64 เรื่องเล่าใน มข. (มหาลัยขอนแก่น)

พอดีไปเจอเพื่อนเราเพิ่งเอามาลงไว้อีก...เลยเอามาแปะเพิ่มอีกซะเลย โอ้ววววว

เรื่องเล่า มข. เอามาให้อ่าน

 

1. มข.มีพื้นที่ใหญ่มากๆ เกือบ 6000 ไร่ 
(เคยรู้มาว่า เป็นมหาวิทยาลัยที่มี่ พท.มากที่สุดอันดับ สอง รองจาก ม.ไหนรู้ จำไม่ได้ 
แล้ว มข. ยังมี พท. มากขนาดที่ มีประตูทางเข้า 2 ด้าน ซึ่งอยู่คนละฝั่งถนน (มิตรภาพ และ มะลิวัลย์) ใช้เวลาขับรถจากประตูด้านหนึ่งไปถึงอีกด้านหนึ่งประมาณ ครึ่ง ชม. ด้วยความเร็ว 60 กม. ต่อ ชม. ) 
**หากเข้าทางศูนย์ประชุมกาญจนาภิเษก กว่าจะเข้าถึงเขตแคมปัสนานจริงๆ

2. อคร. (ย่อมาจาก อาคารเรียนโคตรร้อน) คณะ วิทย์เป็นตึกที่โทรมมาก ไม่มีแอร์ 70% ของเด็กที่เรียน all-chem คาบบ่าย ที่ตึกนี้ล้วนแต่คิดในใจว่า "ฆ่ากรู ซะ" 
(เด็กคณะมนุษย์อย่างเรา เคยไปใช้บริการ แต่ก็เป็นช่วงเช้าต รู่ (T_T) ของหน้าหนาว เลยไม่ค่อยซาบซึ้ง .. โทษทีนะ อิอิ) 
**นั่นสิๆ จำได้ว่าเรียนอคร.เหมือนกันนะ เอ....ไม่ใช่เรียนStat ที่นี่ด้วยเรอะไอ้อคร.เนี่ย -*-

3. ทุกคณะจะมาเรียน Eng ที่คณะมนุษย์ โดยจะแบ่งเป็น หลายๆ sec ตามระดับความไฮโซ ที่คณะผม เชื่อกันว่าเด็กที่ เรียน sec 6 หมายถึง "พูด engได้คล่องยังกับเมียฝรั่ง" ส่วน เด็กที่เรียน sec 24 หมายถึง "แค่ท่อง A - Z ได้ก็เก่ง แล้ว" 
( ตอนเราเรียน Sec 1 คือ เมียฝรั่งว่ะ ส่วนพวกท่อง ABC ได้ก็บุญแล้ว เป็น Sec 6 
จำได้ว่ามีเพื่อนคนนึง Ent เข้ามา ด้วยคะแนนภาษาอังกฤษ 97 เต็ม 100 [,] ) 
**ตูSecแรกของเด็กคณะมนุษย์(ตอนนั้นSEC9)ยังโง่วอยู่เลยเว้ยเฮ้ย

4. ห้องสมุดกลางของ มข. มี 6 ชั้น แต่ตอนออกจาก ห้องสมุด หลายๆ คนมักจะหลงเดินลงไปถึงชั้น 1 ซึ่งเป็นชั้นใต้ ดิน (จริงๆ แล้วทางออกอยู่ชั้น2) 
( และแอร์ที่หอสมุดกลาง เป็นแอร์ที่หนาวกว่าอากาศข้างนอก ในฤดูหนาว นอกจากนั้นร้อยละร้อยของ นศ.ที่บอกว่าไปอ่านหนังสือที่ห้องสมุดกลาง จะต้องหอบเสื้อกันหนาวเข้าไปด้วย ทั้งที่เป็นหน้าร้อน อีกทั้งร้อยละ 50 -60 ที่บอกว่าจะไปอ่านหนังสือนั้น จิงๆแล้วไปหามุมหลับและแอบกินขนม ) 
**สาบานได้โดยเฉพาะห้องอ้างอิง ข้าพเจ้าแอบไปนั่งหลับมาเรียบร้อยแล้ว เย็นสบายมากๆ 555+ (เรื่องเสื้อกันหนาว....จริงๆแฮะ....)

5. รสนิยมการดื่มเหล้าของเด็ก มข. มี 2 แบบ คือ พวกที่เปิด Red ที่ U-bar กับพวกที่ตั้งวงสุราขาวหลังมอ 
( เด็กที่เปิด Red ที่ U-bar (ผับใหญ่กลางเมือง) ส่วนใหญ่จะเป็นเด็กวิดยาการและมนุษย์ ส่วนพวกสุราขาวเน้นหนักไปทางเด็กเกษตร และวิดวะ (ซึ่งอาจจะไม่หมายความรวมถึงน้องพระเอกช่องเจ็ดนะ เพราะเค้าก็หรูอยู่) 
**สุราตูม่ายยู้.......

6. เท่าที่ได้ยิน มา 40% ของเด็กที่อยู่หอพยาบาลไม่ใช่เด็กคณะพยาบาล 
( เหตุผลของคนที่วิ่งเต้นไปอยู่หอพยาบาล เพราะหอนี้ปิดดึกกว่าหอของมหาลัย หออื่นๆ ) 

**รุ่นน้องเราอยู่ตรึม..... แต่หอเค้ามันดีจริงๆแหละ

7. คนที่ไปวิ่งบึงสีฐานมีจุดประสงค์เพื่อ "สร้างเสริมสุขภาพ" ( เพราะไกลโคตรๆ) ในขณะที่ คนที่ไปวิ่งสระพลาสติกมีจุดประสงค์เพื่อ "เสาะหาอาหาร ตา" 
( อาหารตา บางครั้งรวมไปถึงการไปชม เขาพิงกัน ด้วย ) 
**จากที่เคยฟังเค้าเล่ามา มีคนเคยเจอจิตทรามโชว์ไอ้นั่นด้วยนะเออ

8. ที่หลังคาเหล็ก (หมายถึงศาลาพระราชทานปริญญาบัตรเก่า รึเปล่าน้อง .. เวลาเปลี่ยนทุกอย่างจิงๆว่ะ) ทุกๆเย็น จะมีคนมาเต้น แอโรบิค โดย มีเพียง ร้อยละ 2 เท่านั้น ที่ "เต้นเพื่อสุขภาพจริงๆ" ซึ่งอีก ร้อยละ 90 นั้น "เต้นเพื่อเอาเกรด A วิชาพละ" ส่วนที่เหลือ อีกร้อยละ 8 ที่ไปเต้นนั้น จะมีจุดประสงค์ คล้ายๆกับคนที่ไป วิ่งสระพลาสติก 
( ตอนเราเรียน เคยหลวมตัวไปเต้นอยู่ทีนึง แล้วก็คิดได้ว่า กรูมาเต้นให้คนอื่นดูทำไมวะ เพราะมันดูกันจริงจังมาก...ก ) 
**ไม่มีวิชานี้ให้ลงไม่งั้นลงแล้ว.... ปล.เคยไปเต้นที่คณะเทคนิกการแพทย์อ่ะ อยู่นี่ไม่ได้ไป

9. "สระพลาสติก" ของ มข. ถูกตั้ง ชื่อนี้มาเพราะมีพลาสติกบุรองอยู่ข้างใต้สระแห่งนี้ "ห้ามปล่อย สัตว์น้ำ" และ "ห้ามนำสุนัขไปอาบน้ำในสระ" 
( เพราะทั้งมหาลัย รวมทั้งโรงพยาบาลศรีฯ ใช้น้ำจากสระพลาสติกผลิตน้ำประปา ) 
**งั้นรึ....อืม....(หมายถึงเพิ่งรู้ว่าเอาน้ำตรงนี้มาผลิตน้ำประปานะ)

10. 80% ของ คนที่รับประทานอาหาร ที่ "โรงชาย" เป็น ผู้หญิง กับ ผู้หญิง ประเภท 2 
( ชื่อเต็มเรียก โรงอาหารชาย เนื่องจากตั้งอยู่ในดงหอชาย แต่ตรงข้ามหอ 4 และทางเข้าหอ 3 และ 26 ซึ่งเป็นหอหญิง (ทำเลดีจริงๆ) เมื่อก่อนยังมีโรงอาหารกลาง เรียก โรงกลาง แต่ตอนนี้ ทุบแล้วสร้างใหม่เรียก คอมเพล็กซ์ ) 
**ตูก็เพิ่งรู้ว่าทำไมเค้าถึงเรียกว่า "โรงชาย"

11. "ตึกหลอด" อยู่คณะวิทย์ เป็นตึกที่ เรียน Lab แล้วสนุกที่สุด (มีอุปกรณ์ฟิสิกส์แปลกๆ ยั้วเยี้ย เต็มไปหมด) 
( อันนี้ไม่ออกความเห็นว่ะ เพราะไม่เคยใช้บริการ แต่ Lab คอมฯ ที่ตึกหลอด สภาพก็เหนียวใช้ได้เหมือนกัน ) 
**อ่านะ...เรียนแต่VB ที่ตึกนี้จริงๆแหละ

12. มข. เป็นมหาลัยที่มีหอพักนักศึกษา มากที่สุด และค่าหอก็ถูกที่สุดด้วย 
( ค่าหอใน (หอมหาลัย)ถูกขนาดไหน ก็ไม่เร้าใจพอ เพราะต่างก็เช่าหอในไว้เก็บของและตบตาพ่อแม่ ประมาณ 40% ยังออกไปเช่าหอข้างนอกอยู่ด้วย ซึ่งส่วนใหญ่ไปอยู่กะแฟนหนุ่มแฟนสาวมากกว่ารูมเมทเพศดียวกัน ) 
**เค้าเรียกครอบครัวตัวอย่าง พวกนี้มักเช่าหอไว้แล้วมาอยู่กับแฟนตามที่เค้าว่านั่นแหละ ส่วนใหญ่ครอบครัวตัวอย่างมักเลี้ยงหมาเป็นลูก -*-

13. คุณต้องทำ กิจกรรมอย่างน้อยเดือนละ 10 วัน ถึงจะมีสิทธิ์เข้าอยู่หอในของ มข. 
( อย่าไปเชื่อ เพราะกรูทำแทบตาย ไปออกค่ายมาอย่างบ้าคลั่ง ยังตกหอเลย แต่ก็อย่างว่ากรูก็กลับไปอยู่บ้าน ขับมอไซค์มา 15 นาทีถึง คิก..คิก.. ) 
**(ข้างบนในวงเล็บนั่นเพื่อนเราเอง 555+ บางคนตกหอแค้นใจมากจนโทรไปขอเพลงคนดีไม่มีที่อยู่กับเสียงตามสายเลยล่ะ 555+) เราหอนอกคับ เลยไม่เคยตกหอ..... จากข่าวลับๆเค้าว่ากันว่าต้องไปเล่นเส้นกับประธานหอ ท่านจึงจะได้อยู่หอในตลอด 4 ปี.....

14. ยามที่ มข. แต่งตัวคล้าย ตำรวจสายตรวจมากๆ ต้อง แยกออกจากกันให้ดี ๆ 
(สมัยนี้เนียนมาก แถมตำรวจยังมาแจมด้วยบ่อยๆ เคยโดนปรับไปทีนึง ถ้าเป็นเมื่อก่อนนะ อย่าหวังจะได้แอ้มกรู ) 
**แถมชอบหลบมุมไม่ให้เราเห็นอีกนะคุณตำรวจน่ะ มันเหมือนที่เอามาลงไว้...แต่ตูเด็ดกว่าเว้ย ร้องไห้จนตำรวจปล่อย 555+(กร๊ากกกกความชั่วเปิดเผย!!!)

15. ฤดูร้อนที่ มข. อุณหภูมิ จะร้อน กว่า 40 องศา ส่วนฤดูหนาว อุณหภูมิจะลดต่ำลงถึง 20 องศา ดัง นั้น เด็ก มข. หลายคนจึงกระเสือกกระสนไปอยู่หอนอกเพียงเพราะต้องการ แอร์กับเครื่องทำน้ำอุ่น 
( มันไม่ได้อยากได้เครื่องทำน้ำอุ่นอย่างเดียวหรอก มันอยากได้ไออุ่นด้วย ก๊าก..ก.. ) 
**หอนอกฉันไม่มีน้ำอุ่นเว้ย -*- แถมหน้าร้อนยัง "ตับแตกอีก -*-"

16. มข. มี โรงเรียน สาธิตถึง 2 แห่ง คือ สาธิตศึกษาศาสตร์ฯกับสาธิตมอดินแดงฯ 
( และเป็นอันรู้กัว่าเด็กสาธิตสองที่นี้ ไม่ค่อยกินเส้นกัน ยิ่งถ้าเป็นเมื่อก่อนเหยียดกันมาก เพราะสาธิตศึกษาฯ เค้าจะว่าเค้าไฮฯกว่า แต่ให้ตายเหอะว่ะ บางทีเด็กโรงเรียนในเมืองอย่างกรูงี้ โคตรหมั่นไส้คุณหนูสาธิตศึกษาฯเรย.. ทำหน้าหยิ่งๆ เชิดๆ หยั่งกะเป็นดารามาตั้งแต่เกิด ) 
**อ่านะ....ขออภัยเด็กสาธิตทุกคนนะค๊า...แต่เวลาขึ้นสายแปดเด็กสาธิตเสียงดังมากๆ -*-

17. complex เป็นศูนย์รวมอาหารและบริการของนัก ศึกษาที่นี่ ที่นี่เป็นแหล่งรวมสถาบันติวของเด็ก มข. ที่เปิด อย่างลับ ๆ (รุ่นพี่เปิดติวรุ่นน้องนั่นแหละ) เป็นที่ ซุ่มอ่านหนังสือในยามดึกสงัดของคืนวันก่อนสอบ และที่น่าสนใจคือ บอร์ดติดประกาศของ complex ที่มีประกาศแทบทุกชนิดมาติดเอาไว้ ตั้งแต่ดินสอหาย สุนัขหาย สามีหายออกจากบ้าน ประกาศขายมือถือ ขายสกู๊ตเตอร์ ขาย vcd ซีรี่ส์หนังเกาหลี ประกาศห้องว่างให้ เช่า แต่ที่ผมว่าเด็ดสุด ก็ตรงที่มีประกาศจับคนร้ายขโมยกระเป๋า ตังค์พร้อมเปิดเผยหน้าตาด้วยนี่แหละ 
( รู้หรือไม่ว่า ก่อนจะสร้างคอมเพล็กซ์เสร็จนั้น มีการประกวดออกแบบศาลารอรถเมล์หน้าคอมเพล็กซ์ด้วย ซึ่งตอนนี้ก็ใช้แบบที่ได้ที่ 1, 2 และ 3 กันอยู่ กลับไปดูซะ! ) 
**นั่นสิ...แต่หลังจากวันที่ 15 ผ่านไปก็ต้องเอามาแปะกันอีกรอบเพราะเค้าดึงทิ้งหมด

18. "ตึกเพียร วิจิตร" เป็นสมบัติของคณะวิดวะที่มีคนเข้าไปอ่านหนังสือมากพอๆ กับหอสมุดกลาง แต่อีกที่หนึ่งที่มีคนไปอ่านหนังสือมากพอ ๆ กัน คือ"โรงอาหารคณะแพทย์" 
( แหล่งที่อ่านหนังสือใน มข. ไม่ได้มีเฉพาะเด็ก มข.เท่านั้น ยังมีเด็กนักเรียนที่อยากเรียน มข. และอยากมีแฟนเป็นรุ่นพี่ มข. อีกด้วย ) 
**บอกแล้วตูปลีกวิเวก อ่านอยู่ห้องตัวเองอย่างเดียวฟ่ะ

19. ประตูทางเข้า มข. ใหญ่สุดในประเทศไทย 
( อันนี้ค่อนข้างเห็นด้วย เพราะได้ไปดูประตูเข้ามหาลัยมาแล้วหลายจังหวัด หลายภาค ก็ยังไม่เห็นที่ไหนหญ่าย..ย เท่าประตู มข.เรา ) 
**จิงง่ะ......เย้ยยยยยยย

20. สาย 8 เป็นรถประจำทางที่วิ่ง เข้า-ออก มข. ซึ่ง พขร. ของสาย 8 ส่วนใหญ่ขับรถได้....(เติมเอา เอง).....มาก คือจะขับรถกลางเส้นถนนด้วยความเร็ว 20 km/ ชั่วโมง 
( และ สาย 8 เป็นรถเมล์ VIP มาก เพราะยังแบ่งเป็น สายเก่า และสายใหม่อีก คือวิ่งแยกไป สองเส้นทาง 
ตอนหลังมีรถ ปอ. มาวิ่ง ยังขาดทุน เพราะพี่ 8 เยอะกว่า และเก๋ากว่า ล่าสุดที่รถเมล์แดงมาวิ่งเหมือน มช.ด้วย แต่ไม่แน่ใจว่าวิ่งเส้นทางไหนบ้าง เพราะไม่เคยใช้บริการ ) 
**มีสาย 8 เก่ากับใหม่ เด็กในมอคุ้นเคยกันดี แต่ตอนเข้ามาใหม่ๆนั่งแล้วหลงก็มีนะเออ.....-*- (ว่าแต่สมัยนี้ยังมีเก่าใหม่อยู่รึเปล่า....)

21. วิ่งรอบ มข. 5 รอบ = วิ่งจากขอนแก่นไป อุดรฯ 
( มีอาณาเขตติดกับทุกอย่างทั้ง ค่ายทหาร สนามบิน ถนนมิตรภาพ ถนนมะลิวัลย์ หมู่บ้านจัดสรร หมู่บ้านธรรมดา แถมในมข.เอง ก็ยังมีห้างย่อมๆ และร้านทอง แถว U-Center อีกด้วย ) 
**กุเชื่อ...... ^^"

22. "สระชนเห็นชอบ" (มาจากคำว่า ประชาชนเห็นชอบให้สร้าง) เป็นสระว่ายน้ำที่ pop ที่สุด ของ มข.แต่ไม่มีใครไปใช้บริการ เพราะ-----ไม่มีน้ำใน สระ 
( เมื่อก่อนมีน้ำ ก็ไม่ใคร่มีคนไปใช้ นอกจากหน้าร้อน ตอนหลังปิดสระซ่อม ก็ไม่รู้ชาติไหนจะซ่อมเสร็จ ) 
**ตอนแรกได้ยินชื่อก็ตกใจเหมือนกันนะสระเนี่ย.....เอ...แต่เห็นเพื่อนเราตอนเรียนมานไปเรียนว่ายน้ำที่ชนเห็นชอบเหมือนกัน

23. พี่ชายภราดร เป็น อาจารย์ สอน เทนนิส ที่ มข. ( คณะศึกษาศาสตร์ ภาควิชาพลศึกษา ) 
( เพราะครอบครัวคุณแม่ภราดร พื้นเพอยู่ที่ขอนแก่น พี่ชายคนนี้ (คนโต) ก็เรียนจบมัธยมที่ขอนแก่น ) 
**ตัวจริงหน้าเหมือนในทีวีนั่นแหละ... ปล.พี่เราเคยเล่าว่าตอนสมัยอาจารย์แกสอนเต็มเวลาใครชนะในSECอาจารย์แกให้เหรียญจากวิมเบิลดั้นด้วย

24. เสื้อครุย ของ มข. ตอนรับปริญญา เป็นสีขาวนะ 
( เหมือนชุดคลุมบวชนาค ผสมกับชุดครุยจุฬา แต่ว่าขลังอย่าบอกใคร ใส่แล้วภูมิใจที่สุด ^_^ ) 
**ไอ้ผู้ชายมันก็อุ่นหรอกเฟ้ย แต่ผู้หญิงนี่สิลมพัดมาที....นรกชัดๆ T T

25. "สะพานขาว" เป็นสะพานยาว ๆ ข้าง สระพลาสติก มีเจ้าที่ชื่อ "เจ๊ขาว"เป็นผู้หญิงผมยาวๆ ใส่ชุดสี ขาว เจ๊แกชอบออกมาทักทายเด็กที่ ขับมอไซด์ผ่านสะพานตอน ดึก ๆ 
( ไม่รู้จักเจ๊ขาว รู้แต่ว่ารุ่นพี่วิดวะ ชอบเอารุ่นน้องไปนั่งทรมานท่ามกลางอากาศหนาวและบรรยากาศวังเวงในช่วงรับน้อง นอกจากนี้เด็กศิลปกรรม (โดยเฉพาะเด็กปั้น) คงจะสนิทกะ เจ๊ขาวน่าดู เพราะคณะอยู่ติดสะพานขาว ) 
**สาเหตุหนึ่งที่ทำให้ไม่อยากลงคณะนี้เพราะ "เจ๊ขาว" ด้วยล่ะ T T

26. วิ่งกลั้นหายใจข้ามสะพานขาว แล้วจะขอ พรอะไรก็ได้ 1 ข้อ 
( ไม่เคยวิ่งว่ะ สะพานมันแคบ แถมรถเวลาขับผ่าน ขับไวอย่างกะหนีผี (?) ) 
**ตูผ่านสะพานนี้ก็บิดลูกเดียวเหมือนกันว่ะ 555+ เพิ่งรู้นะเนี่ย...เอิ๊ก....

27. ถ้าคุณขี้เกียจวิ่ง จะ เปลี่ยนเป็นกลั้นหายใจ ขับมอไซด์ ด้วยความเร็วไม่เกิน 40km/ ชั่วโมง ก็ไม่ว่ากัน 
( เคยลองทำเหมือนกัน แล้วก็ได้มาเรียนที่ มข. ไม่รู้ เพราะขอพรที่สะพานขาวรึเปล่า ) 
**ทำไมไม่เคยรู้เลย เว้ยเฮ้ย....(ไม่งั้นจะขอพรแล้ว!!!!)

28. รุ่นพี่คณะวิดวะ เล่าให้ฟัง ว่า แต่ก่อน มข. ก็คือพื้นที่แห้งแล้งดี ๆ นี่เอง แต่คณะวิดวะ สมัยนั้นรับน้องโดยการให้น้องปลูกต้นไม้คนละ 1 ต้น (บนพื้นดิน แล้ง ๆ นี่แหละ) แล้วดูแลอย่าให้มันตาย ไม่งั้นโดนทำโทษ จนในที่สุด เดี๋ยวนี้หันไปมองทางไหนใน มข. ก็เจอแต่ป่า 
( ถ้าเป็นจริง ขอกราบงามๆ เพราะป่าของ มข. ทำให้คน กทม. แปลกใจมามากแล้ว ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า นึกว่าจะแห้งแล้ง (บ้านกรูพัฒนาไปถึงไหนแล้ว ไอ้พวกเต่า!)) 
**แล้วทำไม...หลังๆรุ่นพี่วิดวะของพวกคุณถึงชอบไป(ลัก)ตัดไม้ตอนกลางคืนล่ะคะ

29. คณะ ที่ก่อตั้งพร้อม ๆ กับ มข. คือ เกษตร และ วิดวะ 
( และเด็กสองคณะนี้ ยกพวกตีกันทุกปี เพิ่งจะมาสร่างซาเมื่อไม่ถึงห้า หก ปีนี่เอง ) 
**มันเจอหน้ากันอยู่ไหนเขม่นมาแต่ไกลแล้ว

30. ไก่ย่าง U-center เป็นไก่ย่างที่อร่อยที่สุดใน โลก 
( พี่ขอออกความเห็นว่า ไก่ย่างปรีชาที่อุทยานเกษตร (ที่ย้ายมาจาก ซ. 5) ก็ใช่ย่อยนะน้อง )
**เห็นด้วยไก่ปรีชาอร่อย 1 เสียง....

31. ละครคณะวิทยาการสนุกดี งบเยอะมาก ละคร คณะมนุษย์นักแสดงหน้าตาดีที่สุด ละครคณะวิดวะ มุกตลกฮาที่สุด ส่วน ละครคณะแพทย์ขายบัตร VIP แพงที่สุด (แต่ก็คุ้มค่านะ) ละครถาปัดเน้นฉากอลังการละครศึกษาเน้นครบทุกรสชาติหนุกมากมายแถมราคาบัตรถูก แสนถูกคุ้มค่าบัตรโคตรเลยว่ะ บัตรที่ไหนว่ะ 50 บาท กูเพิ่ง เจอ 
( ละครคณะเป็นงานใหญ่ เมื่อก่อนมีจัดแค่คณะ มนุษย์ วิดวะ สถาปัด ตอนหลังเป็นที่นิยมโดยแพร่หลายไปถึง คณะสัตวแพทย์ ถ้าอยากดูละครอารมณ์บรอดเวย์ให้ดูของคณะมนุษย์ ถ้าอยากดูอารมณ์เด็กแนวให้ดูของถาปัดและวิดวะ ส่วนของวิทยาการ,แพทย์ ไปดูบุตรหลานร่วมกิจกรรม เพราะผู้ปกครองก็จ่ายไปมากอยู่.. ) 
**เมื่อ ปี4 ไปดูละคณะตัวเอง....และหลังจากนั้นก็สาบานกับตัวเองว่า....ตูจะไม่ดูละครเวทีมหาลัยอีกเลย.....-*-

32. กังสดาล ถือเป็นแหล่งที่รวบรวมอาหาร หอนอก และสาวเภสัช เอาไว้มากที่สุดใน มข. 
( กังสดาล เป็นชื่ออพาร์ทเม้นท์หนึ่ง ในย่านนั้น แต่กลายเป็นชื่อที่เรียกขานและเข้าใจกันโดยทั่วไปของเด็ก ม. ว่าคือ ย่านที่ติดรั้ว มข. ฝั่งคณะเภสัช และ ทันตฯ หรืออีกชื่อหนึ่ง คือ ซ.บาดาล เพราะติดกับหน่วยงานของจังหวัดที่วิจัยเกี่ยวกับน้ำบาดาล ) 
**กังสดาลหอตูเองแหละเฮ้ย...... รับรองว่าอาหารอร่อยมากๆโดยเฉพาะยำและราดหน้า หน้าเซเว่น(เราลูกค้าประจำเองแหละ)

33. กังสดาล แบ่งเป็น กังบน กับ กังล่าง สมัยก่อน กังบนขายแต่อาหารแพง ๆ เน้นรสชาติ ส่วนกังล่างขายอาหารถูก ๆ เน้น ปริมาณกับคุณภาพ แต่เดี๋ยวนี้ เนื้อที่ กังบน โดนทุบเอาไปสร้าง ถนนเกือบหมดแล้วทำให้ร้านอาหารที่กังบนส่วนใหญ่ ย้ายลงมาเบียด กับร้านอาหารที่ กังล่าง ซะ งั้น 
( หลังๆ อาหารเริ่มไม่ค่อยอร่อย และทำเลไม่ค่อยน่านั่ง เพราะแฉะและฝุ่นเยอะ เนื่องจากถนนที่สร้างใหม่ ชาตินี้คงไม่เสร็จ ) 
**เวน....เดี๋ยวนี้เป็นแบบนี้เรอะ...เย้ย.... (แต่ก่อนกินแต่กังบนอย่างเดียว)

34. U-center คือแหล่งรวมอาหาร ร้านเกม และร้านการ์ตูน ของ มข. 
( ข้าวเหนียวหมูปิ้ง เจ้าที่ขึ้นชื่ออยู่ที่นี่ด้วย ขายกัน 24 ชม. ไม่ต้องกลัวอดตาย นอกจากหมูปิ้งแล้วยังมีเนื้อแดดเดียวย่าง ปลาส้มทอด แหนมย่าง ตับย่าง ห่อหมก (แบบอีสาน) ซุปหน่อไม่ แจ่วบอง (น้ำพริกปลาร้า) หมูยอทอด ฯลฯ ซู้ด.. พูดแล้วอยากกินมาก ) 
**พักหลังๆ(ตอนเรียน)ไปเล่นเกมส์ที่ ยู บ่อยนะ 555+

35. ที่ U-center จะมีซอยๆ หนึ่ง ชื่อว่า "ซอยโลกีย์" ไม่ขออธิบายนะ ชื่อมันฟ้องอยู่ แล้ว 
( ผู้หญิงคนไหนเดินหลงเข้าไปคนเดียว นึกว่าโดนข่มขืนทางสายตา เมื่อก่อนเรียก ซ.กาแฟ เพราะ เป็นทำเลที่ตั้งของร้านกาแฟ (ร้านนม) ตอนหลังร้านกาแฟขยายกิจการไปหลายทิศทางแบบไม่มีจำกัด ซ.กาแฟเริ่มเปลี่ยนเป็นร้านเหล้า และเป็นที่มาของชื่อดังกล่าว) 
**ตูก็เพิ่งรู้ว่ามันมีที่มาแบบนี้ว่ะ (แต่ไม่เคยโดนมองเพราะไปเป็นหมู่คณะ 555+)

36. ก๋วยเตี่ยวดู๋ดี๋ที่ซอย โลกีย์ อร่อยกว่าทุก สาขา ใน มข. 
( แม่ค้าหน้าตาโหด และกระดูกในชามก๋วยเตี๋ยวยังโหดอีกด้วย (ใหญ่แทบจะล้นชาม) ) 
**ยืนยัน 1000% กระดูกโหดมากๆ แทบบ้าเลยล่ะ -*-

37.คุณ สามารถดูหนังเกาหลี 3 เรื่อง 20 บาท ได้ที่ U-center 
( เมื่อก่อนดูหนังที่โรงหนัง โฮมเธียเตอร์ เรื่องละ 10 -15 บาท ) 
**โฮม ไม่เคยไป ไม่เคยเช่าดูฟ่ะ

38. คุณสามารถร้องเกะชั่วโมงละ 50 บาท ได้ที่ U-center 
( เมื่อก่อนขับไปร้องกันตามโรงแรม หารๆกันแล้วก็สู้ราคาไหว แต่ได้ร้องคนละสามเพลงนะ ถ้ามากกว่านั้นก็เริ่มแพงแระ) 
**ไปร้องแต่เกะในเมืองว่ะในมอไม่เคยร้อง

39. อย่าสับสนระหว่าง U-center กับ U-bar เพราะมันไม่เกี่ยวข้องกันเลย U-bar ไม่ได้อยู่ในมอนะ อย่า เข้าใจผิด 
( U-bar อยู่ ซ.โลกีย์ แถบๆโรงแรมโซฟิเทล ) 
**U-bar....มันอันหยัง.... -*-

40. โรงพยาบาลศรีนครินทร์เป็นที่ตั้งของคณะ แพทย์ มข. เป็นโรงพยาบาลที่ใหญ่ที่สุดในอีสาน มีคนไข้ เยอะมากจนถึงขั้นต้องเอาเสื่อไปปูนั่งที่ลานจอดรถเพื่อรอเข้าห้องตรวจโรค 
( เป็นโรคพยาบาลแห่งความภาคภูมิใจ และ นศ.ใช้บริการฟรี ) 
**แถมหมอส่วนใหญ่คัดหน้าตามาทั้งนั้น....(ฮา)

41. เค้าเล่ากันว่า อย่ามองจั่วของตึกคณะ ถาปัด ขณะขับรถเพราะมันจะเกิดอุบัติเหตุ 
( เพราะจั่วสถาปัตย์ รูปทรงแปลกตา แต่ดันมีทำเลอยู่ตรงสี่แยกไฟแดง ทางไปคณะแพทย์ (โรงพยาบาลศรีฯ) , ทางไปคณะศึกษาศาสตร์ คณะวิทยาการ คณะมนุษย์ คณะวิดวะ ฯลฯ ) 
**แถวนั้นที่มันแรงค่ะ ไม่เกี่ยวกับหน้าจั่วถาปัดหรอก....

42. เจ๊พร เป็นแหล่งรวม ร้านอาหาร ร้านนม และของกุ๊กกิ๊ก ของ มข. 
( เจ๊พร เป็นเจ้าของที่ดินแถบนั้น ปล่อยให้เช่าในราคาสูงลิ่ว ร้านนมในย่านนั้นถ้าไม่เจ๋งจริง ก็เจ๊งกันไปมากแล้ว แต่น่าแปลกที่ยังมีร้านใหม่มาติดกับเจ๊แกอยู่เรื่อยๆ และเจ๊งไปเรื่อยๆเช่นกัน ตอนหลังเริ่มเปลี่ยนเป็นร้านจิ้มจุ่ม หมูกระทะ ) 
**เจ๊แกโหดจริงๆแหละ ที่แพงมากๆ

43. ร้าน 25th copy เป็นร้าน ถ่ายเอกสาร ตั้งอยู่ที่เจ๊พร ถ้าเกิดตำรวจลองเข้ามาตรวจค้น จริง ๆ มีหวังเจ้าของร้านโดนค่าปรับโทษฐานละเมิดลิขสิทธิ์เป็นร้อย ล้าน แน่ๆ เพราะเจ๊แกเล่นเอาหนังสือเกือบทั้งห้องสมุด + ข้อสอบเก่า ของทุกคณะ ทุกชั้นปีมา copy ขายเองหมด 
( และสามีเจ๊แก ทำหน้าตาเป็นมาเฟียมากๆ (ทั้งที่หุ่นโคตรขี้ก้างเลย) เวลาไปซีร็อกซ์ )
**ไม่เคยถ่ายร้านนี้ว่ะ.....

44. มี Virus คอมพิวเตอร์ ชื่อ "clip VDO" ระบาดหนักในมข. เมื่อปี 2546 จนถึงขั้น พบไวรัสตัวนี้ในแฮนดี้ไดรฟ์และคอมทุกเครื่องของ นักศึกษา มข.
( โชคดี จบออกมาปีนั้นพอดี ) 
**(ชักลังเล...ในวงเล็บไม่ใช่เพื่อนตู...แต่เป็นรุ่นพี่ตูนี่ฟ่ะ).....ตัวนี้ไม่เคยเจอ แต่เจอตัวอื่น ร้ายพอกัน -*-

45. ที่ มข. มีร้านดอกไม้วางแผงขายที่กังสดาล วัน ธรรมดา กุหลาบดอกละ 5 บาท วันวาเลนไทน์ กุหลาบดอกละ 50 ส่วนวัน รับปริญญา ซื้อกุหลาบ 1 ช่อ = ค่าเช่ารถสาย 8 วิ่งรอบ ขอนแก่น 
( ดอกไม้วันก่อนรับปริญญา ช่อละหลายร้อย พอถึงวันรับ เหลือช่อละหลายสิบ บางทีซื้อหนึ่ง แถมหนึ่ง ...คงเหมือนกันทุก ม. ) 
**ไม่เคยซื้อดอกไม้เลย....ขอบอก...วันรับปริญญาเคยซื้อให้รุ่นพี่ทีนึงเอาร้านไหนถูกเอาอันนั้นแหละ

46. ก่อนจะมาเรียน มข. หัดขับ ยานพาหนะ ให้ได้ ซักอย่างก่อนจะดีมาก เอาแค่จักรยานก็ยัง ดี 
( แต่ปั่นจักรยานก็ต้องเผื่อเวลามากหน่อย เพราะแต่ละที่มันห่างกันโขอยู่ แถมแสงแดดยังร้อนแผดเผา ถ้าทนไหวก็ไม่ขัดศรัทธา แต่แนะนำแมงกะไซค์แว้นไปแว้นมา สะดวกสุด)
**นั่นเองก่อนเข้าต้องรีบหัดขี่มอไซต์อย่างด่วนจริงๆแหละเราน่ะ

47. ร้านตัดผมที่ มข. ที่ดัง ๆ มี 2 ที่คือ complex กับ BigCut โดยค่าตัดผมที่ complex หัวละ 40 บาท ส่วน ที่ BigCut หัวละ 200 บาท ซึ่งสุดท้ายแล้วผู้ที่ใช้บริการ ทั้ง 2 ร้านนี้ ต่างก็ต้องลงเอยที่ทรงสกินเฮ้ดด้วยกันทั้งสิ้น 
( ร้าน Bigcut มาจากชื่อเจ้าของร้าน คือพี่บิ๊ก พี่แกเป็นกระเทยใจดี พูดจาดี มารยาทดี ไม่โหวกเหวกโวยวายเหมือนกระเทยท้องตลาด แถมทีมงานแกยังเป็นมืออาชีพอีกด้วย วันปริญญาร้านนี้มีจองคิวตั้งแต่เที่ยงคืนยันแปดโมงเช้า) 
**ไม่เคยเข้า.....เลยไม่รู้....(แถมแต่งหน้ารับปริญญาก็แต่งเองว่ะ -*- )

48. "เจ้าพ่อมอดินแดง" คือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เป็น ที่เคารพของชาว มข. มีคนนำช้างกับม้ามาถวายท่านเจ้าพ่อเฉลี่ยวันละ 100 ตัว 
( มีเรื่องเล่ามาว่า ใครบนแล้วไม่แก้บน ได้มีอันเป็นโน่นเป็นนี่ต่างๆกันไป แต่ถ้าใครไม่บน แค่กราบไหว้เฉยๆก็เป็นมงคล มีพระคุ้มครอง และเซียมซีที่ศาลเจ้าพ่อฯ แม่นมาก ) 
**แม่นแล้ว ตอนเข้าให้ก็ถวายช้างไม้ถวายท่านไปคู่นึงเหมือนกัน ก่อนจบก็ไหว้ด้วยบอกว่าจะไปแล้วนะคะ...ฮือ....จะร้องไห้.....

49. คณะทุกคณะย่อมจะต้องมีห้องประชุมใหญ่เป็นของตนเอง แต่เท่าที่เห็นเวลามหาลัยจะจัดกิจกรรมอะไรซัก ที ถ้าไม่ใช้ห้องประชุมของคณะศึกษาศาสตร์ก็ต้องห้องประชุมของ สัดแพด 
( เพราะมันใหญ่และเดินทางสะดวก ) 
**แต่เอาศึกษาเถอะว่ะ สัตว์แพทย์ปลีกลิเวกเกิน.....

50. "หลังเต่า" คือหอประชุมใหญ่ของ มหาลัย (หอประชุมกาญจนาภิเษก) ตั้งอยู่ริมบึงสีฐาน หน้ามอ (ฝั่ง ถ.มะลิวัลย์) เป็นหอประชุมที่รูปทรงสวยมากในความคิดของผม ถ้าสีมันซีดลงอีกนิด เวลามองไกล ๆ คงจะคล้าย ๆ โอเปร่าเฮาส์ ที่อยู่ในออสเตรเลีย หอประชุมนี้จะเปิดใช้ในงานสำคัญ ๆ เช่น ปฐมนิเทศนักศึกษา ไหว้ครู บายศรีสู่ขวัญ พระราชทานปริญญาบัตร และ งาน EXPO เป็นต้น 
( เมื่อก่อนหลังคาเป็นสีเหลืองทอง เพราะออกแบบให้เข้ากับชื่อหอประชุม และดั้งเดิมพื้นที่ตรงนั้นเป็นป่าต้นพยอมหลายสิบไร่ เวลาพระอาทิตย์ขึ้นในหน้าหนาวจะสวยมาก เพราะมีหมอกลอยอยู่ระดับพื้นดิน เล่ากันมาต้องไหว้เจ้าที่อยู่หลายครั้งกว่าจะสร้างเสร็จ ปัจจุบันมีศาลเจ้าที่อยู่ทางด้านข้างของหอประชุมที่ติดกับโรงเรียนสาธิตศึกษาศาสตร์ ) 
**เพิ่งรู้นะเนี่ย ว่าเรียกหลังเต่า.... มันซีตลงจริงๆ ปล.ค่าเช่าต่อคืนแพงมหาประลัยเลยล่ะ(ปล.ที่แถวนั้นก็เฮี้ยนนะคะ)

51. ท่า boom ของ มข. ถือเป็น ท่า boom ที่มีประสิทธิภาพมากเพราะคุณจะได้ออกกำลังกายทั้ง หน้าท้อง สะโพก ต้นขา ลำคอ และหลัง 
( และเชียร์ลีดเดอร์ที่แอ่นหลังได้มากเท่าไหร่ ก็แสดงถึงความเป็นโปร มากเท่านั้น, เมเจอร์ลีดมักจะแก่งแย่งกันระหว่างตัวแทนจากคณะมนุษย์ วิทยาการ วิทยาศาสตร์ ช่วงหลังคณะแพทย์เริ่มมาแจม) 
**อ่านะ...คณะเรามีดีแค่เชียร์ลีดเดอร์..... แต่ถ้าเรื่องกองเชียร์เฉือนกันไม่ลงระหว่างศึกษากับพยาบาล

51. สีประจำ มข. คือ สีอิฐ 
( แต่ชื่อเล่นของ มข. คือ มอดินแดง เพราะพื้นที่ดั้งเดิมเป็นดินลูกรัง หรือดินแดง ) 
**ใครไม่รู้ อย่ามาบอกว่าตัวเองเป็นศิษย์ที่นี่.....

52. ดอกไม้ประจำ มข. คือ ดอกกัลปพฤกษ์ ซึ่ง ทุกวันนี้เพื่อนผมบางคนยังถามผมว่า ไอ้ดอกนี่มันปลูกอยู่ส่วนไหนของ มอเราวะ?" 
( ต้นกัลปพฤกษ์ ปลูกอยู่ตลอดเส้นทางหลักของมหาลัย โดยเฉพาะเส้นทางที่สาย 8 วิ่งผ่านซึ่งเชื่อมระหว่างประตูทางเข้า ฝั่ง ถ.มะลิวัลย์ ถ.มิตรภาพ กัลปพฤกษ์ออกดอกในหน้าหนาว ซึ่งบรรยากาศสองฝั่งถนนจะเหมือนดอกซากุระ)
**มันปลูกออกจะเยอะนะเออ...มองไม่เห็นหรอ.....

53. ภายใน มข. มีร้าน seven-eleven ถึง 10 สาขา 
( มันบ้าไปแล้ว... แต่เด็ก มข. ก็เข้ากัน 24 ชม. จริงๆนะ) 
**อันก่อนหน้ามี 8 อันนี้เพิ่มเป็น 10 เรอะ!!!!

54. ร้าน seven-eleven สาขากังสดาล ถือเป็นอะไรที่ ไร้สาระที่สุดในโลก เพราะดันมี 2 สาขามาเปิดห่างกันแค่ 10 เมตร 
(เห็นด้วย โดยประการทั้งปวง) 
**กุเพิ่งรู้ว่าเค้ามาเปิดอีกสาขาว่ะ...... -*-(สงสัยตอนจบไปแล้วเพิ่งมาเปิด) ไร้สาระจริงๆ -*-

55. นิตยสาร Boom comic เป็นนิตยสารสุดฮิตมากใน มข. ฮิตขนาดไหนน่ะเหรอ ก็ขนาดร้านการ์ตูนที่ U-center สั่งมา อาทิตย์ละร้อย ๆ เล่ม ยังสามารถขายได้หมดภายในวันเดียวน่ะ สิ 
( แต่นิตยสารที่ไม่เคยฮิตเลย คือนิตยสารของมหาลัย ที่มาๆหายๆเป็นพักๆ แล้วแต่ สโมฯ (เดี๋ยวนี้เรียก องค์กรฯ แล้วดิ่นะ)) 
**555+ นั่นสิ!!!! ปล.รวมเล่มเร็วที่สุดในโลกก็ที่นี่แหละ อ่านเสร็จร้านเช่าฉีกมารวมเล่มเองเลยนะเออ 555+

56. ที่ complex ขายข้าวแกงหลากหลาย พอๆกับบุฟเฟต์ โรงแรมโซฟิเทล 
( แต่รสชาติไม่พัฒนาไปไหน แม้จะเปลี่ยนสภาพจากโรงอาหารกลางเก่าๆ โทรมๆ มาเป็นคอมเพล็กซ์สวยหรูแล้วก็ตาม ) 
**แต่ก๋วยเตี๋ยวเรืออร่อยนะเฟ้ย!!!!

57. ไม่มีปีใดที่ freshly มข. จะผ่าน เชียร์กลางโดยไม่ได้ยินเสียงร้องไห้แห่งพลัง สามัคคี 
( เชียร์กลางในปีหลังๆ ไม่เข้มข้นเหมือนก่อนแล้ว เพราะคณาจารย์อยากให้เลิกเชียร์ แต่เราว่าดีนะ อย่างน้อยก็ไปนั่งบ้ากันอยู่พักนึง แล้วก็มีความทรงจำขำๆมาเม้าท์กัน โดยเพาะเวลานินทาพี่ staff เชียร์กลาง ) 
**ไม่อยากจะบอกเลย...แต่ว่า....เราไม่ได้เข้าเชียร์กลางล่ะ!!!!!

58. เพลงมาร์ช มข. เพราะจริงๆ นะ (เราอ่านมาถึงข้อนี้เรานะขนลุกเลยอ่ะ) 
( คิดถึง...) 
**no comment..... T T

59. สนามกีฬากลาง มข. เป็นสนามที่ออกแนว "สาธารณะ" มาก ๆ หลายเดือนก่อนเห็นโรงเรียนอนุบาลที่ไหนก็ไม่รู้ มาขอใช้ สนามกีฬากลาง มอเรา แข่งกีฬาสี ซะงั้น 
( แต่เป็นสนามกีฬาที่ นศ. ส่วนใหญ่ขับรถผ่านมากกว่าใช้บริการ ) 
**ปลูกหญ้าทีตอนเค้าจะแข่งนอกนั้น ปล่อยให้มันดินแดงแบบนั้นแหละ

60. จำนวนนักศึกษา มข. ทั้งหมดมี 50,000 คน สามารถเกณฑ์เอานักศึกษา มข. ไปลงชื่อขับไล่รัฐมนตรีได้สบายๆ เลยล่ะ 
( เอามอเตอร์ไซค์ของ น.ศ. แต่ละคนมาจอดเรียงกันคงน่าดูพิลึก ) 
**มาดูที่คณะมนุษย์สิ....แล้วจะเห็นเอง.....(มอไซต์จอดเรียงน่ะ) หาทางออกแทบไม่เจอ -*-

61. ร้าน CSK เป็นร้านเน็ตที่ดัง และใหญ่มาก ใน มข. ถ้าคุณไม่รู้มาก่อน ว่านี่คือร้านเน็ต คุณจะต้องนึกว่าที่นี่คือ บริษัท IBM ชัวร์ 
( ตั้งอยู่ทางไปบ้านโนนม่วง มีเครื่องคอมเป็นร้อยๆ เดินเข้าไประวังหลงทาง) 
**อ่อ....จำได้ว่าเคยผ่านตอนไปรับปริญญา

62. ถ้าคุณสังเกตดีๆ ด่านตรวจจับหมวกกันน็อกใน มข. ทุกด่าน ทั้งตรงทางเข้ากังสดาล ทางเข้า U-center หรือ ตรง ทางออกฝั่งเจ้าพ่อมอดินแดง จะต้องมีถนนเล็ก ๆ ตัดผ่านก่อนจะถึง ด่านตรวจเพื่อให้เราขับอ้อมหนีตำรวจเสมอ 
( เด็ก มข. หน้ามึนที่สุด ฮิ ฮิ ) 
**หนีเข้าตรอกสุดกู่ก็มีนะเออ เด็ดมาก มอ ตู.....

63. หอ 27 ผีดุสุดๆๆๆ ส่วนหอ 25 สาวๆ น่ารักสุดๆ 
( หอ 27 เป็นหอชาย สร้างใหม่ หลังหอติดป่านิดหน่อย เป็นที่มาของความหลอน ส่วนหอ 25 ทำเลอยู่ตรงข้ามคณะวิดวะ พยาบาล และ อยู่ในรั้วเดียวกันกะหอ 21,23 และ 24 หอในรั้วนี้มีชื่อเล่นว่า คอนแวนต์ เพราะบรรยากาศเหมือนโรงเรียนคอนแวนต์คุณหนูไฮโซ ) 
**ตามจริงทุกหอมันมีเรื่อง "ผี" หมดนั่นแหละ.... แบบช่วงนึงหอคอนแวนต์มีเปรตมาอยู่ด้วยแหละ (เหมือนทางแถบหอ 14 ก็เคยได้ยิน)

64. ค่า เทอมของ มข. 1 หน่วยกิต แพงกว่า รามฯ 35 บาท 
( ถูกเหมือนเรียนฟรี แต่ก็ยังไม่ตั้งใจเรียน แหะ แหะ .. ) 
**เออว่ะ.... ถูกแต่ดันไม่ตั้งใจเรียน เห็นด้วย !!!!

 

---

 

ทิ้งท้ายสักนิด...ใครคิดจะเข้ามหาวิทยาลัยของแก่นอ่านแล้วอย่าเพิ่งหนีไปสอบที่อื่นล่ะ จริงๆแล้วเข้าไปมันไม่มีอะไรหรอก(เราไม่เคยเจอผีสักกะรายที่มหาลัยนะ)

 

Fwmail.. rattapum_may@h