท์ คำสิงห์ เปิดใจข่าวซุบซิบกับ บิ๊ก ผญบ.ฟินแลนด์เมื่อจีนอยากทำหนัง The Shallows เป็นของตัวเอง จะเป็นยังไง10 วาทะเด็ดแห่งปี 2568 ที่คนไทยลืมไม่ลงจารกรรมพันธุ์พืชเปลี่ยนโลก ปฏิบัติการขโมย "ชา" จากแผ่นดินมังกรสู่อินเดียแม่บ้านเดทตอลมหาภัยถูกจับกลางรายการ ยืนยันไม่ได้ตั้งใจวางยาเด็ก เข้าใจผิดคิดว่าเป็นนม พร้อมขอโทษผู้เสียหาย
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
นรกแตกก่อนวันเซ็นสัญญา F16 ไทยบึ้มสะพาน คืนหมาหอน "ฮุนเซน" อกแตก แพ้หมดรูป จำยอมเซ็นสงบศึกLuxuriate อนุญาตให้ตัวเองมีความสุขแบบไม่ต้องรู้สึกผิดความหวังใหม่ ผู้ป่วยโรคหัวใจ ชายออสเตรเลียคนแรกของโลกที่ใช้หัวใจเทียมทั้งหมดเมื่อจีนอยากทำหนัง The Shallows เป็นของตัวเอง จะเป็นยังไง
ตั้งกระทู้ใหม่