ด่วนที่สุด! อัปเดตล่าสุด บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ พ.ย. 68 ถอนเงินสดได้เท่าไหร่? เช็กให้ชัวร์! วงเงินเพิ่ม 1,150 บาท ใช้ยังไง ไม่พลาดสิทธิ์!

💡 สรุปให้ชัด: วงเงินบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เดือน พ.ย. 2568 กดเป็นเงินสดได้หรือไม่?

ก่อนอื่นต้องตอบคำถามหลักที่ทุกคนสงสัยก่อนเลยครับว่า "ถอนเป็นเงินสดได้กี่บาท?"

คำตอบที่ชัดเจนที่สุดคือ: วงเงินส่วนใหญ่ที่เข้าบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (วงเงินซื้อสินค้า, วงเงินส่วนลดก๊าซหุงต้ม, วงเงินค่าเดินทาง) <u>ไม่สามารถถอนออกมาเป็นเงินสดได้</u> และ <u>ไม่สะสมไปในเดือนถัดไป</u> (ต้องใช้ให้หมดในเดือนนั้น)

ดังนั้น: แม้จะมีวงเงินเข้ามารวมกันเป็นจำนวนมาก แต่ส่วนใหญ่แล้วจะเป็น "วงเงินสิทธิ" สำหรับใช้จ่ายตามวัตถุประสงค์ที่รัฐกำหนดเท่านั้น ไม่ใช่เงินสดที่สามารถกดออกมาจากตู้ ATM ได้โดยตรงครับ!

💰 เจาะลึก! วงเงินสิทธิที่คุณจะได้รับในเดือนพฤศจิกายน 2568

สำหรับเดือนพฤศจิกายน 2568 ถือเป็นเดือนที่ผู้ถือบัตรฯ ได้รับความช่วยเหลือเพิ่มขึ้นเป็นพิเศษ ตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่เห็นชอบโครงการเพิ่มวงเงินสวัสดิการให้แก่ผู้มีบัตรฯ โดยมีรายละเอียดวงเงินสิทธิที่เข้าในวันที่ 1 ของเดือน ดังนี้:

รวมวงเงินซื้อสินค้าที่ได้รับในเดือน พ.ย. 68 คือ 1,150 บาท ซึ่งต้องย้ำอีกครั้งว่า ไม่สามารถถอนเป็นเงินสดได้

📌 เงินส่วนไหนบ้างที่ "ถอนเป็นเงินสดได้"?

ถึงแม้ว่าวงเงินส่วนใหญ่จะถอนเป็นเงินสดไม่ได้ แต่ก็มีเงินสวัสดิการบางประเภทที่ "สามารถกดเป็นเงินสด" ได้ โดยส่วนใหญ่จะเป็นเงินที่โอนเข้า บัญชีธนาคาร หรือ บัญชีพร้อมเพย์ ที่ผูกกับบัตรประจำตัวประชาชน ได้แก่:

1. เงินเบี้ยความพิการเพิ่มเติม: สำหรับผู้ถือบัตรฯ ที่มีบัตรประจำตัวคนพิการและได้รับเบี้ยความพิการ 800 บาทต่อเดือน จะได้รับเงินเบี้ยความพิการเพิ่มเติม 200 บาท (จากวงเงิน 1,000 บาทต่อเดือน) โดยเงินส่วนนี้จะโอนเข้าบัญชีธนาคาร/พร้อมเพย์ สามารถกดเป็นเงินสดได้

2. เงินสงเคราะห์ผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อย: (กรณีมีการอนุมัติและโอนเงินตามรอบ) เงินที่โอนเข้าบัญชีธนาคารเพื่อรับเงินสงเคราะห์ตามเงื่อนไขที่กำหนด สามารถกดเป็นเงินสดได้

ข้อควรจำ: หากเป็นวงเงินที่โอนเข้า "กระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-Money)" ในบัตรฯ หรือบัญชีธนาคารที่ผูกพร้อมเพย์ด้วยเลขบัตรประชาชน (ยกเว้นวงเงินซื้อสินค้า) เงินส่วนนี้จะสามารถถอนออกมาใช้เป็นเงินสดได้

🚨 5 ข้อควรระวังในการใช้สิทธิ์ พ.ย. 68 อย่าให้เสียสิทธิ์!

เพื่อให้การใช้จ่ายด้วยบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเป็นไปอย่างราบรื่น ไม่เสียสิทธิ์ และไม่ผิดเงื่อนไขสำคัญ! โปรดตรวจสอบ 5 ข้อควรระวังนี้:

1. ใช้ให้หมดในเดือน: วงเงินซื้อสินค้า 1,150 บาท และวงเงินค่าเดินทาง 750 บาท ที่เข้าในวันที่ 1 พ.ย. จะไม่สะสมไปเดือนธันวาคม 68 หากใช้ไม่หมด จะถูกตัดยอดไปโดยอัตโนมัติ

2. ห้ามแลกเป็นเงินสด: ห้ามนำบัตรไปรูดซื้อสินค้าแล้วขอแลกคืนเป็นเงินสดจากร้านค้าโดยเด็ดขาด เพราะถือเป็นการกระทำผิดเงื่อนไข และหากร้านค้าถูกตรวจสอบพบ อาจถูกเพิกถอนสิทธิ์ได้ทั้งร้านค้าและผู้ถือบัตร

3. ใช้ซื้อสินค้าอุปโภคบริโภค: วงเงินซื้อสินค้ามีไว้สำหรับซื้อของจำเป็นในชีวิตประจำวันเท่านั้น ไม่สามารถนำไปซื้อสินค้าต้องห้ามบางประเภท เช่น เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ บุหรี่ หรือสิ่งของฟุ่มเฟือย

4. ตรวจสอบยอดเงิน: หากไม่แน่ใจว่าวงเงินเหลือเท่าไหร่ ควรตรวจสอบยอดเงินคงเหลือเป็นระยะ เพื่อวางแผนการใช้จ่ายให้หมดก่อนสิ้นเดือน

   • ช่องทางการตรวจสอบยอดเงิน:

     • โทรศัพท์: Call Center ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 0-2109-2345 หรือ Call Center กรมบัญชีกลาง 0-2270-6400 (ในวัน เวลาราชการ)

     • ตรวจสอบผ่านแถาลงกรณ์มือถือ (ถ้ามีแอปพลิเคชันที่รองรับ)

5. ใช้บัตรประชาชนแทนบัตรเก่า: ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐในโครงการปัจจุบัน จะใช้ บัตรประจำตัวประชาชนแบบสมาร์ทการ์ด ในการรูดซื้อสินค้าและใช้บริการต่าง ๆ แทนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐใบเดิม

📝 บทสรุปสำหรับชาว Postjung

เดือนพฤศจิกายน 2568 เป็นเดือนที่คุณได้รับวงเงินพิเศษเพิ่มขึ้นเป็น 1,150 บาท สำหรับซื้อสินค้าจำเป็น ดังนั้น วางแผนใช้จ่ายให้ดีที่สุด เพื่อให้เงินทุกบาททุกสตางค์เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ตัวคุณและครอบครัว

ย้ำอีกครั้งว่า เงินเพิ่ม 850 บาท และ วงเงินซื้อสินค้าหลัก 300 บาท รวมเป็น 1,150 บาท นั้น ไม่สามารถกดเป็นเงินสดได้ แต่เป็นสิทธิที่คุณจะนำไปแลกเปลี่ยนเป็นสินค้าและบริการได้ทันทีครับ!

หวังว่ากระทู้นี้จะเป็นประโยชน์และช่วยเคลียร์ทุกข้อสงสัยให้กับทุกคนนะครับ!

🔥 คำถามทิ้งท้ายสำหรับชาว Postjung 🔥

คุณวางแผนจะใช้วงเงิน 1,150 บาท ในเดือนนี้ไปซื้อสินค้าจำเป็นอะไรบ้างครับ? คอมเมนต์มาแชร์ไอเดียกันได้เลย! หรือใครมีคำถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ถามมาได้เลยครับ!