Road to Happiness - การเดินทางสู่ความสุข ณ วัดป่าวชิรบรรพต

 

      บางครั้งชีวิตก็เหมือนวิ่งแชร์ประสบการณ์ปฏิบัติธรรมที่วัดป่าวชิรบรรพต จ.ชลบุรี และข้อควรรู้ก่อนไปเร็วเกินไป จนเราไม่รู้ว่าตัวเองวิ่งไปเพื่ออะไร… และนั่นเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ฉันตัดสินใจแบกเป้ไปที่วัดป่าวชิรบรรพต จังหวัดชลบุรี เพื่อปฏิบัติธรรมแบบเงียบ ๆ กับตัวเอง… แนะนี่คือจุดเริ่มต้นของการเดินทางสู่ความสุข

     หลายคนคงรู้จักวัดป่าวชิรบรรพต แห่งนี้ผ่านช่องทางโซเชี่ยวมีเดียมากมาย ท่านที่ต้องการความสงบก็จะเลือกมาที่นี่ตามรีวิวที่เห็น รวมถึงสายคอนเทนต์ทั้งหลายด้วย

แต่ที่นี่เหมือนในรีวิวหรือป่าว ?  ที่นี่เหมาะกับคุณไหม ? ลองอ่านบทความนี้ให้จบแล้วหาคำตอบของตัวคุณไปพร้อมกันค่ะ

 

ข้อควรรู้ก่อนไปปฏิบัติธรรม ลองมาสำรวจตัวเองกันก่อนว่าพร้อมไหม

1.วัดไม่มีนโยบาย​รับคนป่วยหรือคนที่ไม่สามารถดูแลตนเองได้​ เข้าร่วมปฏิบัติ​ธรรม​ ทั้งนี้เพื่อประโยชน์​โดยรวมของผู้เข้าร่วมปฏิบัติ​ธรรม​ทุกท่าน  ต้องดูแลตัวเองได้ ลุก นั่ง เดิน ได้

2.วัดนี้ถือศีล 8 ฉันมื้อเดียว คือ ตอนเวลาประมาณ 10.00 น. หลังจากนั้นจะดื่มเพียงน้ำเปล่าและน้ำปานะ จะเริ่มทานอาหารว่างอีกครั้งประมาณ 05.00-06.00น. น.

3.และเนื่องจากถือศีล 8 อย่าได้ห่วงสวยค่ะ ครีม การแต่งหน้า เครื่องหอม งดนะคะ มาแล้วเอาบุญกลับไปเต็มๆค่ะ

4.ผู้ที่ห่างโทรศัพท์ไม่ได้จะลงแดง ไม่ต้องมาค่ะ เพราะห้ามใช้โทรศัพย์ขณะปฏิบัติธรรม ย้ำ ขณะปฏิบัติธรรม นอกนั้นใช้ได้แต่พอควร ลงโซเชี่ยวเพื่อเป็นการเชิญชวนประชาสัมพันธ์วัด ก็ขออนุโมทนาบุญด้วยค่ะ

5.ที่นี่เป็นสถานที่ฝึกความอดทน

• ตื่นแต่ตีสาม
• กินมื้อเดียว
• นั่งสามาธิครั้งละเป็นชั่วโมง
• ตามพระบิณฑบาตด้วยเท้าเปล่า (ตามความสมัครใจ)

6.ทางวัดมีค่าใช้จ่าย

ชาย  - เสียค่าซักผ้า 100 บาท

หญิง  - จะมีค่ามัดจำกุญแจห้อง 100 บาท ( กรณีทำหายหรือลืมเอากลับบ้านไปด้วยจะไม่ได้ค่ามัดจำคืน )

        - เสียค่าซักผ้า 100 บาท

ไม่มีกำหนดระยะเวลาในการอยู่วัด ท่านจะอยู่นานเท่าใดก็ได้ ไม่มีค่าใช่จ่ายเพิ่มเติม

 

ถ้ารับ 6 ข้อข้างต้นได้แล้ว....... ไปต่อกันค่ะ

แนะนำให้มา 2 ช่วงเวลา คือช่วงเวลาแรกต้องมาก่อน 11.00 น. และช่วงที่ 2 ต้องมาก่อน 15.00 น.

 

#สิ่งที่ต้องเตรียม

1. บัตรประชาชนตัวจริง หรือใบขับขี่ตัวจริง หรือพาสปอร์ต

2. เตรียมที่ตรวจ ATK อย่างน้อย 2 ชุด (แบบแหย่จมูก)

3. ของใช้ส่วนตัว ( ชุดสำหรับใส่นอน ผ้าเช็ดตัว สบู่ แชมพู ยาสีฟัน แปรงสีฟัน เป็นต้น)

4. ยารักษาโรคประจำตัว

#การเดินทาง

ถ้ามีรถก็จับ GPS ไปที่วัดได้เลยค่ะ มีที่จอด

ถ้าเดินทางด้วยรถโดยสารให้มาอำเถอเมืองชลบุรี ลงที่สี่แยกเฉลิมไทย จากจุดนี้ จะเรียกแกร็บไปที่วัดเลยก็ได้ค่ะ ประมาณ100-120 บาท

ใครเซฟงบให้ไปรอที่วัดนอกค่ะ จับ GPS เดิน ประมาณ5 นาที ไม่ก็ใช้บริการพี่วินฯแถวนั้น ประมาณ 20 บาทค่ะ

 

#เที่ยวเดินรถ 2 รอบต่อวัน (ทุกวัน)

รอบแรก

06.30น ขาไป เริ่มออกจากวัดป่าวชิรบรรพต

07.30น ขากลับ ออกจากวัดนอก

รอบสอง

13.30น ขาไป เริ่มออกจากวัดป่าวชิรบรรพต

14.30น ขากลับ ออกจากวัดนอก

      วันที่เราไปฝนตกหนัก ไปถึงเฉลิมไทย 10.00 น. เลยได้เรียกแกร็บเข้าไปที่วัดแทน    เมื่อไปถึงก็เดินไปที่ด้านข้างของศาลา สังเกตทางขวามีจะมีห้องเก็บรองเท้าอยู่ เก็บรองเท้าเสร็จก็ไปที่โต๊ะลงทะเบียนได้เลยค่ะ

 

ที่โต๊ะลงทะเบียนเมื่อแจ้งเจ้าหน้าที่จิตอาสาว่าจะมาปฏิบัติธรรม เจ้าหน้าที่จะให้ตรวจ ATK จากนั้นเอาผลให้เจ้าหน้าที่ดู

 

เมื่อเรียบร้อยเจ้าหน้าที่จะให้ถ่ายรูปกระดาษ  3 ใบ

 

จากนั้นจะให้ไปนั่งดูวีดีโอแนะนำวัดและข้อปฏิบัติ เมื่อวีดีโอจบจะมีจิตอาสามาสอนท่องการเดินทางแห่งความสุขและพระรัตนตรัย รวมถึงการกราบพระที่ถูกวิธีด้วย

 

ถ้าใครที่มั่นใจแล้วว่าจะมาให้ท่องมาก่อนได้เลย จะได้คล่องๆ บางทีที่นี่ก็เหมาะกับคนอกหักนะ เพราะไม่มีเวลามาคิดมากสักเท่าไหร่ มีอะไรให้ทำตลอด    ว่าแล้วก็มาลองท่องกันสักนิดหน่อย

---

 

*การเดินทางสู่ความสุข    ศีล สมาธิ ปัญญา*

ความสำรวมกาย วาจา ให้เรียบร้อย ชื่อว่า ศีล

ความรักษาใจมั่น ชื่อว่า สมาธิ

ความรอบรู้ในกองสังขาร ชื่อว่า ปัญญา

**ศีล กำจัดกิเลสอย่างหยาบ

**สมาธิ กำจัดกิเลสอย่างกลาง

**ปัญญา กำจัดกิเลสอย่างละเอียด

***กิเลสอย่างหยาบ คือ ความโลภ โกรธ หลงที่ออกมาทางคำพูด ทางการกระทำ

***กิเลสอย่างกลาง คือ ความโลภ โกรธ หลงที่เกิดทางใจ

***กิเลสอย่างละเอียด คือ ความโลภ โกรธ หลงที่พร้อมจะเกิดขึ้น

---

ที่เหลือไปเรียนรู้ที่วัดเอานะคะ หรือ รูปกระดาษสามใบด้านบนก็สามารถศึกษาไปได้เลยค่ะ

 

จากนั้นก็มาถึงขั้นตอนสแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อลงทะเบียนเช็คอินออนไลน์ ขั้นตอนนี้มีให้ตอบคำถามเรื่องการเดินทางแห่งความสุขด้วยนะคะ

เช็คอินเสร็จจะได้หนังสือคนละหนึ่งเล่มกลับบ้านหรือเอามาอ่านยามว่างได้เลยค่ะ ไม่ต้องพกมาศาลาอีก เพราะที่นี่ใช้หนังสือสวดมนต์ของทางวัด

เรามาถึงในรอบเช้าจะยังไม่ได้เข้าห้องพักเมื่ออบรมเสร็จก็จะไปให้เปลี่ยนชุดเพื่อกลับมารอปฏิบัติธรรมในเวลาบ่ายโมง

 

ออกจากศาลามาก็เดินตรงไปตามทางอันร่มรื่นด้านหน้าได้เลยค่ะ เมื่อเจออาคารที่มีจักรยานจอดเยอะๆก็ถึงแล้วค่ะ

เดิน

อ้อมมาด้านขวาทางสระน้ำ ประตูแรกสำหรับที่พักค่ะจะเป็นประตูเปิดอัตโนมัติ ประตูที่สองจะเป็นส่วนลงทะเบียนที่พักและรับชุดที่นอน รวมถึงเวลากลับก็มารอรถตู้บริเวณนี้ด้วยค่ะ เข้าประตูที่ 2 มาก็จะเจอห้องนี้ค่ะเข้าไปติดต่อได้เลย เจ้าหน้าที่จิตอาสาจะจัดเตรียมชุดให้  กระเป๋าก็ฝากไว้ที่นี่ได้ก่อนเลยค่ะ

เปลี่ยนชุดเสร็จก็กลับศาลารอปฏิบัติธรรมกันในเวลา13.00 น. แนะนำให้ไปก่อนเวลานะคะจะได้มีเวลาไหว้พระประธาน พระอังคีรสและจัดที่นั่งเพื่อบำเพ็ญประโยชน์

ทุกครั้งที่จะลุกหรือจะนั่งจะต้องกราบพระก่อนเสมอ หลวงพี่จะมานำกราบพระนั่งสามธิและเดินจงกรม แถวหน้าสุดจะเป็นของผู้ชายและไล่ลงมาตามจำนวนมากน้อยใครตั้งใจมากหน่อยแนะนำให้ไปนั่งด้านหน้า เพราะสถานที่เป็นสถานที่เปิด และกว้างทำให้เสียงก้องบางจังหวะอาจได้ยินไม่ชัดได้

ประมาณเวลา 15.00 น.ก็ได้พักดื่มน้ำปานะจากนั้นก็บำเพ็ญประโยชน์โดยพระอาจารย์จะเป็นคนแจกงานให้ว่าแถวไหนไปทำอะไร

วันแรกเราได้ไปช่วยพับผ้า พอเสร็จ 16.30 น.ก็ได้ลงทะเบียนที่พักพอดี

เมื่อถึงเวลาจิตอาสาจะเรียกเข้าแถวแนะนำวิธีแต่งกาย นำบัตรประชาชนรับกุญแจ ชุดสำหรับวันต่อไป และที่นอน โดยถ้ามา 4 คนจะได้อยู่ห้องเดียวกัน กุญแจจะได้คนละชุดเสมอ เรามาคนเดียว ก็จะพักรวมกับท่านอื่น ห้องนึงจะพัก 2-4 คน ถ้าวันไหนคนเยอะจะเปิดตึกรวมอีกที

เมื่อเข้าห้องแล้วก็หอบที่นอนกระเป๋าและถุงยังชีพไปพักกัน

ที่นอนเราหนีบด้านข้างขึ้นมา ในถุงจะมีหมอน ผ้าห่ม ผ้าปูที่นอน และปลอกหมอน  ห้องเรานอนกันสามคน แต่ละคนไม่ได้มาด้วยกัน เราเป็นน้องใหม่ที่แก่สุดของห้อง .......

 

วิวหลังห้องกับที่นั่งพักข้างลิฟคือดีงามมาก

เวลาพัก ทำกิจธุระส่วนตัวคือ 16.30 น. จนถึงเวลา 17.50 น. ต้องพร้อมกันที่ศาลาเพื่อเตรียมตัวทำวัตรเย็น แนะนำให้ไปก่อนสักครึ่งชั่วโมงจะได้ไม่ต้องรีบร้อน และได้บำเพ็ญประโยชน์ในการจัดที่นั่งปฏิบัติธรรมด้วย

กิจกรรมเมื่อทำวัตรเย็นเสร็จจะมีการนั่งสมาธิธิต่อ ทางวัดจะปิดไฟ อยากบอกว่าสงบดีมาก เสียงธรรมชาตินี่มันเพราะสุดๆไปเลย หลังนั่งสมาธิจะมีให้อ่านการเดินทางแห่งความสุข พระรัตนะ และคำถามอื่นๆ ใน 33 คำถามซึ่งอยู่ในหนังสือสวดมนต์นั่นแหละค่ะ จากนั่นจะปล่อยไปดื่มน้ำปานะ ตอนกลางคืนจะมีโกโก้ร้อนชงน้ำตาลเพิ่มเข้ามา

ในส่วนของน้ำเปล่าสามารถหยิบดื่มได้ตลอด แต่ช่วยทานเป็นขวดๆไปไม่กินทิ้งขว้างนะคะ

สำหรับคนเก่าล้างแก้วเสร็จก็กลับที่พักไปพักผ่อนได้เลย แต่รายใหม่ทั้งรอบเช้า รอบบ่ายต้องไปรอรับสิกขาบทและตอบคำถาม เช่นเคย ถ้าตอบกันได้ก็เลิกเร็ว ถ้าไม่ค่อยได้กันก็ 21.30 น. ถึงได้กลับที่พัก

หมดไปแล้ว 1 วัน เป็นไงกันบ้างคะ.........ถ้าไหวอยู่ไปต่อกันวันที่ 2 เลยค่ะ วันนี้แบบจัดเต็มกันเลย.....

---

วันที่ 2

03.30 น. ตื่นมาอาบน้ำ ใครจะตื่นช้าหรือเร็วกว่านี้ตามสะดวกเลย ไปให้ทันทำวัตรเช้าตอน 04.00 น.

04.00 น. ทำวัตรเช้า จากนั้นประมาณตี 5 ก็แยกย้ายกันไปบำเพ็ญประโยชน์ ไม่ว่าจะเป็นการกวาด ลานวัด ศาลา ร้านกาแฟ การถูพื้น ล้างห้องน้ำ ฯลฯ จากนั้นช่วงเวลาประมาณ 05.30-06.00 น. ก็มาถึง ช่วงเวลาแห่งการรอคอย.......เวลาอาหารว่าง........................

ยังมีขนมปัง ขนมอื่นๆ นมอีกมากมายหลากหลายชนิด อยู่ที่เราเลือกหยิบเอาเลย แต่ละวันก็จะต่างกันไป บางวันก็มาม่า หลังจากทานเสร็จ เก็บล้างเรียบร้อย ก็เตรียมตัวใส่บาตร

 

ทางวัดมีชุดใส่บาตรไว้ ราคาชุดละ 50 บาท ชุดลำ100 บาท จนถึงชุดละ 200 บาท ในส่วนนี้แล้วแต่จิตศรัทธานะคะ ไม่มีบังคับค่ะ

 

เมื่อใส่บาตรเสร็จถ้าใครจะไปเป็นผู้ช่วยนักบิณฯ เอ้ยยย  ไปบิณฑบาตรกับหลวงพี่ก็ไปตั้งแถวรอ ใครไม่ไปก็อยู่ทำความสะอาดศาลาจัดที่นั่งแล้วไปพักผ่อนได้

 

มาถึงไฮไลอีกอย่างของวัดที่เห็นในสื่อบ่อยๆก็คือ การตามพระไปบิณฑบาตร  โดยจะแบ่งออกเป็นทั้งหมด 3 สาย ต้องเดินเท้าเปล่า ไม่เหมาะกับคนที่ไม่มีความอดทนหรือเดินระยะไกลไม่ไหว

โดยเรามีโอกาสได้ไป 2 สาย ตามความเห็นส่วนตัวแนะนำดังนี้

 

********ใครสายคอนเทนต์ไม่แน่ใจว่าจะไหวแค่ไหน ไปสาย 2 เพราะจะเป็นพระอาจารย์ที่สอน จะมีการเรียกคุยก่อนเดิน คอยดู คอยรอนักบวชและจะมีหมู่บ้านที่ไกลก็ได้นั่งรถไปเป็นช่วงๆ มีน้องๆสุนัขคอยตามให้ได้ชมน่ารักๆ

 

*******ใครต้องการสัมผัสการบิณฑบาตรแบบจัดเต็ม ไปสาย 1 เดินช้าหลวงพี่ไม่คอยเหมือนสาย 2    จะไปคอยดูแต่ละครั้งก็ตอนข้ามถนนแต่ละรอบเลย ขึ้นรถรอบเดียวตอนกลับวัดเลย

 

 

****ส่วนสาย 3 ไม่ทราบเลยน่าจะเหมือนสาย 1 ถ้าใครได้ลองมาบอกความรู้สึกกันบ้างนะคะ****

 

เมื่อกลับมาถึงวัด   ล้างเท้าเสร็จก็พักผ่อนได้ เพื่อรอเวลาฟังธรรมตอน 08.10 น. หรือจะไปบำเพ็ญประโยชน์ด้วยการจัดอาหาร

 

ส่วนเรา เข้าไปนั่งพักที่ร้านกาแฟของวัด ....ร้าน บุญ

 

เมื่อถึงเวลาของการฟังธรรม สวดมนต์นั่งสมาธิ หลวงพ่อเจ้าอาวาสก็จะลงมาด้วย ถ้าท่านลงมาตอนใกล้แผ่เมตตาแล้วก็ดีไป  แต่ถ้าลงมาตอนปฏิบัติก็เตรียมตัวโดนเอ็ดได้ ถ้าคุณไม่มีความอดทนพอ เช่นนั่งนิดหน่อยก็เปลี่ยนอิริยาบท เป็นต้น  เรามองว่าสิ่งที่ท่านดุนั้นถูกต้อง ไม่มีใครบังคับเรามา ถ้ามาแล้วไม่ฝึกฝน ไม่อดทน แล้วอะไรล่ะที่เราจะได้กลับไป (นอกจากมาตามกระแสเพราะอยากได้คอนเทนต์)

 

จากนั้นจะมีการสวดมนต์อีกครั้งโดยจะมีผู้นำสวด ระหว่างนั้นพระอาจารย์จะเลือกให้ลุกจัดแถวไปตักอาหารเมื่อตักเสร็จก็มาสวดมนต์ต่อจนจบ  จากนั้นก็ทานข้าวได้ ทานพร้อมพระเลยค่ะ ไม่ต้องรอพระฉันเสร็จ

 เมื่อทานเสร็จก็รอปล่อยแถวไปล้างจาน บำเพ็ญประโยชน์ทำความสะอาดศาลา ที่พัก  จากนั้นถ้าใครยังอยู่ปฏิบัติธรรมต่อก็กลับที่พักได้เลย แล้วก็กลับมาตอน13.00 น. วนลูปไปเหมือนที่เขียนมาข้างต้น

 

ส่วนใครจะลาสิกขาบทก็รออยู่ที่ศาลาเลยไม่ต้องกลับห้อง  เจ้าหน้าที่จิตอาสาจะมาอธิบายการเก็บของเพื่อส่งคืน การเดินทางกลับ จากนั้น พระอาจารณ์จะมานำลาสิกขาบท และแน่นอน การตอบคำถามธรรม

อ่านมาถึงตรงนี้ เพื่อนๆคงเตรียมตัว เตรียมใจพร้อมกับการเดินทางสู่ความสุขแล้ว วัดยังมีอะไรให้ได้ศึกษาอีกเยอะ   ความสวยงาม ความสงบ ช่างชวนหลงไหล ผู้เขียนนำภาพมาฝากได้ไม่มาก เพื่อนๆสามารถศึกษาเพื่อมเติมจากเพจของทางวัดและไลฟ์สดของทางวัดได้เลย

https://www.facebook.com/wachirabanpod

 

tiktok.com/@wachirabanpod

---

 

สุดท้ายนี้ถ้าใครกำลังตั้งใจจะไปปฏิบัติธรรม หรือไปมาแล้ว ผู้เขียนก็ขออนุโมทนาบุญด้วย และหวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ให้กับเพื่อนๆไม่มากก็น้อย แล้วพบกันไหมบทความหน้าค่ะ  สาธุ

 

---

Photo : By Creator ( จูงมือไป - TagAlongTales)

ทริปหน้าเราจะจูงมือไปที่ไหน แชร์ประสบการณ์หรือทริคดีๆอะไร รอติดตามได้เลยนะ

Facebook :TagAlongTales

อย่าลืมกด Like กด Share และ Subscribe ไว้ด้วยนะคะ

 

#ปฏิบัติธรรม #วัดป่า #วัดป่าวชิรบรรพต #วัดป่าชลบุรี #ปฏิบัติธรรมชลบุรี #บวชวัดป่า #รีวิววัดป่าวชิรบรรพต #รีวิวปฏิบัติธรรม