งานนิทรรศกาล 100 ปี ไททานิค นิทรรศกาลระดับโลกที่ไม่ควรพลาด
.....ค.ศ. 1912 “ไททานิค” ถือได้ว่าเป็นเรือสำราญที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกพรั่งพร้อมไปด้วย ความหรูหรา สะดวกสบาย และด้วยรูปลักษณ์ ที่แข็งแกร่งจึงได้รับการขนานนามว่า Unsinkable Ship หรือเรือที่ไม่มีวันจม และชื่อ Titanic ซึ่งเป็นชื่อเทพเจ้าผู้ทรงพลัง แต่น่าเสียดายที่ “ไททานิค” ทำหน้าที่เพียงการเดินทางเพียง 1 เที่ยวเท่านั้น
เป็นเวลา 100 ปีที่เรือสำราญลำประวัติศาสตร์ได้จมลงสู่มหาสมุทรแอตแลนติก และได้ทิ้งความยิ่งใหญ่ของประวัติศาสตร์ให้โลกได้จารึก “ไททานิค” ได้กลับมามีชีวิตบอกเล่าเรื่องราวผ่านชิ้นส่วนจริงที่กู้ได้จากซากเรือที่สงบนิ่งใต้มหาสมุทรในรูปแบบนิทรรศการสื่อผสมระดับสากล ที่คนไทยจะได้สำผัสเป็นครั้งแรก เราจะนำคุณไปสัมผัสกับความสะเทือนอารมณ์ของชีวิตที่สิ้นสุดลงอย่างกระทันหันและการเปลี่ยนแปลงไปตลอดกาลอันเกิดจากโศกนาฏกรรมทางทะเลที่ยิ่งใหญ่ พร้อมสัมผัสของจริงจากซากเรือที่กู้ได้ในงาน
“100 ปี ไททานิค” นิทรรศการแห่งประวัติศาสตร์โลก
9 มิถุนายน – 2 กันยายน 2555
เซ็นทรัลเวิลด์ ไลฟ์ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ชั้น 8
ลักษณะเฉพาะของเรือ
ไททานิกเป็นเรือที่เปิดศักราชใหม่ให้กับอุตสาหกรรมเรือเดินสมุทร เนื่องจากเป็นเรือลำแรกๆ ของโลกที่สร้างโดยโลหะและรองรับผู้โดยสารได้ถึง 2433 คน ยาว 269.0622 เมตร กว้าง 28.194 เมตร หนัก 46328 ตันอิมพีเรียล(47071434.4681 กิโลกรัม) แบ่งเป็น 9 ชั้น เรียงจากชั้นบนลงชั้นล่างได้ดังนี้
9. ดาดฟ้า สงวนไว้ให้ผู้โดยสารชั้นหนึ่ง มีปล่องไฟ 4 ตัว สูงตัวละ 19 เมตร
8 .ชั้น A ห้องนั่งเล่นของผู้โดยสารชั้นหนึ่ง
7. ชั้น B ห้องอาหารของผู้โดยสารชั้นหนึ่ง
6. ชั้น C ห้องสมุดของผู้โดยสารชั้นสอง ห้องเอนกประสงค์ของผู้โดยสารชั้นสาม
5. ชั้น D ห้องอาหารของผู้โดยสารชั้นสอง
4. ชั้น E ห้องนอนของผู้โดยสารชั้นหนึ่ง สอง สาม ลูกเรือ
3. ชั้น F ห้องอาหารของผู้โดยสารชั้นสาม ห้องออกกำลังกายส่วนรวม
2. ชั้น G สระว่ายน้ำส่วนรวม ห้องเก็บกระเป๋าเดินทาง
1. ชั้นห้องเครื่องมี 16 ห้อง หม้อน้ำรวม 29 ชุด ส่งเชื้อเพลิงให้เครื่องยนต์ 3 ตัว เครื่องยนต์ 3 ตัว หมุนใบจักร 3 ใบ รวม 50000 แรงม้า เร่งความเร็วเรือได้สูงสุด 24 น็อต(44.448 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) ห้องเครื่องทั้ง 16 ห้องมีกำแพงสูงถึงชั้น F และมีประตูกลซึ่งจะปิดลงมาทุกบานทั่วลำเรือเมื่อพบเหตุผิดปกติที่ห้อง เครื่องใดห้องเครื่องหนึ่ง ซึ่งถ้าหากไม่เกิดรอยรั่วในหลายห้องเครื่องจนเกินไป ตามหลักการลอยตัวแล้ว เรือจะไม่จม ถึงแม้จะเป็นจุดอ่อนที่สุดของเรือซึ่งก็คือหัวเรือ ก็ยังรับรอยแตกได้ถึง 4 ห้องเครื่องติดกันโดยไม่จม
แต่ว่าเรือสำรองช่วยชีวิตหรือเรือบดนั้นเพียงพอสำหรับผู้โดยสารเพียง 1178 คนเท่านั้น
ไททานิกชนภูเขาน้ำแข็งและอับปางลงในวันที่ 15 เมษายน ค.ศ. 1912 หรือกว่า 80 ปีมาแล้ว ซากเรือลำนี้จมอยู่ใต้ความลึกถึง 12,500 ฟุต (ราว 4 กิโลเมตร) ซึ่งความลึกขนาดนี้จะมีแรงอัดมหาศาลถึง 5,500 ปอนด์ต่อ ตารางนิ้ว
ขณะที่จมดิ่งลงมาลึกราว 300 เมตร ลำเรือก็แตกร้าวเป็นสองท่อน ด้านหัวเรือซึ่งยาวกว่าพุ่งนำลงมาก่อน ลากเอาส่วนท้ายตามลงมาในแนวดิ่ง แล้วก็หักหลุดจากกัน ท่อนหัวดำดิ่งพุ่งลิ่วยังกับตอร์ปิโด โครงสร้างและอุปกรณ์ต่างๆ กระจัดกระจายไปทั่ว แล้วหัวเรือก็ปักจมลงไปในโคลนใต้สมุทรลึกประมาณตึก 6 ชั้น
เรือลำนี้จะกลับมาอีกครั้งในรูปแบบของ นิทรรศการสื่อผสมที่ชื่อว่า‘TITANIC THE ARTIFACT EXHIBITION’ ซึ่งถือกำเนิดขึ้นจากการนำวัตถุที่กู้จากซากเรือไททานิคมาจัดแสดง และนำเสนอเรื่องราวที่น่าสนใจเกี่ยวกับเรือลำนี้ สัมผัสหลากหลายมุมของเรื่องราวความยิ่งใหญ่ พร้อมสัมผัสของจริงที่กู้ได้จากซากเรือ ครั้งแรก...ในประเทศไทย 9 มิถุนายน – 2 กันยายน ที่เซ็นทรัลเวิลด์ ไลฟ์ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ชั้น 8 สามารถเข้าไปดูข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่ www.bectero.com/titanic
****วิดีโอเรือไททานิค 100 กว่าปีที่แล้ว**