ปิรามิด พลังงานและความลับของจักรวาล ตอน 3/8
ตอนนี้ก็อาจจะออกไปในเรื่องจิตวิณญารณหน่อยนะครับ รูปทรงสามเหลี่ยมของปิรามิดมีพลังงานบางอย่างซ่อนอยู่ ซึ่งนักวิทยาศาสตร์ได้ทดลองและพิสูจน์แล้วส่วนใหญ่จะก่อเกิดผลในทางบวกทั้งต่อมนุษย์และสัตว์ สัญลักษณ์ของจิตวิณญาณก็มีรูปสามเหลี่ยมเป็นส่วนประกอบเหมือนกัน ลองมาดูเรื่องราวของปิรามิด พลังงานและความลับของจักรวาลตอนที่ 3 กันครับ
สัญลักษณ์รูปธรรมของจิตวิญญาณมนุษย์ ปกติจะมี 6 เหลี่ยมมุม
(สามเหลี่ยมสองรูปซ้อนกัน)
หมายถึงจิตวิณญาณของเราที่แบ่งภาคออกมาตอนที่ก่อกำเนิดขึ้นมาใหม่ๆ
เหลี่ยมมุมที่มีอยู่ หมายถึงเส้นแสงที่เคลี่อนไหลไปมาอยู่ในรูปธรรม
และหมุนติ้วด้วยความเร็วที่สูงเท่ากับความเร็วแสง
เมื่อเราฝึกฝนจิต เจริญวิปัสนากรรมฐาน ละวางตัวตนได้ เหลี่ยมมุมจะเพิ่มขึ้น หมายถึงความฉลาด และปัญญาเพิ่มขึ้น จาก หกเป็นเจ็ด,แปด,เก้า เหลี่ยมมุม
สภาวะสุญญตา 12 เหลี่ยมมุม
(สามเหลี่ยม 4 รูปซ้อนกัน)
ในที่สุดเมื่อเราละวางสภาวะของความเป็นมนุษย์ออกไปได้โดยสิ้นเชิง ไม่มีแม้แต่กายละเอียด หรือกายทิพย์หลงเหลือ เป็นรูปธรรมที่มีแต่ความบริสุทธิ์ล้วนๆ เข้าไปรวมกับตัวตนภาคแรก(ของจิตเดิมแท้) ของตัวเราแต่เดิมได้
เหลี่ยมมุมจะเพิ่มขึ้นสูงสุดถึง11 หรือ 12 เหลี่ยมมุมได้ นั่นคือสภาวะสุญญตาหรือสภาวะจิตนิพพาน หรือเรียกว่า หลอมรวมกับพระแม่แห่งองค์ธรรมชาติได้แต่ยังเต็มเปี่ยมไปด้วยความคิดรู้เป็นของตัวเอง ในทุกสิ่งทุกอย่างได้ ดังเช่นพระพุทธเจ้าของเราหลายๆพระองค์ นั่นเอง
คุณสมบัติของพลังแห่งสูญญตา
เล็กละเอียดมากประกอบไปด้วยมวลอนุภาคคลื่นความถี่ทุกๆคลื่นความถี่ในสากลจักรวาล
เช่น7สีในแถบสเปตตรัม เมื่ออยู่ด้วยกันรวมกันจะเป็นแสงขาว
เป็นความมี ที่ไม่มี เป็นความว่าง
สั่นสะเทือนสูงสุดและต่อเนื่อง จนดูเหมือน ไม่สั่นสะเทือน
สั่นสะเทือนเพื่อการดำรงอยู่
สั่นสะเทือนเพื่อการเปลี่ยนแปลง
สั่นสะเทือนเพื่อการเสื่อมสลาย
สั่นสะเทือนเพื่อการสร้างใหม่
และสั่นสะเทือนในทุกๆมิติ
ท้ายบทความนี้หลายคนอาจเบื่อเนื้อหาที่ไม่ค่อยถูกใจเท่าไหร่ แต่จริงๆ แล้วที่ให้ทำความเข้าใจถึงอิทธิพลสามเหลี่ยมที่มีผลต่อจิตวิณญาณ ก็เพราะเชื่อว่านักคิดโบราณผู้ชาญฉลาดคงรู้ความลับของสามเหลี่ยมที่ไม่ธรรมดา ที่จะส่งพลังงานบางอย่างให้กับฟาโรห์กษัตริย์ผู้ล่วงลับของพวกเขาได้มีโอกาสกลับมาีอีกครั้ง
ขอบคุณภาพจาก พลังจิตดอทคอม
เรียบเรียงบทความโดย พรชัย สังเวียนวงศ์
ที่มา: kaokala.com