นิทานสั้น เด็กหญิงดาวเรือง กับ หมู่บ้านยากจน
เด็กหญิงดาวเรือง และ หมู่บ้านยากจน
ณ วันนึง มีเด็กผู้หญิงได้กำเนิด เกิดขึ้นในบ้านของเศรษฐีคนหนึ่ง ผิวของเด็กทารกคนนั้น มีสีขาวนวลสวย ผมสีเหลืองทอง ใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส เสียงร้องแรกเกิดของเธอ ทำให้พยาบาลที่ทำคลอดให้เธอ ต่างก็ตกหลุมรักเธอ
แม่ของเธอ ได้ตั้งชื่อของเธอว่า ดาวเรือง เพราะสีผมเหลืองทองของเธอ เหมือนกับแปลงดอกดาวเรืองสีเหลืองทองอร่าม ที่คนสวนของบ้านเธอปลูกไว้ในสวนรอบๆบ้าน แม่ของเธอชื่นชอบดอกไม้มากๆ
จนดาวเรืองเติบโตได้ 12 ขวบ ดาวเรืองทำให้เหล่าพี่เลี้ยง สาวรับใช้ พ่อบาน และคนงานอื่นๆในบ้านตกหลุมรักความน่ารักและใจดีของเธอแต่ดาวเรืองไม่ได้เป็นตามที่พ่อของเธอหวังไว้ พ่อของเธอซื้อเครื่องประดับมากมาย น่ารัก สวยหรูสมวัยเด็กสาว ชุดเดรสราคาแพง รองเท้าส้นสูง แต่ดาวเรืองไม่ได้สนใจสิ่งของพวกนั้นเลย
ดาวเรืองสนใจสวมเพียงชุดเดรสสีเหลืองที่ดูเรียบง่ายที่แม่ของเธอได้เลือกซื้อให้ หากเปิดดูในตู้เสื้อผ้าของเธอ ก็จะพบกับเสื้อผ้าที่เป็นสีเหลืองทั้งหมด
ดาวเรืองชอบใช้เวลาทั้งวันไปกับช่วยคนสวนปลูกดอกไม้ เธอชอบต้นไม้ ดอกไม้ ชอบดูผีเสื้อมาเกาะดอกไม้ เธอรักในธรรมชาติ
จนวันนึง เธอทนกับชีวิตอันหรูหราที่พ่อของเธอบังคับให้เธอเป็นต่อไปไม่ไหว เธออดทนอยู่ในบ้านหลังนั้นได้เพราะดอกไม้สวยงามในสวน และสัตว์ต่างๆนาๆชนิดที่มาสวนของเธอ
จนเธออายุครบ 18 ปี ดาวเรืองขออนุญาตพ่อแม่เธอ อยากออกไปสำรวจพื้นที่ภายนอก อยากท่องโลกกว้าง แต่พ่อของเธอเป็นห่วง กังวลกลัวว่าเธอจะใช้ชีวิตตามลำพังไม่ได้ พ่อของเธอจึงติดต่อไปยังน้องชายของเขา ซึ่งมีศักดิ์เป็นอาของดาวเรือง ให้เขามาเป็นไกด์นำทางให้กับดาวเรือง
ตามความต้องการของดาวเรือง อาของเธอนำทางเธอไปยังที่ต่างๆที่เธอต้องการ ขึ้นเขา ลงห้วย เข้าป่า ฝ่าลำธาร ต่างจากที่พ่อของเธอคิดเลย ที่คิดว่าเธอจะไปเที่ยวสถานที่สวนสนุก หรือสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆที่ฮิต
จนวันนึง อาของเธอได้นำทางเธอมาที่นึง เป็นเหมือนหมู่บ้านเก่าๆ ที่ดูจนตรอกแห่งนึง อาของเธอได้พูดว่า "ฉันก็มาที่นี่ครั้งแรกพร้อมกับหนูเช่นกัน...." อาของเธอพูดพลางหัวเราะแห้งๆ เหมือนเขาจะหลงทางพาหลานสาวของเขามาที่นี่
ดาวเรืองมองไปรอบๆ หมู่บ้านที่นี่ดูเก่า บ้านแต่ละหลังดูเหมือนแทบจะพังลงได้ทุกเมื่อ บรรยากาศดูน่าหดหู่ใจ ต้นไม้รอบเป็นสีเหลืองเหมือนจะตาย ตลอดทางเดินมีแต่ฝุ่นคละคลุ้งไปทั่ว
ดาวเรืองตัดสินใจเดินเข้าไปหาชาวบ้านกลุ่มนึงที่นั่งมองดูเธออย่างสงสัย และกวาดกลัว
"คุณป้าคะ ช่วยบอกหนูได้ไหมคะ ว่าที่นี่เกิดอะไรขึ้น"
ดาวเรือง ตัดสินใจถามออกไปอย่างลังเล กลัวจะทำให้ชางบ้านแถวนั้นรู้สึกแย่หรือไม่
หญิงชราตอบด้วยน้ำเสียงแหบพร่าที่ดูไม่ค่อยจะมีแรงพูดเท่าไหร่ว่า "ที่หมู่บ้านของเราเกิดภัยพิบัติ แห้งแล้งอย่างหนัง หมู่บ้านเราขาดแคลนน้ำ ฝนก็ไม่ตกมาหลายวันแล้ว เราทำได้เพียงรองเอาน้ำค้างจากใบไม้ กับเศษผัก เศษหญ้ามาประทังชีวิต"
เมื่อได้ยินดังนั้น ดาวเรืองก็ถอนหายใจอย่างเศร้าสร้อย ก่อนจะถามกลับไปอีกครั้งว่า "คุณป้าคะ มีที่พักว่างๆให้หนูกับอาพักไหมคะ จะรังเกียจไหมถ้าหนูจะขอพักที่นี่ชั่วคราว"
หญิงชราพยักหน้า ก่อนจะนำทางเธอไปหยุดยังหน้าบ้านเก่าๆหลังหนึ่ง "บ้านหลังนี้ไม่มีคนพักอยู่ เป็นบ้านของลูกฉันเอง เขาทนความลำบากไม่ได้จนต้องหนีเข้าเมืองไป แต่ฉันไม่สามารถจำใจทิ้งบ้านของตัวเองไปได้ ที่นี่คือที่ที่ฉันเกิด และฉันจะอยู่ที่นี่จนวันตาย... เข้าไปพักได้เลย แต่มันค่อนข้างเก่า หากแม่หนูอยู่ไม่ได้ ก็กลับเข้าไปหาที่พักในเมืองเถอะ.."
ดาวเรืองและอาของเธอได้เดินตามกันเข้าไปในบ้านหลังนั้น ที่มีฟูกเก่าๆปูสองที่พอดีสำหรับสองคน ในบ้านโล่ง แทบไม่มีอะไรเลย มันดูเก่ามาก
"อาคะ หนูตัดสินใจแล้วค่ะ หนูจะอยู่ที่นี่ชั่วคราว ฝากอาบอกปะป๊ากับมะม๊าด้วยนะคะ ว่าหนูจะไม่กลับไปพักนึง" ดาวเรืองพูดด้วยรอยยิ้มหวานและน้ำเสียงตื่นเต้นที่จะได้ลองทำอะไรใหมๆเพื่อช่วยเหลือชาวบ้านที่นี่
อาของเธอรู้ได้ทันที ว่าหลานสาวตัวแสบของเขามีแผนที่อาจะทำให้เหนื่อยกายอยู่ในหัวแน่ๆ
เช้าวันต่อมา หลังจากหลับที่นั่นอย่างไม่สบาย เพราะแตกต่างจากฟูกนุ่มๆในห้องนอนอันหรูหราราที่บ้านในเมือง ทั่วหมู่บ้านต่างมีเรื่องอะไรบางอย่างที่วุ่นวายไปทั่ว...
ดาวเรืองได้โทรไปบอกพ่อของเธอว่า ให้ส่งของใช้ที่จำเป็นและข้าวสารอาหารแห้ง น้ำ ไว้ประทังชีวิต
ชาวบ้านดีใจเป็นอย่างมาก และต่อแถวกันเข้ามารับของ ด้วยรอยยมชื่นอกชื่นใจอีกครั้ง
หลังจากวันนั้นผ่านไป ปัจจุบัน หมู่บ้านนี้ก็ดีขึ้น ชาวบ้านมีกินมีใช้ ดาวเรืองได้สั่งเมล็ดพันธุ์ผัก และต้นไม้มาให้ชาวบ้านได้ปลูกมากมาย จะพลิกวิกฤตเศรษฐกิจของหมู่บ้านให้ดีขึ้น ทำให้ดาวเรืองกลายเป็นที่รักของคนในหมูบ้านแห่งนี้
ภาพโดย : Gemini & Chat GPT
พืชที่มีพิษร้ายแรงเทียบเท่าพิษงูเห่า
ชาว เกษตรกร เขมร กดดันไทยเปิดด่าน ควบรถไถเหยียบนาข้าวทิ้ง ราคาตกต่ำสุดขีด
ชาวนาเขมรยกมือไหว้วอนคนไทย “เปิดด่านช่วยด้วย” หลังราคาข้าวทรุดหนัก สวนทางคำพูดในอดีตที่เคยดูแคลนไทย
'ฮุนเซน' ควันออกหู หลังลาวฉวยโอกาสขายของตัดหน้า แย่งสัมปทานจีน
พบเครื่องบิน "โบอิ้ง 737" ที่หายไป 13 ปี ถูกจอดทิ้งกลางสนามบิน
🔍 ถอดรหัสปี 2568! คนไทยค้นหาอะไรบน Google มากที่สุด สะท้อนภาพสังคมแห่งปี
แบงก์เขมรปิด ฮุน โต! เผ่นหนี ลูกค้าถอนเงินไม่ได้
2569 ตรงกับเป็นปีนักษัตรอะไร สีนำโชค พร้อมปีชง
‘ดร.ธรณ์’ แนะนำ ถ้าจะย้ายที่อยู่ จังหวัดไหนเหมาะที่สุด ที่ไม่มีมลพิษของฝุ่นและภัยพิบัติทางธรรมชาติ
นิทานเพื่อนรัก 3 คนสู่โศกนาฏกรรมปริศนา! สั่งระงับเผาศพ-พบ "ไซยาไนด์" ในร่างผู้เสียชีวิต
10 อันดับเมืองที่มีมลพิษสูงสุดกรุงเทพฯ
เปิดการบ้านภาษาไทย เรียงอักษรให้เป็นคำ แบบนี้ยากไปไหม
ปิดฉาก! มหากาฬฯ โบนัสพนักงาน “ไดกิ้น” คือ Get out
ชาว เกษตรกร เขมร กดดันไทยเปิดด่าน ควบรถไถเหยียบนาข้าวทิ้ง ราคาตกต่ำสุดขีด
เพื่อนสนิทเปิดใจหลังเกิดเหตุ! เผย 'ณัฐวุฒิ ปงลังกา' หลับไม่ตื่น-ไม่ขอตอบปมทะเลาะในวงเหล้า ขณะผลชันสูตรชี้ชัดพบ "ไซยาไนด์"
“ศุภจี” เฮ! ARASCO ซาอุฯ สั่งซื้อมันสำปะหลังอัดเม็ดเพิ่ม 3 หมื่นตัน ปีหน้าลุ้นพุ่งแตะ 1 แสนตัน
หาดใหญ่จมน้ำ รถลูกค้า ‘วิริยะประกันภัย’ ขอเคลมพุ่ง 3,800 คัน
ฝึกภาษาอังกฤษวันละ 1 ชั่วโมง
ร้านหยกเขียวสุกี้ (แม็คโครโลตัสบ้านไผ่)
🌑 5 'รหัสลับ' ที่ต้องรู้ก่อนทำงานใน 'ออฟฟิศเก่า' หลัง 4 โมงเย็น! — เปิดโปง 'ตำนานซุ้มประตูที่ 7' และ 'กฎการมองไม่เห็น' ที่คนในวงการไม่กล้าพูดถึง! 👻
⚠️ 7 ปรากฏการณ์! การสิ้นสุดของ 'งานประจำแบบเดิม' และ 'การสร้างรายได้ 4.0' ที่นักบริหารต้องรับมือในปีหน้า! 💸


