พระพิฆเนศองค์ใหญ่ เมืองนราธิวาส

เมื่อพูดถึงพระพิฆเนศองค์โต หลายคน คงพุ่งความสนใจไปยัง จังหวัดฉะเชิงเทรา หรือไม่ก็โซนพื้นที่ภาคกลาง แต่คลิปนี้ ขลังอาถรรพ์ ขอพาไปขอพรพระพิฆเนศองค์ใหญ่ ที่ได้ชื่อว่า เป็น “พระพิฆเนศกลางแจ้งองค์ใหญ่ ที่งดงามที่สุดในเมืองไทย” ซึ่งประดิษฐานอยู่ที่ จังหวัดนราธิวาส

ใช่! นราธิวาส จังหวัดชายแดนใต้ ฟังไม่ผิดหรอกครับ

พระพิฆเนศกลางแจ้งองค์ใหญ่ที่กล่าวถึง ตั้งอยู่ข้างศาลเจ้าโก้วเล้งจี่ อ.เมือง จ.นราธิวาส เป็นประติมากรรมปูนปั้น หน้าตักกว้าง 7 เมตร สูง 14 เมตร มี 4 กร นั่งท่า “ลลิตาสนะ” คือ “ท่านั่งแบบสบายๆ  ของราชวงศ์” ส่วนมากใช้กับกษัตริย์ หรือพระโพธิสัตว์ สื่อถึง ชัยชนะแห่งความรู้อันบริสุทธิ์ ออกแบบและดูแลการก่อสร้างโดยผู้ช่วยศาสตราจารย์เจริญชัย ต้นครองเจริญ ซึ่งใช้เวลาในการสร้างนานถึง 9 ปี เริ่มตั้งแต่ พ.ศ. 2546 ถึง พ.ศ. 2555 ทำพิธีเบิกเนตร เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2555

ทั้ง 4 กร ของพระพิฆเนศ

พระหัตถ์ขวาบน ถือ ดอกบัว สื่อถึงสติปัญญา ความบริสุทธิ์สะอาด

พระหัตถ์ขวาล่าง แสดงท่าประทานพร พร้อมกับถือ ลูกประคำ สื่อถึงการให้พรประสบความสำเร็จ มีสมาธิ

พระหัตถ์ซ้ายบน ถือ ขวานและขอช้างรวมกัน สื่อถึงการจัดการอุปสรรค

พระหัตถ์ซ้ายล่าง ถือ ชามขนมโมทกะ หมายถึง ความสมบูรณ์ เจริญรุ่งเรือง

เรียกได้ว่า พร้อมมอบสิ่งดีอันประเสิร์ฐแก่ผู้มาขอพรอย่างยิ่ง

พระพิฆเนศองค์ใหญ่ในจังหวัดนราธิวาส ฟังแล้วอาจดูขัดแย้ง แต่พื้นที่ชายแดนใต้อุดมไปด้วยความเป็นพหุวัฒนธรรมมาตั้งแต่อดีต ซึ่งนอกจากมัสยิด และวัดพุทธแล้ว ยังมีโบสถ์คริสต์ วัดซิกส์อีกด้วย ส่วนองค์พระพิฆเนศ หัวเรือใหญ่ในการจัดสร้างก็ไม่ใช่อื่นไกล คือ อินดาร์แซล บุศรี ชาวอินเดีย นายห้างค้าผ้ารายใหญ่อันเป็นที่รักของชาวเมืองนามว่า  “ดีวรรณ พาณิชย์” นั่นเอง

วัตถุประสงค์การจัดสร้าง นอกจากนายห้างศรัทธาพระพิฆเนศอยู่แล้ว ยังต้องการตอบแทนบุญคุณแผ่นดินไทยที่ได้เข้ามาอาศัยและประกอบธุรกิจจนเจริญก้าวหน้ามั่นคงกว่า 60 ปี และหวังให้เป็นตัวแทนองค์เทพให้ผู้ที่ศรัทธาได้เข้ามาสักการะขอพรอีกด้วย

การก่อสร้างพระพิฆเนศใช้เวลาร่วม 10 ปี เพราะชายแดนใต้เข้าสู่สถานการณ์ไม่ปกติในช่วงเริ่มก่อสร้างพอดี จึงทำให้หลายอย่างล่าช้า ทว่าก็แสดงให้เห็นถึงพลังศรัทธา และน้ำหนึ่งใจเดียวกัน เพราะแรกเริ่มเดิมที ตั้งใจจะสร้างขนาดความสูง 4 เมตร แต่เมื่อชาวบ้านทราบข่าวต่างก็ต้องการมีส่วนร่วม ขนาดองค์พระพิฆเนศจึงขยายใหญ่ขึ้นอย่างปัจจุบัน อีกทั้งหลังเหตุการณ์ปล้นปืน ต้นปี 2547 การก่อสร้างก็ต้องหยุดชะงักเพราะช่างไม่กล้าเข้ามาทำงานในพื้นที่ ก็ได้ชาวบ้านชาวเมืองพื้นที่เข้ามาช่วยคนละไม้คนละมือ กระทั่งสถานการณ์คลี่คลาย มีทีมงานมากความสามารถเข้ามา จนแล้วเสร็จตามเป้าหมาย และกลายเป็นพระพิฆเนศองค์ใหญ่ที่สวยงาม น่าเลื่อมใส

เรียกได้ว่า เทพแห่งความสำเร็จองค์นี้ นอกจากสวยงาม มีองค์ประกอบล้วนสื่อถึงความสมหวังทุกประการณ์แล้ว เบื้องหลังยังมากด้วยความสามัคคีและการฝ่าฝันอุปสรรคอย่างแท้จริง การเข้ามาสักการะบูชาขอพรจึงมีคุณค่ายิ่ง หากมีโอกาสเยือนจังหวัดนราธิวาส ห้ามพลาดเลยนะครับ กับการสักการะขอพรพระพิฆเนศเมืองนราฯ