จัดฟัน มีกี่รูปแบบ รักษานานไหม ใช้งบประมาณเท่าไร

จัดฟัน มีกี่รูปแบบ รักษานานไหม ใช้งบประมาณเท่าไร

การจัดฟันเป็นหัตถการทางทันตกรรมที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มวัยรุ่น วัยทำงาน หรือแม้แต่วัยผู้ใหญ่ตอนปลาย เพราะนอกจากเรื่องความสวยงามของรอยยิ้มแล้ว การจัดฟันยังมีประโยชน์ในเชิงสุขภาพช่องปากอีกด้วย เช่น การแก้ปัญหาการสบฟันผิดปกติ ฟันเก ฟันซ้อน หรือฟันห่าง ที่อาจส่งผลต่อการเคี้ยวอาหาร พูด หรือแม้แต่ความมั่นใจในการใช้ชีวิตประจำวัน

บทความนี้จะพาไปทำความเข้าใจเกี่ยวกับการจัดฟัน ตั้งแต่ความหมายของการจัดฟัน รูปแบบต่าง ๆ ระยะเวลาในการรักษา ไปจนถึงค่าใช้จ่ายโดยประมาณ เพื่อเป็นแนวทางสำหรับผู้ที่กำลังพิจารณาจัดฟัน

จัดฟันคืออะไร

จัดฟัน (Orthodontic Treatment) คือกระบวนการรักษาทางทันตกรรมโดยใช้เครื่องมือชนิดต่าง ๆ เพื่อเคลื่อนฟันให้อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม ช่วยให้การสบฟันเป็นปกติ และฟันเรียงตัวสวยงาม

การจัดฟันมีเป้าหมายหลักดังนี้:

• แก้ปัญหาการเรียงตัวของฟันที่ผิดปกติ เช่น ฟันซ้อน ฟันเก ฟันห่าง
  
  
• ปรับการสบฟันให้ถูกต้อง เช่น สบฟันลึก สบฟันเปิด หรือสบฟันคร่อม
  
  
• ป้องกันโรคในช่องปาก เช่น ฟันผุ เหงือกอักเสบ จากการแปรงฟันลำบาก
  
  
• เพิ่มความมั่นใจในการพูด ยิ้ม และบุคลิกภาพ

รูปแบบของการจัดฟัน

การจัดฟันมีหลายรูปแบบ แต่ละแบบมีข้อดี ข้อเสีย ระยะเวลา และค่าใช้จ่ายที่แตกต่างกัน แต่ละแบบก็ใหล้ผลลัพธ์การรักษาที่ดีเยี่ยม ขึ้นอยู่กับระดับความหนักเบาของเคส และการวางแผนรักษาของทันตแพทย์ ซึ่งต้องเข้ารับการปรึกษาก่อน เพราะแต่ละคนมีปัญหาฟันต่างกัน รูปแบบของการจัดฟันแบ่งหลักๆ ได้ดังนี้

1. การจัดฟันแบบโลหะ (Metal Braces)

• เป็นรูปแบบที่ใช้กันมายาวนาน และได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง
  
  
• ใช้เหล็กติดบนผิวหน้าฟัน เชื่อมต่อกันด้วยลวดและยาง
  
  
• มองเห็นชัดเจน แต่ราคาย่อมเยา เหมาะสำหรับคนที่ไม่กังวลเรื่องภาพลักษณ์
  
  
• ปรับเครื่องมือทุกเดือน
• ราคาถูก เห็นผลเร็ว
• เห็นชัด อาจรู้สึกระคายตอนแรก

2. การจัดฟันแบบใส (Invisalign หรือ Clear Aligners)

• ใช้เทคโนโลยีการพิมพ์ฟันแบบใสเป็นชิ้น ๆ สำหรับสวมแทนการติดเหล็ก
  
  
• ถอดออกได้เวลาแปรงฟันหรือกินข้าว
  
  
• มองไม่เห็นเวลาใส่ เหมาะกับคนที่ต้องการความเป็นธรรมชาติ
• ใส่สบาย ไม่เจ็บ ถอดทำความสะอาดง่าย

ราคาสูง ต้องมีวินัยในการใส่ให้ครบวันละ 20-22 ชั่วโมง

3. การจัดฟันแบบดามอน (Damon Braces)

• เป็นระบบจัดฟันแบบไม่ใช้ยางรัดลวด แต่ใช้กลไกล็อกลวดแบบพิเศษ
  
  
• ลดแรงเสียดทาน เจ็บน้อยกว่าในช่วงแรก
  
  
• บางเคสไม่ต้องถอนฟัน
• เจ็บน้อย ปรับเครื่องมือห่างขึ้น
• ราคาสูงขึ้น และต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง

4. การจัดฟันแบบเซรามิก (Ceramic Braces)

• คล้ายแบบโลหะ แต่เปลี่ยนวัสดุเป็นเซรามิกที่มีสีเหมือนฟัน
  
  
• ดูเรียบร้อยและไม่สะดุดตามากนัก
  
  
• ประสิทธิภาพการเคลื่อนฟันใกล้เคียงกับแบบโลหะ
• ดูเป็นธรรมชาติกว่า
• ราคาสูงกว่าแบบโลหะ และเซรามิกอาจแตกได้

ระยะเวลาในการจัดฟัน

โดยทั่วไป การจัดฟันใช้เวลาประมาณ 1.5 – 3 ปี ขึ้นอยู่กับปัญหาและสภาพฟันของแต่ละคน เช่น ฟันซ้อนมาก ฟันสบผิดปกติรุนแรง อาจต้องใช้เวลาใกล้ 3 ปี
เคสที่ไม่ซับซ้อน ฟันห่างเล็กน้อย อาจเสร็จภายใน 1-1.5 ปี สำหรับจัดฟันใส Invisalign อาจเร็วขึ้นในบางกรณี หากใส่ตามแพทย์กำหนดอย่างเคร่งครัด

ทั้งนี้ ความสม่ำเสมอในการไปพบทันตแพทย์ และความร่วมมือของผู้จัดฟัน เช่น การใส่ยางดึงฟันหรือดูแลช่องปากให้ดี มีผลต่อระยะเวลาเช่นกัน

งบประมาณในการจัดฟัน 

ค่าใช้จ่ายในการจัดฟันมีหลายระดับ ขึ้นกับรูปแบบที่เลือก ความซับซ้อนของเคส และโปรโมชั่นของแต่ละคลินิก เราจะนำราคาคร่าวๆของแต่ละแบบมาให้คุณพิจารณา แต่ต้องบอก่อนว่า ราคานั้นขึ้นอยู่กับเคสของคุณด้วย

จัดฟันโลหะ งบประมาณ 35,000 – 60,000 รักษาประมาณ 1-3 ปี

จัดฟันใส(Invisalign) งบประมาณ 90,000 - 200,000+ รักษาประมาณ 6 เดือน – 2 ปี

จัดฟันเซรามิก งบประมาณ 50,000 – 80,000 รักษาประมาณ 1-3 ปี

จัดฟันดามอน งบประมาณ 70,000 – 100,000 รักษาประมาณ 1.5-2.5 ปี

นอกจากนี้ ยังมีค่าใช้จ่ายเบื้องต้นที่อาจเกิดขึ้นก่อนเริ่มการจัดฟัน เช่น

• ค่าพิมพ์ฟันและเอ็กซเรย์: 1,500 – 5,000 บาท
  
  
• ค่ารักษาโรคเหงือกหรือฟันผุก่อนจัดฟัน (หากมี)
  
  
• ค่าตรวจเช็คและติดตามรายเดือน (กรณีจัดฟันแบบผ่อน)

บทสรุป

การจัดฟันเป็นการลงทุนเพื่อสุขภาพช่องปากและความมั่นใจในระยะยาว รูปแบบการจัดฟันมีให้เลือกหลากหลาย เหมาะกับความต้องการและงบประมาณที่แตกต่างกัน หากคุณกำลังพิจารณาจัดฟัน ควรเริ่มจากการปรึกษาทันตแพทย์เฉพาะทาง เพื่อประเมินปัญหาและวางแผนการรักษาอย่างเหมาะสมที่สุด การจัดฟันไม่ใช่แค่เรื่องของฟันเรียงสวย แต่เป็นการลงทุนในบุคลิกภาพและความมั่นใจ