วีไอมองเอ็มไออย่างไร
ในฐานะที่ผมเป็นนักลงทุนวีไอ ผมไม่ต่อต้านแนวคิดลงทุนแบบ เอ็มไอ ที่สร้างผลกำไรได้ดีในทุกสถานการณ์ เชื่อในโอกาสว่าเม็ดเงินวิ่งไป วิ่งมา จับไม่ได้ ก็ทํากําไรไม่ได้ แม้ผมไม่ต่อต้าน แต่ผมไม่ลงทุนแนวนี้ เพราะไม่ใช่นิสัยของผม ผมไม่ใช่แบบนั้น การลงทุนแนวเอ็มไอดี แต่จะเหมาะกับนักลงทุนที่มีลักษณะนิสัยอีกแบบหนึ่ง ผมเป็นคนนิ่งๆ ใจเย็น มองการลงทุนเป็นธุรกิจเลยตัดสินใจเป็นแวลอินเวสเตอร์ แต่ผมเคารพในการลงทุนทุกแนว
ตลอดชีวิตการทํางานของผมอาจมีลักษณะดูเป็นเอ็มไอ แต่พอร์ตส่วนตัวผมลงทุนแบบวีไอ อาจจะดูขัดแย้งกัน เพราะทํางานสไตล์หนึ่ง แต่ ลงทุนอีกสไตล์หนึ่ง ผมว่าไม่สําคัญหรอกนะ คุณเรียนรู้ได้ทุกเรื่อง แม้แต่ ศาสตร์ของเอ็มไอ นักลงทุนที่เป็นวีไอก็ต้องรู้ด้วย ควรรู้ว่านักลงทุนแบบเอ็มไอลงทุนอย่างไรเพราะจะสร้างโอกาสให้มีค่า ทําให้รู้ว่าสินทรัพย์กลุ่มไหนไม่ดีในช่วงเวลาใด เราก็ไม่ซื้อในช่วงนั้น ช่วงเวลาที่เศรษฐกิจขาขึ้นแรงๆ สินค้าโภคภัณฑ์จะมา แต่กลุ่มอุตสาหกรรมที่จะลงคืออสังหาริมทรัพย์
ถ้าคุณรู้ก็จะเป็นโอกาสในการลงทุนได้นักลงทุนที่เป็นวีไอจึงควรศึกษาโมเมนตัมไม่ใช่เพื่อนําไปเก็งกําไรเล่นรอบ แต่ใช้เพื่อเป็นการวิเคราะห์โอกาสในการ ลงทุนให้ถูกช่วงเวลา และช่วยเสริมให้การลงทุนแบบวีไอ มีประสิทธิภาพสูง ผมอยากย้ำว่าอย่าปิดกั้นโอกาสการเรียนรู้จักแนวทางการลงทุนอื่นๆ ผมเลือกใช้ข้อมูลจากที่ทํางานมาปรับใช้กับการเป็นนักลงทุนแวลูอิน เวสเตอร์ เพื่อให้ได้รู้จังหวะในการลงทุน เช่น ถ้าจะซื้อหุ้นตัวหนึ่งก็จะ วิเคราะห์จุดต่ำสุดได้เป็นการเรียนรู้เพื่อหาโอกาส ไม่ใช่เอาไปเล่นรอบเก็ง กําไร ไม่ควรสนใจเลย การวิเคราะห์เทคนิคผมก็ไม่ต่อต้าน การเก็งกําไรก็ไม่ต่อต้าน เพราะอุปนิสัยคนเราไม่เหมือนกัน ทุกวันนี้สังคมเราจะพยายามสร้างความต่างเสมอ
อาทิ ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ (Android) กับ ระบบปฏิบัติการไอโอเอส (iOS) ก็ไปนั่งถกเถียงกันอยู่นั่นแหละ หรือสโมสร ฟุตบอลลิเวอร์พูล (Liverpool Football Club) กับ แมนยูฯ (Manchester United Football Club) แบบนี้ ไม่ว่าจะเป็นแนวทางแบบไหน หรือเทคนิค ชนิดใด ถ้าลักษณะนิสัยคุณเป็นแบบไหนก็ควรไปตามนั้น นักลงทุนแบบ เก็งกําไรจึงไม่ใช่ว่าไม่ดีดูแย่ไปหมด เพราะนักลงทุนประเภทนี้จะช่วยสร้าง สภาพคล่อง สร้างโอกาสให้กับวีไอ
ผมยอมรับว่าการเป็นนักลงทุนแบบเอ็มได้ยากกว่าเป็นวีไอ ผมจึง เลือกมาทางนี้ และอยากจะเตือนนักลงทุนที่ลงทุนสไตล์คุณต้น ต้องหา ความรู้เยอะ แต่ก็เป็นสิ่งที่ท้าทาย เพราะว่าถ้าชอบอะไรสงบๆ ไม่สนุกก็ เป็นนักลงทุนวีไอ ซึ่งก็พอได้สนุกกับกําไรได้บ้าง แต่ไม่ต้องตื่นเต้นมากเกินไป เราตื่นเต้นตอนหุ้นลง จะได้ซื้อของถูก
สรุป คือ อยากเป็นอะไรก็เป็น หนังสือเล่มนี้ไม่ตอบโจทย์ทั้งหมด บอกแค่ว่ามีนักลงทุนอยู่สองประเภทนี้ คุณต้องไปศึกษาเพิ่มเองอีก
จําเป็นไหมต้องมีสไตล์การลงทุนที่ชัดเจน?
ผมเชื่อว่า นักลงทุนหลายคนสนุกกับการลงทุน สองแบบในคนเดียว นักลงทุนแต่ละประเภทจะมีโอกาสเปลี่ยนไปได้ตามสถานการณ์หรือเปลี่ยนตามตัวเราเองที่เปลี่ยนแปลงไป บางครั้งเรื่องของอายุก็มีส่วนเกี่ยวข้อง บางคนเพิ่งเรียนจบกล้าที่จะเสี่ยง แต่พอมีอายุมากขึ้นเวลาเหลือน้อยลง ก็อาจกลับมาเป็นนักลงทุนหุ้นคุณค่าได้ เพราะขอแค่เงินปันผลอย่างเดียวก็พอ
ถามว่าช่วงเวลาใดช่วงเวลาหนึ่ง คนหนึ่งคนจะสามารถเป็นนักลงทุนทั้งสองแบบพร้อมกันได้ไหม?
ผมคิดว่าเป็นไปได้ มีหลายคนที่เป็นเช่นนั้น ผมเห็นนักลงทุนบางคนมีพอร์ตระยะยาวและประสบความสําเร็จในการเป็นนักลงทุนเอ็มไอ แต่ต้องแบ่งแยกความคิดแต่ละสถานการณ์ให้ถูกเล่นกําไรรอบสั้นๆ ได้ บางคนเป็นนักลงทุนแนววีไอ 80% ที่เหลืออีก 20% ขอลงทุนแบบเล่นเก็งกําไรรอบสั้นๆ บ้างก็มี
เคล็ด(ไม่)ลับการลงทุนให้ประสบความสําเร็จ
สําหรับผู้ที่จะเป็นนักลงทุนแบบวีไอ ผมพูดเสมอว่า การลงทุนจะ ประสบความสําเร็จได้นั้น ขึ้นอยู่กับคุณมีความ “อดทน” แค่ไหนในหลายๆ เรื่อง เช่น อดทนประหยัดเงินได้มากน้อยแค่ไหน? เพื่อที่จะเก็บสะสมเงินไปลงทุน ต่อได้ อดทนเห็นหุ้นที่ถืออยู่ราคาร่วงลงในช่วงเศรษฐกิจลงได้แค่ไหน? อดทน เห็นหุ้นขึ้นแรงๆ แล้วไม่ขายออกได้แค่ไหน? อดทนถือหุ้นให้นานถึง 30 ปี ได้แค่ไหน? เมื่อพื้นฐานไม่เปลี่ยนก็ไม่ขาย ทุกอย่างจึงขึ้นอยู่กับความอดทน ผมลงทุนมา 20 ปี จึงรู้เป็นอย่างดีว่า ความอดทนมีความสําคัญอย่างไร?
นอกจากนี้ คุณยังจะรับมือกับความอดทนถ้าหากเกิดความผิด พลาดได้ไหม? ในวันที่ผิดพลาด เราต้องรู้ว่าพลาดและอดทนลงทุนต่อไป อย่ายอมแพ้ไปก่อน นี่คือ กุญแจแห่งความสําเร็จ
ผมอยากจะฝากว่า ต้องลงทุนแบบมองโลกแง่บวก ถ้าคุณมอง โลกแง่ลบมากๆ คุณจะไม่ได้ของดีในราคาถูกแน่ เพราะทุกอย่างเวลานั้น จะออกมาลบหมด อย่าง วอร์เรน บัฟเฟตต์ เมื่อเวลาที่เศรษฐกิจตกต่ํา เขา จะจ้องมองตลอดเวลาว่าเศรษฐกิจจะดีขึ้นเมื่อไร เพราะว่าทุกอย่างจะไม่ เลวร้ายได้ตลอดไป สุดท้ายจะต้องกลับมาดีเอง ดังนั้น พลังแห่งการคิด บวกจึงช่วยในการลงทุนได้ดีเยี่ยม
สิ่งที่ต้องรู้ 3 ข้อในการเป็นนักลงทุนที่ประสบความสําเร็จ คือ
หนึ่ง...ต้องรู้ว่าเราเป็นใคร
สอง...ต้องรู้จักแนวทางของตัวเอง
สาม ต้องยึดมั่นในแนวทางของตัวเอง
หากทําได้ทั้งสามข้อนี้ ไม่ว่าจะคุณเป็นนักลงทุนแบบวีไอหรือนัก ลงทุนแบบเอ็มไอก็ตาม ไม่จําเป็นต้องมานั่งเถียงกัน
"ทัพฟ้าไทย" ยืดอกรับ ส่งฝูงบินถล่มคลังแสงพระตะบอง ลั่น "เราไม่ได้เริ่มก่อน" แต่ต้องทำเพื่อปกป้องประชาชน
รู้จัก M777 ปืนใหญ่สนามตัวโหด เบา คล่อง ยิงแม่นระดับนำวิถี ตัวเปลี่ยนเกมสงครามยุคใหม่
📜 ภาพเก่าประวัติศาสตร์ “พระตะบอง” จากแผ่นดินสยาม สู่ความทรงจำ
APC M113 รถเกราะ 60 ปี ลุยสมรภูมิช่องอานม้า เสริม "เกราะไม้" กันจรวดสุดแกร่ง
เรื่องราวสุดประทับใจของ คาร์ลอส เฟรสโก (Carlos Fresco) และ มอนตี้ (Monty) สุนัขพันธุ์ลาบาดูดเดิลแสนรักวัย 10 ปี
กฎหมายใหม่"การส่งข้อความลๅมกอนๅจๅร" อาจติดคุก เริ่มใช้ ต้นปี 69
ทัพภาค 2 จัดหนัก งัดจรวดไทย DTI-1G รับใช้ชาติ ถล่ม BM-21 เขมรให้กระจาย
วิเคราะห์สถิติหวยปีใหม่ 2 มกราคม: เจาะลึกเลขเด่นรับโชควันศุกร์ 2569
หมอปลาย พรายกระซิบ รีเทิร์นแบบฮาๆ! ทำนายพลาดทัวร์ลงหนัก ขอโทษยกมือไหว้ วอนชาวเน็ตให้โอกาสแก้ตัว ไม่งั้นเลิกดูดวงไปจับผีเต็มตัวซะเลย!
จรวดจีนฟัดจรวดจีน เปิดคลังอาวุธลับสมรภูมิสระแก้ว เมื่อไทย-เขมรต่างงัดไม้เด็ด "สายเลือดมังกร" มาดวลกัน
"DJ Sakura Soh" กับบทบาทใหม่ในวงการ JAV
พุทธศิลป์แนวใหม่หรือวัตถุนิยม? กระแสวิจารณ์ "หัวใจพระพุทธเจ้า" ทรงอนาโตมี
"เสือดาวจีนเหนือ" กลับคืนสู่ปักกิ่งหลังหายไป 3 ทศวรรษ นักวิทยาศาสตร์พบหลักฐานที่น่าตื่นเต้น
"กล้วยหอม" จากผลไม้พื้นบ้านสู่สินค้าเปลี่ยนโลก
ทำไมต้องเศร้าตอนพระอาทิตย์ตกดิน
วัฒนธรรมแท่งหินรูปกวาง (Deer Stones Culture) ในมองโกเลีย



