ในทุกห้องเรียนทั่วโลก เด็ก ๆ เติบโตมากับการท่อง “สูตรคูณ” อย่างเคร่งครัด จนกลายเป็นหนึ่งในบทเรียนพื้นฐานที่ทุกคนคุ้นเคยตั้งแต่วัยเยาว์ แต่หากย้อนกลับไปค้นหาต้นกำเนิดของตารางสูตรคูณอย่างจริงจัง เราจะพบว่า ไม่ได้มีใครคนใดคนหนึ่งที่สามารถอ้างตัวว่าเป็น “ผู้คิดค้น” ตารางนี้ทั้งหมดในคราวเดียว ตรงกันข้าม—สิ่งที่เราเรียกว่าสูตรคูณนั้น เป็นผลลัพธ์ของวิวัฒนาการทางคณิตศาสตร์ที่ค่อย ๆ เติบโตจากหลากหลายอารยธรรมโบราณ กระจายอยู่ตามพื้นที่ต่าง ๆ ของโลก
หนึ่งในอารยธรรมแรกเริ่มที่รู้จักการคูณคือชาวบาบิโลน พวกเขาใช้ระบบเลขฐาน 60 ที่ซับซ้อนและแม่นยำ มีหลักฐานแสดงให้เห็นว่าชาวบาบิโลนรู้จักการจัดตารางเพื่อใช้ในการคำนวณมาแล้วนับพันปี แม้จะแตกต่างจากที่เราใช้ในปัจจุบันโดยสิ้นเชิง แต่แนวคิดพื้นฐานเรื่อง “การจัดการกับตัวเลขเพื่อทำให้คำนวณได้ง่ายขึ้น” นั้น เริ่มปรากฏขึ้นชัดเจนตั้งแต่ยุคนั้น
ในอีกฟากหนึ่งของโลก จีนโบราณก็มีความเข้าใจในเรื่องนี้เช่นกัน แผ่นไม้ไผ่ที่ขุดพบในช่วงยุคจ้านกั๋วเมื่อราว 305 ปีก่อนคริสตกาล แสดงให้เห็นว่าชาวจีนรู้จักการใช้ตารางการคูณในระบบเลขฐานสิบ ซึ่งใกล้เคียงกับระบบที่เราคุ้นเคยกันในยุคปัจจุบัน นับว่าเป็นหนึ่งในหลักฐานที่เก่าแก่ที่สุดของการคูณแบบที่เป็นระบบในโลก
ขณะเดียวกันในดินแดนลุ่มแม่น้ำไนล์ ชาวอียิปต์โบราณก็มีการใช้แนวคิดการคูณในรูปแบบของการบวกลำดับซ้ำซ้อน เพื่อคำนวณในการเกษตร การคำนวณแรงงาน หรือการแบ่งทรัพยากร แม้จะไม่มีตารางเป็นรูปเป็นร่างแบบที่เราท่องจำกันในห้องเรียน แต่อย่างน้อยที่สุด การคูณในยุคอียิปต์ก็คือกลไกหนึ่งที่ช่วยให้ชีวิตดำเนินไปได้อย่างเป็นระบบมากขึ้น
ชื่อที่มักถูกอ้างถึงมากที่สุดเมื่อพูดถึงตารางสูตรคูณคือ “พีทาโกรัส” นักคณิตศาสตร์และนักปรัชญาชาวกรีกโบราณ ผู้มีชีวิตอยู่ในช่วงประมาณ 570 ถึง 495 ปีก่อนคริสตกาล แม้เขาจะเป็นที่รู้จักจากทฤษฎีบทพีทาโกรัสอันเลื่องชื่อเกี่ยวกับสามเหลี่ยมมุมฉาก แต่ในโลกของคณิตศาสตร์ เขายังเป็นผู้มีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมการเรียนรู้เชิงเหตุผลและโครงสร้างของตัวเลข มีการเชื่อกันว่าเขาหรือผู้สืบทอดแนวคิดของเขาเป็นผู้นำแนวคิดเรื่อง “ตารางการคูณแบบเป็นระบบ” มาสู่โลกตะวันตก จนกลายเป็นต้นแบบของตารางพีทาโกรัสที่เราท่องกันทุกวันนี้
แม้จะไม่มีใครสามารถระบุชื่อผู้คิดค้นสูตรคูณได้อย่างแน่ชัด แต่สิ่งที่แน่นอนก็คือ—มนุษย์จากหลากหลายอารยธรรมต่างก็พยายามหาวิธีจัดการกับการนับ การบวก การคูณ และการแบ่ง อย่างเป็นระบบมาโดยตลอด สูตรคูณจึงเป็นเหมือนภาษาสากลที่ไม่ได้เกิดจากมันสมองของใครคนใดคนหนึ่ง แต่คือความร่วมมือข้ามเวลาและพรมแดนของความรู้มนุษย์ที่สะสมและถ่ายทอดกันมาหลายพันปี จนกระทั่งกลายเป็นตารางตัวเลขธรรมดา ๆ บนกระดาษที่เปลี่ยนชีวิตคนได้ทั้งโลก.

















