เวลาเราพูดถึงการหา เงินทุน สำหรับธุรกิจ คำสองคำที่ถูกหยิบมาพูดบ่อยคือ “ในระบบ” กับ “นอกระบบ” แต่เจ้าของกิจการจำนวนมากยังสับสนว่าจริง ๆ แล้วเส้นแบ่งอยู่ที่ไหน อันไหนเสี่ยง อันไหนปลอดภัยกว่า และเกี่ยวอะไรกับโอกาสขอ สินเชื่อเพื่อธุรกิจsme หรือ เงินทุนหมุนเวียน ในปีนี้ บทความนี้จะนิยามให้ชัด เจาะจุดต่างแบบใช้งานได้จริง พร้อมบริบทนโยบายการเงิน–กำกับดูแลที่อัปเดตแล้ว
“ในระบบ” คืออะไร: แหล่ง เงินทุน ที่อยู่ภายใต้กฎหมายและกำกับดูแล
โดยหลัก “ในระบบ” หมายถึงผู้ให้กู้ที่ได้รับอนุญาตตามกฎหมายและอยู่ภายใต้การกำกับของหน่วยงานรัฐ (เช่น ธนาคารแห่งประเทศไทย/กระทรวงการคลัง) ตัวอย่างได้แก่ ธนาคารพาณิชย์ สถาบันการเงินเฉพาะกิจ นอนแบงก์ที่ได้รับใบอนุญาต และผู้ให้บริการดิจิทัลเลนดิ้งที่อยู่ในกำกับ จุดร่วมของ “ในระบบ” คือ
สัญญาโปร่งใส ตรวจสอบได้: มีเงื่อนไขดอกเบี้ย ค่าธรรมเนียม กำหนดวันชำระ และสิทธิผู้กู้บันทึกไว้อย่างชัดเจน
อัตราดอกเบี้ยอยู่ในกรอบ: ดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมต้องเป็นไปตามเพดาน/หลักเกณฑ์กฎหมาย
ช่องทางคุ้มครองผู้บริโภค: เมื่อเกิดข้อพิพาท ผู้กู้สามารถร้องเรียน–อุทธรณ์ได้
อยู่ภายใต้กรอบ Responsible Lending: ผู้ให้กู้ต้องพิจารณาความสามารถชำระหนี้จาก “ข้อมูลจริง” และเสนอผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับความเสี่ยงลูกหนี้ (ประกาศฉบับใหม่วันที่ 31 ม.ค. 2568 และมีผลบังคับบางส่วนตั้งแต่ 1 ก.ค. 2568)
ผลกับผู้กู้: ถ้าคุณต้องการ เงินทุนหมุนเวียน หรือ สินเชื่อผู้ประกอบการรายใหม่ การขอจาก “ในระบบ” จะปลอดภัยกว่าและช่วยสร้างประวัติสินเชื่อเพื่อขยับเพดานในอนาคต โดยเฉพาะในปีที่หน่วยงานกำกับเน้นหลักฐานจริง–วินัยการเงิน
ส่วนนิยาม “นอกระบบ” โดยทั่วไปคือการกู้ยืมจากผู้ให้กู้ที่ไม่ได้อยู่ภายใต้ใบอนุญาต/การกำกับของรัฐ เช่น เงินกู้นอกระบบที่คิดดอกเกินกรอบกฎหมาย ไม่มีสัญญามาตรฐาน หรือมีเงื่อนไขไม่เป็นธรรม จุดสังเกตสำคัญของ “นอกระบบ” คือ
ดอกเบี้ย–ค่าปรับไม่โปร่งใส: อาจคิดดอกแบบเหมารวมสูงผิดปกติ มีค่าปรับซ้อน และไม่แสดง APR ที่แท้จริง
สัญญา/หลักฐานไม่ชัด: เอกสารไม่ครบ ไม่มีใบเสร็จ หรือเปลี่ยนเงื่อนไขกลางทาง
ความเสี่ยงทางกฎหมาย: หากมีข้อพิพาท ผู้กู้เสียเปรียบเพราะไม่มีกรอบคุ้มครองที่ชัดเจน
บทความให้ความรู้จากสถาบันการเงินไทยเองก็ย้ำความต่างระหว่าง “ในระบบ–นอกระบบ” ในแง่ความโปร่งใสและต้นทุนรวมที่ต้องเทียบอย่างระมัดระวังเสมอ
สรุปสั้น ๆ: “ในระบบ” = อยู่ภายใต้กฎหมาย/กำกับ/คุ้มครองผู้บริโภค “นอกระบบ” = นอกกรอบกำกับ เสี่ยงสูง โปร่งใสน้อย ต้นทุนรวมมักแพงกว่าแม้ดอกที่ประกาศดูเหมือนต่ำ
ประเทศไทยยังเผชิญปัญหาหนี้ครัวเรือนสูง รัฐบาลและธนาคารแห่งประเทศไทยจึงเดินมาตรการหลายด้าน ทั้งการคงดอกเบี้ยนโยบายที่ 1.50% เพื่อพยุงเศรษฐกิจ การอัดฉีดมาตรการร่วมจ่าย (co-payment) และแผนซื้อหนี้เสียครัวเรือนบางส่วน 1 หมื่นล้านบาท ในเดือนตุลาคม 2568 เพื่อคลายความตึงของระบบการเงินโดยรวม ในบรรยากาศแบบนี้ สินเชื่อ “ในระบบ” จะถูกผลักให้ปล่อยบนฐาน ข้อมูลจริง มากขึ้น ขณะที่ “นอกระบบ” เสี่ยงสร้างภาระดอกเบี้ยทบ–ต้นทุนรวมพุ่งสำหรับผู้ประกอบการ
ประกาศ RL ใหม่ของธปท. (31 ม.ค. 2568) กำหนดมาตรฐานตรวจสอบความสามารถชำระหนี้ ตั้งแต่การทำความรู้จักลูกค้า (KYC) การออกแบบผลิตภัณฑ์ให้เหมาะความเสี่ยง ไปจนถึงแนวทางช่วยเหลือลูกหนี้ที่มีปัญหา จุดเน้นคือ “โปร่งใส–ยุติธรรม–อิงข้อมูลจริง” ส่งผลให้ผู้ให้กู้ในระบบต้องอ่านแฟ้มเอกสารและรายการเดินบัญชีอย่างละเอียด และผู้กู้ที่เตรียมหลักฐานครบจะได้เปรียบในการเข้าถึง แหล่งเงินทุน ที่เหมาะสม
รัฐบาลยังขับเคลื่อนโครงการค้ำประกัน (PGS 11) ผ่านบสย./TCG เพื่อให้ธนาคาร “กล้า” ปล่อย สินเชื่อเพื่อธุรกิจsme ให้รายที่มีศักยภาพแต่ขาดหลักทรัพย์ โดยยึดข้อมูลการค้าจริงเป็นหลัก ฐานข่าว–ประกาศระบุกรอบวงเงินและความร่วมมือกับสถาบันการเงินตั้งแต่ปี 2567 ต่อเนื่อง 2568 ซึ่งช่วยให้ผู้ประกอบการเข้าใกล้ เงินทุนหมุนเวียน ในระบบได้มากขึ้นโดยไม่ต้องพึ่ง “นอกระบบ”
|
ประเด็น |
ในระบบ |
นอกระบบ |
|---|---|---|
|
ความปลอดภัยทางกฎหมาย |
สูง: มีหน่วยงานกำกับ–ช่องทางร้องเรียน |
ต่ำ: เสี่ยงไม่มีสัญญามาตรฐาน/เงื่อนไขไม่เป็นธรรม |
|
ความโปร่งใสของต้นทุน |
สูง: แสดงดอก–ค่าธรรมเนียมชัด เปรียบเทียบได้ |
ต่ำ: มักคิดเหมารวม/ค่าปรับแฝง ทำให้ต้นทุนรวมสูง |
|
โอกาสขยายวงเงิน |
สูงขึ้นตามประวัติชำระดี มีทางใช้ค้ำ/SCF |
ต่ำ: ประวัติไม่สะสมในระบบ ไม่ช่วยเครดิต |
|
ความยืดหยุ่นเมื่อมีปัญหา |
มีมาตรการช่วยเหลือตาม RL |
แล้วแต่ผู้ให้กู้ เสี่ยงค่าใช้จ่ายแฝงสูง |
|
ผลต่อภาพรวมธุรกิจ |
สร้างเครดิต–ต่อยอด สินเชื่อผู้ประกอบการรายใหม่ |
เสี่ยงติดดอกแพง วงจรหนี้ตึงยาว |
เคล็ดลับ: ต่อให้ “ต้องการด่วน” ก็ควรสอบถามทางเลือกในระบบที่เร็วขึ้น เช่น นอนแบงก์/ดิจิทัลเลนดิ้งที่อยู่ในกำกับ (เข้าเกณฑ์ RL) หรือซัพพลายเชนไฟแนนซ์/แฟคตอริ่งบนเอกสารจริง ก่อนคิดจะหันไป “นอกระบบ” ที่เสี่ยงกว่า easycashflows.com
กุญแจคือ “จับคู่เงินให้ถูกงาน” และ “ทำให้เอกสาร–บัญชีพูดเรื่องเดียวกัน” ซึ่งเป็นหัวใจของการขอ สินเชื่อเพื่อธุรกิจsme ในปีนี้
เงินสั้น/ค่าใช้จ่ายถี่ → ใช้ เงินทุนหมุนเวียน (OD/Revolving) ตั้งวันชำระ “หลังเงินเข้า 3–7 วัน” เพื่อสะท้อนวินัยกระแสเงินสด เข้ากรอบ RL
ของยาว/ลงทุนเพิ่มกำลังผลิต → ใช้เงินก้อน/เช่าซื้อ (Term/HP) ให้วันชำระสัมพันธ์อายุใช้งาน ลดความตึงรายเดือน
รอเก็บเงินนาน (30–90 วัน) → ใช้แฟคตอริ่ง/ซัพพลายเชนไฟแนนซ์ เร่งเงินเข้าจากใบแจ้งหนี้ที่มีหลักฐานชัด
หน้าใหม่ต้องการเริ่มต้นในระบบ → รวมหลักฐานรายได้ 3–6 เดือน + เอกสารการค้า แล้วพิจารณาช่องทางค้ำผ่าน TCG เพื่อเข้าถึง แหล่งเงินทุน ที่เหมาะสมโดยไม่ต้องใช้หลักทรัพย์เต็มจำนวน
ทำไมสิ่งนี้สำคัญ? เพราะในปีที่ NPL ยังอยู่ระดับน่าจับตาและเศรษฐกิจยังต้องพึ่งมาตรการเสริม ผู้ให้กู้ “เชื่อข้อมูลมากกว่าเชื่อใจ” การวางโครงเงินให้ตรงงานและวินัยการชำระที่มองเห็นได้ จะทำให้คำขอของคุณ “เดินไวขึ้น” ในระบบ (แทนที่จะต้องเสี่ยงกับ “นอกระบบ”)
ข้อเสนอที่ ไม่แสดงดอกเบี้ยจริง/ไม่มีสัญญามาตรฐาน
เงื่อนไข “โอนก่อน–คิดทีหลัง” หรือบังคับทำธุรกรรมเงินสดทั้งหมด
การติดต่อที่ไม่เปิดเผยตัวตน–ที่ตั้ง–ใบอนุญาต
การให้กู้แบบ “ไม่มีเอกสารการค้าอ้างอิง” ทั้งที่คุณต้องการ เงินทุนหมุนเวียน เพื่อหมุนดีลจริง
สัญญาณเหล่านี้บ่งชี้ “นอกระบบ” ซึ่งอาจทำให้ธุรกิจเสียโอกาสทางเครดิตในอนาคต และเสี่ยงต้นทุนรวมสูงผิดปกติ (ดอกเบี้ย + ค่าปรับ + เงื่อนไขแฝง)
ตั้ง “เรื่องเล่าเงินสด 1 ย่อหน้า”: จะใช้ เงินทุน ทำอะไร เงินจะเข้าเมื่อไร จะคืนเมื่อไร (หลังรับเงิน 3–7 วัน) เพื่อให้เข้ากรอบ RL ได้ตั้งแต่หน้าแรกของแฟ้ม
ทำให้ เอกสารการค้า ↔ รายการเดินบัญชี สอดคล้องกัน (PO/สัญญา/ส่งมอบ/วางบิล/รับเงิน)
เริ่มจากวงเงิน “พอดีงาน” แล้วค่อยขยายตามผลจริง—ช่วยรักษาเกรดเครดิตและเพิ่มโอกาสได้เงื่อนไขที่ดีกว่าในอนาคต
สำรวจคันโยกค้ำ–ซัพพลายเชนไฟแนนซ์ เพื่อเข้าถึง แหล่งเงินทุน ในระบบ แม้ไม่มีหลักทรัพย์เต็มจำนวน
“ในระบบ” = โปร่งใส อยู่ในกฎหมาย มีกรอบคุ้มครอง และสอดคล้องกรอบ Responsible Lending ใหม่ เหมาะกับผู้ที่ต้องการโตบนฐาน เงินทุน คุณภาพ
“นอกระบบ” = เสี่ยงดอก–ค่าปรับแฝง สัญญาไม่ชัด และไม่สร้างเครดิตในระยะยาว
ปี 2568 ระบบการเงินยังเน้นปล่อยกู้บน “ข้อมูลจริง” และรัฐเดินคันโยกช่วย (เช่น PGS 11, มาตรการพยุงกำลังซื้อ/ซื้อหนี้เสียครัวเรือนบางส่วน) ทำให้ สินเชื่อเพื่อธุรกิจsme ในระบบ “ทำได้จริง” หากคุณเตรียมแฟ้มอย่างเป็นระบบ
ต้องการภาพรวมเชิงลึกและตัวอย่างการเทียบข้อดี–ข้อจำกัดของแต่ละ แหล่งเงินทุน รวมถึงเช็กลิสต์ “สัญญาณเตือน” แบบละเอียด แนะนำให้อ่านบทความหลักต่อได้ที่นี่ครับ:
👉 อ่านบทความหลัก: เงินกู้นอกระบบหรือในระบบเลือกแหล่งเงินทุนอย่างไรให้เหมาะกับธุรกิจ
พืชที่มีพิษร้ายแรงเทียบเท่าพิษงูเห่า
ชาวนาเขมรยกมือไหว้วอนคนไทย “เปิดด่านช่วยด้วย” หลังราคาข้าวทรุดหนัก สวนทางคำพูดในอดีตที่เคยดูแคลนไทย
'ฮุนเซน' ควันออกหู หลังลาวฉวยโอกาสขายของตัดหน้า แย่งสัมปทานจีน
ชาว เกษตรกร เขมร กดดันไทยเปิดด่าน ควบรถไถเหยียบนาข้าวทิ้ง ราคาตกต่ำสุดขีด
พบเครื่องบิน "โบอิ้ง 737" ที่หายไป 13 ปี ถูกจอดทิ้งกลางสนามบิน
10 อันดับเมืองที่มีมลพิษสูงสุดกรุงเทพฯ
🔍 ถอดรหัสปี 2568! คนไทยค้นหาอะไรบน Google มากที่สุด สะท้อนภาพสังคมแห่งปี
แบงก์เขมรปิด ฮุน โต! เผ่นหนี ลูกค้าถอนเงินไม่ได้
2569 ตรงกับเป็นปีนักษัตรอะไร สีนำโชค พร้อมปีชง
นิทานเพื่อนรัก 3 คนสู่โศกนาฏกรรมปริศนา! สั่งระงับเผาศพ-พบ "ไซยาไนด์" ในร่างผู้เสียชีวิต
7 อันดับสารพิษตัวร้าย : อยู่ให้ไกล ระวังให้ดี เพราะโลกนี้ไม่ได้อ่อนโยนกับเราเสมอไป
ภาษาที่ควรเรียนที่สุด ในอีก5ปีข้างหน้า
ปิดฉาก! มหากาฬฯ โบนัสพนักงาน “ไดกิ้น” คือ Get out
ชาว เกษตรกร เขมร กดดันไทยเปิดด่าน ควบรถไถเหยียบนาข้าวทิ้ง ราคาตกต่ำสุดขีด
เพื่อนสนิทเปิดใจหลังเกิดเหตุ! เผย 'ณัฐวุฒิ ปงลังกา' หลับไม่ตื่น-ไม่ขอตอบปมทะเลาะในวงเหล้า ขณะผลชันสูตรชี้ชัดพบ "ไซยาไนด์"
“ศุภจี” เฮ! ARASCO ซาอุฯ สั่งซื้อมันสำปะหลังอัดเม็ดเพิ่ม 3 หมื่นตัน ปีหน้าลุ้นพุ่งแตะ 1 แสนตัน
หาดใหญ่จมน้ำ รถลูกค้า ‘วิริยะประกันภัย’ ขอเคลมพุ่ง 3,800 คัน
ภาพ 3 มิติ คืออะไร? เทคนิคสร้างภาพเสมือนจริงสำหรับมือใหม่
Microsoft Fabric คืออะไร? แนะนำเครื่องมือใหม่จาก Microsoft สำหรับองค์กรยุคดิจิทัล
ทุกสิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับ ESG คืออะไร และทำไมถึงสำคัญต่อองค์กร
ดึงหน้า (Facelift) คืออะไร? มีกี่เทคนิค รวมข้อควรรู้ก่อนตัดสินใจ