เรเดียส คืออะไร ช่วยฟื้นฟูผิวแบบไหน และต้องทำกี่ครั้งถึงจะเห็นผล
เรเดียส คืออะไร ช่วยฟื้นฟูผิวแบบไหน และต้องทำกี่ครั้งถึงจะเห็นผล
เรเดียส กำลังเป็นหัตถการงานผิวที่ได้รับความสนใจอย่างมากในช่วงหลัง เพราะไม่ได้ช่วยแค่เติมเต็มใบหน้าให้ดูอิ่มฟูเท่านั้น แต่ยังทำหน้าที่กระตุ้นให้ผิวสร้างเส้นใยคอลลาเจนและอิลาสตินใหม่ ส่งผลให้ผิวดูแข็งแรง สุขภาพดี และดูสดใสขึ้นจากภายในอย่างเป็นธรรมชาติ
ก่อนตัดสินใจฉีดเรเดียส การทำความเข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับเรเดียสให้ชัดเจนเป็นสิ่งสำคัญ ทั้งในแง่ของ “เรเดียสคืออะไร” “เรเดียสช่วยเรื่องผิวด้านไหนบ้าง” และ “ใครบ้างที่เหมาะกับการฉีดเรเดียส” เพื่อให้สามารถเลือกหัตถการได้ตรงกับปัญหาผิวและเป้าหมายที่ต้องการฟื้นฟูผิวของตัวเองได้อย่างมั่นใจมากที่สุด
เรเดียส คืออะไร และมีหลักการทำงานอย่างไร
เรเดียส เป็นสารเติมเต็มที่ออกแบบมาเพื่อช่วยฟื้นฟูผิวและเพิ่มความกระชับจากภายใน โดดเด่นจากฟิลเลอร์ทั่วไปเพราะไม่ได้ใช้ Hyaluronic Acid (HA) เป็นตัวหลัก แต่เลือกใช้สารชนิดพิเศษชื่อ Calcium Hydroxylapatite (CaHA) ซึ่งเป็นสารที่มีโครงสร้างคล้ายวัสดุที่พบได้ตามธรรมชาติในร่างกาย เช่น กระดูกและฟัน ทำให้เรเดียสมีความเข้ากันกับผิวได้ดีและมีความปลอดภัยสูง
ผลิตภัณฑ์เรเดียสถูกพัฒนาโดย Merz Aesthetics และถูกนำมาใช้ในวงการแพทย์ความงามทั่วโลกมาอย่างยาวนาน ผ่านการรับรองจากหลายสถาบันมาตรฐาน ทำให้เรเดียสถูกจัดเป็นหนึ่งในตัวเลือกยอดนิยมสำหรับผู้ที่ต้องการฟื้นฟูคุณภาพผิวอย่างล้ำลึก ไม่ใช่เพียงการเติมเต็มแต่เป็นการเสริมความแข็งแรงของผิวในระยะยาว
CaHA คืออะไร และทำไมถึงถูกใช้ในเรเดียส
สาร CaHA (Calcium Hydroxylapatite) คือแร่ธาตุที่พบในร่างกายของมนุษย์ตามธรรมชาติ แต่สำหรับการนำมาใช้ในผลิตภัณฑ์เรเดียสและการแพทย์จะถูกผลิตในรูปแบบสังเคราะห์เพื่อให้มีความบริสุทธิ์สูง ปลอดภัย และคงตัวกว่าในธรรมชาติ
คุณสมบัติของ CaHA ที่ใช้ในเรเดียส ได้แก่
- มีรูปทรงเป็น ไมโครสเฟียร์ทรงกลม ขนาดประมาณ 25–45 ไมครอน
- ลอยตัวใน เจลอุ้มน้ำ (gel carrier) เพื่อช่วยให้ฉีดเข้าสู่ผิวได้ง่าย สม่ำเสมอ และยังปลอดภัย
- ถูกนำมาใช้ในงานแพทย์มานานกว่า 25 ปี ทำให้ข้อมูลด้านความปลอดภัยมีความชัดเจนและเชื่อถือได้
สิ่งที่ทำให้ CaHA น่าสนใจ คือความสามารถในการ กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ ภายในผิว ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการฟื้นฟูผิวให้กลับมากระชับและแข็งแรงอีกครั้ง
หลักการทำงานของเรเดียส
เรเดียสมีการทำงานแบบ “สองระยะสำคัญ” ได้แก่
1.ให้ผลลัพธ์ทันทีหลังฉีด
เจลอุ้มน้ำที่ล้อมรอบอนุภาค CaHA จะช่วยเติมเต็มในจุดที่ต้องการ เช่น ร่องลึกหรือบริเวณที่ผิวขาดความกระชับ ส่งผลให้เห็นการเปลี่ยนแปลงได้ทันทีหลังฉีด ผิวดูอิ่มฟูขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
2.กระตุ้นคอลลาเจนในระยะยาว
เมื่อเจลค่อย ๆ สลายตัว CaHA จะยังคงอยู่ในชั้นผิวและทำหน้าที่เป็น “โครงสร้างกระตุ้น” ให้ไฟโบรบลาสต์สร้างคอลลาเจนใหม่อย่างต่อเนื่อง กระบวนการนี้จะช่วย
- เพิ่มความแข็งแรงของผิว
- ทำให้ผิวแน่นและยืดหยุ่นขึ้น
- ฟื้นฟูรอยลึกและความหย่อนคล้อยจากภายใน
เมื่อเวลาผ่านไป อนุภาค CaHA จะสลายไปตามกลไกธรรมชาติของร่างกาย เหลือไว้เพียงคอลลาเจนใหม่ที่ช่วยคงผลลัพธ์ของเรเดียสให้อยู่ได้ยาวนาน
เรเดียส ช่วยเรื่องอะไรบ้าง
เรเดียส เป็นสารกลุ่ม Biostimulator ที่ออกแบบมาเพื่อเสริมสร้างคอลลาเจนและอิลาสตินในผิวอย่างล้ำลึก จุดเด่นของเรเดียสคือการกระตุ้นให้ผิวฟื้นฟูตัวเองจากภายใน จึงไม่ใช่แค่การเติมเต็มผิวแบบชั่วคราว แต่เป็นการปรับโครงสร้างของผิวให้แข็งแรงขึ้นอย่างต่อเนื่องหลังฉีด เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผิวในหลายด้านพร้อมกัน
1.เสริมความแข็งแรงของโครงสร้างผิว
เรเดียสมีคุณสมบัติเด่นในการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนชนิดที่ 1 ซึ่งเป็นส่วนประกอบหลักของชั้นผิวและเป็นตัวกำหนดความแน่นของผิว เมื่อผิวมีคอลลาเจนเพิ่มขึ้น โครงสร้างผิวจะมั่นคงขึ้น ช่วยให้ผิวกระชับ เต่งตึง และดูมีมิติที่ชัดขึ้น
2.ฟื้นฟูคอลลาเจนและอิลาสตินในชั้นผิวลึก
นอกจากคอลลาเจนชนิดที่ 1 เรายังพบว่าเรเดียสช่วยเสริมสร้างคอลลาเจนชนิดที่ 3 ซึ่งมีความสำคัญต่อความเรียบเนียนและความยืดหยุ่นของผิว เมื่อคอลลาเจนชนิดที่ 3 เพิ่มขึ้น ผิวจะเรียบขึ้น ริ้วรอยลดลง และผิวโดยรวมดูแน่นขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
3.เพิ่มอิลาสตินช่วยให้ผิวเด้งและคืนตัวดี
อิลาสตินเป็นตัวทำให้ผิวมีความยืดหยุ่น เมื่อฉีดเรเดียส ผิวจะได้รับการกระตุ้นให้สร้างอิลาสตินเพิ่มขึ้น ทำให้ผิวที่เคยหย่อนคล้อยกลับมาเด้ง กระชับ และยืดหยุ่นดีขึ้น ซึ่งเป็นผลลัพธ์สำคัญที่ทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์กว่าเดิม
4.กระตุ้นการสร้างเส้นเลือดฝอยใหม่
อีกหนึ่งความสามารถของเรเดียสคือการเสริมการไหลเวียนเลือดภายในผิวผ่านการสร้างเส้นเลือดฝอยใหม่ ส่งผลให้เซลล์ผิวได้รับออกซิเจนและสารอาหารมากขึ้น ผิวจึงดูมีชีวิตชีวา สีผิวสม่ำเสมอ และฟื้นตัวได้ดีกว่าเดิม
5.เพิ่มความชุ่มชื้นและทำให้ผิวยืดหยุ่นขึ้น
เรเดียสช่วยเสริมการสร้างสารในกลุ่มที่ช่วยอุ้มน้ำในผิว เช่นโปรตีโอไกลแคน ทำให้ผิวดูนุ่ม ชุ่มชื้น และยืดหยุ่นมากขึ้น เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวแห้ง ผิวขาดน้ำ หรือผิวดูหมองคล้ำจากการเสื่อมสภาพ
ผลลัพธ์หลังฉีดเรเดียสเป็นอย่างไร
เรเดียสทำงานในสองช่วงสำคัญ คือผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นทันทีหลังฉีด และผลลัพธ์ที่พัฒนาขึ้นเรื่อย ๆ จากกระบวนการสร้างคอลลาเจนและอิลาสตินใหม่ของผิว ดังนั้นผลลัพธ์จากเรเดียสจึงเป็นลักษณะ ค่อยเป็นค่อยไปแต่มั่นคง และดูเป็นธรรมชาติ
1.ผลลัพธ์ทันทีหลังฉีดเรเดียส
หลังฉีดเรเดียส ผิวจะเกิดการเปลี่ยนแปลงแบบรวดเร็ว เนื่องจากเจลอุ้มน้ำรอบอนุภาค CaHA ช่วยเพิ่มวอลุ่มในบริเวณที่ฉีดทันที
- ผิวดูอิ่มฟูขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
- ร่องลึกหรือรอยยุบตัวในบางบริเวณดูเต็มเรียบขึ้น
- ผิวดูแน่นขึ้นเล็กน้อยเพราะเกิดการเติมเต็มในชั้นผิว
ช่วงนี้ผิวอาจรู้สึกตึงเล็กน้อย และจะค่อย ๆ เข้าที่ภายในไม่กี่วัน
2.ผลลัพธ์ในช่วง 2–4 สัปดาห์
เมื่อเรเดียสเริ่มทำงานที่ระดับโครงสร้างผิว อนุภาค CaHA จะเริ่มเป็นตัวกระตุ้นให้เซลล์ผิวผลิตคอลลาเจนและอิลาสตินใหม่
ผลที่เริ่มสังเกตได้ในช่วงนี้ ได้แก่
- ผิวมีความกระชับมากขึ้น
- ความยืดหยุ่นดีขึ้น ผิวเด้งกว่าเดิม
- รูขุมขนดูเล็กลงในบางรายจากโครงสร้างผิวที่เรียบแน่นขึ้น
- ริ้วรอยบางจุดจางลง
นี่คือระยะที่ผิวเริ่มตอบสนองต่อการกระตุ้นคอลลาเจนจากเรเดียสอย่างแท้จริง
3.ผลลัพธ์ชัดเจนช่วง 8–12 สัปดาห์
ช่วงนี้เป็นช่วงที่คอลลาเจนและอิลาสตินถูกสร้างขึ้นอย่างต่อเนื่องจนเริ่มเห็นผลลัพธ์ที่โดดเด่น คุณจะสังเกตได้ว่า
- ผิวมีโครงสร้างแน่นและเต่งตึงขึ้น
- ความหย่อนคล้อยลดลง ใบหน้าโดยรวมดูยกกระชับ
- ร่องลึกค่อย ๆ ตื้นขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
- ผิวเรียบเนียนขึ้น ความชุ่มชื้นดีขึ้น
- กรอบหน้าชัดขึ้นในเคสที่ต้องการความกระชับ
ผลลัพธ์ระยะนี้ถือเป็นผลจากการฟื้นฟูผิวที่เกิดขึ้นจริงจากตัวของร่างกายเอง
4.ผลลัพธ์ระยะยาวของเรเดียส
แม้ตัวเจลของเรเดียสจะค่อย ๆ สลายไป แต่ “คอลลาเจนใหม่” ที่สร้างขึ้นยังคงอยู่และช่วยพยุงโครงสร้างผิวต่อไปอีกหลายเดือน
ความยาวนานของผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับ
- อายุ
- สภาพผิว
- ปริมาณเรเดียสที่ใช้
- เทคนิคการฉีด
- การดูแลผิวระยะยาว เช่น การพักผ่อน อาหาร และการป้องกันแสงแดด
ผู้ที่ดูแลตัวเองดีมักเห็นผลยาวนานกว่า
ฉีดเรเดียสกี่ครั้งถึงเห็นผลลัพธ์ชัดเจน
จำนวนครั้งที่ฉีดเรเดียสขึ้นอยู่กับสภาพผิวและระดับปัญหาของแต่ละคน แพทย์มักแนะนำตามเป้าหมายการรักษา ดังนี้
- กรณีหย่อนคล้อยเล็กน้อยถึงระดับปานกลาง ทำ 1 ครั้ง แล้วประเมินผลอีกครั้งประมาณ 2–3 เดือน
- กรณีผิวหย่อนคล้อยมาก หรือขาดคอลลาเจนมาก อาจต้องทำ 1–2 ครั้ง โดยเว้นช่วงระหว่างการทำประมาณ 2–3 เดือน เพื่อให้ผิวมีเวลาสร้างคอลลาเจนใหม่อย่างเต็มที่
- ฟื้นฟูบริเวณอื่น เช่น มือหรือคอ อาจต้องใช้มากกว่า 1 ครั้ง เนื่องจากผิวบริเวณเหล่านี้บางกว่าและต้องการการเสริมคอลลาเจนมากขึ้น
แพทย์จะเป็นผู้ประเมินปริมาณและรอบการฉีดเรเดียสที่เหมาะสมที่สุดตามสภาพผิวของแต่ละบุคคล
สรุปทุกเรื่องของหัตถการงานผิวเรเดียส
เรเดียส เป็นหัตถการฟื้นฟูผิวเชิงลึกที่ใช้สาร CaHA (Calcium Hydroxylapatite) ในการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอิลาสตินภายในผิว กระบวนการทำงานของเรเดียสจะช่วยปรับโครงสร้างผิวให้แข็งแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ไม่ได้ให้ผลลัพธ์แบบเฉียบพลันเหมือนฟิลเลอร์ทั่วไป แต่จะค่อย ๆ เห็นความเปลี่ยนแปลงขึ้นเรื่อย ๆ จนชัดเจนที่สุดในช่วงประมาณ 2–3 เดือน
คุณสมบัติของเรเดียสทำให้ผิวแน่นขึ้น เต่งตึงขึ้น และดูสุขภาพดีจากภายใน เหมาะสำหรับคนที่ต้องการฟื้นฟูผิวแบบยั่งยืน ไม่ใช่แค่เติมเต็มปริมาตรชั่วคราว แต่เป็นการเสริมโครงสร้างผิวให้แข็งแรงขึ้นในระยะยาว
วิเคราะห์หวย AI น่าจะออกรางวัลงวด 16 ธันวาคม 2568
ประธานกรรมการสิทธิฯ เขมร เย้ยกองทัพไทย ต้องพึ่งเครื่องบินรบ ถ้าไม่มี F-16 ก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้เขมร
แฉเรือทุนไทยขายน้ำมันให้เขมร อดีต สว ประกาศ เตือน ทัพเรือสั่ง 'จมเรือ' ได้ทันที เพราะประกาศกฎอัยการศึก
สถานทูตไทยทั่วโลก เปิด "สมรภูมิโซเชียล" ขย้ำ ฮุน เซน
อวสานตั๋วผี "ขายรถจำนำทอง" กว้านซื้อบัตรคอนเสิร์ต เจ๊งเหยียบ 1 ล้าน
ประธานสมาคม ตามไปตำหนินักกีฬา ถึงกับร้องไห้โฮ ในซีเกมส์ครั้งที่ 33
บิ๊กเล็ก ยันชัด จีนไม่ขอคืนจรวด GAM-102 ของเขมร ที่ไทยยึดมาได้
สื่อมาเลย์ แฉยับ ทหารเขมรทิ้งขีปนาวุธให้ไทยยึดฟรี เพราะใช้ไม่เป็น ขายขี้หน้าทั้งประเทศ
ช่องอากาศที่สวยงามและสีสันสวยงาม วิวและขอบด้านปราสาทเขาพระวิหาร นั่งรับลม
สิ่งของที่ไม่ควรใส่ ไม่ควรซัก ในเครื่องซักผ้า
โดรนพลีชีพหลักแสนจากรัสเซีย แพ้ทาง “ตะข่ายหลักร้อย” ฝีมือไทย! ทหารรับจ้างในเขมรถึงกับอุทาน Amazing Thailand
ชัยวรมันที่ 7 เรื่องราวที่หลากหลายคนนั้นไม่เคยรู้มาก่อน
จิรัฏฐ์” ไม่ไปต่อ ประกาศวางมือการเมือง เปิดทางภรรยาซบ “พรรคประชาชน”
คนขับรถนํ้ามัน ระบาย หลังถูกด่าว่าขายชาติ ทั้งที่ แค่ขับรถตามคำสั่ง