ว่าด้วยเรื่องของทัศนคติที่ดีในชีวิตของผม

ทัศนคติที่ดี คืออะไร ???

ทัศนคติที่ดี คือ การมองในด้านดีของสิ่งที่เกิดขึ้น

แม้จะเป็นเรื่องที่ไม่ค่อยดี เช่น ถูกตำหนิในเรื่องการทำงาน ก็จะมองว่าครั้งนี้พลาด โดนด่าไม่เป็นไร แต่เชื่อว่าตนเองสามารถแก้ไขเรื่องนี้ได้ และครั้งหน้าจะไม่ยอมให้โดนด่าอีก จึงพยายามหาทางให้ตัวเองเก่งขึ้น ไม่ยอมให้โดนด่าอีก

ทัศนคติที่ดีสร้างได้โดยพยายามคิดและทำสิ่งที่จะให้ผลในทางบวกกลับมา

ครั้งหนึ่งผมเคยถามเพจเจ้าของบทความเกี่ยวกับการทำงานไปว่าทัศนคติที่ดีในการทำงานสร้างได้อย่างไร ในเมื่อเรายังอ่อนประสบการณ์ในการทำงาน พอทำงานอะไรที่ยาก ที่ท้าทาย ก็ต้องมีบ้างที่โดนตำหนิ (โดนด่า) มันเลยทำให้ทัศนคติที่ดีมันหายไป  คำตอบอยู่ในเนื้อความข้างต้น...

ลึกๆผมเชื่อว่าทุกคนอยากให้ชีวิตของตัวเองให้ได้ดี ให้ก้าวหน้า มีหวังว่าชีวิตจะดีขึ้นในทุกๆวัน แต่บางครั้งการถูกอะไรบางอย่างกระทบกระเทือนจิตใจมันก็ทำให้คนเราก้าวหน้าได้ยาก

บางคนจมอยู่กับความแค้น(อย่างผม) บางคนโดนด่าแล้วอยากเอาไปพาลลงกับคนที่ด้อยฐานะกว่า บางคนถึงกับเลือกหนทางสีดำ โดยมองว่าเขาเติบโตมากับความรุนแรงของครอบครัวจนต้องพึ่งยาและความรุนแรงเพื่อให้ตนเป็นที่ยอมรับ ทั้งหมดนี้คือรากฐานของชีวิตแต่กำเนิดที่มีผลไปถึงทัศนคติ และทัศนคติก็เป็นสิ่งที่ทำให้ชีวิตคนเราเติบโตได้ไม่เท่ากัน

ผมยอมรับว่าผมเป็นคนทัศนคติไม่ดี ยังต้องปรับปรุง เคยคิดที่จะฝืนมองโลกในแง่ดี ทำแต่สิ่งที่คิดว่าจะเป็นทางออกของปัญหา แต่ก็ยังไม่สำเร็จ...อาจเป็นเพราะวิธีการยังไม่ถูกต้อง หรืออะไรก็ตามแต่ ในระหว่างที่ยังล้มเหลวอยู่ถ้ายังไม่รู้สึกว่าเรารู้ว่ากำลังได้รับบทเรียน รู้สึกว่าล้มเหลวแล้วไม่ได้อะไรเลย แบบนี้ก็อาจเรียกได้ว่าประสบการณ์ที่สูญเปล่า เพราะมันไม่ช่วยให้ชีวิตเติบโต

 เช่น ในระหว่างทำงาน เราถูกเจ้านายอคติมองเห็นข้อเสียของเราทั้งที่เป็นเรื่องเล็กแต่ก็กล่าวโทษได้มากมาย คอยบีบคั้นกลั่นแกล้งให้เราต้องลาออกไป ซึ่งเรื่องนี้ก็น่าจะพอมีให้เห็นในแผนกอยู่คน สองคนเป็นอย่างน้อย

ทัศนคติที่ดีคือการรู้ตัวว่าต้องปรับปรุงตัวอย่างไรให้มันได้ผล แต่ถ้ามันไม่ได้ผลสักที มันก็ทำให้เราจมอยู่กับทุกข์ สุดท้ายเราก็คิดอะไรดีๆไม่ออก กลายเป็นคนทัศนคติมืดบอดที่สังคมมองเราว่าไร้ค่า ทำประโยชน์ไม่ได้ นี่อาจกล่าวได้ว่าการมีทัศนคติดีหรือไม่ดี เป็นการให้ผลของวิบากกรรมอย่างหนึ่ง

ยิ่งไปกว่านั้น การฝืนมองโลกในแง่ดี บางครั้งกลับทำร้ายเราได้มากยิ่งกว่า คือพอเรารู้ตัวว่ามีทัศนคติไม่ดี เลยไปฝืนให้ความคิดของเราไปคิดแต่เรื่องดีๆ โดยที่ใจเรายังเจ็บแค้นอยู่ ผมเน้นคำว่าเจ็บแค้นใจ เพราะเป็นนิยามที่น่าจะถูกต้องที่สุดแล้ว ไม่ว่าจะแค้นใจตัวเอง หรือแค้นใจเพราะผู้อื่นก็ตาม

สรุปก็คือ ทัศนคติที่ดีเป็นเรื่องสำคัญและเป็นตัวตัดสินความสำเร็จหลายๆอย่างในชีวิต ขณะเดียวกัน การแสร้งฝินมองโลกในแง่ดี ฝืนที่จะมีทัศนคติที่ดีในยามที่เราคับแค้นใจก็เป็นเรื่องที่อันตรายเหมือนกัน