หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Team Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน ราคาทองคำ กินอะไรดี
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

ตำนานเทพเจ้าและผีญี่ปุ่น ตอนที่ 2

โพสท์โดย beeboyza









  1. เจ้าหญิงหิมะ


    เจ้าหญิงหิมะเป็นปิศาจสาวที่สิงสถิตอยู่ในภูเขาหิมะ นางมีหน้าตาที่สวยมาก ดวงตาที่เป่งประกายแต่แฝงไปด้วยความเหี้ยมโหด ผิวขาวเผือดราวกับหิมะ และสวมใส่ชุดกิโมโนสีขาวบริสุทธิ์ 

    เจ้าหญิงหิมะจัดเป็นภูติพรายภูเขา นางจะอาศัยอยู่บนภูเขาที่มีหิมะตกหนักอยู่ตลอดเวลา

    และเมื่อมีชายหนุ่มหลงเข้าไปในหุบเขาหิมะ นางจะปรากฎกายต่อหน้าและใช้ความงามของนางเป็นเสน่ห์ย ั่วยวนชายผู้นั้น

    จนชายผู้นั้นหลงใหลด้วยมนต์สะกด ทันใดนั้นร่างของชายผู้เคราะห์ร้ายก็จะถูกหิมะปกคลุม 
    เมื่อถึงเวลานั้นนางก็จะดูดเอาพลังวิญญาณของชายผู้นั ้นไป 
    จนกระทั่งรุ่งเช้ารอคนมาพบศพเข้า ชายผู้นั้นก็นอนตัวแข็งทื่อสีกายซีดเผือดอยู่ตรงนั้น แล้ว 
    เจ้าหญิงหิมะต้องการพลังวิญญาณแห่งบุรุษเพศไปเพิ่มพล ังปิศาจให้กับตน

    ด้วยเหตุนี้ชายคนใดที่พบนางเข้านับว่าดวงซวยเพราะจะไ ม่มีโอกาสรอดชีวิตเลย

    .

    แต่มีตำนานที่เล่าขานถึงความรักที่แท้จริงของเจ้าหญิ งหิมะกับชายหนุ่มมนุษย์อยู่บ้าง 

    ดังเช่นตำนานนี้...

    ชายหนุ่มคนหนึ่งเป็นหลานของคนตัดไม้แก่ พากันขึ้นภูเขาหิมะไปตัดไม้ แต่แล้วเกิดพายุหิมะพัดกระหน่ำ 
    ทั้งสองต่างหนีเอาตัวรอดแต่ทันใดนั้นก็พบกับกระท่อมร ้างหลังหนึ่งตั้งตระหง่านอยู่ ชายทั้งสองจึงพากันเข้าไปหลบพายุแล้วเผลอหลับไป 

    อากาศภายในเย็นมาก ชายหนุ่มตื่นขึ้นมาก็พบว่ามีหญิงสาวสวยราวกับไม่ใช่ค นบนโลกเดินเข้ามาในกระท่อม

    หญิงสาวผู้นั้นเดินที่ชายแก่แล้วก้มลงดูดพลังวิญญาณข องชายแก่ตัดไม้จนตัวแข็งตายไปทันใด ชายหนุ่มเห็นจึงกลัวมาก 
    หญิงผู้นั้นเหลือบสายตามาเห็นชายหนุ่มก็ยิ้มเล็กน้อย แล้วเดินเข้ามาหา นางพูดว่า

    " เจ้าไม่ต้องกลัวข้า ข้าไม่ทำอะไรเจ้าหรอก เพียงแต่เจ้าต้องสัญญาว่าจะไม่บอกสิ่งที่เห็นนี้กับใ ครทั้งหมดรวมทั้งพ่อแม่เจ้าด้วย..."


    ชายหนุ่มรับปากไปเพราะความกลัว ว่าแล้วนางหิมะผู้นั้นก็เดินหายออกไปจากกระท่อม


    5 ปีต่อมา ชายหนุ่มคนนั้นได้แต่งกับลูกสาวตระกูลขุนนางมั่งคั่ง 
    ชายหนุ่มมองนางแล้วครุ่นคิดว่านางมีหน้าตาคล้ายกับใค รบางคนที่เขาเคยเจอมาก่อน 
    และแล้วทั้งสองก็ได้แต่งงานกัน วันเวลาผ่านไปนานนับ ชายหนุ่มกับหญิงสาวผู้นั้นได้มีบุตรกันถึง 5 คน นับเป็นเรื่องแปลกประหลาดมาก

    แต่ทั้งสองก็เลี้ยงดูครอบครัวด้วยดี จนถึงวันหนึ่งชายหนุ่มย่องไปหาหญิงสาวที่กำลังนั่งเย ็บผ้าอยู่ 
    เขาครุ่นคิดมานานว่านางหน้าเหมือนกับหญิงสาวที่เขาเค ยเจอ

    เขาเลยตัดสินใจเล่าเรื่องลึกลับที่เกิดขึ้นบนภูเขาหิ มะให้นางฟัง ทันใดนั้นนางก็โกรธมากจึงกรีดร้องออกมาและหันหน้ามาท างชายหนุ่มพร้อมกับจำแลงร่างคืนดั่งเดิม 

    ชายหนุ่มตกใจกลัวมากเมื่อรู้ว่านางคือปิศาจที่ตนเจอบ นภูเขานั้น นางบีบคอชายหนุ่มจนขาพ้นพื้นแล้วพูดอย่างโกรธแค้นว่า 

    " ยังไงเสียข้าก็จะไม่ฆ่าเจ้าตอนนี้หรอก แต่เจ้าต้องดูแลลูกๆ ของข้าให้ดี ถ้าวันใดเจ้าผิดคำสัญญาข้าจะตามมาเอาชีวิตเจ้า..."

    ว่าแล้วนางก็หายวับไปกลายเป็นละอองไอหิมะ ทุกอย่างตกอยู่ในความเงียบสงัด...
    ว่ากันว่าเจ้าหญิงหิมะเป็นผีที่เกิดจากวิญญาณหญิงสาว ที่ต้องตายอย่างทรมานในวันหิมะตกหนัก บ้างก็ว่าเป็นการจำแลงมาของวิญญาณภูเขา 

    อีกตำนานหนึ่งเล่าขานไว้ว่า เจ้าหญิงหิมะจะปรากฏกายมาพร้อมกับทารกที่นางอุ้มไว้ใ นอ้อมอก 

    ชายใดที่พบนางเข้านางจะขอร้องให้ชายผู้นั้นช่วยอุ้มท ารกต่อจากนาง และถ้าเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายหลงกลเข้าแล้ว 
    ร่างของทารกน้อยก็จะปล่อยไอเย็นยะเยือกเข้าจับจนเหยื ่อแข็งตายคาที่ ถึงตำนานจะแตกต่างกันมามายก็ตาม 

    แต่ที่มีส่วนเหมือนๆ กัน ก็คือ ยูกิ อนนะ เป็นผู้หญิงที่สวยมาก สวยจนมองดูด้วยตาก็รู้ว่านางไม่ใช่คนบนโลก...

    นอกจากตำนานเจ้าหญิงหิมะแล้วก็ยังมี เด็กหนุ่มหิมะ ตาเฒ่าหิมะ แม่เฒ่าหิมะ จิ้งจอกหิมะ ซึ่งก็เป็นปิศาจในตระกูลเดียวกัน 


    กัปปะ

    ผีญี่ปุ่นชนิด หนึ่ง เป็นผีจำพวกพรายน้ำ มีรูปร่างหน้าตาคล้ายกบ ตัวสีเขียว แต่มีกระดองเต่าอยู่ข้างหลัง 
    เท้ามีพังผืดทั้งเท้าหน้าและเท้าหลัง จมูกแหลม มีลักษณะศีรษะที่แบนและกลางกระหม่อมไม่มีผม 
    เป็นปีศาจที่อาศัยอยู่ตามหนองน้ำหรือแหล่งน้ำต่าง ๆ 

    เชื่อว่า อาหารที่กัปปะชอบคือ แตงกวา ชอบเล่นซูโม่เพราะ มีพละกำลังเยอะ ลักษณะพิเศษคือ มีจานอยู่บนหัวไว้เก็บน้ำซึ่งน้ำจะทำให้กัปปะมีพลังพ ิเศษ 

    และมีพละกำลังมากขึ้น ในทางกลับกันถ้าสูญเสียน้ำไป กัปปะจะอ่อนแรงลงอย่างมาก 
    ถึงขนาดที่ไม่สามารถขยับตัวได้ ถึงแม้ว่ากัปปะจะมีรูปร่างพอๆกับเด็ก

    แต่ก็เป็นผีที่เอาชนะได้ยาก มันมีปากแหลมเหมือนนก ผิวเป็นเมือกลื่น อาจมีสีเขียว น้ำเงิน หรือแดงมือเป็นผังผืด ที่หลังจะมีกระดองเต่า มีขนดกทั่วตัว

    แขนขาของกัปปะยาว และยืดหยุ่นได้ เมื่อกัปปะขึ้นจากน้ำจะหมดฤทธิ์ จึงใส่น้ำไว้บนศีรษะที่แบนราบของตัวเอง 
    ดังนั้นเมื่อพบเจอกับกัปปะให้ก้มคาราวะ

    เมื่อกัปปะคาราวะตอบ น้ำบนศีรษะจะหก ทำให้หมดฤทธิ์ และ อีกวิธี ก็คือ ให้เขียนชื่อตัวเอง ลงไปในแตงกวา แล้วขว้างลงไปในแม่น้ำ

    เมื่อ กัปปะ มาเจอแตงกวานี้เข้าก็จะกินอย่างเอร็ดอร่อย และ ก็จดจำชื่อ ที่อยู่บนแตงกวาด้วย 
    คราวหน้าบังเอิญต้องเจอะเจอเจ้าของชื่อ กัปปะ ก็จะไม่ทำอันตรายอะไร

    ปัจจุบันมีซูชิชนิดหนึ่ง ไส้แตงกวา เรียกว่า "กัปปะ มากิ"



    กัปปะมีความมั่นใจในพละกำลังตัวเองมาก มักจะท้ามนุษย์ในการแข่งซูโม่

    จึงมีเรื่องเล่าว่า คนที่ฉลาดจะทำความเคารพกัปปะก่อนเริ่มการประลอง ด้วยการก้มศีรษะ

    แล้วกัปปะจะก้มตาม ทำให้น้ำกระฉอกออกจากจาน กัปปะจะอ่อนแรงลง และพ่ายแพ้ในที่สุด ซึ่งจะทำให้กัปปะเสียใจอย่างมาก 

    นิสัยของกัปปะ คือ ชอบกินแตงกวา ในฤดูเก็บเกี่ยวแตงกวาของเกษตรกร ที่ญี่ปุ่นจึงมีธรรมเนียมการลอยแตงกวาลงแม่น้ำ เพื่อเซ่นวารีเทพ

    และทำทานให้ผีอดโซ เป็นที่มาของเรื่องเล่าที่ว่า หากชายใดแก้ผ้าลงเล่นน้ำในแม่น้ำ อาจถูกกัปปะดึงของลับ 

    เพราะเข้าใจผิดคิดว่าเป็นแตงกวาที่เอามาเซ่น 

    กัปปะมีนิสัยที่ขี้เล่นและอยากรู้อยากเห็น ซึ่งบางครั้งก็เป็นอันตรายกับมนุษย์


    กัปปะมีความอันตรายเช่นเดียวกับผีร้ายอื่นๆ มีเรื่องเล่าอยู่เสมอๆ ว่ากัปปะเคยหลอกล่อให้คนลงไปในน้ำ 
    มักจะลากม้า หรือเด็กๆลงแม่น้ำจนจมน้ำตาย 

    หากถูกชาวประมงจับได้ มันจะปล่อยตดออกมาป้องกันตัว ซึ่งเหม็นบรรลัย ทั้งยังมีเรื่องเล่าที่ว่า กัปปะจะคอยแอบอยู่แถวๆ ส้วม 

    เมื่อคนเผลอมันจะแกล้งโดยใช้นิ้วสวนทวาร ซึ่งพฤติกรรมพิเรนนี้ อาจทำให้มันถูกคนจับตัวได้

    แต่กัปปะมีความสุภาพอ่อนน้อมและมีสัมมาคาราวะมาก 
    กัปปะเป็นพรายที่มีความคิดความรู้สึกผิด มันจะขอโทษโดยการจับปลามาให้ที่หน้าประตูบ้านทุกวัน

    หรือไม่ก็มอบยาสมุนไพรชั้นเลิศที่มันปรุงขึ้นมาให้ซึ ่งกัปปะมีความเชี่ยวชาญด้านการปรุงยาลี้ลับอย่างมาก


    ความเชื่อเรื่อง กัปปะ มีกระจายไปทั่วประเทศญี่ปุ่น มีตำนานเล่าว่ามีช่างไม้ที่มีชื่อเสียงคนหนึ่ง ชื่อ ฮิดาริจินโกโร่ 
    อ้างว่าตุ๊กตาไม้ที่เขาทำโยนลงน้ำ กลายเป็นกัปปะไป อีกตำนานก็เล่าว่า เดิมกัปปะเป็นเทพที่ดูแลแม่น้ำลำคลอง 

    แต่เมื่อมนุษย์เลิกนับถือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ กัปปะเลยตกชั้นเป็นเพียงภูติผีธรรมดา



    ซาชิกิ วาราชิ 

    ตามความเชื่อของญี่ปุ่นส่วน มากมักจะอยู่ในรูปเป็นเด็กผู้หญิงที่อายุน้อยๆ ราวๆ 5-14 ปี อาศัยอยู่ตามห้องของบ้านที่เก่าๆ 
    และตามอาคารต่างๆ บางครั้งจะวิ่งเล่นจนผู้อาศัยได้ยินเสียง บางครั้งจะออกมาเล่นกับเด็กๆ ซึ่งผู้ใหญ่จะมองไม่เห็น 

    ซาชิกิวาราชิยังช่วยปกป้องเจ้าของบ้านจากภยันตรายต่า งๆ รวมไปถึงสิ่งอัปมงคลที่จะมาย่างกรายเข้ามา ภายในบ้านที่ซาชิกิวาราชิอาศัยอยู่
    เนื่องจากซาชิกิวาราชิจัดว่าเป็นผีประเภท หนึ่ง และมีพลังที่น่ากลัวของเทพอารักษ์ซึ่งมีทั้งคุณและโท ษ 

    มีเรื่องเล่าว่า หากซาชิกิวาราชิไปอาศัยอยู่ที่บ้านของใคร จะนำโชคลาภมหาศาล และความมั่งคั่งมาสู่บ้านหลังนั้น

    แต่เมื่อใดซาชิกิวาราชิจากบ้านนั้นไป ทรัพย์สมบัติและความเจริญรุ่งเรืองที่ซาชิกิวาราชินำ มา จะมลายหายไปจนสิ้น และความพินาศจะมาเยือน
    การที่ซาชิกิวาราชิจะเลือกอาศัยบ้านหลังไหนนั้น ไม่ทราบแน่ชัด แต่จะชอบเลือกบ้านที่ค่อนข้างเก่ามากกว่า 

    สำหรับบ้านสมัยใหม่ซาชิกิวาราชิอาจจะเลือกเข้าอยู่บ้ าง แต่ต้องไม่มีสำนักงานในตัวบ้าน เพราะซาชิกิวาราชิไม่ชอบกิจวัตรประจำวันที่อึกทึก

    ผู้คนพยายามที่จะสร้างห้องไว้ให้สำหรับซาชิกิวาราชิ โดยเฉพาะอย่างยิ่งตามโรงแรมและสำนักงาน โดยจะเป็นห้องที่เต็มไปด้วยตุ๊กตาและของเล่น 
    แต่ความพยายามดังกล่าวมักสูญเปล่า

    การจะให้ซาชิกิวาราชิอยู่กับบ้านใดบ้านหนึ่งนานๆ ต้องการการดูแลที่เหมาะสม ซาชิกิวาราชิไม่ชอบการเอาใจที่มากเกินไป

    เพราะว่าซาชิกิวาราชิมีนิสัยเหมือนเด็ก บางครั้งก็สร้างปัญหาให้ได้เหมือนกัน การพูดคุยอย่างสุภาพเป็นวิธีที่ดีกว่าการแสดงอารมณ์โ กรธ เพราะความโกรธจะขับไล่ซาชิกิวาราชิไปเหมือนกัน



    โคโนกิจีจี้(เฒ่าทารก)

    เรื่องเล่ามีว่า ผีตนนี้จะแปลงเป็นเด็กทารกที่ถูกทิ้งร้องไห้อยู่ที่ข ้างทาง เมื่อคนที่เดินผ่านมาเข้ามาอุ้ม จะตกใจเมื่อเห็นใบหน้าเป็นตาแก่ 

    ทั้งยังน้ำหนักเพิ่มขึ้นอย่างมาก จนยากที่จะถือไว้ได้ อีกทั้งโดยปกติคนจะตกใจเมื่อเห็นหน้าตา และจะทิ้งลงทันที เมื่อปีศาจทารกเฒ่าตกลงพื้น ก็จะหายไป ทิ้งไว้แต่เสียงหัวเราะ และผู้ที่งุนงงกับเหตุการณ์ที่ได้เจอกับผีตนนี้ 

    บางเรื่องเล่าก็กล่าวว่า หากผู้ใดไม่ตกใจกับใบหน้าของปีศาจทารกเฒ่า
    และพยายามอุ้มไว้ให้ได้โดยไม่ปล่อยทิ้งลงพื้นสำเร็จ จะได้รับพรพิเศษจากปีศาจทารกเฒ่า 


    สาวปากฉีก ( คุชิซาเกะอนนะ )


    เป็นผีญี่ปุ่นที่มีชื่อเสียงอีกตนหนึ่ง ลักษณะของสาวปากฉีกคือ ปากจะฉีกถึงใบหู เรื่องเล่าของสาวปากฉีกมีทั้งฉบับดั้งเดิมกับฉบับปัจ จุบัน

    ตำนานสาวปากฉีกในสมัยเฮอันเล่ามาว่า มีหญิงสาวที่งดงามยิ่งนัก ไม่เป็นรองใครในแผ่นดิน เป็นภรรยาของซามูไรที่ 
    มีชื่อเสียง แต่โชคร้ายที่สามีของเธอ สงสัยว่าเธอจะไปมีชู้ 
    ด้วยความโกรธจึงใช้ดาบคาตานะ ตัดปากของเธอจนฉีกถึงใบหู 
    เพื่อทำลายความงามของเธอ พร้อมทั้งถากถางว่า อย่างนี้แล้วใครจะคิดว่าเธองดงามอีก


    สาวปากฉีกเมื่อตายไปจึงกลายเป็นวิญญาณพยาบาท มีพฤติกรรมที่น่ากลัว คือ มักจะยืนอยู่ตรงริมถนน ในช่วงเย็นๆถึงค่ำ ในวันที่หมอกลง

    และจะสวมผ้าปิดปากไว้ พอใครเดินผ่านมาจะเข้าไปทัก แล้วถามว่า ฉันสวยมั๊ย? ถ้าตอบกลับไปว่าก็สวยนิ แล้วสาวปากฉีกจะถอดผ้าปิดปากออก
    แล้วถามอีกครั้งว่า แล้วแบบนี้ละ? เหยื่อที่เห็นใบหน้าที่แท้จริงของสาวปากฉีก
    ถ้าตกใจแล้วพยายามวิ่งหนี สาวปากฉีกจะวิ่งไล่ และหนียังไงก็หนีไม่พ้น


    สาวปากฉีกจะเล่นงานเหยื่อโดยจะตัดให้ปากฉีกเหมือนเธอ 
    เชื่อกันว่าหากถูกสาวปากฉีกวิ่งไล่ให้โยนขนมหวานชื่อ ดัง จะดึงความสนใจสาวปากฉีกไปที่อื่นได้ 

    และยังมีเรื่องเล่าต่อเนื่องในการตอบคำถามของเธอครั้ งที่สอง หากตอบว่าไม่สวยเธอก็จะวิ่งไล่และเล่นงาน แต่หากตอบว่า ก็ดูปกติดีนี่ ก็สวยดีนี่ 
    สาวปากฉีกจะพอใจและไม่ทำร้ายเหยื่อ แล้วจากไปแต่โดยดี


    สาวปากฉีกจะเป็นอันตรายกับมนุษย์หรือไม่ แล้วแต่สถานการณ์ เธอมีความรวดเร็วสูง และใช้มนต์มายาได้เล็กน้อย 
    ชื่นชอบเวลาได้รับคำชม หรือรู้สึกว่าตัวเองสวย เกลียดคนที่พูดโกหก และคนที่กลัวเธอ

  2. ฮานาโกะซัง 


    ฮานาโกะ: นักเรียนหญิงชั้นประถมเธอเป็นวัณโรคเข้าห้องน้ำห้องส ุดท้าย แล้วเธอไอจนขาดใจตายเลือดที่ออกมาจากปากเธอเปื้อนชุด นักเรียนสีขาวเราวกับว่าเธอสวมกิโมโนสีแดง 


    เป็นวิญญาณเด็กหญิงในชุดกระโปรงเอี๊ยมสีแดง ตัดผมทรงกะลาครอบ
    เธอจะอยู่ในห้องน้ำของตึกเรียนเก่าๆ ห้องสุดท้ายทางขวามือ นั่นคือห้องของเธอ
    ว่ากันว่าถ้าใครอยากเจอฮานาโกะซัง ให้เคาะประตูห้องน้ำที่ว่านั่น 3 ครั้ง
    แล้วเรียก " ฮานาโกะซัง..." ก็จะมีเสียงตอบกลับมาว่า " ค่า........."

    (ถ้าตอบอย่างอื่นแสดงว่าเป็นคนมานั่งปลดทุกข์ )

    ถ้าใครยังไม่โกย ประตูจะเปิด แล้วฮานาโกะซังก็จะออกมาเล่นด้วย (เล่นอะไรไม่รู้เหมือนกัน)


    มุจินะ (ปิศาจไม่มีหน้า)

    เมื่อในสมัยโบราณชาวบ้านมักเล่าลือถึงความน่ากลัวของ มุจินะหรือปิศาจไม่มีหน้าแห่ง
    เนินคะอุโนะคุนิซากะว่าเที่ยวหลอกหลอนผู้คนทั้งคืนจน ไม่มีใครกล้าใช้ผ่านทางเนินที่ว่านี้อยู่
    ในจังหวัดอิวาเตะสมัยก่อนที่นั่นเป็นไร่นาไม่มีแสงไฟ ส่องถึงเนินทอดตัวยาวไปตลอดสุดทาง
    ด้านขวาเป็นกำแพงวังจักรพรรคด้านซ้ายเป็นแม่น้ำและมี ไร่นา 

    ยามดึกคืนหนึ่งมีชายคนหนึ่งมุ่งหน้าเข้าเมืองเขาเร่ง รีบและจำเป็นต้องผ่านเนินนั้นอย่าง
    เลี่ยงไม่ได้ เรื่องผีไม่มีหน้าเขาก็เคยได้ยินมาแต่เขาไม่ปักใจเรื ่องเหนือธรรมชาติมา ช้านาน
    ระหว่างที่ผ่านเนินนั้นอากาศยามค่ำคืนค่อนค่างหนาว เสียงจั๊กจั่นร้องระงม มองไปด้าน
    ข้างมีแต่ไร่นา เสียงลมพัดต้นหลิวดัง ฟู่ ฟู่ เป็นระยะ ในใจเขาคิดจะรีบผ่านไปให้เร็ว
    ที่สุด แต่แล้วเขาก็หยุดชะงักเมื่อได้ยินเสียงนวญอนงค์คร่ำค รวญบอบบาง 
    เขาพบหญิงสาว
    ใส่เสื้อผ้าชั้นดีมีปิ่นปักผมรัดเกล้าท่าทางเหมือนจะ เป็นคนใน ตระกูลขุนนางกำลังนั่งหันหลังร้องไห้ปิดหน้าปิดตา 

    เขาสงสารเกรงว่าเธอจะคิดสั้นกระโดดน้ำตายเลยเดินเขาไ ปหวังจะปลอบใจ แม่นาง 
    แม่นาง มีอะไรให้ข้าช่วยใหม... นางผู้นั้นไม่ตอบกลับก้มหน้าร้องไห้ท่าเดียว เขาเลย
    ตัดสินใจเดินเข้าไปไกล้ๆและพูดกล่อมเบาๆว่า "แม่นาง นี่ดึกแล้วที่นี่ก็น่ากลัวด้วย ท่านอย่า
    มาอยู่เพียงลำพังเลยนะ มันอันตราย ไหน หันหน้ามาหาข้าสิแล้วข้าจะพาท่านไปส่งเอง"

    หญิงผู้นั้นหยุดร้องไห้แล้วเงียบชะงักเหมือนจะเข้าใจ ที่เขาพูด "หันมาสิคนดี มากับข้าเถิด" 
    ชายคนนั้นพยายามปลอบอย่างเต็มที่ แต่แล้วเขาก็ต้องร้องเสียงหลงออกมาอย่างบ้าคลั่ง
    เมื่อหล่อนนั้นหันหน้ามา... เธอไม่มีหน้า ไม่มีปาก ไม่มีจมูก ใบหน้าเธอเกลี้ยงเกลา
    เหมือนไข่ !!! และนางกระโดดเข้ากอดเขาไว้แน่น 

    ชายผู้นั้นตกใจแทบเสียสติผลักเธออกไป 
    และวิ่งหนีสุดชีวิต เหลือบหลังไปดูเหมือนเธอจะวิ่งตามมา เขาเลยเร่งหนี แต่แล้วสักระยะ
    ก็หายไปในความมืด 
    ชายผู้นั้นเดินหนีมาได้สักระยะก็เห็นแสงไฟสว่างตรงหน ้า นั่นคือรถเข็น
    ร้านบะหมี่โซบะนั่นเอง เขาเลยวิ่งเข้าไปสงบจิตใจในแสงสว่าง เขาก้มหน้าก้มตา
    เหนื่อยหอบแฮกๆ 

    คนขายบะหมี่เลยถามว่า "ท่านไปเจออะไรมาเหรอ ท่าทางเหมือนโดน
    พวกผีปิศาจหลอกมา" "ก็โดนจริงๆนะสิ" ชายผู้นั้นตอบเสียงหนัก "ผู้หญิงอะไรก็ไม่รู้ ไม่
    มีหน้า ไม่มีตา ไม่มีจมูกหรือปาก มันน่ากลัวอะไรอย่างนี้"

    และแล้วคนขายบะหมี่ก็บอกว่า "เขาทำหน้าอย่างนี้ใช่ไหม" ว่าแล้วเขาก็เอาแขนเสือลูบ
    หน้าตนเองและแล้ว หน้าเขาก็หายวูบไปหมด ไม่มีหน้า ตา จมูก ปาก หน้าขาวเกลี้ยง
    เหมือนไข่ปลอก!!! เหวอ! ชายคนนั้นร้องลั่นแล้วเป็นลมหมดสติไปทันใด 
    และแล้วแสง
    ตะเกียงก็ดับวูบลง... นี่เป็นเรื่องประหลาดที่เกิดขึ้นที่เนินคะอุโนะคุนิซ ากะมาช้านาน 

    ตำนานเล่าว่าปิศาจตัวนี้จะออกมาหลอกหลอนคนที่เดินผ่า นทุกคืนตั้งแต่อดีต จนถึงปัจจุบัน...


    หัวผีล่องลอย ( ไมคุบิ )

    เป็น ตำนานเก่าแก่ที่ปรากฏในนิทานของชาวโมโมยามะเมื่อราวป ี คศ.1200 เล่ากันว่าคืนหนึ่งมีซามูไร 3 ตนที่นิสัยไม่ดีนัก

    ได้แก่ โคซันตะ มาตะชิเงะ และอากุโกโร ทะเลาะกันอย่างดุเดือดอยุ่ริมทะเล

    และลงท้ายด้วยการบั่นคอของแต่ละคนจนตายกันถ้วนหน้า(บ ้าดีเดือดแท้ๆลย) 
    ตั้งแต่นั้นมาในคืนเดือนเพ้ญจะปรากฎศีรษะลุ่นๆสามหัว หรือเห็นเป็นแค่ดวงไฟ 3 ดวง

    ลอยหมุนติ้วเป็นวงกลม ร้องตะโกนว่า " เป็นความผิดของเจ้านั่นแหละ " เชื่อกันว่าถ้าเกิดไปล้อเลียนมันเข้า มันจะตรงดื่งเข้ามาเล่นงานทันที 


    คาระคาซ่ะ ( ผีร่ม )

    เป็นร่มเก่าๆที่มีอายุเก่าแก่เกิน 100 ปี ที่ถูกไอวิญญาณเข้าสิงอาบมันจนกลายเป็นดวงตากลมโตแสย ะยิ้ม มันจะกระพือร่มบินไปในท้องฟ้ายามค่ำคืน

    แต่ผีตัวนี้ก้ไม่ได้ร้ายอย่างที่คิด ตรงกันข้ามมันยังเป็นมิตรกับมนุษย์อีกด้วย นิสัยของมันนั้นเหมือนเด็ก ชอบเล่น

    ในสมัยโบราณตามวัดร้างมันมักจะปรากฏตัวเพื่อหาเด็กๆท ี่วัดเป็นเพื่อนเล่นและเล่นสนุกสนานกันในตอนกลางคืน

    (ผีตัวนี้เป็นผีชนิดเดียวกับโจจิงโอบาเกะหรือผีโคม )

    รูปร่างลักษณะเป็นร่มคันเก่าๆที่มีดวงตากลมโตดวงเดีย วอยู่กลางคันร่ม มีขาข้างเดียว และแลบลิ้นยาว 

    สถานที่ปรากฏตัว ยามดึกสงัดตามวัดร้างหรือสถานที่ๆเก่า ( มักจะปรากฏตัวยามที่มีเด็กวัดเล่นกันสนุกสนาน )


    อินุกามิ (เทพสุนัข)

    เป็นวิญญาณสุนัขที่ซื่อสัตว์ต่อเจ้านาย ซึ่ง เมื่อมันกลายเป็นอินุกามิ จะมีพลังสามารถตรวจจับวิญญาณตนอื่นได้ 
    และบางตน ยังสามารถขับไล่วิญญาณร้ายที่อริกันได้ แต่อินุกามิก็มีความดุร้ายเช่นเดียวกับหมาป่า 

    เรื่องเล่าเกี่ยวกับวิธีการสร้างอินุกามิ มีได้หลายวิธี บางวิธีกล่าว ว่า วิญญาณของสัตว์เลี้ยงอันเป็นที่รัก 

    สามารถเรียกมา อยู่ในรูปของวิณญญาณ ผู้พิทักษ์ได้ บางเรื่องเล่ากล่าวว่า 
    วิธีการสร้างอินุกามิ คือ การทำให้สัตว์เลี้ยงอันเป็นที่รัก ตายด้วยน้ำมือ ของเจ้านายที่มันไว้ใจ นำศพไปฝังไว้ที่ทางแยก 
    แล้วทำพิธีร่ายอาคม จะสามารถ สร้างอินุกามิที่ทรงพลัง ที่สามารถไปไหนมาไหนได้เองโดยอิสระ มีแต่องเมียวที่มีพลังสูงส่งจริง

    จึงจะสามารถควบคุมอินุกามิ ที่ถูกสร้างขึ้นโดยวิธีนี้ได้ วิธีการสร้างอินุกามิ อีกวิธีหนึ่ง เล่าว่า ให้ผูกสุนัขที่หิวจัดไว้ แล้ววางชามอาหารล่อไว้แต่ให้กินไม่ถึง เมื่อความอยากอาหารของมันขึ้นถึงขีด สุด ก็ให้ตัดหัวซะ จะได้อินุกามิที่ทรงพลัง และดุร้ายมาก 

    ในบางครั้งองเมียวที่เรียกอินุกามิมาใช้จู่โจมศัตรู อาจนึก เสียใจภายหลังที่สร้างอินุกามิขึ้นมา เพราะมันจู่โจมอย่างโหดเหี้ยม ไร้ความปราณี

    ดังนั้นผู้ที่จะใช้อินุกามิได้เต็มประสิทธิภาพ จึงจำกัดอยู่แค่องเมียวชั้นสูงเท่านั้น คนที่พลังไม่เข้าขั้น หากจะใช้อินุ กามิ อาจต้องเสียใจภายหลัง 
    หรือจบชีวิตของตัวเอง เพราะอินุกามิไม่ได้ควบคุม ได้ง่ายๆ ถึงแม่ว่าจะเป็นอินุกามิที่สร้างอย่างถูกวิธี จนเป็นวิญญาณผู้พิทักษ์

    แต่ หากปราศจากเจ้านาย หรือได้รับการปฏิบัติที่ไม่เหมาะสม มันก็อาจทอดทิ้ง เจ้านาย และสามารถออกอาละวาดได้เอง 
    การใช้อินุกามิ มักเป็นทางเลือกสุดท้าย ของวิชามนต์ดำเพื่อเล่นงานใครซักคนที่ไม่สามารถหาทาง อื่นเล่นงานได้แล้ว 

    การเรียกอินุกามิต้องการ การ บูชายัญหนึ่งชีวิต ด้วยมือของตัวเอง เมื่อหนึ่งชีวิตดับลง จะได้อินุกามิกลับมา 

    แต่ก็เป็นวิญญาณที่เต็มไปด้วย ความแแค้น และไม่สามารถควบคุมได้ง่ายๆ
    ถ้าไม่มีการเตรียมการอย่างดี พร้อม ซึ่งไม่อาจคาดการณ์ได้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น 
    เจ้าของที่ไม่สามารถควบคุมอินุกามิได้ จะพบความยากลำบากในการกำจัดอินุกามิ ทิ้ง

    ถึงแม้ว่าจะพยายามนำไปทิ้งที่เกาะร้าง ก็ไม่ช่วยให้รอดพ้นจากคำสาปอินุ กามิไปได้ 
    ซึ่งจะทำให้เจ็บป่วยอย่างแระหลาด มีเพียงหมอมนต์ที่มีพลังเยียวยาสูงจริง จึงจะสามารถแก้คำสาปปอินุกามิได้


    อินุกามิบางตน สามารถอยู่ในร่างของมนุษย์ได้ ทั้งยังสามารถสืบสายเลือดกับ มนุษย์ได้อีกด้วย บางพวกเชื่อว่าะยังอยู่ในสังคมเดียวกับมนุษย์ 

    อันเนื่อง มากจากว่าได้รับการปลดปล่อยจากเจ้านาย คนธรรมดาบางคนที่มีพลังพิเศษ 
    อาจสืบสายเลือดมาจากอินุกามิก็ได้ เช่นเดียวกับที่บางคนอาจสืบสายเลือดมาจาก ปีศาจจิ้งจอก 


    โดโรทาโบะ

    โดโรทาโบะมีเรื่องเล่ามาว่า เดิมทีวิญญาณตนนี้เคยเป็นชาวนาที่ยากจน แต่ว่า ขยันขันแข็ง
    เกิดอยู่ในยุคข้างยากหมากแพง และมีการเก็บภาษีอย่างไม่เป็นธรรม 
    จากเจ้าเมือง ซึ่งเกษตรกรเหล่านี้ มักต้องแบกภาระทั้งหมด 
    ชาวนาคนนี้พยายาม เตรียมดินเพื่อทำการเพาะปลูก เขาไม่สนใจอะไรมากไปกว่าไร่นาของเขา ที่จะเจริญงอกงามได้ดีเพียงใด 

    แต่ว่ายังไม่ทันได้ปลูกเขาก็ล้มป่วย และเสียชีวิตลง 
    ลูกชายของเขาเป้นคนเกียจคร้าน เอาแต่ดื่มเหล้า ไม่ยอมสานต่อการทำไร่นา ที่พ่อรักมาก

    จึงได้ปล่อยทิ้งร้าง จนกระทั่งต้องขายที่ดินไป วิญญาณพ่อที่ ตายไปจึงไม่สงบ กลายเป็นโดโรทาโบะ ซึ่งมีร่างกายเป็นโคลน 

    ในวันที่มีแแสงจันทร์ส่อง พวกชาวนาเสียงคร่ำครวญมากจากไร่นาไกลๆ มันเป็นเสียงของโดโรทาโบะ ต้องการที่ดินอันเป็นที่นักยิ่งของเขาคืน 


    อิทซึมาเด็น 

    อิทซึมาเด็น ตำนานมีอยู่ว่า ฤดูใบไม้ร่วงปี 1334 นกประหลาดนี้ก็ปรากฏขึ้นบน ท้องฟ้ายามค่ำคืน 

    หายใจเป็นไฟและส่งเสียงร่ำไห้อย่างน่าเวทนา ว่า kItsumademo! Itsumademo! อีกนานเท่าไหร่ อีกนานเท่าไหร่ 

    ซึ่ง สร้างความรำคาญใจ ให้กับผู้ที่ได้ยินเสียงคร่ำครวญนี้ เจ้าเมืองจึงได้สั่ง ให้นักธนูที่แม่นยำ สอยนกประหลาดนี่ลงมาซะ

    เมื่อนกนี่ถูกยิงตก ปรากฏว่ามัน มีลักษณะคล้ายกับคิเมร่า ตัวเป็นงู หน้าเหมือนคน มีเล็บที่แหลมคม มีปีก กว้างประมาณ 5 เมตร 
    ซึ่งช่วงเวลาที่พบนกประหลาดนี้ เป็นช่วงที่กาฬโรค ระบาด ทำให้มีผู้เสียชีวิตไปเป็นจำนวนมาก ศพของผู้ที่ป่วยตายจำนวนมากถูก ฝังทิ้งไว้ที่กำแพงเมืองรวมๆ กัน 

    ราวกับว่าเป็นขยะ และไม่ได้ทำพิธีกรรมส่ง วิญญาณ อีกทั้งยังมีเรื่องเล่าที่ว่า เหล่าผู้ที่อดอยากจนกระทั่งตายไป 
    จะ กลายเป็นนกปีศาจคร่ำครวญ ตามล่าผู้ที่ทอดทิ้งตน และร่ำไห้ตลอดเวลาว่า อีก นานเท่าใด อีกนานเท่าใด จะทอดทิ้งเราอีกนานเท่าใด 


    โคดามะ 

    โคดามะเป็นวิญญาณแห่งป่า แต่ไม่ใช่ว่าต้นไม้ทุกต้นจะกลายเป็นโคดามะ เรื่อง เล่าของโคดาะมักจะเกิดกับต้นไม้ที่มีอายุมากๆ

    ใครก็ตามที่ไปตัดต้นไม้ที่ กลายเป็นโคดามะแล้ว จะเกิดความหายนะแก่ผู้นั้น และแถบที่คนนั้นอาศัยอยู่ ทั้งหมด 

    ต้นไม้ที่น่าจะกลายเป็นโคดามะ ผู้คนจะนำเชือก ศักดิ์สิทธิ์ (shimenawa) มาผูกไว้ เพื่อให้โคดามะคอยปกป้องคุ้มครอง 
    โคดามะ นั้นมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า และมีนิสัยที่ชอบปลอมเสียงผู้คน 
    ดังนั้นเมื่อไป ตะโกนที่ภูเขา แล้วมีเสียงสะท้อนกลับมา คนญี่ปุ่นจึงเรียกเสียงสะท้อนนั้น ว่า โคดามะ 

    โคดามะอาจอยู่ในร่างที่เป็นมนุษย์ หรือไม่ใช่มนุษย์ก็ได้ ซึ่งวิญญาณ พฤกษา (Dryad) ส่วนมาก มักไม่อยู่ในรูปต้นไม้อยู่แล้ว

    โคดามะไม่ชอบผู้ที่ ไม่เคารพผืนป่า ใครก็ตามที่ตัดต้นไม้โดยไม่จำเป็น เหล่าโคดามะจะหาทางแก้ แค้นผู้นั้น แต่โคดามะส่วนมากรักสงบ
    และชอบที่จะแลกเปลี่ยนความรู้กับใครก็ ตาม ที่สามารถสื่อสารกับโคดามะได้ เนื่องมาจากเชื่อกันว่าวิญญาณยิ่งอยู่ นาน ยิ่งแข็งแกร่ง

    โคดามะเป็นวิญญาณของต้นไม้ที่มีอายุยืนนานมาหลายร้อย ปี 
    จึงมีพลังมหาศาลตรงกันข้ามกับท่าทีที่สงบนิ่งไม่มีพิษภัย


    edit 31/1/11 21.35 น.แก้ไขรูปมาให้แล้วนะคัฟ  ถ้าชอบไรพวกนี้จะหารูปและตำนานมาให้อีกนะคัฟ 
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
beeboyza's profile


โพสท์โดย: beeboyza
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
24 VOTES (4/5 จาก 6 คน)
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
ภาพนี้ที่รอคอย !!! ทหารไทยนำตู้คอนเทนเนอร์ไปวางกั้นพรมแดนบ้านหนองจาน ตามเส้นเขตแดน 1:50000 เป็นที่เรียบร้อยลือหึ่ง "ลิซ่า" BLACKPINK แอบจดทะเบียนสมรสกับแฟนหนุ่มแล้วอุบัติเหตุเฮลิคอปเตอร์ชนกันกลางอากาศ มีผู้เสียชีวิต 1 ราย และบาดเจ็บสาหัส 1 รายอิหร่านประสบความสำเร็จในการปล่อยดาวเทียมที่ผลิตในประเทศจำนวน 3 ดวงเขมรขอถก JBC ด่วน ยันไม่รับเส้นเขตแดน จากการใช้กำลังของไทยเจาะสเปก กริเพน ทําไมกองทัพไทยถึงเลือกใช้สลิปเงินเดือนของนักบินโผล่บนโซเชียล ทำชาวเน็ตตาโตลุ้นของขวัญปีใหม่! เตรียมคืนชีพ “เกาะตาชัย” มัลดีฟส์เมืองไทย หลังปิดฟื้นฟูธรรมชาตินาน 9 ปี“หวัง อี้” ยืนยันจีนเสนอเงินช่วยเหลือ 20 ล้านหยวนให้ทั้งไทย–กัมพูชาเท่าเทียมกันเปิดประวัติ ผู้สมัคร สส.พรรคส้ม โดนจับคดีฟอกเงินและยาเสพติดเขมรหวัง "คนอินเดีย" มาเที่ยวกัมพูชามากขึ้น หลังทหารไทยล้มรูปปั้นจนกลายเป็นดราม่าThe Great Flood หนังภัยพิบัติน้ำท่วมโลกเกาหลีจาก Netflix
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
อุบัติเหตุเฮลิคอปเตอร์ชนกันกลางอากาศ มีผู้เสียชีวิต 1 ราย และบาดเจ็บสาหัส 1 รายเปิดประวัติ ผู้สมัคร สส.พรรคส้ม โดนจับคดีฟอกเงินและยาเสพติด“หวัง อี้” ยืนยันจีนเสนอเงินช่วยเหลือ 20 ล้านหยวนให้ทั้งไทย–กัมพูชาเท่าเทียมกันลุ้นของขวัญปีใหม่! เตรียมคืนชีพ “เกาะตาชัย” มัลดีฟส์เมืองไทย หลังปิดฟื้นฟูธรรมชาตินาน 9 ปี
ฟรีน-สโรชา & เบ็คกี้-รีเบคก้า @ VOGUE Hong Kong December 2025เต้ย-จรินทร์พร @ VOGUE Thailand November 2025Merry X’mas 2525zoom zoom zoom
ตั้งกระทู้ใหม่