หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม แต่งรูป คำคม Glitter สเปซ ไดอารี่ เกมถอดรหัสภาพ เกม วิดีโอ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

หลุมโอโซนปี 2012 ลดต่ำสุดอันดับสองในรอบยี่สิบปี

โพสท์โดย mata

 

ท่ามกลางข่าวร้ายของภาวะโลกร้อน ก็มีข่าวดีที่ว่า พื้นที่ของหลุมโอโซนที่ขั้วโลกแอนตาร์กติกในปีนี้ต่ำที่สุดเป็นอันดับสองในรอบ 20 ปี จากรายงานของนาซ่าและดาวเทียมโนอา นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่า การเปลี่ยนแปลงนี้น่าจะมาจากการที่อุณหภูมิในชั้นบรรยากาศสตราโตสเปียร์บนทวีปแอนตาร์กติกอุ่นขึ้นด้วย

ภาพของหลุมพร่องโอโซนขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่มีการบันทึกมา ซึ่งเกิดขึ้นในเดือนกันยายน พ.ศ. 2549 บริเวณขั้วโลกใต้ (โอโซนถูกทำลายมาก)

ภาพของหลุมพร่องโอโซนขนาดเล็กที่สุดเท่าที่มีการบันทึกมาในรอบ 20 ปี ซึ่งเกิดขึ้นใน 25 ตุลาคม 2555 บริเวณขั้วโลกใต้ (โอโซนถูกทำลายน้อยลง)

หลุมโอโซนมีขนาดใหญ่ที่สุดเมื่อวันที่ 22 กันยายน กินพื้นที่ 8.2 ล้านตารางไมล์ (21.2 ล้านตารางกิโลเมตร) เทียบเท่ากับขนาดประเทศสหรัฐอเมริกา แคนาดา และเม็กซิโกรวมกัน และขนาดเฉลี่ยของหลุมโอโซนในปี 2012 นั้นอยู่ที่ 6.9 ล้านตารางไมล์ (17.9 ล้านตารางกิโลเมตร) ขณะที่วันที่ 6 กันยายน ปี 2000 นั้น ขนาดของหลุมโอโซนมีขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยบันทึกมาคือ 11.5 ล้านตารางไมล์ (29.9 ล้านตารางกิโลเมตร)

"ส่วนใหญ่แล้ว หลุมโอโซนเกิดจากคลอรีนที่มาจากสารเคมีที่มนุษย์ผลิตขึ้น และระดับคลอรีนเหล่านี้ยังคงมีอยู่เยอะในบรรยากาศชั้นสตราโตสเฟียร์ของทวีปแอนตาร์กติก" พอล นิวแมน ผู้เชี่ยวชาญด้านบรรยากาศโลก ของศูนย์อวกาศก็อดดาร์ดขององค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติสหรัฐอเมริกา หรือนาซ่า กล่าว

"ความผันผวนของสภาวะอากาศนี้เป็นผลมาจากการที่อุณหภูมิของบรรยากาศชั้นสตราโตสเฟียร์อุ่นขึ้นในปีนี้ อุณหภูมินี้ไปมีผลทำให้หลุมโอโซนแคบลง"

นอกจากนี้ นักวิทยาศาสตร์ยังเชื่อว่า โอโซนในชั้นบรรยากาศของโลกจะไม่ลดลงไปกว่านี้อีกแล้ว เพราะสารเคมีที่จะมาทำลายโอโซนจะไม่เข้มข้นไปกว่านี้แล้ว และยังจางลงไปเรื่อยๆด้วย

ชั้นโอโซนในบรรยากาศของโลกเปรียบเสมือนโล่ธรรมชาติที่ป้องกันโลกให้พ้นจากภยันตรายจากรังสีอุลตราไวโอเล็ตหรือรังสียูวีเอาไว้ ซึ่งรังสีชนิดนี้สามารถก่อให้เกิดมะเร็งผิวหนังในคนได้ ปรากฏการณ์หลุมโอโซนนั้นเริ่มเกิดขึ้นประมาณต้นทศวรรษที่ 1980 ซึ่งนักวิทยาศาสตร์คาดการณ์ว่า โอโซนในชั้นบรรยากาศเหนือทวีปแอนตาร์กติกจะไม่มีวันหลับมาเหมือนเดิมได้จนกว่าจะถึงปี 2065 และที่ใช้ระยะเวลาในการฟื้นฟูนานนี้เพราะสารเคมีที่ทำลายโอโซนในชั้นบรรยากาศมีอายุนาน แต่อย่างไรก็ตาม โอโซนในชั้นบรรยากาศจะไม่ลดลงไปกว่นี้แล้ว เพราะความเข้มข้นของสารทำลายโอโซนได้ลดลงไป และการลดลงของสารเหล่านี้เกิดขึ้นจากความร่วมมือระหว่างประเทศว่าด้วยการออกกฎระเบียบในการผลิตสารเคมีบางอย่างออกมา

และในปีนี้ นับเป็นปีที่ความเข้มข้นของโอโซนในชั้นบรรยากาศแอนตาร์กติกมีการเปลี่ยนแปลงไปมากทีเดียว โดยหลุมโอโซนที่เกิดขึ้นรวมกันคิดเป็นปริมาณน้อยที่สุดเป็นอันดับสองในรอบสองทศวรรษ โดยการวัดปริมาณโอโซนคร่าวๆที่วัดในหน่วยด็อบสัน (DU) นั้นไปแตะระดับ 124 DU เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม และเมื่อดาวเทียมโนอาโคจรมาวัดที่ขั้วโลกใต้ ก็วัดได้ 136 DU เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม ซึ่งถือว่าไม่น้อยเลยทีเดียว เพราะหากไม่มีหลุมโอโซนอยู่เลย ปริมาณโอโซนทั้งหมดจะอยู่ที่ประมาณ 240-500 DU

อนึ่ง นับว่าปีนี้เป็นปีแรกที่นักวิทยาศาสตร์ได้สำรวจหลุมโอโซนจากเครื่องมือติดตามโอโซนบนดาวเทียม Suomi National Polar-orbiting Partnership (NPP) ด้วยเครื่องมือ Ozone Mapping Profiler Suite (OMPS)

นอกจากดาวเทียมดวงนี้จะให้ข้อมูลการเกิดขึ้นและการขยายของหลุมโอโซนแล้ว นักวิทยาศาสตร์ก็หวังว่า OMPS จะช่วยให้เข้าใจการทำลายโอโซนในชั้นบรรยากาศสตราโตสเฟียร์ระดับกลางและระดับสูงมากขึ้น

"เครื่องมือ Limb ของ OMPS จะดูด้านข้าง และมันจะวัดโอโซนตามระดับความสูง เครื่องมือ OMPS นี้จะทำให้เราตรวจดูการทำลายโอโซนในชั้นบรรยากาศสตราโตสเฟียร์ระดับล่างเหนือทวีปแอนตาร์กติกได้อย่างใกล้ชิด"

นานๆ จะได้ยินข่าวดีสักทีนะครับ  เพื่อนๆ อ่านแล้วงงหรือเปล่าครับ  สรุปก็คือการมีอยู่ของโอโซนมีประโยชน์ต่อสิ่งมีชีวิตที่อยู่บนโลกใบนี้ช่วยป้องกันรังสียูวีบี (UVB) ความยาวคลื่นที่เป็นอันตรายมากที่สุด (280-315 นาโนเมตร) ผลของรังสียูวีบีจะส่งผลต่อความหลากหลายทางชีวภาพบนโลก การเกิดโรคมะเร็งผิวหนัง ต่อกระจก และการลดลงของจำนวนแพงค์ตอนพืชในเขต photic ของมหาสมุทร โอโซนหากมีหลุมก็เท่ากับเป็นช่องโหว่ของโอโซน  เพราะฉะนั้นเมื่อวันที่ 1 ต.ค.55 พบว่าหลุมหรือช่องโหว่มีขนาดลดลง ก็เท่ากับเราได้โอโซนเพิ่มขึ้นครับ

เรียบเรียงโดย  พรชัย  สังเวียนวงศ์  (mata)

ภาพประกอบจาก  http://www.theweathernetwork.com

อ้างอิง: NASA/Goddard Space Flight Center (2012, October 24). 2012 Antarctic ozone hole second smallest in 20 years. ScienceDaily. Retrieved October 25, 2012, from http://www.sciencedaily.com/releases/2012/10/121024164723.htm

 

 

 

โพสท์โดย: mata
ที่มา: vichakarn.com, th.widipedia.ort
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
mata's profile


โพสท์โดย: mata
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
16 VOTES (4/5 จาก 4 คน)
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
หนุ่มจะบวชทั้งที..ดันมีมารตามมาผจญไบเดน ฮึ่ม " ทุกคนต้องอยู่ใต้กฏหมายเดียวกัน "อากาศร้อนจัด ทุเรียนระเบิดคาต้นสาวโพสต์เทียบ ข้าวผัดอเมริกัน ห่างกันแค่ปีเดียว ทำไมสภาพเป็นแบบนี้ในที่สุด พี่เสกก็จะไป 'พันธุ์ทิพย์' แล้ว!!!ดราม่าถกเถียงสอบหมอ​ ม.เอกชน 6 ครั้งไม่ติด แต่มาติดครั้งที่ 7 ไม่มีเงินเรียน เลยขอคนใจบุญช่วยบริจาคดราม่า! ชมพู่ อารยา ดุพี่ยุ ชาวเน็ตแห่เม้นต์ แม่วีนแรงไปไหม พูดดีๆก็ได้"ข่าวดี"คนเล่นfacebook อย่าพลาดโอกาส
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
สาวใจดีทำ CPR ให้ลูกหมูกลางถนนพอได้ยิ้ม!! เมื่อพนักงานในร้านอาหารเป็นคนไทยใหญ่ ภาษาอาจจะไม่คล่อง เวลารับออเดอร์ลูกค้าก็จะได้เมนูเเปลกใหม่เเบบนี้Pig Beach ชายหาดหมูและหมูอยู่ชายหาดปริศนาศพหญิง 2 คนในสุสานกวนอู พวกเธอเป็นใคร? มีคนบอกว่าหนึ่งในนั้นคือเตียวเสี้ยน?suppress: ปราบปราม
ตั้งกระทู้ใหม่