สิ่งที่ฉันไม่เคยบอก
สิ่งที่ฉันไม่เคยบอก
โดย อักษราลัย
บางความทรงจำ เราเลือกเก็บไว้เพราะมันสวยงาม
บางความทรงจำ เราเลือกลืม เพราะมันเจ็บเกินไป
แต่เมื่อเวลาผ่านไป… ความจริงจะค่อย ๆ ทวงสิทธิ์ของมันกลับคืน
ลมหนาวปลายปีพัดกรูผ่านเข้ามากระทบกระจกหน้าต่างเก่าคร่ำของบ้านไม้สองชั้น เสียงหวีดหวิวลอดผ่านช่องไม้ราวเสียงกระซิบจากใครบางคนที่ยังวนเวียนอยู่ในความเงียบ
บ้านหลังนี้เคยเต็มไปด้วยกลิ่นขนมปังยามเช้า เสียงหัวเราะปนเสียงเครื่องตีแป้ง แต่บัดนี้เงียบงันมาหลายปี จนกระทั่งเงาร่างของวารีทอดยาวบนพื้นไม้หน้าห้องหนึ่งที่เธอไม่ได้เปิดมันมานานแสนนาน
เธอยืนอยู่หน้าบานประตูเก่า มือแนบลูกบิดที่เย็นเฉียบแม้ในยามสาย แสงแดดลอดผ่านหน้าต่างตรงหัวบันไดกระทบฝุ่นละอองที่ลอยตัวในอากาศ เหมือนหมอกบางที่พยายามพรางความจริงไว้จากสายตา
เสียงบานพับแผ่วเบาเมื่อเธอเปิดประตู กลิ่นยาหม่องเจือกลิ่นกระดาษเก่าลอยเข้ามาแตะปลายจมูก ทำให้หัวใจพลันหวิววาบราวถูกพัดย้อนกลับสู่อดีต
ข้างเตียงไม้ยังคงมีลิ้นชักใบเดิม รอยแตกร้าวที่มุมลิ้นชักยังอยู่ในตำแหน่งเดิมอย่างไม่ไยดีต่อกาลเวลา เธอคุกเข่าลง เปิดลิ้นชักด้วยปลายนิ้วอย่างกลัวจะปลุกเสียงในอดีตให้ตื่นขึ้นมาอีกครั้ง
กล่องเหล็กสีเขียวหม่นปรากฏในสายตา สีที่เคยสดใสในวัยเด็กกลับซีดจางจนแทบจำไม่ได้ แต่ทันทีที่เปิดฝากล่อง ความทรงจำก็พรั่งพรูออกมาราวสายน้ำที่ทะลักจากประตูเขื่อน
เธอหยิบไดอารี่เล่มเล็กออกมา หน้าปกสีชมพูหม่นมีรอยคราบน้ำตาที่ฝังอยู่ลึกในกระดาษ หน้าแรกเขียนไว้เพียงประโยคเดียว ด้วยลายมือเด็กหญิง
“วันนี้แม่ตบฉันอีกแล้ว แต่ฉันจะไม่ร้องไห้”
โลกทั้งใบของวารีเหมือนหยุดหมุน เสียงในห้องเงียบสนิท ราวกับกำลังยืนอยู่ในช่องว่างระหว่างความเป็นจริงกับความทรงจำ
⏳
เธอหดตัวลงในใจ กลายเป็นเด็กหญิงวัยสิบขวบที่เคยกอดกล่องเหล็กใบนี้ไว้ใต้ผ้าห่ม กอดไว้แน่นในคืนที่ไม่กล้าร้องไห้ออกมา
เธอพลิกอ่านหน้าถัดไป…
“แม่บอกว่าเสียงฉันน่ารำคาญ แต่หนูยังอยากเล่าเรื่องโรงเรียนให้แม่ฟังอยู่ดี”
“วันนี้แม่ทำขนมให้ พอหนูบอกว่าอร่อย แม่ก็เงียบไปนาน ก่อนจะลูบหัวหนูเบา ๆ”
“หนูเจ็บตรงแขน แต่ไม่อยากให้แม่รู้ กลัวแม่จะร้องไห้อีก”
“หนูเห็นแม่ยืนนิ่ง ๆ ที่หน้าต่างนานมาก เหมือนกำลังฟังเสียงอะไรบางอย่าง หนูอยากเดินเข้าไปกอด แต่ไม่กล้า”
และสุดท้าย
“หนูรักแม่ แม้หนูจะกลัวแม่ หนูก็ยังอยากให้แม่ยิ้มให้หนูอีกครั้ง”
น้ำตาของวารีไหลเงียบ ๆ ลงบนหน้ากระดาษ ละลายตัวอักษรให้พร่าเลือน แต่ความรู้สึกยังชัดเจนอยู่ในอก ราวกับฝนที่ซึมลงบนผืนดินแห้งผากและปลุกชีวิตบางอย่างให้ค่อย ๆ ตื่นขึ้น
⏳
พ่อของเธอนอนนิ่งอยู่ในห้องพิเศษของโรงพยาบาล
ผิวหนังเหี่ยวย่นคลุมร่างกายที่เคยแข็งแรงอย่างผู้พิทักษ์ในวัยเด็ก เขาหันมาช้า ๆ ดวงตาที่เคยเข้มแข็งบัดนี้มีแต่ความอ่อนโยนและเหนื่อยล้า
“ลูกกลับมาแล้วเหรอ...วารี...” เสียงแหบพร่าทักเบา
วารีกุมมือของเขาไว้แน่นกว่าที่ตั้งใจ น้ำเสียงสั่นเครือโดยไม่รู้ตัว
“พ่อมีบางอย่างอยากจะบอก เกี่ยวกับแม่ของลูก”
เธอชะงัก ใจเต้นแรงราวกับหวาดกลัวคำที่กำลังจะได้ยิน
“ไม่เป็นไรพ่อ... หนูไม่อยากจำเรื่องที่ไม่ดี”
เขานิ่งไปนาน ราวกลั่นคำจากส่วนลึกของใจ “แต่ลูกควรรู้ ว่าแม่ของลูกเคยป่วย... ป่วยมาก”
เขาหอบหายใจ ก่อนเอ่ยต่อช้า ๆ “แม่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคซึมเศร้าหลังคลอด มันรุนแรงมาก จนบางครั้งเธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่ากำลังทำร้ายลูกของตัวเอง... พ่อพาแม่ไปรักษาหลายครั้ง แต่ช่วงนั้นเราก็ลำบากมาก พ่อเองก็ไม่รู้จะบอกลูกยังไง...”
เสียงพ่อแผ่วลงพร้อมหยาดน้ำใสที่ไหลจากหางตา
เธอนิ่ง ฟังเงียบ ๆ ขณะที่ภาพในความทรงจำผุดขึ้นมาอีกครั้ง
◉‿◉
เสียงของแม่ที่เอาแต่นิ่งเงียบ เสียงสะอื้นตอนกลางคืน มือของพ่อที่ประคองภรรยาไว้ในคืนที่เธอทรุดลงกับพื้น
คืนนั้นหลังจากกลับจากโรงพยาบาล วารีกลับมานั่งที่เดิม หน้าลิ้นชักเดิม ไดอารี่เล่มเดิมอยู่ในมือที่ยังสั่นไหวเล็กน้อย
เธอหลับตา ปล่อยให้น้ำตาไหลเงียบ ๆ อาบใบหน้า ราวกับทุกถ้อยคำที่เคยเก็บกลั้นไว้กำลังละลายออกมา
วารีลุกขึ้น เดินไปที่หน้าต่างบานเก่า เปิดมันออกช้า ๆ ลมหนาวปลายปีพัดผ่านเข้ามา กลิ่นดินและใบไม้ทำให้หัวใจเธอเย็นลงอย่างประหลาด
มองลงไปที่สวนหลังบ้าน ใบไม้ร่วงหล่นกองรวมกันตรงมุมหนึ่ง ดูคล้ายเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ ที่นั่งกอดเข่าเงียบ ๆ
ภาพนั้นทำให้เธอไม่รู้สึกเดียวดายอีกต่อไป
ในวันสุดท้ายของพ่อ วารียืนกุมมือเขาไว้จนถึงลมหายใจสุดท้าย ไม่หลั่งน้ำตาแม้แต่น้อย มีเพียงรอยยิ้มบางที่เต็มไปด้วยคำให้อภัย และความเข้าใจที่มาช้า…แต่ไม่สาย
หลังจากเสร็จพิธี เธอกลับมาที่บ้าน หยิบรูปถ่ายใบหนึ่งในลิ้นชักเก่า รูปแม่ยืนอยู่กลางสวนหลังบ้าน แสงแดดยามบ่ายตกกระทบใบหน้าของเธอ รอยยิ้มนั้น… คล้ายจะบอกอะไรบางอย่าง
วารีเขียนจดหมายสั้น ๆ ใส่ซอง วางไว้ใต้กรอบรูป
“หนูขอโทษที่หนูลืมแม่ไปนาน... และขอบคุณที่แม่ไม่เคยลืมหนูเลย”
วันนั้นเธอเปิดหน้าต่างทุกบานในบ้าน ให้ลมปลายปีไหลเวียนผ่านจากห้องหนึ่งสู่อีกห้องหนึ่ง เหมือนเสียงหัวเราะเก่า ๆ เริ่มกระซิบในอากาศอีกครั้ง
ในที่สุด เธอก็ได้พูดในสิ่งที่ไม่เคยพูด
ยอมรับสิ่งที่ไม่เคยจำ
และรักใครบางคนในแบบที่เธอไม่เคยกล้ารัก
บางความทรงจำ เราเลือกจำเพราะมันสวยงาม
บางความทรงจำ เราเลือกลืม เพราะมันเจ็บเกินไป
แต่เมื่อถึงเวลา… ความจริงจะค่อย ๆ ทวงสิทธิ์ของมันกลับคืน และหากเรากล้าพอจะมองมันตรง ๆ
…เราจะพบว่า
แม้แต่ความทรงจำที่เจ็บปวดที่สุด… ก็อ่อนโยนได้ในที่สุด
วิเคราะห์หวยงวดวันที่ 2 มกราคม 69 โดยใช้ AI..เลขไหนมีสิทธิ์ถูกรางวัล
เขมรวิเคราห์ "จุดอ่อนของ T-50TH คืออะไร?"
"ซินแสดัง" เผยดวงเมืองประเทศไทย ปี 2569..ยิ่งรบ ยิ่งแข็งแกร่ง ศัตรูแพ้ราบคาบ
เซียนหวยคึกคัก ม้าสีหมอกปล่อยแนวทางเลขเด็ด งวด 2 มกราคม 2568
📜 ภาพเก่าประวัติศาสตร์ “พระตะบอง” จากแผ่นดินสยาม สู่ความทรงจำ
สยายปีกรับทรัพย์! เลขเด็ด "นกตาทิพย์" แนวทางรวยงวดใหม่ 2 มกราคม 2569
AI วิเคราะห์เลขท้าย 2 ตัว งวดวันที่ 2 มกราคม 69..โดยใช้สถิติย้อนหลัง 20 ปี
ทัพภาค 2 จัดหนัก งัดจรวดไทย DTI-1G รับใช้ชาติ ถล่ม BM-21 เขมรให้กระจาย
"ทัพฟ้าไทย" ยืดอกรับ ส่งฝูงบินถล่มคลังแสงพระตะบอง ลั่น "เราไม่ได้เริ่มก่อน" แต่ต้องทำเพื่อปกป้องประชาชน
"ปอบดิ๊บดิบ" : การกลับมาของตำนาน "ปอบหยิบ" ในรอบ 14 ปี
เซ็นหยุดยิงได้ 35 นาที สระแก้วเดือดอีกรอบ! ถล่มปืนใหญ่
เมื่อนักธุรกิจมาดเข้ม กลายเป็น "เชฟโอปป้า" เพื่อหลานรัก
AI วิเคราะห์เลขท้าย 2 ตัว งวดวันที่ 2 มกราคม 69..โดยใช้สถิติย้อนหลัง 20 ปี
📜 ภาพเก่าประวัติศาสตร์ “พระตะบอง” จากแผ่นดินสยาม สู่ความทรงจำ
แม่น้ำที่ไหลผ่านประเทศต่างๆ จำนวนมากที่สุดในโลก
เซ็นหยุดยิงได้ 35 นาที สระแก้วเดือดอีกรอบ! ถล่มปืนใหญ่



