หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

มิลค์กี้ แร็พเปอร์สาวจาก G-TWENTY กับแบรนด์ Deshiny

โพสท์โดย zofa

นอกจากจะมีความสามารถด้านการร้อง และแต่งเพลงแล้ว มิลค์กี้ ธญา ศุภกิจจารักษ์ แร็พเปอร์สาวจากวง G-TWENTY ยังได้ชื่อว่าเป็นเจ้าแม่แฟชั่นตัวยง จนตอนนี้เธอได้เปิดบริษัทเสื้อผ้าของตัวเองภายใต้ชื่อแบรนด์ "Deshiny"

จุดเริ่มต้นของ Deshiny
เริ่มจากการที่มิลค์เป็นคนที่ชอบแฟชั่น ชอบการแต่งตัว แต่มิลค์เป็นคนที่ค่อนข้างเรื่องมาก เลือกเยอะ มีสไตล์การแต่งตัวเป็นของตัวเอง ก็จะหาเสื้อผ้าที่ถูกใจยากนิดนึง เลยคุยกับพี่สาว (อีฟ สโรชา เอวาริสโต) ซึ่งชอบแฟชั่นเหมือนกันว่าเรามาทำแบรนด์ของตัวเองไหม? คือ เกิดจากความชอบมากกว่า ไม่ได้เกิดจากความคิดเรื่องธุรกิจอะไรค่ะ

ที่มาของชื่อแบรนด์
ปกติมิลค์จะมีคนดูดวงให้เป็นประจำอยู่แล้ว เค้าก็ช่วยดูให้ว่าชื่อไหนน่าจะเหมาะกับมิลค์ ก็ได้ตัว D, S, N มา คือ มิลค์อยากได้ชื่อ 3 พยางค์ แล้วมิลค์ก็นึกถึงคำว่า Destiny ที่แปลว่าพรหมลิขิต เพราะมิลค์รู้สึกว่ามิลค์กับพี่สาวที่ทำงานด้วยกันสนิทกันเหมือนพี่สาวจริงๆ รู้สึกเป็นมากกว่าครอบครัว มิลค์รู้สึกว่าเป็นเหมือนพรหมลิขิตนะ จากคนที่ไม่รู้จักกันมารู้จักกัน ทำงานด้วยกัน รู้ตัวตนของกัน และกัน สนิทกันได้ขนาดนี้ แต่ด้วยความที่เป็นตัว D, S, N ก็รู้สึกว่าเป็น Deshiny ดีกว่า มาจาก Destiny แล้วมีคำว่า Shiny ด้วย เป็นความหมายในแง่บวก ฟังแล้วรู้สึกดี ชอบค่ะ

ทีมงานหลัก
ตอนนี้ทีมงานหลักก็จะมีสองคน คือ มิลค์กับพี่อีฟ อารมณ์ช่วงนี้เหมือนอยู่ในช่วงเริ่มก่อตั้ง จะแบ่งหน้าที่ คือ มิลค์เป็นดีไซเนอร์ เป็นคนดูแลเรื่องอาร์ตไดเร็คชั่น ดูแลเรื่องการออกแบบทั้งหมด ส่วนพี่อีฟก็เป็นเหมือนที่ปรึกษา และเป็นฝ่ายพัฒนาแบรนด์ด้วย แล้วตอนนี้คุณพ่อมิลค์ก็มาช่วยดูเรื่องการเงินเรื่องการจัดการต่างๆ นอกจากนี้ก็มีทีมที่ทำเสื้อผ้าทำอะไรยิบย่อยให้ แต่ยังไม่ใช่ทีมงานของ Deshiny จริงๆ ก็คิดว่าในปลายปีนี้คงจะมีออฟฟิศ มีทีมของตัวเองจริงๆ ค่ะ

เริ่มมานาน หรือยัง
จริงๆ เราเริ่มมาตั้งแต่ปีที่แล้วแล้ว คือ เริ่มต้นจากศูนย์เลยนะ เริ่มจากการคิดชื่อ คิดว่าเราจะทำอะไรๆ มันก็นานมาแล้ว ตอนนี้ยังไม่เสร็จเลย มันค่อนข้างยาก แล้วมีอะไรจุกจิกยิบย่อยเยอะ แต่ตอนนี้ก็ดีไซน์คอลเล็คชั่นแรก สำหรับ Spring/Summer 2011 เสร็จแล้ว อยู่ในช่วงของการรอตัดเย็บ แล้วก็ทำช็อปออนไลน์ขึ้นมา เพราะว่าตอนแรกเราจะมีแต่ช็อปออนไลน์ก่อน คือ ทำเป็นช็อปออนไลน์เปิดขายในประเทศ แล้วสักพักก็คงจะขายเป็น U.S. Dollar สำหรับต่างประเทศด้วย ก็ใกล้จะเสร็จแล้ว คิดว่าน่าจะได้เห็นกันภายในปลายเดือนนี้ (เมษายน) ค่ะ

ศึกษาเพิ่มเติม
ตอนนี้กำลังจะย้ายไปเรียน Fashion Marketing ที่ Raffles International College ค่ะ เพราะว่าพอได้มาทำ Deshiny จากที่เราคิดว่าแค่ชอบแฟชั่นเหมือนคนที่ชอบแต่งตัวธรรมดา ตอนนี้มันมากกว่านั้นแล้ว เราค้นพบอะไรที่เราชอบจริงๆ แล้วก็อยากศึกษา อยากทำมันให้ดี แต่จริงๆ ในการใช้ชีวิตทุกวันนี้ ก็พยายามหาอะไรที่เกี่ยวกับเรื่องแฟชั่นเพิ่มเติมให้ตัวเองตลอดเวลาอยู่แล้ว แล้วตั้งแต่ที่เราเริ่มทำ Deshiny ไม่ว่าเราจะไปที่ไหน ทำอะไร ใช้ชีวิตประจำวันของเรา หรืออะไรอย่างนี้ ในหัวของเราก็ทำงานเกี่ยวกับเรื่อง Deshiny ตลอดเวลา คือ พยายามหาอะไรที่จะเอามาปรับใช้กับแบรนด์ของเรา อย่างเราอยู่เฉยๆ เราเห็นกระป๋องโค้กกับกระป๋องเป็ปซี่ เราก็รู้สึกว่า เอ้ย! สองแบรนด์เป็นน้ำอัดลมเหมือนกัน รสชาติคล้ายกัน แล้วอะไรที่ทำให้เป็ปซี่ก็มีคนชอบเป็ปซี่ โค้กก็มีคนชอบโค้ก อะไรอย่างนี้ คือ เค้าทำตัวเองให้โดดเด่นขึ้นมาได้อย่างไง? เราเจออะไร เราก็คิดๆ อย่างนี้ เพื่อหาจุดยืนให้ Deshiny แล้วก็ทำให้แบรนด์มันแข็งแรงค่ะ

ดีไซเนอร์ หรือแบรนด์ในดวงใจ
จริงๆ มิลค์ชอบหลายคนนะ แต่ถ้าเป็นแบรนด์ มิลค์ชอบ Louis Vuitton มาก มันเป็นดีไซน์ที่เรารู้สึกว่าไม่ได้ตามแฟชั่น เหมือนกับว่าเราซื้อของ Louis Vuitton วันนี้แล้ว เราก็ยังสามารถใช้ได้อีกใน 10 ปีข้างหน้า 20 ปีข้างหน้า คือ มันคลาสสิคขนาดนั้น มิลค์นับถือเค้ามากในเรื่องของดีไซน์ และสไตล์ค่ะ

จุดเด่นของ Deshiny
จริงๆ เราก็เป็นเหมือนแบรนด์เสื้อผ้านี่แหละ แต่ด้วยดีไซน์ของเรา คือ เราพยายามเอาความสวยแบบธรรมชาติของผู้หญิงออกมา Natural, Sexy, Confident และ Relax 4 คำนี้แหละที่ครอบคลุมการดีไซน์ของ Deshiny ทั้งหมด ก็จะมีอย่างเช่น กางเกงยีนส์ขาดๆ เสื้อแบบดูสบายๆ หรืออะไรแบบนี้ แล้วก็จะมีชุดราตรี ซึ่งจะดูแบบว่าไม่เยอะ แต่ดูดี คือ เป็นเสื้อผ้าที่ค่อนข้างจะเรียบ แต่แสดงให้เห็นถึงพลังของความเรียบ เป็นความเชื่อของมิลค์ และพี่อีฟว่ายิ่งเรียบยิ่งมีอะไร แล้วอีกอย่างที่เป็นสไตล์ของ Deshiny คือ เรียบที่ชุดก็จริง แต่ไม่ใช่ที่เครื่องประดับ เครื่องประดับของ Deshiny จะเป็นอะไรที่ค่อนข้างมาเต็มอยู่ ดูหรูหรา ฟุ่มเฟือย ซึ่งสองอย่างนี้จะตรงข้ามกันมาก ก็จะให้ฟีลผู้หญิงที่สบายๆ ง่ายๆ เก๋ๆ แต่ว่ายังมีความหรูหราด้วยค่ะ

ทำงานข้ามประเทศ
ใช่ค่ะ ทำงานข้ามประเทศเลย เพราะอย่างที่บอกว่าทีมงานหลัก Deshiny มีอยู่ 2 คน ก็คือ มิลค์กับพี่อีฟ และพี่อีฟเค้าอยู่ที่เยอรมัน เพราะว่าเค้าทำบริษัทที่ชื่อว่า Huu Haus ด้วย เป็นบริษัทที่รับจัดแฟชั่นโชว์ เป็นเหมือนออแกนไนเซอร์เกี่ยวกับแฟชั่น และก็นำเข้าแบรนด์ไทยด้วย คือ เค้าก็ทำอันนี้ของเค้าไปด้วย แล้วก็ทำ Deshiny กับมิลค์ด้วย ดังนั้นเราต้องคุยงานกัน ทำทุกสิ่งทุกอย่างผ่านทาง skype หมดเลย แล้วก็จะมี twitter บ้าง email บ้าง อะไรพวกนี้ แต่ด้วยความที่เราเข้าใจกันอยู่แล้ว เค้าจะเก็ทว่ามิลค์ต้องการอะไร เวลาพูดอะไรก็จะง่าย เข้าใจกัน แล้วก็ทำให้ Deshiny โชคดี มีโอกาสได้ไปร่วมแฟชั่นโชว์ที่เยอรมันด้วย เป็นโปรเจ็คของทางห้าง Douglas ที่เยอรมัน เราก็ส่ง lookbook ของเราไป แล้วก็ได้รับเลือกให้ไปร่วมในงานแฟชั่นโชว์ครั้งนี้ค่ะ

ความรู้สึกตอนนั้น
ตกใจ ตื่นเต้น ทุกสิ่งทุกอย่าง (หัวเราะ) เราก็ต้องเตรียมเซ็ทเสื้อผ้า 8 ชุด สำหรับแฟชั่นโชว์ เป็นช่วงที่เหนื่อยที่สุดของชีวิตแล้วอะ คือ ด้วยความที่เราก็ยังเป็นนักร้อง มีออกไปทัวร์ ไปทำภารกิจนักร้องของเรา แต่กลับมาปุ๊บ เราต้องมาออนไลน์ skype คิดงาน แล้วระหว่างที่เราไปร้องเพลง เราก็จะมีสมุดเตรียมสเก็ตช์งาน หรือคอยสังเกตแฟชั่น ตอนนั้นค่อนข้างกดดันนะ เรียกได้ว่าหมกมุ่นมาก เพราะว่าเราอยากให้มันออกมาดีที่สุดค่ะ

อุปสรรคในการทำงาน
จริงๆ อุปสรรคในการทำ Deshiny ไม่ค่อยมีนะ เพราะมิลค์ใช้ความคิดใช้จินตนาการอย่างเดียวเลย แล้วส่วนตัวมิลค์ก็เป็นคนฟุ้งๆ บ้าๆ บอๆ ชอบวาด ชอบเขียน ชอบคิดอะไรพวกนี้อยู่แล้ว ก็ไม่รู้สึกว่ามันยาก หรืออะไร ก็ฟุ้งของเราไปเรื่อยทั้งวันทั้งคืน แบบอะไรต่อมิอะไรก็ออกมา คือ ถ้าจะมีก็คงเป็นเรื่องเวลาพักผ่อนเรื่องการดูแลตัวเองมากกว่า เพราะว่าเดี๋ยวนี้มีเครื่องมืออุปกรณ์สื่อสารหลายๆ อย่าง ทั้ง blackberry, twitter, facebook, email คือ ทุกอย่างทำให้ดีลกับอะไรหลายๆ อย่างได้ในเวลาเดียว ถึงเราจะทำ G-TWENTY เราก็สามารถทำงานใน social network ได้ แต่เวลาทำงานดึก เราก็จะกินเยอะ บางทีสิวขึ้น คือ เราดูแลตัวเองน้อยลง กลายเป็นว่ามันไม่มีอุปสรรคต่อการทำงาน Deshiny แต่ไปกระทบการทำงานเป็นนักร้องมากกว่าค่ะ

ไม่ทิ้งงานเพลง
ก็คงทำควบคู่กันไปทั้ง 3 อย่าง ทั้ง G-TWENTY ทั้งเรียน แล้ว Deshiny เพิ่มขึ้นมาอีกอย่าง แต่ G-TWENTY ค่อนข้างอยู่ตัวแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการซ้อม การไปโชว์ การทัวร์คอนเสิร์ต สามารถจัดเวลาได้ค่อนข้างโอเค ในเรื่องของการแต่งเพลงก็ยังทำอยู่ เพราะยังเป็นงานอดิเรกที่ชอบมาก คิดว่ามีทีมแล้ว คงจะสบายขึ้น ลำบากแค่ในช่วงแรกๆ นี่แหละค่ะ

ถ้าจะซื้อสินค้า
ตอนนี้มีช่องทางเดียว คือ http://www.deshiny.com คิดว่าปลายเดือนนี้ (เมษายน) คงจะได้ช็อปปิ้งกันค่ะ

อนาคตของ Deshiny
ตอนแรกก็วางแผนว่าจะพยายามทำให้ Deshiny เป็นช็อปออนไลน์ที่ได้รับความนิยมใน 1-2 ปีนี้ คงจะเน้นเรื่องของออนไลน์ซะเป็นส่วนใหญ่ แล้วปลายปีคงจะมีออฟฟิศ มีทีม Deshiny เป็นเรื่องเป็นราว และถ้ามีโอกาส วันนึงคงจะมีหน้าร้านให้ทุกคนได้ไปช็อปปิ้งกัน แล้วก็อยากจะเป็นหนึ่งในแบรนด์ไทยที่มีคุณภาพเทียบเท่าสากลได้ นี่คือความตั้งใจที่เราอยากทำให้ได้ แต่ก็ไม่ได้คาดหวังอะไรมากมาย คือ เราไม่ได้คาดหวังว่าเราจะต้องไปถึงจุดไหน เพราะจริงๆ ในท้ายที่สุดแล้ว สิ่งที่เราทำอยู่ คือ เราทำในสิ่งที่เรารัก ทำในสิ่งที่เรามีความสุขที่จะทำ แต่เรามาคาดหวังกับตัวเองมากกว่าว่าเราอยากใช้มันสมองทั้งหมด หรือความสามารถทั้งหมดที่มีพัฒนา Deshiny ค่ะ

credit: อินไซด์ดารา

 

⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
zofa's profile


โพสท์โดย: zofa
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
ทบ.มีคำสั่งให้ พล.ท.ณรงค์ สวนแก้ว เจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบก ถูกย้ายจากตำแหน่ง หลังเกิดกรณีซ้อมที่รุนแรงเปิดตัวตำรวจสาว นางฟ้าผู้พิสูจน์หลักฐาน สวยและเก่ง ช่วยคลี่คลายคดีแอมไซยาไนด์
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
'ไทเลอร์ ติณณภพ' ลูกชาย 'ธานินทร์' ดาวเด่นยุค 80 สู่พระเอกยุคใหม่"วิธีใช้รีโมทแอร์ในโหมดต่าง ๆ เพื่อประหยัดค่าไฟฟ้า
ตั้งกระทู้ใหม่