หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Team Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน ราคาทองคำ กินอะไรดี
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

ดอกเข้าพรรษา" (Globba winitii) ดอกไม้สวย ชื่อเดียวกับเทศกาลเข้าพรรษา

เนื้อหาโดย dukedick

        "ดอกเข้าพรรษา" หรือที่มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Globba winitii เป็นพืชล้มลุกในวงศ์ขิงข่า (Zingiberaceae) ที่มีถิ่นกำเนิดและพบได้มากในประเทศไทย โดยเฉพาะทางภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ดอกไม้ชนิดนี้มีความผูกพันอย่างลึกซึ้งกับประเพณีและวัฒนธรรมของไทย โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลเข้าพรรษา จึงเป็นที่มาของชื่ออันเป็นมงคลนี้

        ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ของดอกเข้าพรรษาคือ มีลำต้นใต้ดินเป็นเหง้าสะสมอาหาร และแตกหน่อเหนือดินเป็นลำต้นเทียมคล้ายต้นกล้วย สูงประมาณ 30-80 เซนติเมตร มีใบเรียวยาว ปลายแหลม สีเขียวสดใส ส่วนที่โดดเด่นที่สุดคือช่อดอกที่ตั้งตรงออกจากยอดลำต้นเทียม เป็นช่อห้อยลงมาเล็กน้อย ประกอบด้วยดอกย่อยขนาดเล็กสีเหลืองสดหรือเหลืองอมส้ม แซมด้วยกลีบประดับที่สวยงามหลากหลายสีสัน เช่น สีขาว ชมพู ม่วง หรือแดง ซึ่งเป็นส่วนที่ช่วยขับให้ดอกเข้าพรรษาดูโดดเด่นและงดงาม

        ดอกเข้าพรรษาจะเริ่มออกดอกในช่วงต้นฤดูฝน ประมาณเดือนกรกฎาคมไปจนถึงเดือนกันยายน ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ตรงกับการเข้าพรรษาของพระภิกษุสงฆ์พอดี ทำให้ดอกไม้ชนิดนี้กลายเป็นสัญลักษณ์สำคัญของเทศกาลพุทธศาสนาในประเทศไทย

        ในหลายพื้นที่ของประเทศ โดยเฉพาะในจังหวัดสระบุรี ดอกเข้าพรรษามีบทบาทสำคัญใน ประเพณีตักบาตรดอกเข้าพรรษา ซึ่งจัดขึ้นเป็นประจำทุกปีที่วัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหาร พุทธศาสนิกชนจะนำดอกเข้าพรรษามาตักบาตรพระภิกษุสงฆ์เพื่อความเป็นสิริมงคล และเป็นการสืบสานประเพณีอันดีงามที่เชื่อกันว่ามีความเกี่ยวข้องกับการบูชารอยพระพุทธบาท

        ดอกเข้าพรรษาเป็นพืชที่ปลูกและดูแลไม่ยาก นิยมปลูกเป็นไม้ประดับในสวน หรือปลูกลงกระถางเพื่อความสวยงาม โดยต้องการดินที่ระบายน้ำได้ดี ชอบแสงรำไรถึงแดดปานกลาง และต้องการความชื้นในระดับปานกลาง ควรให้น้ำสม่ำเสมอในช่วงฤดูแล้งและลดปริมาณน้ำลงในช่วงฤดูหนาวที่พืชจะเริ่มพักตัว

        นอกจากความสวยงามและความสำคัญทางวัฒนธรรมแล้ว ดอกเข้าพรรษายังเป็นพืชที่แสดงถึงความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติไทย และเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของความผูกพันอันแน่นแฟ้นระหว่างพืชพรรณกับวิถีชีวิตและประเพณีของผู้คนในประเทศ

 

เนื้อหาโดย: dukedick
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
dukedick's profile


โพสท์โดย: dukedick
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
ปิดตำนานรถ EV ราคาถูก ทิ้งลูกค้า, ดีลเลอร์ หอบเงินจากภาครัฐฯ กลับจีนหน้าตาเฉยวิเคราะห์หวยงวดวันที่ 2 มกราคม 69 โดยใช้ AI..เลขไหนมีสิทธิ์ถูกรางวัลเจ้าของบริษัทขายกิจการ แจกโบนัสพนักงานคนละ 443,000 ดอลลาร์เขมรวิเคราห์ "จุดอ่อนของ T-50TH คืออะไร?"10 พรรณไม้สวยพิษร้าย: ความงดงามที่ต้องแลกด้วยอันตรายถึงชีวิต"ซินแสดัง" เผยดวงเมืองประเทศไทย ปี 2569..ยิ่งรบ ยิ่งแข็งแกร่ง ศัตรูแพ้ราบคาบ7 อาหารทำร้ายผิว ควรเลี่ยง ถ้าไม่อยากผิวเสียจะว่าไปแล้ว "น้ำผึ้ง" นั้นคือ อุจจาระของผึ้งหรือไม่ ?เปิดแฟ้มลับ 5 อันดับคดีมนต์ดำสะเทือนราชสำนักไทยเจาะเทรนด์ปี 2026! นิสัยและไลฟ์สไตล์ผู้ชายแบบไหนที่ "ดึงดูดใจ" สาวๆ ยุคใหม่มากที่สุดเปิดตำนานอาถรรพ์ "ปู่โสมเฝ้าทรัพย์" แห่งวัดกุฎีดาว: ความลี้ลับที่อยู่คู่แผ่นดินอยุธยาใครที่ยังตั้งรหัสผ่านง่ายๆ รีบเปลี่ยนด่วน! เพราะไม่ปลอดภัยอาจโดนเจาะได้
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
บุรีรัมย์เดือด! ศึกชิงเก้าอี้ สส. วันแรกคึกคัก 'ไหม ศิริกัญญา' บุกถิ่นพรรคสีน้ำเงิน ท้าชนกลุ่มอำนาจเดิมหลังหยุดยิง จีนบริจาคเงินและของให้เขมร มูลค่า 20 ล้านหยวนพระสงษ์ชาวเวียดนาม ผู้เสียสละชีวิตตัวเองเพื่อปกป้องศาสนาอศาสนิก SBNR (Spiritual But Not Religious) เชื่อเรื่องธรรม จิตวิญญาณ แต่ไม่นับถือศาสนาเจาะระบบเตือนภัย J-ALERT ระบบเตือนภัยที่ทรงพลังที่สุดในโลก10 ข้อควรรู้เกี่ยวกับการเอาตัวรอดจากแผ่นดินไหวที่คุณอาจเข้าใจผิด
กระทู้อื่นๆในบอร์ด สาระ เกร็ดน่ารู้
เรื่องของผู้ชายที่ควรรู้เกี่ยวกับการช่วยตัวเองบ่อยๆ ว่าจะทำให้ระดับฮอร์โมนเพศชายลดลงหรือไม่เฉลยแล้ว! 2 จุดอับใน "เครื่องซักผ้า" ที่หลายคนมองข้าม จนกลายเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคโดยไม่รู้ตัว“แอ่งดานาคิล” ราวกับอยู่บนต่างดาว สถานที่สุดโหดร้ายแห่งหนึ่งของโลกภาพของเจ้าหน้าที่ซ่อมบำรุงหรือทีมทำความสะอาด ที่กำลังปฏิบัติงานบริเวณ "ดวงตา" ขององค์พระพุทธรูปอุชิคุ ไดบุตสึ
ตั้งกระทู้ใหม่