กานา สุดๆๆ
สาธารณรัฐกานา
The Republic of Ghana
พื้นที่ 239,537 ตร.กม. (เล็กกว่าประเทศไทยประมาณครึ่งหนึ่ง)
เมืองหลวง กรุงอักกรา (Accra)
ประชากร 23.69 ล้านคน (ปี 2553)
ภูมิอากาศ ภูมิอากาศร้อนชื้น บริเวณชายฝั่งทะเลมีอากาศอบอุ่นและแห้ง ภาคเหนือมีอากาศร้อนและแห้ง ภาคตะวันตกเฉียงใต้มีอากาศร้อนชื้นอุณหภูมิปกติประมาณ 21-30 องศาเซลเซียส มีฤดูฝนปีละ 2 ช่วง คือ ช่วงเดือนมีนาคม-กรกฎาคม และกันยายน-ตุลาคม อากาศร้อนที่สุด ในช่วงเดือนมีนาคม-เมษายน ซึ่งอุณหภูมิอาจขึ้นสูงถึว 35 องศาเซลเซียส
ภาษาราชการ อังกฤษ
ศาสนา คริสต์ ร้อยละ 68.8 อิสลาม ร้อยละ 15.9 ความเชื่อดั้งเดิม ร้อยละ 8.5 อื่นๆ ร้อยละ 0.7 ไม่นับถือศาสนา ร้อยละ 6.1
หน่วยเงินตรา เซดี (Cedi) อัตราแลกเปลี่ยน 1 เซดี เท่ากับประมาณ 20.17 บาท (ข้อมูล 20 ม.ย. 54)
ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ 15.30 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ปี 2553)
รายได้ประชาชาติต่อหัว 645.70 ดอลลาร์สหรัฐ (ปี 2553)
การขยายตัวทางเศรษฐกิจ ร้อยละ 7.7 (ปี 2553)
วันชาติ 6 มีนาคม
ระบอบการปกครอง ประชาธิปไตยแบบสาธารณรัฐ โดยมีประธานาธิบดีซึ่งมาจากการเลือกตั้งเป็นประมุขแห่งรัฐและหัวหน้ารัฐบาล ดำรงตำแหน่งวาระละ 4 ปี ดำรงตำแหน่งได้ไม่เกิน 2 วาระ ประธานาธิบดีคนปัจจุบัน ได้แก่ นายจอห์น อัตตา มิลส์ (John Atta Mills) และมีนายจอห์น ดรามานี มาฮามา (John Dramani Mahama) ดำรงตำแหน่งรองประธานาธิบดี
เว็บไซต์ทางการ www.ghana.gov.gh www.parliament.gh
ประวัติศาสตร์โดยสังเขป
ในคริสต์ศตวรรษที่ 17 ดินแดนกานาถูกครอบครองโดยชนเผ่าและแคว้นนักรบต่าง ๆ โดยเฉพาะอาณาจักร Ashanti ซึ่งมั่งคั่งขึ้นมาจากการค้าทาส ในปี 2417 สหราชอาณาจักรได้เข้ารุกรานอาณาจักร Ashanti และประกาศให้พื้นที่ Gold Coast เป็นอาณานิคม จนกระทั่งปี 2444 จึงสามารถยึดพื้นที่ได้ทั้งหมดทำให้กานาตกเป็นรัฐในอารักขา (protectorate) ของอังกฤษ
ภายหลังสงครามโลกครั้งที่สอง พรรค Convention People's Party (CPP) ของนาย Kwame Nkrumah ได้รับเสียงข้างมากในการเลือกตั้งครั้งแรกในปี 2493 อันนำไปสู่การได้รับเอกราชของกานาในวันที่ 6 มีนาคม 2500 นับเป็นประเทศแรกในแอฟริกาใต้ซาฮารา (Sub-Saharan Africa) ที่ได้รับเอกราช โดยยังคงเป็นดินแดนในภาวะทรัสตีของสหประชาชาติ จนในวันที่ 1 กรกฎาคม 2503 กานาได้ประกาศเป็นสาธารณรัฐภายใต้เครือจักรภพอังกฤษ โดยนาย Kwame Nkrumah ดำรงตำแหน่งเป็นประธานาธิบดีคนแรก และได้วางรากฐานการปกครองของกานาในแบบสังคมนิยม
ต่อมาในปี 2509 คณะนายทหารได้ทำการรัฐประหารโค่นล้มรัฐบาลของนาย Nkrumah และก่อตั้ง National Liberation Council ขึ้นเพื่อปกครองประเทศ โดยมีการคืนอำนาจให้แก่รัฐบาลพลเรือนผลัดเปลี่ยนการคุมอำนาจระหว่างกลุ่มต่างๆ ในช่วงระยะเวลาสั้นๆ รัฐประหารครั้งหลังสุดเกิดขึ้นในเดือนธันวาคม 2524 โดยเรืออากาศเอก Jerry Rawlings เป็นผู้นำการรัฐประหาร จากนั้นได้มีการจัดตั้งองค์กรบริหารประเทศ คือ Provisional National Defence Council (PNDC) ขึ้น พร้อมกับยุบสภา ระงับการใช้รัฐธรรมนูญ และห้ามจัดตั้งพรรคการเมืองในเดือนมีนาคม 2535 เรืออากาศเอก Rawlings ได้ประกาศถ่ายโอนอำนาจให้เป็นประชาธิปไตย และมีการลงประชามติเห็นชอบรัฐธรรมนูญฉบับใหม่แห่งสาธารณรัฐที่ 4 ในวันที่ 28 เมษายน 2535 ซึ่งถือเป็นการจัดตั้งระบบการปกครองแบบประชาธิปไตยโดยมีประธานาธิบดีเป็นหัวหน้าฝ่ายบริหารตามรูปแบบการปกครองของสหรัฐอเมริกา มีรัฐสภาที่มาจากหลายพรรค และระบบตุลาการที่เป็นอิสระ ทั้งนี้ ในการเลือกตั้งประธานาธิบดี เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 2535 เรืออากาศเอก Rawlings ชนะการเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดี และได้รับเลือกตั้งให้ดำรงตำแหน่งอีกครั้งในปี 2539
อย่างไรก็ตาม ในการเลือกตั้งประธานาธาธิบดีในวันที่ 7 และ 28 ธันวาคม 2543 นาย John Atta Mills จากพรรค National Democratic Congress (NDC) อดีตรองประธานาธิบดีผู้ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากนาย Jerry Rawlings แพ้การเลือกตั้งให้กับนาย John Agyekum Kufuor พรรค National Patriotic Party (NPP) ถือเป็นการยุติอำนาจทางการเมืองของนาย Jerry Rawlings ที่อยู่ในตำแหน่งประมุขของรัฐมาเป็นเวลากว่า 19 ปี
นาย John Agyekum Kufuor ได้เข้าสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีของกานาในวันที่ 7 มกราคม 2544 และได้รับการเลือกตั้งให้ดำรงตำแหน่งต่อเป็นสมัยที่สองในการเลือกตั้งประธานาธิบดี เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2547 และครบวาระการดำรงตำแหน่งในเดือนธันวาคม 2551
![]() |
![]() |
นโยบายของรัฐบาลชุดปัจจุบัน
1. การเมืองการปกครอง
1.1 กานาปกครองในระบอบประชาธิปไตยแบบสาธารณรัฐ มีประธานาธิบดีเป็นประมุขแห่งรัฐและหัวหน้ารัฐบาล ประธานาธิบดีได้รับเลือกตั้งโดยตรงจากประชาชน ดำรงตำแหน่งในวาระละ 4 ปี จำกัดไม่เกิน 2 สมัย มีอำนาจในการแต่งตั้งรองประธานาธิบดีและคณะรัฐมนตรี โดยผ่านความเห็นชอบของรัฐสภา รัฐสภาเป็นระบบสภาเดียว (Unicameral) ปรอบกอบด้วยสมาชิก 230 คน ได้รับเลือกตั้งจากประชาชนทุก 4 ปี
1.2 กานาจัดการเลือกตั้งประธานาธิบดีและการเลือกตั้งทั่วไปครั้งล่าสุดในเดือนธันวาคม 2551 โดยพรรค National Democratic Congress (NDC) ภายใต้การนำของนายจอห์น อัตตา มิลส์ (John Atta Mills) ได้รับคะแนนเสียงสูงสุด และได้จัดตั้งรัฐบาล โดยมีพรรค New Patriotic Party (NPP) เป็นพรรคฝ่ายค้านหลังจากที่เคยเป็นพรรคผู้จัดตั้งรัฐบาลในสมัยที่ผ่านมา
1.3 นายจอห์น อัตตา มิลส์ ประธานาธิบดีกานาคนปัจจุบัน ได้สาบานตนเข้าดำรงตำแหน่งเมื่อวันที่ 7 มกราคม 2552 ในอดีต นายมิลส์ เคยดำรงตำแหน่งรองประธานาธิบดีระหว่างปี 2540-2543 ในสมัยของประธานาธิบดีเจอร์รี่ รอลว์ลิ่งส์ (Jerry Rawlings) หลังจากนั้น ได้ลงสมัครรับเลือกตั้งประธานาธิบดี ในปี 2543 และ 2547 แต่ก็พ่ายแพ้ให้กับพรรค NPP ทั้ง 2 ครั้ง
1.4 ปัจจุบัน พรรค NDC มีผู้แทนอยู่ 115 คน จากทั้งหมด 230 ที่นั่งในรัฐสภา จึงเป็นที่คาดการณ์กันว่า พรรครัฐบาลจะดำเนินนโยบายด้วยความระมัดระวังเป็นพิเศษ โดยมุ่งเน้นการเพิ่มฐานคะแนนเสียงให้กับพรรค ควบคู่ไปกับการแก้ปัญหาทุจริตคอร์รัปชั่น รวมถึงการสร้างเสถียรภาพและแก้ปัญหาเศรษฐกิจภายในประเทศที่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจโลกตกต่ำ
2. เศรษฐกิจ
2.1 กานาเป็นประเทศแรกในเขต Sub-Sahara แอฟริกาที่ได้รับเอกราชจากสหราชอาณาจักร มีประชากรประมาณ 23.1 ล้านคน (ปี 2552) เป็นประเทศที่มีขนาดค่อนข้างเล็ก แต่มีทรัพยากรธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ ทรัพยากรธรรมชาติที่สำคัญ ได้แก่ ทองคำ บอกไซด์ แมงกานีส ป่าไม้ เพชร และโกโก้ กานาเป็นผู้ผลิตทองคำและโกโก้รายใหญ่ของโลก และมีรายได้หลักมาจากการส่งออกสินค้าดังกล่าว แหล่งทองคำอยู่ที่เมือง Ashanti และดินแดนทางภาคตะวันตกของกานา อย่างไรก็ตาม กานายังคงมีความจำเป็นต้องพึ่งพาความช่วยเหลือทางด้านการเงินและวิชาการจากต่างประเทศเพื่อพัฒนาประเทศและรักษาเสถียรภาพทางการเงินของประเทศ
2.2 ภาคการเกษตรยังคงเป็นหัวใจหลักของเศรษฐกิจกานา โดยทำรายได้คิดเป็นร้อยละ 27.3 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (ปี 2550) อย่างไรก็ตาม ภาคการเกษตรของกานายังคงประสบปัญหาผลผลิตตกต่ำจากโรคพืช และภาวะการผันผวนของราคาสินค้าเกษตรในตลาดโลก สินค้าส่งออกที่สำคัญของกานา ได้แก่ โกโก้ ไม้ อาหารทะเล สัปปะรด
2.3 กานามีท่าเรือที่สำคัญ คือ ท่าเรือ Tema และท่าเรือ Takoradi ซึ่งเป็นประตูการค้าสู่ตลาดแอฟริกาตะวันตก โดยเฉพาะสำหรับประเทศบูร์กินาฟาโซซึ่งตั้งอยู่ทางตอนเหนือของกานาและไม่มีทางออกทะเล
2.4 ในปัจจุบัน นโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาลให้ความสำคัญกับการกระตุ้นการขยายตัวทางเศรษฐกิจและส่งเสริมระดับการพัฒนาทางเศรษฐกิจ ควบคู่ไปกับการแก้ปัญหาเงินเฟ้อและขาดดุลงบประมาณ โดยในปี 2552 กานาประสบปัญหาขาดดุลงบประมาณ คิดเป็นร้อยละ 10.2 ของมูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ ทั้งนี้ ในช่วงต้นปี 2551 ประธานาธิบดีกานาได้แต่งตั้งคณะที่ปรึกษาทางด้านเศรษฐกิจ (Economic advisory Council) ขึ้นเพื่อให้คำปรึกษาในด้านนโยบายเตรียมการรับมือกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลก ทั้งยังได้มีการประชุมหารือกับกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เพื่อหาแนวทางแก้ปัญหาเศรษฐกิจภายในประเทศอีกด้วย ล่าสุด รัฐบาลกานาได้ยอมรับความช่วยเหลือจากธนาคารโลกและกองทุนการเงินระหว่างประเทศ เป็นเงิน 300 และ 600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ตามลำดับ โดยมีเงื่อนไขในการปรับปรุงระเบียบงบประมาณแผ่นดินและการสร้างเสถียรภาพเศรษฐกิจมหภาคเป็นสำคัญ ทั้งนี้ หนึ่งในความพยายามของรัฐบาลปัจจุบันในการแก้ปัญหาขาดดุลงบประมาณติดต่อกันมาหลายปีตั้งแต่สมัยรัฐบาลก่อนหน้า คือ การปรับปรุงระบบการจัดเก็บภาษีอากรให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นโดยก่อตั้งสำนักบริหารภาษีอากร (Ghana Revenue Authority) นอกจากนี้ รัฐบาลยังมีแผนที่จะเพิ่มอัตราภาษีเหมืองแร่ซึ่งน่าจะช่วยเพิ่มรายได้ให้แก่ประเทศเป็นจำนวนมาก
2.5 ในภาพรวมนั้น ปัจจัยสำคัญต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจของกานาในปัจจุบัน ได้แก่ รายได้จากการส่งออกทองคำซึ่งยังคงมีราคาสูง การขยายตัวของภาคบริการ และการเริ่มต้นผลิตน้ำมันจำนวนมากเพื่อการส่งออกในปี 2554 ซึ่งน่าจะช่วยบรรเทาปัญหางบประมาณขาดดุลของประเทศได้ในระดับหนึ่ง ทั้งนี้ รัฐบาลได้กำหนดแนวทางพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศให้บรรลุเป้าหมายการขยายตัวร้อยละ 8 ต่อปีในช่วงปี 2553-2555 โดยเน้น (1) การกำหนดนโยบายเศรษฐกิจมหภาคที่มีความรัดกุม (2) การพัฒนาภาคการเกษตรให้มีความทันสมัยมากยิ่งขึ้น (3) การพัฒนาระบบสาธารณูปโภค โดยเฉพาะในด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (4) การพัฒนาเศรษฐกิจภาคเอกชน และ (5) การพัฒนาอุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ
3. นโยบายต่างประเทศ
3.1 เสถียรภาพทางการเมืองเป็นปัจจัยสนับสนุนให้กานาเป็นประเทศหนึ่งที่มีบทบาทสำคัญในเวทีระหว่างประเทศทั้งในระดับภูมิภาคและระดับโลก และยังคงบทบาทที่โดดเด่นในกรอบความร่วมมือพหุภาคี ทั้งในกรอบองค์การสหประชาชาติ เครือจักรภพอังกฤษ กลุ่มประเทศไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด (Non - Aligned Movement - NAM) สหภาพแอฟริกา (African Union - AU) คณะกรรมาธิการเศรษฐกิจแอฟริกา (Economic Commission for Africa - ECA) ประชาคมเศรษฐกิจแห่งรัฐแอฟริกาตะวันตก (Economic Community of West Africa States - ECOWAS) และ African States associated with the EC (Lome Convention) ฯลฯ
3.2 กานาเป็นหนึ่งในประเทศผู้ริเริ่มก่อตั้งกลุ่มประเทศหุ้นส่วนใหม่เพื่อการพัฒนาแอฟริกา หรือ NEPAD (New Partnership for Africa's Development) และมีบทบาทสำคัญในประชาคมเศรษฐกิจแห่งรัฐแอฟริกาตะวันตก (ECOWAS) โดยกานาดำรงตำแหน่งประธาน ECOWAS ในช่วงปี 2537-2539 และ 2546-2548 ทั้งยังมีส่วนร่วมในการส่งกองกำลังรักษาสันติภาพไปยังประเทศเพื่อนบ้านหลายครั้ง อาทิ โกตดิวัวร์ เซียร์รา-ลีโอน และไลบีเรีย ในกรอบ ECOMOG หรือ ECOWAS Monitoring Group นอกจากนี้ ดร. โมฮัมเหม็ด อิบน์ แชมบาส (Dr. Mohamed Ibn Chambas) ประธานคณะกรรมธิการ ECOWAS คนปัจจุบัน ซึ่งมีวาระการดำรงตำแหน่งระหว่างปี 2550-2554 ยังเป็นนักการเมืองสัญชาติกานาด้วย
3.3 กานาเคยเป็นสมาชิกไม่ถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) มาแล้ว 3 ครั้ง ในวาระปี 2505-2506 / 2529-2530 / 2549-2550 ทั้งยังเป็นเจ้าภาพในการจัดประชุมสุดยอดผู้นำสหภาพแอฟริกา (African Union หรือ AU) ครั้งที่ 9 เมื่อเดือนมิถุนายน 2550 และเป็นเจ้าภาพการประชุม UNCTAD ครั้งที่ 12 ณ กรุงอักกรา ระหว่างวันที่ 20-25 เมษายน 2551 ด้วย
3.4 ในระดับความสัมพันธ์รูปแบบทวิภาคีนั้น กานามีความสัมพันธ์ที่ดีกับต่างประเทศทั้งในและนอกภูมิภาคแอฟริกา โดยเฉพาะประเทศที่เป็นคู่ค้าสำคัญและประเทศผู้ให้ ในภาพรวมนั้น กานาให้ความสำคัญกับสหรัฐฯ และสหราชอาณาจักรเป็นพิเศษ เนื่องจากเป็นประเทศที่มีชาวกานาอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ ยังมีแนวโน้มที่ความสัมพันธ์ระหว่างกานากับจีนจะพัฒนาดียิ่งขึ้น จากการที่จีนได้สนับสนุนเงินทุนสำหรับโครงการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคพื้นฐาน
![]() |
![]() |
ข้อมูลเศรษฐกิจ/การค้า
| ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ | 15.30 พันล้าน USD (ไทย: 317.7 พันล้าน USD) |
| รายได้ประชาชาติต่อหัว | 645.70 USD (ไทย: 4,719.8 USD) |
| การขยายตัวทางเศรษฐกิจ | ร้อยละ 7.7 (ไทย: ร้อยละ 7.8) |
| อัตราเงินเฟ้อ | ร้อยละ 9.21 (ไทย: ร้อยละ 3.3) |
| เงินทุนสำรอง | 4.7 พันล้าน USD (ไทย: 185.9 พันล้าน USD) |
| อุตสาหกรรมที่สำคัญ | การทำเหมือง การทำไม้ อุตสาหกรรมเบา การหลอมอลูมินัม การแปรรูปอาหาร ซีเมนต์ การต่อเรือพาณิชย์ขนาดเล็ก |
| ทรัพยากรธรรมชาติ | ทองคำ ป่าไม้ อุตสาหกรรมอัญมณี บ็อกไซต์ แมงกานีส ปลา ยาง พลังงานน้ำ ปิโตรเลียม เงิน เกลือ หินปูน |
| สินค้าส่งออกที่สำคัญ | ทองคำ โกโก้ ไม้ซุง ทูน่า บอกไซต์ อลูมินัม แร่แมงกานีส เพชร พืชเรือนกระจก |
| สินค้านำเข้าที่สำคัญ | เครื่องจักรที่ใช้ในอุตสาหกรรม ปิโตรเลียม อาหาร |
| ประเทศคู่ค้าที่สำคัญ | ส่งออกไป เนเธอร์แลนด์ สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส ยูเครน มาเลเซีย |
| นำเข้าจาก เครื่องจักรที่ใช้ในอุตสาหกรรม ปิโตรเีลียม อาหาร | |
| หน่วยเงินตรา | เซดี (Cedi) อัตราแลกเปลี่ยน 1 เซดี เท่ากับประมาณ 20.17 บาท (ข้อมูลวันที่ 20 มิ.ย. 54) |
สถิติที่สำคัญ ไทย-กานา (2553)
| มูลค่าการค้าไทย-กานา | 241.80 ล้าน USD (ไทยส่งออก 211.73 ล้าน USD ไทยนำเข้า 30.07 ล้าน USD ไทยได้ดุลการค้า 181.66 ล้าน USD) |
| สินค้าส่งออกของไทย | ข้าว เม็ดพลาสติก รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ หม้อแปลงไฟฟ้าและส่วนประกอบ ผลิตภัณฑ์พลาสติก ผลิตภัณฑ์ข้าวสาลีและอาหารสำเร็จรูปอื่นๆ ผลิตภัณฑ์ยาง อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป เครื่องดื่ม เครื่องนุ่งห่ม |
| สินค้านำเข้าจากกานา | พืชและผลิตภัณฑ์จากพืช สัตว์น้ำสด แช่เย็น แช่แข็ง แปรรูปและก่ิง เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ |
| การลงทุน | ในปัจจุบัน ยังไม่มีการลงทุนระหว่างกันมากนัก |
| การท่องเที่ยว | ชาวกานามาไทย 1,917 คน (2553) |
| คนไทยในกานา | ไม่ปรากฏข้อมูล |
| การตรวจลงตรา | ขอรับการตรวจลงตราตามปกติได้ที่ กรุงเทพฯ (สถานกงสุล) |
| สำนักงานของไทยที่ดูแลกานา | สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงอาบูจา และ กรุงอักกรา (สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ) |
| สำนักงานของกานาในไทย | กรุงเทพฯ (สถานกงสุล) (กงสุลกิตติมศักดิ์กานาประจำไทย คือ นางสิชา สิงห์สมบุญ) / สถานเอกอัครราชทูตกานาประจำมาเลเซีย |
![]() |
![]() |
1. ความสัมพันธ์ทั่วไป
1.1 การทูต
ไทยกับกานาสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกันเมื่อปี 2528 ความสัมพันธ์เป็นไปด้วยความราบรื่น ไทยเคยมอบหมายให้สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงดาการ์ มีเขตอาณาครอบคลุมกานา ต่อมาเมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2549 คณะรัฐมนตรีได้มีมติให้มีการปรับเปลี่ยนเขตอาณา โดยให้สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุง อาบูจา ประเทศไนจีเรีย มีเขตอาณาครอบคลุมกานาแทน ฝ่ายกานาได้มอบหมายให้สถานเอกอัครราชทูตกานาประจำมาเลเซีย มีเขตอาณาครอบคลุมไทย
1.2 เศรษฐกิจ
กานาได้ติดต่อค้าขายกับไทยตั้งแต่ปี 2515 โดยในระยะแรก ไทยเป็นฝ่ายได้เปรียบดุลการค้า อย่างไรก็ตาม การที่ไทยนำเข้าเครื่องเพชรพลอย อัญมณี เงินแท่งและทองคำจากกานาเป็นจำนวนมากได้ส่งผลให้ไทยเป็นฝ่ายเสียเปรียบดุลการค้าในช่วงปี 2535 - 2543 ต่อมา ไทยกลับมาเป็นฝ่ายได้เปรียบดุลการค้ามาจนถึงปัจจุบัน เนื่องจากไทยส่งออกข้าวไปกานาเป็นจำนวนมาก (กานาเป็นประเทศคู่ค้าข้าวอันดับ 6 ของไทยในทวีปแอฟริกา) และมีการนำเข้าเครื่องเพชรพลอย อัญมณี เงินแท่งและทองคำจากกานาน้อยลง ในปี 2552 มูลค่าการค้าระหว่างไทยกับกานาเท่ากับ 227.47 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ไทยส่งออก 201.30 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ไทยนำเข้าจากกานา 21.16 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ไทยได้เปรียบดุลการค้า 180.14 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ทั้งนี้ กานาเป็นคู่ค้าที่สำคัญเป็นอันดับที่ 68 ของไทยในตลาดโลก และเป็นอันดับที่ 9 ในแอฟริกา สินค้าส่งออกที่สำคัญของไทยไปยังกานา ได้แก่ ข้าว เม็ดพลาสติก หม้อแปลงไฟฟ้าและส่วนประกอบ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ผลิตภัณฑ์พลาสติก ผลิตภัณฑ์ยาง เสื้อผ้าสำเร็จรูป เครื่องดื่ม เครื่องสำอางค์ สบู่ และ ผลิตภัณฑ์รักษาผิว ปูนซิเมนต์ สินค้านำเข้าที่สำคัญจากกานา ได้แก่ พืชและผลิตภัณฑ์จากพืช เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ ไม้ซุง ไม้แปรรูปและผลิตภัณฑ์ ทั้งนี้ ไทยได้เปิดสำนักงานส่งเสริมการค้าไทยในต่างประเทศ ณ กรุงอักกรา ตั้งแต่ปี 2544 เป็นต้นมา ปัจจุบัน มีพิทยา บุญยิ่ง ดำรงตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการสำนักงาน มีภารกิจในการส่งเสริมการขยายตลาดส่งออกของไทย โดยเฉพาะตลาดข้าวในภูมิภาคแอฟริกาตะวันตก นอกจากนี้ ระหว่างวันที่ 21 - 28 มีนาคม 2550 นางอรนุช โอสถานนท์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้เยือนกานาและเซเนกัลเพื่อสำรวจตลาดข้าวไทย
1.3 ความร่วมมือทางวิชาการ
กานามีความสนใจที่จะเรียนรู้ประสบการณ์ด้านการพัฒนาเศรษฐกิจของไทยและขยายความร่วมมือกับไทยในด้านการเกษตรและการประมง โดยไทยได้กำหนดให้กานาอยู่ในโครงการความช่วยเหลือของไทย หรือ Thai Aid Programme ซึ่งเป็นการให้ความช่วยเหลือในรูปทุนการศึกษาและทุนฝึกอบรมดูงานในด้านการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ในสาขาที่ไทยมีความเชี่ยวชาญและเป็นที่ต้องการของประเทศกำลังพัฒนา ได้แก่ สาขาการเกษตร สาธารณสุข และการศึกษา
สำนักงานความร่วมมือเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศ (สพร.) ได้เวียนทุนฝึกอบรม (Annual International Training Course หรือ AITC) ให้ฝ่ายกานาพิจารณาส่งบุคลากรเข้าร่วมเป็นประจำทุกปี โดยคำนึงถึงสาขาที่ไทยมีองค์ความรู้และความเชี่ยวชาญที่จะสามารถถ่ายทอดให้กับกานาตามความต้องการได้ ทั้งนี้ ในปี 2552 กานาได้ส่งบุคลากรเข้ารับทุนฝึกอบรมในหลักสูตร Integrated Watershed Management จำนวน 1 ราย และสพร. ได้เวียนทุนฝึกอบรมให้ฝ่ายกานาพิจารณาส่งบุคลากรเข้าร่วมในปีการศึกษา 2553 จำนวน 7 หลักสูตร ดังนี้ (1) Diversified Farming Practices Using Participatory Approach for Food Security and Safety (2) Integrated Natural Resource and Environment Management in the Context of Climate Change (3) Prevention and Control of Communicable Diseases (4) Product Development and Quality Assurance of Select Agro-Industrial Products (5) Sufficiency Economy (6) Sustainable Crop Production และ (7) Waste Recycling for Sufficiency Agriculture
2. ความตกลงที่สำคัญๆ กับไทย
ความตกลงที่ได้ลงนามไปแล้ว
2.1 ความตกลงว่าด้วยความร่วมมือทางเศรษฐกิจ วิทยาศาสตร์ วิชาการ และวัฒนธรรม (ลงนามเมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 2549)
2.2 พิธีสารว่าด้วยการจัดตั้งคณะกรรมาธิการร่วมไทย-กานา (ลงนามเมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 2549) โดยไทยรับจะเป็นเจ้าภาพจัดประชุมคณะกรรมาธิการร่วมครั้งที่ 1 เมื่อทั้งสองฝ่ายมีความพร้อม
ความตกลงที่อยู่ระหว่างการพิจารณาจัดทำ
2.2 ความตกลงด้านการค้า
2.3 ความตกลงด้านวัฒนธรรม
3. การเยือนที่สำคัญ
3.1 ฝ่ายไทย
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
- วันที่ 20 - 24 เมษายน 2551 สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯ เยือนกานาอย่างเป็นทางการ และได้เสด็จฯ เข้าร่วมเป็นองค์ปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ "Harnessing Knowledge and Technology for Development" ในวันที่ 24 เมย 2551 ตามคำกราบบังคมทูลเชิญของนายศุภชัย พาณิชย์ภักดิ์ เลขาธิการ UNCTAD
รองนายกรัฐมนตรี / รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ
- วันที่ 4 - 5 กรกฎาคม 2549 ดร.สุรเกียรติ์ เสถียรไทย รองนายกรัฐมนตรี เยือนกานาอย่างเป็นทางการ และได้เข้าพบหารือกับรองประธานาธิบดี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศกานา
- วันที่ 20 - 25 เมษายน 2551 นายนพดล ปัทมะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นำคณะผู้แทนไทยเดินทางเข้าร่วมการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการค้าและการพัฒนา (United Nations Conference on Trade and Development - UNCTAD) ครั้งที่ 12 ณ กรุงอักกรา สาธารณรัฐกานา
3.2 ฝ่ายกานา
รองประธานาธิบดี / รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ
- วันที่ 28 สิงหาคม - 3 กันยายน 2549 นาย Aliu Mahama รองประธานาธิบดี เยือนไทย ในฐานะแขกของรัฐบาล ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในการเยือนไทยอย่างเป็นทางการของผู้นำระดับสูงของกานา และได้เข้าพบหารือกับ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และ ดร.สุรเกียรติ์ เสถียรไทย รองนายกรัฐมนตรี
- วันที่ 10 - 14 ธันวาคม 2550 นาย Akwasi Osei-Adjei รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ พร้อมคณะผู้แทนกานา เยือนไทยในฐานะแขกของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อศึกษาดูงานเตรียมการจัดประชุม UNCTAD ครั้งที่ 12 และได้เข้าพบหารือกับ ดร. มนัสพาสน์ ชูโต ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ
สาวกานา
อาเซียนเนื้อหอม! เจาะเหตุผลทำไม บังกลาเทศ-ปาปัวนิวกินี-ฟิจิ อยากเข้าใกล้ครอบครัวเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
เขมรไม่มีคิดหยุด แต่คิดว่าจะรบไทยให้ชนะด้วย F-35 ได้อย่างไรในอนาคต
จักรวาลร่วมฉลองส่งท้ายปี! NASA อวดโฉม "ต้นคริสต์มาสยักษ์" แห่งห้วงอวกาศลึก 2,500 ปีแสง
ย้อนชะตากรรม "ขันทีหัวใจพระโพธิสัตว์" ยอมแก้ราชโองการเพียงหนึ่งคำ เพื่อรักษาชีวิตคนนับพัน
เจาะลึกลำดับเหตุการณ์โศกนาฏกรรมซาวน่าญี่ปุ่น เมื่อพื้นที่ส่วนตัวกลายเป็นกับดักมรณะ
สูตรคำนวณงวด 2/1/69
ทำไมคนค้าขายสินค้าที่ผิดศีลธรรมจึงร่ำรวย?
"สาละ" ดอกไม้ในตำนานเกี่ยวกับพุทธประวัติของพระมหาศาสดาของศาสนาพุทธ (สาละในหลวงพระบาง)
ลุกขึ้นไได้...ก็ชนะ
รีวิวหนังดัง SURROGATES คนอึดฝ่านรกโคลนนิ่ง
สอยอีกหนึ่ง นายพลเขมรร่วง อีกราย
โฆษก "ฮุนเซน" โม้หนัก!! เคยผ่านการรบมาแล้วนับ 100 ครั้ง!!
อาเซียนเนื้อหอม! เจาะเหตุผลทำไม บังกลาเทศ-ปาปัวนิวกินี-ฟิจิ อยากเข้าใกล้ครอบครัวเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
เขมรไม่มีคิดหยุด แต่คิดว่าจะรบไทยให้ชนะด้วย F-35 ได้อย่างไรในอนาคต
ด่วน! แก๊งสแกมเมอร์จีน–กัมพูชาแตกฮือ ปอยเปตอลหม่าน หลังทหารกัมพูชายึดอาคารใช้เป็นฐานทหาร ตกเป็นเป้าการสู้รบชายแดน
ย้อนชะตากรรม "ขันทีหัวใจพระโพธิสัตว์" ยอมแก้ราชโองการเพียงหนึ่งคำ เพื่อรักษาชีวิตคนนับพัน




