คนเวียดนามพัฒนาภาษาอังกฤษได้ไวกว่าคนไทยมาก
ทำไมคนเวียดนามรุ่นใหม่พัฒนาขึ้นไวกว่าคนไทยสิบเท่าตัว โดยเฉพาะการศึกษา การพัฒนาคน
ปัจจัยที่ส่งผลต่อการพัฒนาภาษาอังกฤษของคนเวียดนาม
1. นโยบายภาครัฐที่มุ่งมั่นและจริงจัง มีเป้าหมายชัดเจน รัฐบาลเวียดนามมีนโยบายที่มุ่งมั่นอย่างยิ่งที่จะยกระดับภาษาอังกฤษของประชากร โดยตั้งเป้าให้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่สองของประเทศภายในปี 2045 และให้นักเรียนทุกคนสามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้คล่องแคล่วภายในปี 2035
แต่ประเทศไทยไม่มีเป้าหมายเรื่องนี้ คนไทยพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ จนนักท่องเที่ยวต่างชาติพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า "ไม่พัฒนา" ทั้งที่ทุกประเทศใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาทางการทุกประเทศแล้ว
2. รัฐบาลเวียดนามเน้นลงทุนในการศึกษา มีการจัดสรรทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพในการฝึกอบรมครูอาจารย์ให้มีทักษะภาษาอังกฤษที่ดีเยี่ยม เพื่อให้สามารถสอนได้อย่างมีคุณภาพ และมีการประเมินทักษะภาษาอังกฤษของครูทุกคนตามมาตรฐานสากล เช่น CEFR, IELTS, TOEIC แม้ว่าจะไม่ได้สอนวิชาภาษาอังกฤษโดยตรงก็ตาม
3. การบูรณาการในหลักสูตร ภาษาอังกฤษเริ่มถูกบรรจุเข้าไปในวิชาอื่นๆ เช่น คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี ทำให้ผู้เรียนได้ใช้ภาษาอังกฤษในบริบทที่หลากหลายมากขึ้น
4. การเรียนการสอนที่เน้นการสื่อสาร เวียดนามเริ่มให้ความสำคัญกับการสอนภาษาอังกฤษที่เน้นการสื่อสารและการใช้งานจริงมากกว่าการท่องจำไวยากรณ์หรือคำศัพท์เพียงอย่างเดียว ซึ่งต่างจากประเทศไทยที่หลายครั้งยังคงเน้นการสอนแบบ Grammar-translation หรือการท่องจำตำรา ทำให้คนจบสายวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี่ จะได้ภาษาอังกฤษไปในตัวด้วยเลยหลังจบเรียนจบมหาวิทยาลัย พูดได้คล่อง
5. ความตระหนักและการเห็นความสำคัญ คนเวียดนามโดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ที่มีเชื้อสายชาวจีนจำนวนมาก รู้ๆกันอยู่คนเชื้อสายจีนเก่งกว่าคนเอเชียทั่วไปมากทั้งความสามารถทางค้าขายและการทำธุรกิจ ความสามารถในกรเจรจาต่อรอง ความสามารถด้านภาษาทั้งจีนและอังกฤษใช้ได้คล่องแคล่ว ทำให้การเข้าถึงโอกาสทางเศรษฐกิจและการศึกษาในระดับสากล ทำให้มีแรงจูงใจในการเรียนรู้และฝึกฝนมากกว่า
6. ความกล้าที่จะสื่อสาร จากข้อสังเกตของหลายคน คนเวียดนามมีแนวโน้มที่จะ กล้าพูด ภาษาอังกฤษมากกว่าคนไทย แม้จะยังไม่สมบูรณ์แบบ แต่การกล้าใช้เป็นก้าวแรกที่สำคัญในการพัฒนาทักษะการสื่อสาร
สถานการณ์ของประเทศไทย ในทางกลับกัน แม้ประเทศไทยจะมีการเรียนการสอนภาษาอังกฤษมาอย่างยาวนาน แต่ปัญหาที่ยังพบเจอคือ
1. วิธีการสอน หลายโรงเรียนยังคงเน้นการสอนแบบท่องจำและเน้นไวยากรณ์มากเกินไป ทำให้ผู้เรียนขาดความมั่นใจในการสื่อสาร ยกเว้นแต่โรฃเรียนนานาชาติที่นักเรียนสามารถพูดอังกฤษได้คล่องจริง แต่ค่าเทอมก็สูงมาก
2. โอกาสในการใช้ ผู้เรียนมีโอกาสในการใช้ภาษาอังกฤษนอกห้องเรียนค่อนข้างน้อยในชีวิตประจำวัน จนอยากให้ประเทศไทยยกเลิกการใช้ภาษาไทยมันไปเลย
3. ความกลัวการผิดพลาด วัฒนธรรมที่เน้นความถูกต้องเป๊ะๆ อาจทำให้คนไทยกลัวที่จะพูดภาษาอังกฤษเพราะกลัวว่าจะผิดไวยากรณ์หรือไม่ถูกต้อง ซึ่งทำให้ไม่กล้าฝึกฝน ซึ่งจะว่าไปเรื่องไวยากรณ์มันก็สำคัญนั่นแหล่ะ เพียงแต่ไม่ใช่เรื่องหลัก
สรุปได้ว่า ความแตกต่างในการพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษระหว่างคนเวียดนามกับคนไทยนั้น มาจากปัจจัยหลายอย่าง ทั้งนโยบายของรัฐบาล การลงทุนด้านการศึกษา วิธีการสอน และทัศนคติของประชาชน ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่ประเทศไทยสามารถนำมาพิจารณาและปรับปรุงเพื่อยกระดับทักษะภาษาอังกฤษของคนในประเทศต่อไปได้ครับ
"เพลง ชนม์ทิดา" ฟ้าผ่ากลางใจ! "เป๊ก เศรณี" หมดรัก เทงานแต่งไร้เยื้อใย
🐾 “ของดีประเทศไทย” แมวไทย งดงามระดับโลก สัตว์เลี้ยงคู่บ้านคู่เมืองที่ครองใจคนทั่วโลก
สูตรคำนวณงวด 16/11/68
โดนอ่วม แม่ค้าตลาดน้ำดำเนินฯโก่งราคา "พี่จอง-คัลแลน"
รวมภาพตลกเฮฮาประจำวันนี้ วันที่พายุฝนไม่มีมากนัก แต่น้ำยังเอ่อท่วมหลายพื้นที่ของประเทศ ดูแลตัวเองกันด้วยน๊า
#หวยเด็ด16 พย: เปิดสถิติลับ 12 ปี! ค้นพบ “เลขซ่อนเร้น” ที่มีโอกาสออกซ้ำ งวด 16 พ.ย. นี้
“โอ๊ค พานทองแท้” ประกาศชัด! พร้อมสืบทอดเส้นทางการเมืองพ่อทักษิณ – ลั่น “ผมพร้อมตั้งแต่เกิดเป็นลูกของทักษิณ ชินวัตร”
หนุ่มๆ จีนแห่ถ่ายรูปคู่ผลไม้ พร้อมแคปชั่นชวนจิ้น "พี่สาวหงส์ ผมมาแล้ว"
คนไทยพร้อมรับมือตกงาน เมื่อธุรกิจต้องลดต้นทุน และย้ายโรงงาน
สถานการณ์เศรษฐกิจไทยเมื่อหมดบุญเก่า ส่งออกแนวโน้มแย่ ท่องเที่ยวลดลง ค้าขายแย่
"เที่ยวไทยคนละครึ่ง"ของรัฐบาลนี้ ห่วยแตก สู้ "เราเที่ยวด้วยกัน" ของลุงตู่ไม่ได้ทุกมุม ทำคนรำคาญ เที่ยวนอกแทนดีกว่า
