สถานที่ท่องเที่ยวจังหวัดอุบลราชธานี
สามพันโบก เป็นแก่งหินที่อยู่ใต้ลำน้ำโขง เนื่องจากในช่วงฤดูน้ำหลากแก่งหินดังกล่าวจะจมอยู่ใต้บาดาล และด้วยแรงน้ำวนกัดเซาะ ทำให้แก่งหินกลายเป็นแอ่งเล็ก ใหญ่ จำนวนมากกว่า 3,000 แอ่ง หรือ 3 พันโบก โบก หรือแอ่ง หมายถึง บ่อน้ำลึกในแก่งหินใต้ลำน้ำโขง และคำว่า “โบก” เป็นภาษาของลาวที่มักนิยมเรียกกัน และ สามพันโบก กลายเป็นที่เพาะพันธุ์สัตว์น้ำจืด ในลำน้ำโขงตามธรรมชาติ แหล่งใหญ่ที่สุด รักษาระบบนิเวศน์และการขยายพันธุ์ของสัตว์น้ำในลำน้ำโขงให้อยุ่ได้อย่างสมดุล
สำหรับในช่วงหน้าแล้ง สามพันโบก จะโผล่พ้นน้ำให้เห็นเป็นคล้ายภูเขากลางลำน้ำโขง ความสวยงามวิจิตรของหินที่ถูกน้ำเซาะมองเห็นเป็นภาพศิลปะ บางแห่งใหญ่ขนาดเป็นสระว่ายน้ำ บางแอ่งขนาดเล็ก มีรูปร่างลักษณะที่แตกต่างกันออกไปเช่น รูปดาว วงรี และหินที่ถูกน้ำกัดเซาะจนดูคล้ายรูปหัวสุนัขพุดเดิ้ล มีความสวยงาม
นายเรืองประทิน เขียวสด ครูโรงเรียนบ้านสองคอน ซึ่งเป็นในผู้ส่งเสริมการท่องเที่ยวในบริเวณ ดังกล่าว ระบุว่า สามพันโบก ถือว่าเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ปลาตามธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดในลำน้ำโขงเท่าที่ทราบกันมา ซึ่งในบริเวณเดียวกัน มีสถานที่ที่ชาวบ้านเรียกว่า แกรนแคนยอนน้ำโขง อันเกิดจากการกัดเซาะของน้ำหลายพันปี เป็นร่องน้ำขนาดใหญ่ สูงประมาณ 3-7 เมตร กว้างประมาณ 20 เมตร ทางเข้าของแกรนแคนยอนแม่น้ำโขงมีหินสวยงามลักษณะคล้ายหัวสุนัข ซึ่งมีตำนานเล่าขานกันต่างๆ นาๆ บ้างก็ว่าแต่ก่อนมีเจ้าเมืองเป็นผู้เรืองอำนาจประทับใจความงามของสามพันโบก จึงได้ส่งเสนามาศึกษาเพิ่มเติม เมื่อมาแล้วพบขุมทรัพย์เป็นทองคำ จึงให้สุนัขเฝ้าทางเข้าจนกว่าเจ้าเมืองจะออกมา เมื่อเจ้าเมืองได้เห็นสมบัติเกิดความโลภกลัวเสนาจะได้ส่วนแบ่งจึงได้ออกไปทางอื่น สุนัขผู้ภักดีก็เฝ้ารออยู่ตรงนั้นจนตายในที่สุด บางตำนานก็ว่า ลูกพญานาคในลำน้ำโขงเป็นผู้ขุดเพื่อให้เกิดลำน้ำอีกสายหนึ่ง และได้มอบหมายให้สุนัขเป็นผู้เฝ้าทางเข้าระหหว่างการขุดกระทั่งสุนัขได้ตายลง
การเดินทางไปเที่ยวชมสามพันโบก อยู่ห่างจากจังหวัดอุบลราชธานีประมาณ 120 กม. ตามทางหลวงอุบล - ตระการ - โพธิ์ไทร ควรเริ่มต้นที่หาดสลึง บ้านสองคอน ตรงนี้มีแหล่งท่องเที่ยว ได้แก่ หาดสลึง เป็นหาดทรายขาวละเอียดทอดยาวไปตลอดแนวแม่น้ำโขง ปากบ้อง ซึ่งเป็นจุดที่แม่น้ำโขงแคบที่สุดตลอดระยะทางยาวกว่า 700 กิโลเมตร โดยมีความกว้างของแม่น้ำเพียง 56 เมตร เท่านั้น ชาวบ้านในระแวกนี้ มีอาชีพจับปลา ซึ่งยังคงใช้วิถีชีวิตและเครื่องมือจับปลาแบบโบราณอยู่ ในช่วงประมาณเดือนกุมภาพันธ์ จะมีประเพณีแข่งตักปลา ซึ่งนับว่าคงเหลืออยู่ที่เดียวในประเทศไทยที่ยังจับปลาด้วยวิธีนี้อยู่ ถัดจากบริเวณปากบ้องขึ้นไปทางเหนือ มีแก่งใหญ่ขวางกลางลำน้ำโขง เรียกว่า หินหัวพะเนียง ทำให้แม่น้ำโขงแยกออกเป็นสองสาย หรือสองคอนในภาษาท้องถิ่น จึงเป็นที่มาของชื่อ บ้านสองคอน และในบริเวณใกล้เคียงยังมี ถ้ำ ที่มีความสวยงามในลำน้ำโขงประกอบด้วย ถ้ำนางเข็นฝ้าย , ถ้ำนางต่ำหูก , หาดหงษ์ , หาดหินสี , หลักศิลาเลข , แก่งสองคอน , ภูเขาหิน และหาดแห่ โดยมีที่พักให้นักท่องเที่ยวได้พักอย่างสะดวกสบายริมหาดสลึง และร้านอาหารไทยและอีสานที่ปรุงด้วยฝีมือชั้นยอด
การล่องเรือไปชมสามพันโบก จะล่องลงตามแม่น้ำโขงระยะทางจากหาดสลึงประมาณ 4 กิโลเมตร บริเวณสามพันโบกกินเนื้อที่ประมาณ 10 ตารางกิโลเมตร พื้นที่แห่งนี้ เชื่อว่าในอดีตเกิดการกัดเซาะของพลังน้ำวนอย่างรุนแรงกระจายเต็มพื้นที่จนเกิดรู หรือโบกขึ้นมากมาย ชาวบ้านจึงพากันเรียนกว่าสามพันโบก เนื่องจากมีโบกนับไม่ถ้วนนั่นเอง และด้วยชั้นหินที่กินเนื้อที่กว้างใหญ่มาก จึงดูคล้ายกับแกรนด์แคนยอน ประเทศสหรัฐอเมริกามาก จนอาจขนานนามสถานที่แห่งนี้ได้ว่า แกรนด์แคนยอนเมืองสยาม สามพันโบกเมืองอุบล
แก่งอีเขียว (น้ำตกห้วยทรายใหญ่)
น้ำตกห้วยทรายใหญ่ (แก่งอีเขียว)
ช่องเม็ก
เที่ยวตลาดการค้าชายแดนลาว
ช่อง เม็กเป็นจุดผ่านแดนถาวรไทย-ลาวในภาคอีสานเพียงแห่งเดียวที่ไม่มีแม่น้ำโขง ขวางกั้น นอกจากเป็นบริเวณที่ประชาชนทั้งสองประเทศผ่านไปมาหาสู่กันแล้ว ทั้งสองฝั่งยังมีตลาดการค้าชายแดนขนาดใหญ่มีสินค้าให้ซื้อมากมายหากอยาก เที่ยวชมบรรยากาศและวิถีชีวิตของเพื่อนบ้านให้จุใจ ก็สามารถขอใบอนุญาตผ่านแดนเพื่อไปเที่ยวในเขตเมืองจำปาสัก ประเทศลาว ซึ่งมีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติและโบราณสถานที่สวยงาม เช่น เมืองปากเซ วัดภู น้ำตกคอนพะเพ็ง เป็นต้น - ด่านเปิดเวลา 08.00-18.00 น. ทุกวัน รถยนต์ที่ขออนุญาตผ่านแดนแล้วผ่านเข้า-ออกได้เวลา 08.00-12.00 และ 13.00-16.30 น. ที่ตั้ง สิ่งน่าสนใจ ตลาดการค้าชายแดนฝั่งไทย
ตลาดการค้าชายแดนฝั่งลาว ถัด ไปอีกประมาณ 200 ม. บนทางหลวงของลาว มีอาคารติดต่อข้ามแดนของลาวอยู่ด้านขวา ระหว่างทางมีชาวเขาเผ่าม้งอาศัยอยู่ทางตอนเหนือของลาวมานั่งขายสมุนไพรแบกะ ดิน จากนั้นมีทางแยกซ้ายมือ ไปยังตลาดการค้าของลาว แม้จะไม่ทันสมัยเหมือนฝั่งไทย แต่ดูเป็นระเบียบมากกว่า ส่วนสินค้าก็ไม่แตกต่างกันเท่าใดนัก ยกเว้นของป่าประเภทกล้วยไม้และสัตว์ป่า ซึ่งไม่แนะนำให้ซื้อ เที่ยวลาว จาก เมืองจำปาสักเก่ามุ่งหน้าไปทิศใต้ไปตามถนนลูกรังระยะทาง 13 กม. จะถึงวัดภู ซึ่งเป็นศาสนสถานที่สร้างขึ้นถวาย เทพภัทเรศวรเทพเจ้าจามปา ในสมัยอาณาจักรเจนละ เป็นปราสาท ขอม ลัทธิไศวะนิกายในศาสนาฮินดู จนถึงพุทธศตวรรษที่ 18 และถูกดัดแปลงเป็นวัดในพุทธศาสนา นิกายเถรวาทในสมัยหลังกลับมาที่ทางหลวงหมายเลข 13 อีกครั้ง ที่ กม. 30 มุ่งหน้าไปทิศใต้ราว 134 กม. ถึงน้ำตกคอนพะเพ็ง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของหลี่ผี-น้ำตกกลางแม่น้ำโขงที่ยิ่งใหญ่จนได้รับการ เปรียบว่าเป็นไนแองการาแห่งเอเชีย บริเวณนี้มีร้านอาหารประเภทปลาแม่น้ำโขงตามสั่งบริการนักท่องเที่ยว ราคาถูกกว่าเมืองไทยเล็กน้อย หาก มีเวลาเหลือ ควรพักค้างคืนที่เกาะดอนโขง สักคืน ท่าแพขนานยนต์อยู่ห่างจากคอนพะเพ็งย้อนกลับขึ้นไปทางปากเซราว 20 กม. มีทางแยกซ้ายมือ มีป้ายบอกทางเป็นภาษาลาวและภาษาอังกฤษอย่างชัดเจน เกาะดอนโขงเป็นเกาะใหญ่ที่อยู่ในบริเวณมหานทีสี่พันดอนหรือสีทันดร หมายถึงแม่น้ำโขงที่มีบริเวณแผ่กว้างออกเป็นทะเลสาบ ประกอบด้วยเกาะแก่งถึงสี่พันเกาะ นักท่องเที่ยวนิยมล่องเรือชมความงามของเกาะแก่งต่าง ๆ หากโชคดีจะเห็นปลาโลมาน้ำจืดแหวกว่ายอวดโฉมให้ชม หาดศรีภิรมย์ ( หาดบุ่งสระพัง ) |
||||||||||||||||||||||||
หาดศรีภิรมย์ ( หาดบุ่งสระพัง ) ทางลง วัดป่าพระพิฆเณศวร์ เป็น สถานที่ ท่องเที่ยว แห่งหนึ่ง สำหรับ ท่านที่ ชอบ ธรรมชาติ และที่สำคัญ ไม่ห่างจาก ตัว เมืองอุบลราชธานี สักเท่าไหร่ ประมาณ 10 กว่า กิโลเมตร ภายใต้การดูแล และ บริหารโดย องค์การบริหารส่วนตำบลกุดลาด นายบัวผัน สุขนิจ นายก อบต. พร้อมด้วย ชาวบ้าน ปากน้ำ กลุ่มหาดศรีภิรมย์ ท่านสามารถใช้เส้นทางทางหลวง อุบลราชธานี-อำเภอตาลสุม ( เส้นทางนี้วิ่งตรง ด่านช่องเม็ก ได้ แต่อ้อมนิดหน่อย) โดยจะผ่านหมู่บ้าน ชานเมือง ต่าง ๆ เช่น บ้านกุดลาด ทางเข้า บ้านหมากหมี้ บ้านกระโสบ แล้ว ก็จะถึง โรงเรียนบ้านปากน้ำ ถ้าหากอยากแวะ เที่ยวชม วัดปากน้ำ ก็ เลี้ยวซ้าย เข้าผ่านหมู่บ้าน เลย หาก ไม่แวะ ก็ ให้วิ่งตรง มาเรื่อย ๆ ให้สังเกต ป้ายบอกทางลงหาด ด้านขวา มือ เป็นซุ้มประตู ทางลงสู่หาด ศรีภิรมย์ หรือ หาดบุ่งสระพัง ประมาณ 2 กิโลเมตร ก่อนถึง หาดศรีภิรมย์ แวะนมัสการ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ขอพร หลวงพ่อ ที่ วัดป่าพระพิฆเณศวร์ ซึ่ง เป็นวัดเก่าแก่ ของ คนโบราณ ยุคก่อน ที่มี วิถีชีวิต อาศัยติด ริมแม่น้ำมูล ตั้งแต่เมื่อสมัยก่อน ก่อนจะมีการเปลี่ยนแปลง ย้ายหมู่บ้าน วัด มาตั้งอยู่ ในปัจจุบัน วัดป่าพระพิฆเณศวร์ หรือ วัดป่าหลวงพ่อพระพิฆเณศวร์ ณ แห่งนี้ เป็นวัดป่า ที่เงียบ แวดล้อมด้วยป่าไม้ นานาพันธุ์ และ ได้มีการค้นพบวัตถุโบราณ ณ ที่วัดแห่งนี้ เป็นพระพุทธรูป และ องค์ ของ พระพิฆเณศวร์ จึงได้ชื่อ เป็นชื่อวัด ตั้งแต่นั้นมาหลังจาก ไหว้พระ ขอพรหลวงพ่อแล้ว ถึงเวลา มุ่งหน้าสู่ หาดศรีภิรมย์ ตามเส้นทาง ไม่นานนัก ท่านจะได้ พบ กับ แพร้านอาหาร ซึ่งมีความยาม นับกิโล ตามแนวริมผั่ง ของ แม่น้ำมูล อยู่มากมาย ความยาว ตลอดแนว แม่น้ำมูล ที่นี่ น้ำใส สะอาด สามารถแล่นน้ำ ประเภทอาหารขึ้นชื่อละก้อ ก็ต้อง ไก่ย่าง ปลาเผา ต้มยำ ปลาแม่น้ำมูล ยำไข่มดแดง ที่ขาดไม่ได้ ก็คือ ส้มตำ ทุกประเภท มีทั้ง ตำมั่ว ตำทะเล แซ่บหลายๆ เด้อ และ หลาย ๆ เมนู ที่ไม่ได้เอ่ย ที่สำคัญ ที่นี่ ไม่ คิดค่าแพนั่งด้วย นั่งกิน นอนกินทั้งวัน ก็ได้ ชาวบ้านที่นี่ น่ารัก อัธยาศัยดี และ ต้อนรับแขกผู้มาเยือน เป็นประจำ ( สำหรับลูกค้า ได้มาเยี่ยมชม เว็บSouth laos tour.Com ทางแพร้านอาหาร ยินดี ให้ส่วนลดพิเศษให้ กับท่าน แค่บอกว่า ทราบข้อมูลนำเที่ยวจากเรา ) |
||||||||||||||||||||||||
* เกี่ยวกับ แม่น้ำมูล แม่ น้ำมูล เป็นแม่น้ำสายใหญ่ สายหลักของ จังหวัดอุบลราชธานี อันเปรียบเสมือนสายเลือดใหญ่ที่ได้ไหลลง มาจากต้นกำเนิดในเขตเทือกเขา ในเขต จังหวัดนครราชสีมา ผ่านที่ราบอันกว้างใหญ่ ของภาคอีสานตอนล่าง จากทิศตะวันตกมาทางทิศตะวันออก หล่อเลี้ยงผู้คนที่อาศัยอยู่ตามบริเวณดินแดนแถบนี้ ผ่านอำเภอวารินชำราบ อำเภอเมือง (หาดบุ่งสระพัง หรือ ศรีภิรมย์ ตั้ง อยู่ จุดนี้ ) และ อำเภอพิบูลมังสาหาร ลงสู่ แม่น้ำโขง ที่ ปากน้ำมูล ใน เขตอำเภอโขงเจียม เป็นจุด ที่เชื่อม รวมกัน จุดนั้น เรียกว่า แม่น้ำสองสี ระหว่าง แม่น้ำมูล และ แม่น้ำโขง ( โขงสีปูน มูลสีคราม ) หลัง จากนั้น กลายเป็น แม่น้ำโขง แม่น้ำ สายหลัก เข้า สู่ ประเทศลาว เขมร เวียตนาม และ จีน . |
||||||||||||||||||||||||
เส้นทางท่องเที่ยวทางอำเภอเดชอุดม มีแหล่งท่องเที่ยวน่าสนใจอยู่หลายแห่ง แต่ที่อยากแนะนำให้ไปชม คือ วัดป่าไทรงาม วัดที่ได้รับรางวัลชนะเลิศการประกวดโครงการปลูกป่าถาวรเฉลิมพระเกียรติฯ ประจำปี 2544 และยังได้รับพระราชทานรางวัลเข็มทองคำจากสมเด็จพระบรมโอรสธิราชฯ สยามมงกุฏราชกุมาร เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2545 อีกด้วย
หากวัดนี้ ตั้งขึ้นท่ามกลางป่าเข้า คงไม่แปลกอะไร แต่ถ้าบอกว่าผืนดินแห่งนี้ เดิมเป็นสุสานร้างกลางเมืองอำเภอเดชอุดม ล้อมรอบด้วยผืนนากว้างใหญ่ ด้วยปณิธานอันแน่วแน่ของ พระอธิการอเนก ยสทินฺโน ลูกศิษย์ของ หลวงปู่ชา สุภัทฺโธ วัด หนองป่าพง จึงได้ค่อยๆ ฟื้นฟู พัฒนา และปลูกป่า จนได้รับรางวัลในที่สุด ภายในวัด สงบ ร่มรื่นมาก จนไม่อยากเชื่อว่า จะอยู่ใจกลางอำเภอเดชอุดม เชิญคลิกไปชมครับ http://guideubon.com/news/view.php?t=18&s_id=17&d_id=27
น้ำตกห้วยหลวง (น้ำตกบักเตว) ตั้งอยู่กลางป่าสมบูรณ์ไหลตกจากหน้าผาสูง 45 เมตร ถือได้ว่าเป็นน้ำตกที่ใหญ่ที่สุด สูงที่สุด และงดงามที่สุดของภาคอีสานตอนล่าง ไหลตกจากหน้าผาสูงชัน ลงสู่แอ่งน้ำใหญ่ และลานหินหาดทราย ด้านล่างมีบันไดทางลงจากศาลาชมทิวทัศน์สู่น้ำตกด้านล่าง นอกจากนี้ ยังมีน้ำตกอื่นๆ ที่น่าสนใจอีกทลายแห่ง เช่น น้ำตกเกิ้งแม่ฟอง น้ำตกถ้ำบอน น้ำตกจุ๋มจิ๋ม น้ำตกห้วยทรายใหญ่ (แก่งอีเขียว) เป็นต้น
หาดผาแต้มจังหวัดอุบลราชธานี
สีแดงๆ น้ำตาลๆ นั่นละภาพเขียน มีหลายกลุ่มคะ
เดินไปเรื่อยๆระยะ1-2กิโลเมตรหรือไงนี่ละคะ วันนั้นเดินได้แค่สองจุด
ต้องรีบเดินย้อนกลับเพราะมืดแล้ว
ต้นไม้ตามทางเดินไปชมภาพเขียน ร่มรื่นดี
บนหน้าผา..ผาแต้ม
*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-
ปราสาทพนมรุ้งอยู่จังหวัดบุรีรัมย์
ทางขึ้นปราสาทเขาพนมรุ้ง ที่มีเรื่องมีราว นารายณ์บรรทมศิลป์ก็ที่นี่ละ
ได้คืนมาและติดไว้ที่เดิมเรียบร้อยแล้ว ไม่ได้ถ่ายภาพมาให้ดู เสียดายมากๆเลย
ให้ดูฉากหลังนะคะ ชอบเมฆ ท้องฟ้าและปราสาท
หากนางแบบรู้คงเสียใจแย่เลย ที่เน้นฉากหลังมากกว่านางแบบ
บรรยากาศรอบๆปราสาทพนมรุ้ง
-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*
ต่อด้วย อะไรเอ่ยเห็นแล้วนะคะ ไม่ต้องบอก
น้ำเยอะมาก ไปช่วงหน้าฝน
แก่งสะพือ เป็นแก่งที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของจังหวัดอุบลราชธานี เป็นแก่งที่อยู่ในแม่น้ำมูล ในเขตอำเภอพิบูลมังสาหาร ห่างจากตัวจังหวัดอุบลราชธานีประมาณ 45 กิโลเมตร ตามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 217
แก่งสะพือ เป็นคำที่เพี้ยนมาจากคำว่า "ซำพืด" หรือ "ซำปื้ด" ซึ่งเป็นภาษาส่วยที่แปลว่า งูใหญ่ หรืองูเหลือม แก่งสะพือ จะมีหินน้อยใหญ่สลับซับซ้อน กระแสน้ำไหลผ่านกระทบหิน แล้วเกิดเป็นฟองขาวมีเสียงดังตลอดเวลา ริมแก่งจะมีศาลาพักร้อนตั้งอยู่ สำหรับให้นักท่องเที่ยวนั่งชมทัศนียภาพของแก่ง
ช่วงเดือนมกราคม-พฤษภาคม แก่งสะพือจะมีผู้นิยมไปเที่ยวกันมาก เพราะน้ำจะลดทำให้เห็นแก่งได้ชัดเจนและสวยงาม ส่วนในฤดูฝนน้ำจะท่วมแก่ง นอกจากนี้แล้วในเดือนเมษายนของทุกปี ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ เทศบาลตำบลพิบูลมังสาหาร ก็ได้กำหนดจัดงานประเพณีสงกรานต์แก่งสะพือขึ้น เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว และสืบทอดประเพณีอันดีงามไว้ ซึ่งในงานนี้ก็มีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวชมงานเป็นจำนวนมาก
ตลาดเก่าพิบูล ตลาดเล็กๆ เชิงสะพานข้ามแม่น้ำมูล เลยขึ้นมาจากแก่งสะพือเล็กน้อย เป็นตลาดเก่าของอำเภอพิบูลมังสาหาร อาคารร้านค้า บ้านไม้แบบเก่าอยู่ริมถนน ขายสินค้า อาหาร ข้าวของเครื่องใช้ อุปกรณ์การเกษตร เครื่องมือประมง มีร้านขายซาลาเปารสชาติดีอยู่ริมสี่แยกเชิงสะพาน เหมาะแก่การเดินเที่ยวชมวิถีชีวิต ซื้ออาหาร ของฝากที่ขึ้นชื่อ คือ ซาลาเปาและหนังกบแห้ง
อุทยานแห่งชาติภูจองนายอย
|
ขอขอบคุณภาพและข้อมูลจาก http://lekwave.siam2web.com/?cid=271934