หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Team Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน ราคาทองคำ กินอะไรดี
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

วัฒนธรรมการใช้ส้วมในหน้าประวัติศาสตร์แดนมังกร

เนื้อหาโดย แด๊ดดี้จอแดน โค้ดชีวิตพลิกชะตา

        เรื่อง “ขี้ๆ ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ” เพราะการขับถ่ายเป็นกิจวัตรประจำวันของสิ่งมีชีวิต โดยเฉพาะมนุษย์ ซึ่งการขับถ่ายนี้เอง ทำให้เราเห็นถึงวิถีชีวิต สิ่งประดิษฐ์ นวัตรกรรมในการใช้ส้วมเพื่ออำนวยความสะดวกในการขับถ่าย และการชำระล้างอุจจาระและสิ่งปฏิกูลของตนเอง

        นักโบราณคดีค้นพบ “ส้วม” แรกของโลกอายุประมาณ 2,600 ปีก่อนคริสตกาล ที่เมืองโมเฮนโจ ดาโร (Mohenjo-Daro) อยู่ที่ปากแม่น้ำสินธุในปากีสถาน แต่วันนี้ผู้เขียนขอใช้ประวัติศาสตร์ตัดขวางเจาะลึกการใช้ส้วมในประวัติศาสตร์ชาวจีนว่า สุขา ส้วมของชาวจีนในยุคโบราณเป็นอย่างไร ที่เลือกทำบทความนี้ เพราะประเทศจีนเป็นประเทศที่มีการจดบันทึกประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม วิถีชีวิตคนในแต่ละยุคไว้ค่อนข้างเยอะ จึงขอตัดขวางให้อารยธรรมการใช้ส้วม เพื่อดูวิวัฒนาการ นวัตกรรม สิ่งประดิษฐ์ในการอำนวยความสะดวกเรื่องการขับถ่ายของชาวจีนเป็นอย่างไร

“ส้วม” ประวัติศาสตร์แห่งการขับถ่ายของชาวจีน

        จากหลักฐานทางโบราณคดีพบว่า ส้วมรุ่นเก่าแก่ที่สุดของจีนมีอายุราว 5,000 ปี ปัจจุบันอยู่ที่แหล่งอารยธรรมโบราณหมู่บ้านปั้นโพ เมืองซีอัน  ส้วมในยุคนั้นเป็นเพียงหลุมดินที่อยู่นอกตัวบ้าน ผู้คนนิยมใช้หญ้าเหมาเฉ่า  ซึ่งมีลักษณะคล้ายหญ้าแฝกมาคลุมหลุมเอาไว้เพื่อดับกลิ่น ส้วมแบบนี้จึงมีชื่อเรียกว่า “เหมาเคิง” หรือ “เหมาเช่อ” จากหลักฐานทางประวัติศาสตร์พบว่า ส้วมของราชสำนักโจวมีส่วนของบ่อเกรอะแล้ว สิ่งปฏิกูลจะซึมลงไปในบ่อโดยอัตโนมัติ คัมภีร์ “โจวหลี่” ซึ่งเป็นบันทึกเกี่ยวกับธรรมเนียมปฏิบัติสมัยราชวงศ์โจว เล่าไว้ว่า “ข้ารับใช้รับผิดชอบทำความสะอาดห้องให้กษัตริย์โจว ขุดหลุมส้วม ทำความสะอาดสิ่งสกปรก กำจัดกลิ่นเหม็น”

        นอกจากนี้คัมภีร์ “จั่วจ้วน” เป็นบันทึกประวัติศาสตร์สมัยชุนชิว ยังบรรยายไว้ว่า “จิ้นจิ่งกง” กินอาหาร ไปเข้าห้องส้วม ตกส้วม จมอุจจาระตาย” กล่าวคือ จิ้นจิ่งกงซึ่งเป็นเจ้าผู้ครองรัฐจิ้น กินอาหารแล้วแน่นท้อง จึงไปเข้าห้องส้วม ทรงตัวไม่อยู่ พลัดตกลงไปตาย (ในหลุมส้วม)

        ส้วมในลักษณะดังกล่าว มีปรากฎขึ้น ณ ดินแดนเมโสโปเตเมียเมื่อประมาณ 3,000 ปีก่อนคริสต์ศักราช เป็นส้วมที่ออกแบบง่ายๆ คือเป็นหลุมที่มีถังรองไว้ด้านล่าง สามารถนำถังไปเททิ้งได้ ส้วมลักษณะนี้ถือเป็นต้นแบบของวัฒนธรรมห้องส้วมในเวลาต่อมา มีหลักฐานยืนยันได้ว่าในสมัยราชวงศ์ฉิน ช่วง 221-207 ปีก่อนคริสต์ศักราช และราชวงศ์ฮั่น ช่วง202 ปีก่อนคริสต์ศักราช-ค.ศ. 220  มีคำเรียกห้องส้วมที่หลากหลาย ทั้ง “เช่อ” “ฮุ่น”  และ “โย่ว” ในสมัยราชวงศ์ฉินคำว่า “ฮุ่น” โดยทั่วไปหมายถึง “คอกหมู” ภายหลังจึงกินความถึง “ห้องส้วม”

        ด้วยเหตุผลเพราะว่าในสมัยนั้นชาวจีนเข้าใจวิธีการใช้ปุ๋ยคอกเป็นอย่างดีแล้ว จึงมีการสร้างห้องส้วมไว้บนที่สูง มีบันไดสำหรับปีนขึ้นลง เมื่อคนขับถ่ายก็จะไหลลงสู่คอกหมูเพื่อเป็นอาหารหมู หรือนำไปใช้เป็นปุ๋ยธรรมชาติ  หากเปรียบเทียบกับ “ส้วมหลุม” ยุคก่อนราชวงศ์ฉินแล้ว ห้องส้วมในสมัยราชวงศ์ฉินมีกำแพงและรางปัสสาวะต่างหาก ผู้เชี่ยวชาญคาดว่ากำแพงดังกล่าวมีไว้สำหรับแยกส่วนขับถ่ายของผู้ชายและผู้หญิง มีการค้นพบในแหล่งโบราณคดีที่เมืองเหลียวหยาง สมัยราชวงศ์ฮั่นตะวันตก ช่วง 202 ปีก่อนคริสต์ศักราช-ค.ศ. 8 ว่าคอกสัตว์อยู่ใกล้กับห้องส้วม และในคอกสัตว์มีร่องรอยของปุ๋ยคอก ทำให้สามารถยืนยันได้ว่าคอกหมูและห้องส้วมมักอยู่ใกล้กันหรืออยู่ด้วยกัน

        หลังสมัยราชวงศ์ฮั่น ห้องส้วมถูกออกแบบให้กะทัดรัดและปลอดภัยมากขึ้น สังคมชั้นสูงค่อนข้างใส่ใจเรื่องห้องส้วม ส่วนใหญ่มักสร้างห้องส้วมบนคอกหมูที่อยู่แยกต่างหากจากตัวบ้าน ปลายสมัยราชวงศ์ฮั่นตะวันตก ห้องส้วมเริ่มมีผนังรอบด้านเพื่อความเป็นส่วนตัว บันไดไม้ชันๆ สำหรับขึ้นห้องส้วมถูกแทนที่ด้วยบันไดกว้างหรือเนินลาดเอียง ส้วมบางแห่งมีที่นั่ง 2 ที่ บนผนังห้องมีช่องลมเพื่อให้อากาศถ่ายเท

        นอกจากนี้ยังมีการค้นพบห้องส้วมดินเผาโบราณในสุสานสมัยราชวงศ์ฮั่น ห้องส้วมนี้มีรูปทรงเหมือนสิ่งปลูกสร้างที่พบได้บ่อยในสมัยนั้น การออกแบบเช่นนี้ทำให้ระบายสิ่งสกปรกออกนอกห้องส้วมได้อย่างรวดเร็ว ต่อมามีการค้นพบห้องส้วมที่เก่าแก่และสมบูรณ์ที่สุดของประเทศจีนที่สุสานของเหลียงอ๋อง  หรือหลิวอู่ ช่วง 184-144 ปีก่อนคริสต์ศักราช โอรสของจักรพรรดิฮั่นเหวินตี้ ช่วง 203-157 ปีก่อนคริสต์ศักราช ที่นั่งสำหรับขับถ่ายทำจากก้อนหิน รูปทรงใกล้เคียงกับโถส้วมในปัจจุบัน เพียงแต่ไม่มีระบบน้ำเท่านั้นนอกจากห้องส้วมและโถส้วมทั่วไปแล้ว ยังมีเรื่องเล่าเกี่ยวกับโถส้วมเคลื่อนที่เป็นครั้งแรกใน “บันทึกเมิ่งเหลียงลู่” ซึ่งบรรยายเอาไว้ว่า “บ้านเรือนหลังเล็กตามท้องถนน ส่วนมากไม่มีส้วมหลุม จึงใช้โถส้วมเคลื่อนที่…” สมัยนั้นอาจหมายถึง ส้วมเคลื่อนที่ หรือ กระโถนนั่นเอง “บันทึกปกิณกะซีจิง” เล่าไว้ว่า “ราชสำนักฮั่นใช้หยกแกะสลักเป็นโถส้วม แล้วให้องครักษ์คอยถือตามเพื่ออำนวยความสะดวกแก่พระจักรพรรดิ” เมื่อถึงปลายสมัยราชวงศ์ฮั่น พระจักรพรรดิเริ่มใช้โถส้วมที่มีฝาปิดมิดชิด เวลาใช้จะต้องเปลี่ยนเสื้อผ้า ข้าราชบริพารจะจุดกำยานและคอยปรนนิบัติอยู่ไม่ห่าง ด้านล่างโถส้วมทำด้วยถ่านไม้หอมเพื่อกำจัดกลิ่น

        คัมภีร์ “ซื่อซัวซินอวี่” บันทึกไว้ว่า “เชื้อพระวงศ์สมัยราชวงศ์จิ้นตะวันตก ช่วง ปี ค.ศ. 265-316 เวลาเข้าห้องส้วมจะใช้ลูกพุทราอุดจมูกป้องกันกลิ่นเหม็น” บุรุษผู้มั่งคั่งที่สุดในสมัยจิ้นตะวันตกนามว่า สือฉง ได้สร้างห้องส้วมที่บ้านเป็นหอสูง ด้านล่างเป็นไม้ระแนงที่ปูด้วยขนห่าน ของเสียจากการขับถ่ายจะร่วงลงบนขนห่านและถูกขนห่านห่อหุ้มเอาไว้ เด็กรับใช้จะกำจัดของเสียและเปลี่ยนไม้ระแนงเสียใหม่เพื่อไม่ให้ส่งกลิ่นเหม็น

        ในสมัยราชวงศ์หมิง ปีค.ศ. 1368-1644  ขันทีตำแหน่งต่ำที่สุดจะเป็นผู้ทำความสะอาดส้วมหลุมและล้างโถส้วม ส่วนในสมัยราชวงศ์ชิง ปี ค.ศ. 1616-1911มีห้องที่เรียกว่า ไจิ้งฝาง” ที่แปลว่า ห้องสะอาด ถือเป็นห้องส้วมยุคแรกในพระราชวัง ในห้องมีที่เก็บโถส้วม ในโถจะใส่ขี้เถ้าเตรียมไว้สำหรับการถ่ายหนัก เมื่อถ่ายเสร็จก็กลบด้วยขี้เถ้า แต่หากต้องการถ่ายเบาไม่ต้องใช้ขี้เถ้า ก็เพียงแค่ปัสสาวะลงในถังแล้วปิดฝา

        โถส้วมในสมัยราชวงศ์ชิงมีชื่อเรียกให้สุภาพว่า “กวนฝาง” หมายถึง ภาชนะราชการ ตัวโถได้รับการผลิตอย่างพิถีพิถัน โถส้วมชนิดนี้ใช้ได้เฉพาะพระจักรพรรดิและพระบรมวงศานุวงศ์ กวนฝางมี 2 ประเภท คือ กวนฝาง แบบสี่เหลี่ยมและแบบวงรี ทำขึ้นจากไม้ ดีบุก หรือกระเบื้อง และกวนฝางที่ทำจากไม้จะเป็นรูปสี่เหลี่ยม ด้านบนบุนวมนิ่มๆ มีช่องรูปวงรีสำหรับขับถ่าย        

        ด้านล่างมีภาชนะที่สามารถเลื่อนเข้าออกได้เหมือนลิ้นชัก โดยทั่วไปภาชนะไม้ด้านล่างจะมีดีบุกอยู่ภายในเพื่อป้องกันการรั่วซึม ส่วนกวนฝางที่ทำจากดีบุกจะเป็นรูปวงรี บนภาชนะมีฝาไม้สำหรับปิด กวนฝางสมัยราชวงศ์ชิงไม่ต่างกับโถส้วมในปัจจุบันนัก เพียงแต่ราดน้ำไม่ได้ ในสมัยนั้นหากพระนางซูสีไทเฮา ปี ค.ศ. 1835-1908) บอกว่าต้องการใช้ “ภาชนะราชการ” นางสนมจะต้องรีบแยกย้ายกันทำหน้าที่ คนหนึ่งไปเรียกขันทีผู้ดูแลกวนฝาง คนหนึ่งหยิบเบาะรองนั่ง ส่วนอีกคนหนึ่งหยิบกระดาษชำระ

        นอกจากห้องส้วมตามบ้านเรือนและพระราชวังแล้ว ยังมีห้องส้วมสาธารณะซึ่งมีเจ้าของ โดยห้องส้วมสาธารณะจีนถือกำเนิดขึ้นก่อนห้องส้วมสาธารณะในโลกตะวันตกหลายร้อยปี ห้องส้วมสาธารณะของจีนในยุคแรกมีบันทึกไว้ในคัมภีร์ “โจวหลี่” โดยเรียกห้องส้วมสาธารณะว่า “ลู่เช่อ” หรือ ห้องส้วมริมทางส่วนห้องส้วมสาธารณะสมัยราชวงศ์ฮั่นเรียกว่า “ตูเช่อ” หรือ ห้องส้วมรวม

        นอกจากนี้ในสุสานสมัยราชวงศ์ฮั่นที่เมืองหนานหยาง ยังพบว่าห้องส้วมสาธารณะมีการแบ่งเป็นห้องส้วมชายและห้องส้วมหญิง ห้องส้วมชายมีรางปัสสาวะซึ่งคล้ายกับห้องน้ำในปัจจุบันอย่างมาก สมัยราชวงศ์ซ่ง ปี ค.ศ. 960-1279 ห้องส้วมสาธารณะในเมืองใหญ่ๆ จะมีคนทำหน้าที่เก็บอุจจาระโดยเฉพาะจนกลายเป็นอาชีพอย่างหนึ่ง คนเก็บอุจจาระจะลากรถเข็นหรือใช้วัวควายลากรถเข็นไปตามท้องถนน แล้วนำอุจจาระไปขายให้เกษตรกรที่ต้องการ ห้องส้วมสาธารณะส่วนใหญ่เก็บค่าบริการ กำไรจากค่าบริการและเงินจากการขายอุจจาระรวมกันแล้วมากพอสมควร ทำให้ห้องส้วมสาธารณะในสมัยนั้นเป็นธุรกิจที่ทำกำไรดีธุรกิจหนึ่ง

        ตั้งแต่ปลายสมัยราชวงศ์หมิงจนถึงต้นราชวงศ์ชิง “บันทึกปกิณกะเยียนจิง” บรรยายเกี่ยวกับห้องส้วมสาธารณะที่เก็บค่าบริการไว้ว่า “ห้องส้วมสาธารณะที่ปักกิ่ง คนเข้าต้องจ่ายเงิน” ผู้ใช้บริการสามารถหยิบกระดาษชำระได้ 2 แผ่น เจ้าของห้องส้วมมักแขวนป้ายประกาศขนาดใหญ่เพื่อดึงดูดลูกค้า

        นอกจากนี้ในห้องส้วมยังมีนวนิยายหรือหนังสือชนิดอื่นๆ ไว้บริการ เพื่อให้ลูกค้าเกิดความประทับใจแล้วกลับมาใช้บริการใหม่ สมัยนั้นมีการตลาดเพื่อดึงดูดใจเสียด้วยสิ

        ในเมืองที่มีผู้คนมากอย่างปักกิ่ง เวลาขาดแคลนน้ำ ผู้คนทุกชนชั้นไม่ว่าจะเป็นขุนนางชั้นสูงหรือชนชั้นล่างล้วนเคยชินกับการขับถ่ายไม่เป็นที่เป็นทางและไม่ราดน้ำ ปัญหาการขับถ่ายจึงค่อยๆ สั่งสมจนเข้าขั้นวิกฤต ถึงแม้ราชสำนักจะมีการออกข้อห้าม แต่ก็แก้ปัญหาไม่ได้มาก สภาพดังกล่าวค่อยๆ เปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นภายหลังการสถาปนาสาธารณรัฐประชาชนจีนเมื่อปี 1949

        แม้ว่าจีนจะเป็นชนชาติแรกที่ผลิตกระดาษขึ้นตั้งแต่สมัยราชวงศ์ฮั่น แต่เป็นระยะเวลานานที่ไม่มีการนำกระดาษมาใช้ทำความสะอาดหลังขับถ่าย ลักษณะการทำความสะอาดก้นแต่ละยุคสมัยมีความแตกต่างกันไป บ้างใช้ใบไม้ บ้างใช้ก้อนหิน บ้างใช้น้ำล้าง

        แต่สำหรับพระจักรพรรดิบางพระองค์อาจใช้ผ้าไหมเช็ดก้น จากบันทึกประวัติศาสตร์ทำให้พบว่า เป็นระยะเวลานานพอสมควรที่คนจีนใช้ติ้วไม้หรือติ้วไม้ไผ่ซึ่งเรียกว่า “เช่อโฉว”  เพื่อเช็ดก้น คำว่า “เช่อโฉว” ได้รับการบันทึกเป็นลายลักษณ์อักษรครั้งแรกในหนังสือประวัติศาสตร์ปลายสมัยราชวงศ์ฮั่น บ้างคาดการณ์ว่าเนื่องจากชาวจีนมีความเชื่อเรื่องความเคารพกระดาษที่ใช้เขียนหนังสือ จึงไม่นำกระดาษมาเช็ดก้น เมื่อถึงปลายสมัยราชวงศ์ชิง ราชสำนักได้ออกข้อกำหนดไม่ให้ใช้กระดาษที่มีตัวหนังสือติดอยู่มาเช็ดก้น ต่อมาความเชื่อดังกล่าวได้ค่อยๆ เสื่อมไปตามกาลเวลา

        การใช้กระดาษชำระของจีนเริ่มมาจากห้องส้วมในพระราชวัง “บันทึกหมิงสือลู่”  บรรยายไว้ว่า “จักรพรรดิหงจื้อเป็นผู้ประหยัดมัธยัสถ์ เป็นจักรพรรดิพระองค์แรกที่รับสั่งให้ใช้กระดาษเช็ดก้นแทนผ้าไหม” แม้ประเทศจีนในยุคใหม่จะมี “ชื่อเสีย” เรื่องสุขาจนเป็นที่โจษจัน เพราะสุขาในชนบทส่วนมากยังคงล้าหลังและสกปรก แต่สุขาจำนวนมากตามเมืองใหญ่ๆ ก็ได้รับการพัฒนาจนสะอาดและทันสมัยเทียบเท่านานาชาติแล้ว

        จะเห็นได้ว่าสุขา ส้วมในประวัติศาสตร์แดนมังกรนั้น มีการประดิษฐ์นวัตกรรมใหม่ต่างๆที่เกี่ยวข้องกับระบบขับถ่าย ไม่ว่าจะเป็นกระโถน การทำส้วมสาธารณะ การทำส้วมใกล้เล้าหมู เพื่อทำปุ๋ยคอก การใช้ขนห่าน การใช้ขี้เถ้า ใช้หญ้าในการกลบกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ นั้นคือ ประวัติศาสตร์แห่อารยธรรมความสะอาดที่เราสามารถทำให้ล่วงรู้ถึงสุขอนามัยของคนในยุคโบราณได้เลย

*************

เนื้อหาโดย: แด๊ดดี้จอเเดน
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
50 VOTES (5/5 จาก 10 คน)
VOTED: sakura1569, แสร์, projor007, kyogisa, ดร กิฟท์นางมารพยากรณ์, famai, Freya Rune, goldfish13, davin, แด๊ดดี้จอเเดน
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
พบเครื่องบิน "โบอิ้ง 737" ที่หายไป 13 ปี ถูกจอดทิ้งกลางสนามบินชาวนาเขมรยกมือไหว้วอนคนไทย “เปิดด่านช่วยด้วย” หลังราคาข้าวทรุดหนัก สวนทางคำพูดในอดีตที่เคยดูแคลนไทยพืชที่มีพิษร้ายแรงเทียบเท่าพิษงูเห่า'ฮุนเซน' ควันออกหู หลังลาวฉวยโอกาสขายของตัดหน้า แย่งสัมปทานจีนแบงก์เขมรปิด ฮุน โต! เผ่นหนี ลูกค้าถอนเงินไม่ได้แคปซูลกาลเวลา 1,700 ปี การค้นพบหลุมศพโรมันที่ "สมบูรณ์แบบ" ในฮังการีเปิดการบ้านภาษาไทย เรียงอักษรให้เป็นคำ แบบนี้ยากไปไหมซาอุฯ สั่ง "มันอัดเม็ดไทย" เพิ่ม 30,000 ตัน! เกษตรกรเฮลั่น‘ดร.ธรณ์’ แนะนำ ถ้าจะย้ายที่อยู่ จังหวัดไหนเหมาะที่สุด ที่ไม่มีมลพิษของฝุ่นและภัยพิบัติทางธรรมชาติ10 อันดับเมืองที่มีมลพิษสูงสุดกรุงเทพฯสภาทนายความ แจงเหตุลบชื่อ ‘ทนายคนดัง’ ออกจากทะเบียนทนายชาว เกษตรกร เขมร กดดันไทยเปิดด่าน ควบรถไถเหยียบนาข้าวทิ้ง ราคาตกต่ำสุดขีด
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
“ย้อนวันวานอาหารจานละ 2-3 บาท กินอิ่มทั้งบ้านด้วยเงินไม่กี่บาท ราคาน่ารักที่วันนี้หาไม่ได้แล้ว”ทัพฟ้าไทย พร้อมรบ 24 ชั่วโมง โชว์ยุทโธปกรณ์สุดล้ำ โจมตีแม่นยำ "ไม่ให้ใครย่ำยี" น่านฟ้าไทยทำไมต้องหย่ากัน หลังถูกคดีความ? เหตุผลที่ฟังดูดราม่า…แต่จริงกว่าที่คิดน้องแร็คคูนบุกร้านค้า ดื่มจัดหนัก จนเมาค้าง เห็นแล้วนึกถึงคนเหมือนกันนะเนี่ย (ฮา)นี่คือสิ่งมีชีวิตที่สูงที่สุดและใหญ่ที่สุดในโลก Redwood และ Sequoiaเฮลิคอปเตอร์ไร้คนขับของจีน ทดสอบบินและยิงกระสุนจริงครั้งแรกแล้ว
อัลปากา VS อัลปากา: พลังศักดิ์สิทธิ์จากสัตว์แห่งอินคา สู่โลหะมงคลในวงการพระเครื่องไทยถอดรหัสเสน่ห์ร้ายของยอดนักรัก! ทายนิสัยความเป็น "คาสโนว่าและคลาสโนวี่" ตามเดือนเกิด พร้อมส่องพฤติกรรมการแสดงออกเปิดตำนาน "ฮัตเชปซุต" ฟาโรห์หญิงผู้ต้อง "สวมเครา" ท้าทายกฎบุรุษ จนถูกลบชื่อนาน 3,500 ปี!บัวน่าปลูก...สายมูต้องห้ามพลาด! เสริมมงคลให้ชีวิตรุ่งเรือง
ตั้งกระทู้ใหม่