หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Team Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน ราคาทองคำ กินอะไรดี
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

รอยร้าวในคริสตัล

เนื้อหาโดย อักษราลัย

รอยร้าวในคริสตัล

อักษราลัย

 

          เบื้องหลังแสงไฟและเสียงกรี๊ด คือรอยร้าวที่ค่อย ๆ ลามในหัวใจ
          คริสตัลอาจสวยสมบูรณ์ แต่เมื่อแตกเพียงนิดเดียว แสงที่สะท้อนออกมา…อาจจริงกว่าสิ่งใด

 

            เสียงนาฬิกาปลุกดังตอนตีห้า แหลมคมเหมือนมีดกรีดเข้ามาในความฝัน ผมยกมือกดปุ่มหยุดทันที ความเงียบกลับมาแต่ไม่เคยสงบจริง น้ำหนักแขนขาหนักกว่าเมื่อวาน เหมือนหินก้อนใหญ่กดทับไว้

 

            หน้ากระจกในห้องน้ำ คนที่มองตอบกลับมามีใต้ตาดำคล้ำ แก้มตอบ ผิวซีดจนแทบไร้เลือด ผมกดนิ้วเบา ๆ ที่ใต้ตา เฝ้าดูรอยบุ๋มที่ยุบตามแรงกด  หลักฐานชัดเจนว่า “คิมหันต์” กำลังสึกกร่อนลงทุกวัน แต่โลกข้างนอกไม่อนุญาตให้เขาสึก

 

            น้ำประปาไหลแรง สาดกระแทกใบหน้า ความเย็นทำให้ขมวดคิ้วโดยไม่รู้ตัว ผมยืนนิ่งให้น้ำไหลผ่านราวกับหวังให้ชะล้างความว่างเปล่าข้างในออกไป แต่เมื่อเช็ดด้วยผ้าขนหนูสีขาว ความอ่อนล้าก็ยังฝังแน่นเหมือนเดิม

 

ฟิตเนส

            นิ้วสั่นเล็กน้อยขณะกดปุ่มชั้น B ประตูลิฟต์ปิดลง เสียงเครื่องจักรหึ่ง ๆ ก้องราวกับเป็นเสียงที่ตามหลอกผมทุกคืนวัน

           

            บนลู่วิ่ง เริ่มต้นด้วยความเร็วหก…แปด…สิบ…สิบสอง


            จังหวะเท้า ตึก ตึก ตึก กระแทกลงเหมือนจะทุบพื้นให้แตก เหงื่อไหลลงข้างแก้ม คาง จนหยดบนพื้น ผมไม่เช็ด ปล่อยให้มันเป็นเหมือนหลักฐานของการฝืน ข้างในหน้าอกแน่นตื้อ แต่ยังไม่แน่นเท่าตอนอยู่บนเวทีเมื่อคืน

 

กระจกแต่งหน้า

            เสื้อเชิ้ตขาว กางเกงดำ รองเท้าหนังเงาวับ เรียงอย่างเป็นระเบียบในตู้  ราวกับกำหนดชีวิตให้ซ้ำซากโดยไม่ต้องเลือก

            ผมนั่งหน้ากระจกแต่งหน้า ล้อมรอบด้วยหลอดไฟสีขาวสว่างจ้า คอนซีลเลอร์ถูกป้ายลงใต้ตา กลบร่องรอยความจริง รองพื้นเกลี่ยจนผิวเรียบ บลัชออนสีชมพูอ่อนแต่งแก้มให้ดูเหมือนยังมีชีวิต คนในกระจกค่อย ๆ เปลี่ยนเป็น “คิมหันต์” ที่ทุกคนอยากเห็น

            แต่ผม…เป็นใคร?
            คำถามนี้ดังอยู่เงียบ ๆ ทุกเช้า

 

รถสีดำและคนเดินเท้า

            รถเมอร์เซเดสสีดำจอดรอ รปภ.กุลีกุจอเปิดประตู กระจกดำทึบปิดกั้นโลกจริงกับโลกที่ผมถูกสร้างขึ้น

ผ่านหน้าต่าง เห็นชายหนุ่มเดินช้า ๆ ใส่เสื้อยืด กางเกงยีน รองเท้าผ้าใบ ถือแก้วกาแฟแบบถือสบาย ๆ มีรอยยิ้มบาง ๆ บนใบหน้า รอยยิ้มที่ผมอิจฉามากกว่าทุกเสียงกรี๊ดในคอนเสิร์ต แต่รถเลี้ยว ทุกอย่างหายไปจากสายตา เหมือนอยู่คนละจักรวาล

 

ตารางงาน

               “วันนี้มีงานอะไรบ้างครับ พี่แจ็ค”
            เสียงผมแห้งจนฟังเหมือนคนอื่นพูดแทน

 

               “เก้าโมงครึ่งถ่ายแบบ เที่ยงบันทึกรายการ บ่ายสามซ้อมเต้น หกโมงคอนเสิร์ต” เขาตอบโดยไม่หันมา แค่อ่านข้อความจากมือถือเหมือนเป็นสคริปต์

 

            ผมพยักหน้า หลับตา เสียงกรี๊ด กล้องแฟลช ไฟสว่าง ทุกอย่างดังปนจนไม่รู้ว่าอันไหนเป็นจริง อันไหนเป็นเพียงเสียงในหัว

 

สตูดิโอถ่ายแบบ

               “คิมหันต์! วันนี้คอนเซ็ปต์ ‘หนุ่มสมบูรณ์แบบ’ นะ พร้อมไหม?”

 

            ผมยิ้มอัตโนมัติ “พร้อมครับ”

 

            กล้องแฟลชกะพริบ แขนขาถูกสั่งให้ขยับเหมือนตุ๊กตากลไก ยิ้มเล็ก ยิ้มกว้าง เอียงหัวซ้าย เอียงหัวขวา — ทุกการเคลื่อนไหวถูกออกแบบเพื่อ “ความเพอร์เฟกต์”

 

            แต่ภายใน…กลวงจนเหมือนหุ่นที่ไม่มีแกน

 

               “ลองยิ้มแบบมีความสุขหน่อยสิ” ช่างภาพว่า

 

            ผมขุดความทรงจำเก่า วันที่ได้ยืนเวทีครั้งแรก เสียงปรบมือที่เคยทำให้ใจเต้นแรง แต่ภาพนั้นซีดจางจนเกือบจับไม่ติด

 

               “ดี! แบบนั้นแหละ”

            เขาชม แต่ผมรู้ — มันไม่ใช่รอยยิ้มจริง

 

ซ้อมเต้น

            กระจกบานใหญ่สะท้อนภาพผมทำท่าเดิมซ้ำ ๆ ครูสอนเต้นนับจังหวะ “หนึ่ง สอง สาม สี่…”

            ข้อเข่าขวาปวดแปลบ ผมกัดฟันแน่นไม่พูดอะไร

 

               “คิมหันต์ ท่านี้ไม่แข็งแรงนะ เอาใหม่”

 

            ผมทำใหม่ อีกครั้ง อีกครั้ง ปวดจนตาพร่า แต่ยังฝืน เพราะ ถ้าหยุด = อ่อนแอ

 

คอนเสิร์ต

            เสียงกรี๊ดดังกึกก้องราวกับแผ่นดินไหว


            ผมยืนหลังม่าน มือสั่น ข้อเข่าปวด แต่เมื่อม่านเปิด แสงไฟสาดมา — “คิมหันต์” ต้องปรากฏ

 

               “สวัสดีครับทุกคน!”

            เสียงตะโกนตอบกลับดังก้อง รอยยิ้มถูกฉาบบนใบหน้า ทั้งที่ในอกเริ่มแตกเป็นเสี่ยง ๆ เพลงแล้วเพลงเล่า เหงื่อไหลอาบ เสื้อเปียกชุ่ม ขาแทบสั่นไม่อยู่ แต่แฟนคลับร้องไห้ ตะโกนคำว่า “รัก” — มันทำให้ผมลืมความจริงได้ชั่วขณะ

 

            จนเพลงสุดท้าย ท่ากระโดดหมุนตัว — ปึก!

            ข้อเข่าพังลงราวเสียงแก้วแตก ผมทรุด ล้ม มือยันพื้น เสียงกรี๊ดเงียบวูบ ราวกับโลกหยุดหายใจ

 

            ผมพยายามลุกขึ้น ยิ้ม โบกมือ ทำเหมือนเป็นส่วนหนึ่งของโชว์

            แต่ข้างในรู้ดี…คริสตัลที่ทุกคนบูชา เริ่มมีรอยร้าวแล้ว

 

            “ความสมบูรณ์แบบไม่เคยฆ่าใคร แต่การไล่ตามมัน…ทำให้เราตายช้า ๆ ข้างใน”

 

โรงพยาบาล

               “เอ็นเข่าฉีกขาด กระดูกมีรอย ต้องพักอย่างน้อยสองเดือน ไม่งั้นเสี่ยงพิการถาวร”

            เสียงหมอเย็นชา แต่หนักแน่นพอจะทำให้หัวใจผมหยุดเต้นไปชั่ววินาที

 

            สองเดือน…แปลว่าคอนเสิร์ตใหญ่ต้องเลื่อน โฆษณาถูกยกเลิก รายการวุ่นวาย ทุกอย่างพังทลาย

 

               “งานผมล่ะครับ” เสียงผมเบาเหมือนคนแปลกหน้าถามแทนตัวเอง

            หมอจ้องตา “งานไหนสำคัญกว่าขา?”

 

            คำตอบนั้นเงียบงัน แต่จริงยิ่งกว่าทุกเสียงเชียร์ที่เคยได้ยิน

 

ความเงียบที่หายไปนาน

            วันรุ่งขึ้น ข่าวแพร่ออก “คิมหันต์พักงานสองเดือน” โทรศัพท์ดังไม่หยุด ค่ายด่า สปอนเซอร์ถอน แต่ท่ามกลางวุ่นวาย ผมกลับรู้สึก…โล่ง

 

            วันแรกของการพัก ตื่นเก้าโมง ไม่มีนาฬิกาปลุก แสงแดดลอดผ้าม่านอุ่นพอดี ทำไข่ดาวสองฟอง โรยน้ำปลา พริกไทย กินกับข้าวสวยร้อน ๆ รสชาติธรรมดาแต่ทำให้น้ำตาคลอ  ผมลืมรสชาติแบบนี้ไปนานเท่าไหร่แล้ว

บ่ายนั้นนั่งในสวน ลมเบาพัด ใบไม้ไหว เสียงนกร้อง นี่คือเสียงที่แท้จริง ไม่ใช่เสียงกรี๊ด

 

ตลาด

            สัปดาห์ต่อมา ผมใส่หมวก เสื้อยืด เดินตลาดเล็ก ๆ ไม่มีใครจำได้ว่าผมคือคิมหันต์ ซื้อผลไม้จากคุณยาย แกะมะม่วงให้พร้อมไม้จิ้ม

               “หวาน หอม อร่อยแน่นอน” คุณยายยิ้มด้วยรอยยิ้มที่ไม่ต้องสร้างภาพ

 

            น้ำมะม่วงไหลเปื้อนคาง ผมเช็ดด้วยมือ ไม่สนใจภาพลักษณ์อะไรอีก เด็กชายในสวนสาธารณะนั่งสร้างปราสาททราย เล่นพังแล้วสร้างใหม่ ไม่ร้องไห้ ไม่ห่วงสายตาใคร  เพียงแค่เล่น ผมอยากนั่งเล่นด้วยเหลือเกิน

 

ปะทะ

            แต่ความสุขไม่ยืนยาว รูปถ่ายผมในตลาดโผล่บนโซเชียลทันที

               “คิมหันต์โทรมไปนะ”

               “ไม่แต่งหน้าเหรอ หน้าตาไม่เหมือนเดิมเลย”

               “ทำไมปล่อยตัว?”

 

            ผมอ่านข้อความเงียบ ๆ ไม่โกรธ ไม่เจ็บ แค่รู้สึกเหมือนกำลังอ่านเรื่องของคนอื่น

 

            พี่แจ็คโทรมา “นายไม่ควรออกไปแบบนั้น มันเสียภาพลักษณ์ เข้าใจไหม?”

               “ภาพลักษณ์หรือชีวิตกันแน่พี่?” ผมย้อนกลับ เสียงผมสั่น แต่หนักแน่นกว่าที่เคย

 

            เขานิ่งไป ก่อนพูดช้า ๆ “เสียงนาย…แปลกไป ดูเหมือนมีความสุข”

 

กลับสู่เวที

            สองเดือนผ่าน หมอบอกว่าดีขึ้น สามารถกลับไปทำงานได้

            แต่ผมลังเล ไม่อยากกลับสู่เครื่องจักรที่ชื่อ “คิมหันต์”

 

            กระทั่งวันหนึ่ง แสงไฟเวทีก็เรียกผมกลับ

            เสียงกรี๊ดยังเหมือนเดิม ทุกอย่างเหมือนเดิม — ยกเว้นตัวผม

 

            จบเพลงสุดท้าย ผมพูดกับแฟน ๆ

               “ผมไม่สมบูรณ์แบบนะครับ ผมเจ็บ ป่วย เหนื่อย เศร้า เหมือนทุกคน”

            เสียงฮือฮาดังขึ้น ก่อนตามด้วยเสียงปรบมือ

 

               “ถ้ารักผมจริง ช่วยรักคิมหันต์ที่เป็นคนธรรมดาด้วย ไม่ใช่เพียงภาพในโปสเตอร์”

 

            เสียงเชียร์ดังขึ้นเรื่อย ๆ ใครบางคนตะโกน “เรารักคิมหันต์ที่เป็นธรรมชาติ!”

            ผมหัวเราะทั้งน้ำตา รู้ว่านี่คือครั้งแรกที่ผมยืนบนเวที…ในฐานะตัวเอง

 

ปีต่อมา

            ผมยังร้องเพลง แต่ใช้ชีวิตเรียบง่าย ตื่นสาย กินสิ่งที่อยากกิน พักเมื่อล้า ปฏิเสธงานเมื่อร่างกายบอกว่าไม่ไหว รายได้ลดลง แฟนคลับบางคนหายไป แต่สิ่งที่ได้กลับมาคือหัวใจที่ยังเต้นด้วยความสุข

 

            เช้าวันหนึ่ง ผมยืนหน้ากระจกอีกครั้ง คนในกระจกไม่ได้เพอร์เฟกต์ แต่ตาใส รอยยิ้มจริงใจ ไม่ใช่รอยยิ้มเพื่อการค้า

 

               “สวัสดี วันนี้เป็นยังไงบ้าง”

            คนในกระจกยิ้มตอบ เป็นรอยยิ้มที่ผมรู้จักแล้ว  รอยยิ้มของตัวเอง

 

            “บางครั้ง รอยร้าวในคริสตัล…ไม่ได้ทำให้มันด้อยค่า แต่ทำให้มันเปล่งแสงในแบบที่ไม่เหมือนใคร”

 

            ผมหัวเราะเบา ๆ เดินไปทอดไข่สองฟอง กินกับข้าวร้อนในแสงแดดยามเช้า

            นี่แหละ — ชีวิตของคนที่มีความสุข

            ชีวิตที่ผมเลือกเอง

 

               ……..end……..

 

เนื้อหาโดย: อักษราลัย
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
อักษราลัย's profile


โพสท์โดย: อักษราลัย
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
พืชที่มีพิษร้ายแรงเทียบเท่าพิษงูเห่า10 อันดับเมืองที่มีมลพิษสูงสุดกรุงเทพฯชาวนาเขมรยกมือไหว้วอนคนไทย “เปิดด่านช่วยด้วย” หลังราคาข้าวทรุดหนัก สวนทางคำพูดในอดีตที่เคยดูแคลนไทย'ฮุนเซน' ควันออกหู หลังลาวฉวยโอกาสขายของตัดหน้า แย่งสัมปทานจีนชาว เกษตรกร เขมร กดดันไทยเปิดด่าน ควบรถไถเหยียบนาข้าวทิ้ง ราคาตกต่ำสุดขีดแคปซูลกาลเวลา 1,700 ปี การค้นพบหลุมศพโรมันที่ "สมบูรณ์แบบ" ในฮังการี🔍 ถอดรหัสปี 2568! คนไทยค้นหาอะไรบน Google มากที่สุด สะท้อนภาพสังคมแห่งปีพบเครื่องบิน "โบอิ้ง 737" ที่หายไป 13 ปี ถูกจอดทิ้งกลางสนามบินตรงนี้มีคำตอบคนละครึ่งพลัสเฟส 1 ใช้ไม่หมดสามารถนำไปใช้เฟส 2 ได้หรือไม่สภาทนายความ แจงเหตุลบชื่อ ‘ทนายคนดัง’ ออกจากทะเบียนทนายภาษาที่ควรเรียนที่สุด ในอีก5ปีข้างหน้าเปิดการบ้านภาษาไทย เรียงอักษรให้เป็นคำ แบบนี้ยากไปไหม
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
ชาวนาเขมรยกมือไหว้วอนคนไทย “เปิดด่านช่วยด้วย” หลังราคาข้าวทรุดหนัก สวนทางคำพูดในอดีตที่เคยดูแคลนไทยพบกองอาเจียนข้างตัว นัทปง ก่อนเสียชีวิต ตำรวจได้กั้นพื้นที่เพื่อตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งทนายสายหยุด ยอมรับสลิปโอนเงินของ "นานา" เป็นของปลอมปิดฉาก! มหากาฬฯ โบนัสพนักงาน “ไดกิ้น” คือ Get out
กระทู้อื่นๆในบอร์ด ความรัก, ประสบการณ์ชีวิต
การเดินทางที่ไม่สามารถที่จะระบุเวลาที่จะถึงได้ "แล้วแต่สถานการณ์ระหว่างทาง"ความรู้นั้นมีการรวบรวม ส่วนของวรรณกรรมและเรื่องราวความเป็นมา (ปราสาทหินพิมาย)"อย่าเดินเหยียบธรณีประตู" สิ่งที่ติดหูเรานั้นมาตลอด คำบอกเล่าจากยายใต้เเสงไฟคริสมาสต์ จุดประกายความหวังครั้งใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่