ประวัติยากูซ่า

ยากูซ่า หรือที่รู้จักกันในชื่อว่า โกะคุโด นั้นเป็นสมาชิกของกลุ่มอาชญากรรมที่ก่อตั้งขึ้นมาตั้งแต่สมัยโบราณใน ประเทศญี่ปุ่น ในปัจจุบันนี้ ยากูซ่าเป็นปรากฏการณ์ของกลุ่มอาชญากรรมที่ใหญ่ที่สุดในโลก สื่อตะวันตกนั้นในบางครั้งจะเรียกกลุ่มยากูซ่านี้ว่า “มาเฟียญี่ปุ่น”
ประวัติ
คำว่า “ยากูซ่า” นั้นเดิมทีมาจากการเล่นไพ่ของญี่ปุ่น "โออิโช-คาบุ" (เล่นกับไพ่ดอกไม้ (ฮานะฟุดะ) หรือไพ่ kabufuda) คล้ายคลึงกับไพ่บาคารา ค่าของไพ่จะถูกบวกเข้าด้วยกัน และตัวเลขสุดท้ายของผลรวมจะถูกนับเป็นคะแนน ไพ่ที่ถือในมือที่แย่ที่สุดในเกมคือ ชุดของเลข แปด, เก้า และ สาม ซึ่งจะให้ค่ารวมกันเท่ากับ 20 และคะแนนก็จะได้เท่ากับศูนย์นั่นเอง (ตัวเลขสุดท้ายของ 20 คือ 0 ) รูปแบบการนับดั้งเดิมของญี่ปุ่นนั้น เรียกตัวเลขเหล่านี้ว่า ยา กู และซ่า ตามลำดับ (8, 9 และ 3) ด้วยเหตุนี้จึงเป็นต้นกำเนิดของคำว่า "ยากูซ่า" ส่วนในการนับตัวเลขของญี่ปุ่นสมัยใหม่นั้น 8, 9 และ 3 จะอ่านออกเสียงว่า "ฮาจิ – คุ – ซัน" ซึ่งเป็นชื่อที่ในบางครั้งยากูซ่า ก็ถูกเรียกในปัจจุบันนี้
พวกยากูซ่าเลือกใช้ชื่อนี้เพราะว่า คนที่ถือไพ่ ยา - กู - ซ่า (8, 9 และ 3) ในมือนั้นต้องการทักษะมากที่สุด และเป็นผู้ที่มีโชคน้อยที่สุดเพื่อที่จะชนะ ดังนั้นผู้ที่ชำนาญเท่านั้นที่จะสามารถแก้เกมเพื่อให้ชนะได้ ชื่อยากูซ่านี้ยังได้ถูกใช้เพื่อแสดงถึงความโชคร้ายที่อาจจะได้รับหากทำการ ต่อต้านกลุ่มด้วย
ยากูซ่า มีรากมาจากวิวัฒนาการทางสังคมตั้งแต่สมัยเอโดะ (พ.ศ. 2146 - พ.ศ. 2410) ยุครุ่งเรืองของโชกุน ซึ่งในเวลาเดียวกัน การรักษาความสงบเรียบร้อยของสังคมในสมัยนั้นได้กลายมาเป็นความรับผิดชอบของ สมาชิกในสังคมมากกว่าที่จะเป็นของพวกไดเมียว (ขุนนาง) นี่เป็นลักษณะเด่นเฉพาะของเมืองต่าง ๆ ที่อยู่นอกเมืองหลวง ดังที่รัฐบาลในสมัยเอโดะได้อนุญาตให้มีปราสาทสำคัญเพียงปราสาทเดียวในแต่ละ จังหวัด แม้ว่าพวกยากูซ่าจะยืนยันว่าต้นกำเนิดของพวกเขาเป็น โรบินฮูดญี่ปุ่น และเป็นผู้ให้ความคุ้มครอง แต่นักวิชาการบางคนค้นพบว่าต้นกำเนิดของพวกเขาเริ่มต้นที่ kabukimono (พวกขี้เมา) หรือยังเป็นที่รู้จักว่าเป็น hatamoto yakko (คนรับใช้ของโชกุน) กลุ่มคนเหล่านี้เป็นโรนิน (ronin) เป็นพวกซามูไรที่ไร้เจ้านาย มักจะทำทรงผมและแต่งตัวแปลกตา มีกิริยาที่รุนแรง พูดสำเนียงภาษาเถื่อนหยาบ และมีคำแสลงเฉพาะ มักจะถือดาบยาว อ้างตัวเป็นผู้รับใช้โชกุน เรียกร้องค่าคุ้มครองจากชาวบ้าน ประกาศตัวเป็นผู้พิทักษ์ รักษาระเบียบ และป้องกันชุมชนจากผู้คุกคามภายนอก เชื่อว่าตนเป็นประหนึ่งวีรบุรุษที่ยืนหยัดอยู่ข้างผู้ยากไร้และคนที่ไม่มี ทางสู้ เช่นเดียวกับวีรบุรุษ พวกเขามักจะทำการต่อสู้กับพวกโจรผู้ร้าย และกลุ่มต่าง ๆ เพื่อปกป้องชุมชนของพวกเขา ในเมืองที่ใหญ่กว่า กลุ่มต่าง ๆ เหล่านี้ก็มักจะเกิดมีขึ้นในเวลาพร้อม ๆ กัน และพวกเข้ามักจะต่อสู้กันเพื่อดินแดน อำนาจ และเงินตรา
ยากูซ่า มีพัฒนาการที่กลายเป็นต้นแบบพฤติกรรมปัจจุบันจาก
- กลุ่มพ่อค้าเร่ ซึ่งเป็นชนชั้นต่ำสุดในระบบวรรณะสมัยเอโดะ ตั้งกลุ่มขึ้นจัดสรรผลประโยชน์ให้สมาชิก จัดแบ่งพื้นที่ค้าขายในงานเทศกาลต่างๆ ทั้งงานวัด งานศาลเจ้า อำนวยความสะดวกและดูแลความปลอดภัย โดยสมาชิกจ่ายค่าเช่าและค่าคุ้มครอง
- กลุ่มนักพนัน เพราะการลักลอบที่มักใช้บริเวณวัดและศาลเจ้าร้างชานเมืองเป็นสถานประกอบการ ต้องวางกำลังคุ้มกันบ่อนซึ่งเงินทองสะพัด
สำหรับการสักร่างกาย หรือ Irezumi ก็สักไว้เปลือยโชว์ขณะเล่นพนัน เป็นสัญลักษณ์ประกาศศักดา รวมถึงการบั่นปลายนิ้วก้อยมือซ้าย แทนความสำนึกผิดอย่างสูง นิ้วก้อยซ้ายสำคัญมากในการจับถือถ้วยลูกเต๋าเล่นพนัน
หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ยากูซ่ารับอิทธิพลวัฒนธรรมอเมริกัน โดยเฉพาะกลุ่มอันธพาล "อัล คาโปน" ตั้งแต่การแต่งกาย ยานพาหนะที่เป็นรถยนต์สีดำคันใหญ่ บางส่วนเข้าเป็นกลไกใต้ดินให้ซีไอเอ และกลุ่มการเมืองอนุรักษนิยม ต่อต้านคอมมิวนิสต์ และกำจัดปฏิปักษ์ทางการเมือง ครอบคลุมทั้งฟอกเงิน ปั่นหุ้น ปล่อยเงินกู้ ค้ามนุษย์ ยาเสพติด รีดไถ และฮั้วประมูล อิทธิพลมิได้จำกัดอยู่เฉพาะในญี่ปุ่นอีกต่อไปแล้ว
รัฐบาลญี่ปุ่นเรียกพวกเขาด้วยศัพท์ทางกฎหมาย Boryo-kudan หรือ violence groups แต่สำหรับองค์กรอาชญากรรมที่มีรากฐานมายาวนาน คำดังกล่าวเป็นการหลู่เกียรติหยามศักดิ์ศรีรุนแรง เพราะความหมายของ Boryo-kudan ผลักยากูซ่าลงเป็นเพียงมิจฉาชีพที่อาศัยความรุนแรงก่อเหตุธรรมดา ๆ
การลงโทษ
การลงโทษของยากูซ่ามีทั้งหมด 7 ขั้นไล่จากหนักไปหาเบา ได้แก่
1. เซทสึเอน-ตัดขาดออกจากกลุ่ม
2. อะมน-ไล่ออกจากกลุ่ม
3. โชะบาโร-การจ่ายค่าปรับ
4. ยุบิทสึเนะ-ตัดนิ้ว
5. โคคะคุ-ลดตำแหน่ง
6. คินชิน-กักบริเวณ
7. คันปะทสึ-ตัดผม
การแต่งตัว

การแต่งตัวของสมาชิกยากูซ่าจากอดีตที่ผ่านมาจะเน้นการแต่งตัวและการทำผมไม่เหมือนใคร โดยจะสวมแว่นดำ สูทสีดำ เนคไทสีฉูดฉาด หากเป็นผู้นำจะแต่งตัวด้วยเครื่องประดับระบิบระยับราคาแพง และจะใช้นิยมใช้รถยุโรป ต่างจากชาวญี่ปุ่นทั่วไปที่มักจะใช้รถยนต์ที่ผลิตในประเทศตัวเองมากกว่า
แต่ช่วงหลังทางการญี่ปุ่นเริ่มปราบปรามเด็ดขาด การแต่งตัวและการใช้รถจึงเปลี่ยนมาเป็นแบบคนปกติทั่วไปมากขึ้น
กลุ่มขนาดใหญ่
ปัจจุบัน ทางการญี่ปุ่นได้ขึ้นบัญชีดำยากูซ่าได้ทั้งหมด 3 กลุ่มใหญ่ ๆ ในประเทศ ได้แก่
1. ยามะงุจิ-งุมิ มีสมาชิก 20,000 คน
2. ซุมิโยชิ-ไค มีสมาชิก 6,000 คน
3. อินะงะงะวะ-ไค มีสมาชิก 4,000 คน
นอกจากนี้แล้ว จะเป็นกลุ่มย่อย ๆ มีสมาชิกในจำนวนหลักร้อย

Credit:Wikipidia



ชอบไม่ชอบกรุณาโหวตให้ด้วยนะครับ
ขอบคุณครับ

พืชที่มีพิษร้ายแรงเทียบเท่าพิษงูเห่า
ชาว เกษตรกร เขมร กดดันไทยเปิดด่าน ควบรถไถเหยียบนาข้าวทิ้ง ราคาตกต่ำสุดขีด
ชาวนาเขมรยกมือไหว้วอนคนไทย “เปิดด่านช่วยด้วย” หลังราคาข้าวทรุดหนัก สวนทางคำพูดในอดีตที่เคยดูแคลนไทย
10 อันดับเมืองที่มีมลพิษสูงสุดกรุงเทพฯ
แคปซูลกาลเวลา 1,700 ปี การค้นพบหลุมศพโรมันที่ "สมบูรณ์แบบ" ในฮังการี
2569 ตรงกับเป็นปีนักษัตรอะไร สีนำโชค พร้อมปีชง
🔍 ถอดรหัสปี 2568! คนไทยค้นหาอะไรบน Google มากที่สุด สะท้อนภาพสังคมแห่งปี
นี่คือสิ่งมีชีวิตที่สูงที่สุดและใหญ่ที่สุดในโลก Redwood และ Sequoia
'ฮุนเซน' ควันออกหู หลังลาวฉวยโอกาสขายของตัดหน้า แย่งสัมปทานจีน
แบงก์เขมรปิด ฮุน โต! เผ่นหนี ลูกค้าถอนเงินไม่ได้
พบเครื่องบิน "โบอิ้ง 737" ที่หายไป 13 ปี ถูกจอดทิ้งกลางสนามบิน
ทนายสายหยุด ยอมรับสลิปโอนเงินของ "นานา" เป็นของปลอม
ทัพฟ้าไทย พร้อมรบ 24 ชั่วโมง โชว์ยุทโธปกรณ์สุดล้ำ โจมตีแม่นยำ "ไม่ให้ใครย่ำยี" น่านฟ้าไทย
พบเครื่องบิน "โบอิ้ง 737" ที่หายไป 13 ปี ถูกจอดทิ้งกลางสนามบิน
แคปซูลกาลเวลา 1,700 ปี การค้นพบหลุมศพโรมันที่ "สมบูรณ์แบบ" ในฮังการี
“นานา ไรบีนา” เพิ่งพ้นคุกก็เจอดราม่าซ้อน—เพื่อน (เคย) รักแห่ออกมาสวนแรง
🔍 ถอดรหัสปี 2568! คนไทยค้นหาอะไรบน Google มากที่สุด สะท้อนภาพสังคมแห่งปี