เล่าเรื่อง พิกุลทอง

เล่าเรื่อง พิกุลทอง

เรื่องราวของนางพิกุลทองนั้น เป็นธิดาของท้าวสันนุราช กับนางพิกุลจันทรา ซึ่งเป็นเจ้าหญิงรูปงาม มีผมที่มีกลิ่นหอม เมื่อครั้งแรกเกิด นางพิกุลทอง ได้มีดอกพิกุลทองร่วงออกมาจากปาก ท้าวสันนุราช กับนางพิกุลจันทรา จึงตั้งชื่อ ให้นางว่า พิกุลทอง เพราะเมื่อใดที่นางได้พูดออกมา หรือเกิดความสงสาร นางก็จะมีดอกพิกุลทองร่วงออกมาจากปากทันที วันหนึ่งนางพิกุลทองออกไปไปสรงนํ้าในแม่น้ำ กับนางกำนัลและพระพี่เลี้ยง เจอพญาแร้งบินมาจิกกินซากสนุขเน่าลอยมา นางจึงเกิดคลื่นเหียน อาเจียน จึงได้ด่าพญาแร้งด้วยความรังเกียจ พญาแร้งเวฬุราช รู้สึกโกรธแค้นที่นางพิกุลทองได้ใช้คำพูดด่าทอ พญาแร้งในตอนที่พญาแร้งจิกกินซากศพสุนัขเน่า ด้วยความรังเกียจ พญาแร้งจึงใช้อุบายปลอมแปลงกายเป็น หนุ่มรูปงาม แล้วจึงไปขออาศัยอยู่กับตายายที่ชายป่า แล้วทำอุบายเนรมิตเสกเงินทองให้ตายายจนมีฐานะรํ่ารวย และขอให้ตายายไปสู่ขอนางพิกุลทองมาให้แก่ตน ท้าวสันนุราช เห็นดังนั้น จึงมีเงื่อนไขว่า หากสร้างสะพานเงินสะพานทองจากหน้าบ้านตายาย มาจนถึงหน้าวังได้ ภายใน 3 วัน ท้าวสันนุราชก็จะยกนางพิกุลทองลูกสาวของตน ให้ไปเป็นคู่ครอง พญาแร้งจึงนำบริวารของตนมาช่วยสร้างสะพานเงินสะพานทองจนเสร็จภายใน 3 วัน นางพิกุลทองจึงได้อภิเษกกับพญาแร้งในร่างแปลง นามว่า เวฬุราช เมื่อพญาแร้งได้ออกอุบายสู่ขอนางพิกุลทองมาได้แล้ว พญาแร้งจึงออกอุบาย ชวนนางกลับไปที่บ้านเมืองของตน ด้วยการออกเดินทางโดยเรือ ระหว่างที่สั่งให้จอดเรือหยุดพัก พญาแร้งจึงเรียกบริวารของตน บินมากินผู้คนบนเรือ ส่วนนางพิกุลทอง พญาแร้งหมายจะตั้งใจกินนางพิกุลทองเอง แม่ย่านางที่เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำเรือ จึงเข้ามาช่วยเหลือนางพิกุลทองให้เข้าไปซ่อนตัวอยู่ในเสากระโดงเรือ เพื่อให้รอดพ้นสายตาจากพญาแร้ง เมื่อรอดพ้นจากสายตาของพญาแร้ง นางพิกุลทองจึงออกมาสรงน้ำ แล้วนำเส้นผมที่หลุดติดมือมา ใส่ไว้ในผอบ แล้วจารึกเขียนเรื่องราวแต่หนหลังใส่ฝาผอบเอาไว้ แล้วจึงอธิษฐานไปว่า หากผู้ใดเป็นเนื้อคู่ของนาง ขอให้ผู้นั้นได้มาเจอผอบของนางและตามมาช่วยเหลือนาง ให้รอดพ้นจากพญาแร้ง ทันใดนั้น ผอบจึงลอยนํ้าไป  

จนกระทั่ง พระพิชัยมุงกฎ ซึ่งเป็นโอรสของ ท้าวสังข์ศิลป์ชัย กับนางสุพรรณ ได้พบเจอผอบของนางพิกุลทอง พระพิชัยมงกุฎจึงเก็บผอบนั้นไว้ แล้วเปิดผอบออก จนได้เจอเส้นผม กับเรื่องราวที่จารึกเอาไว้ในฝาผอบ พระพิชัยมงกุฎจึงออกติดตามหาเจ้าของผอบ แต่ระหว่างทาง เจอกลลวงของนางยักษ์กาขาว ที่มีจิตเสน่หาต่อพระพิชัยมงกุฎ จึงได้แปลงกายเป็นหญิงงาม และหลอกล่อแอบอ้างตัวว่าเป็นเจ้าของผอบ พระพิชัยมงกุฎหลงเชื่อ จึงได้อยู่กับนาง ในเมืองที่เนรมิตด้วยเวทย์มนต์ของนางยักษ์กาขาว และต่อมาพระพิชัยมงกุฎสงสัยว่าหญิงงามนั้นเป็นยักษ์ จึงใช้เวทย์มนต์สะกดเอาไว้ แล้วหนีนางยักษ์กาขาวจนมาพบเจอนางพิกุลทอง เมื่อพญาแร้งได้บินมากินผู้คนที่หาดทราย พระพิชัยมงกุฎจึงได้สังหารพญาแร้งจนตาย แล้วพานางพิกุลทองกลับไปอภิเษกเป็นชายาอยู่ที่เมืองของตน 

และหลายปีต่อมา พระพิชัยมงกุฎ กับ นางพิกุลทอง มีโอรสด้วยกัน 2 องค์ ชื่อว่า รัก กับ ยม วันหนึ่งนางพิกุลทอง กับพระพิชัยมงกุฎ เสด็จประพาสทุ่ง พร้อมกับโอรสทั้ง 2 ฝ่ายนางยักษ์กาขาว เมื่อคลายจากมนต์สะกดของพระพิชัยมงกุฎ จึงเข้าใจว่า พระพิชัยมงกุฎหนีจากตนไป จึงติดตามมาพบ พระพิชัยมงกุฎจนเจอ และเห็นพระพิชัยมงกุฎพาชายาพิกุลทอง มาประทาสทุ่ง นางยักษ์กาขาวจึงลอบมาซ่อนตัวอยู่ในป่า แล้วจึงเนรมิตดอกบัวดอกใหญ่ขึ้นในบริเวณสระนํ้า เมื่อนางพิกุลทองมาเจอ เห็นดอกบัวเนรมิตดอกใหญ่สวยงามแปลกตา จึงใช้มือเอื้อมเด็ดดอกบัว แล้วจึงถูกนางยักษ์ฉุดลงไปในน้ำ แล้วนางยักษ์จึงสาปนางพิกุลทองให้กลายร่างเป็นชะนี แล้วนางยักษ์กาขาวจึงปลอมตัวเป็นนางพิกุลทอง สวมรอยเข้าวังไปแทน ในขณะนั้น รัก กับ ยม เห็นเหตุการณ์ที่นางยักษ์ได้สาปแม่ของตนให้กลายเป็นชะนี แล้วชะนีพิกุลทองจึงหนีเข้าป่าไป พระพิชัยมงกุฎจึงพานางพิกุลทองยักษ์แปลงขึ้นเรือเข้าวัง  รัก กับ ยม จึงบอกความจริงต่อพระพิชัยมงกุฎว่า นางพิกุลทองผู้นี้ ไม่ใช่มารดาของตน แต่มารดาของตน ถูกนางยักษ์กายาว สาปให้เป็นชะนี แล้วหนีเข้าป่าไป พระพิชัยมงกุฎรู้สึกกริ้วโกรธ จึงไล่โอรสทั้ง 2ขึ้นฝั่ง แล้วพานางยักษ์แปลงกลับเข้าวังกับตน

ในขณะนั้นรัก กับ ยม ตามหาแม่ชะนีพิกุลทองจนพบ และอยู่ด้วยกันในป่า และใช้ดอกพิกุลทองที่ร่วงออกจากปากของแม่ชะนี ไปแลกข้าวแลกนํ้าในตลาด และขณะนั้นพวกวิเสทห้องเครื่องได้จบเจอ 2 โอรส จึงรำเรื่องไปทูลนางสุพรรณ เมื่อพระพิชัยมงกุฎรู้ความจริง จึงออกไปตามหานางชะนีพิกุลทองในป่าและถามวิธีแก้คำสาป ชะนีพิกุลทองจึงบอกว่า จะต้องใช้เลือดของนางยักษ์กาขาวมาล้างคำสาป พระพิชัยมงกุฎจึงใช้อุบายหลอกล่อนางยักษ์แปลงมาที่อุทยาน แล้วจึงสั่งให้ เพชรฆาตฟันนางยักษ์แปลงจนตาย และได้นำเลือดของนางยักษ์ไปอาบร่างชะนีเพื่อแก้คำสาปให้นางพิกุลทอง นางพิกุลทองจึงกลายร่างมาเป็นมนุษย์ดังเดิม 

หลังจากนั้น พระพิชัยมงกุฎ กับนางพิกุลทอง พร้อมกับโอรส ทั้ง 2 จึงออกเดินทางขึ้นเรือสำเภาไปเยี่ยมท้าวสันุนราช กับนางพิกุลจันทรา ที่เมืองของนางพิกุลทอง ในระหว่างนั้น นางยักษ์กาสุวรรณ ซึ่งเป็นน้องสาวของนางยักษ์กาขาวที่ถูกสังหารนำเลือดไปแก้คำสาปให้นางพิกุลทองนั้น ได้กลับมาแก้แค้นนางพิกุลทอง กับ พระพิชัยมงกุฎ นางยักษ์กาสุวรรณ จึงใช้กระบองฟาดเรือสำเภาแตก ทำให้นางพิกุลทอง พลัดหลงกับพระพิชัยมงกุฎและพระโอรส จนนางพิกุลทองได้พัดหลงไปเจอกับยักษ์วิรุฬจักร ท้าววิรุฬจักร ต้องการนางพิกุลทองมาเป็นชายา จึงบังคับและจับนางพิกุลทองไปไว้ที่เมืองยักษ์ แต่นางพิกุลทองไม่ยิมยอมเพราะยังมีความซื่อสัตย์ต่อสวามีพิชัยมงกุฎ และนางพิกุลทองได้ด่าทอท้าววิรุฬจักร ทำให้ท้าววิรุฬจักรโกรธเคืองนางพิกุลทองเป็นอย่างมาก จึงนำนางพิกุลทองไปเป็นทาสในโรงครัวที่เมืองยักษ์ของตน 

ฝ่ายพระพิชัยมงกุฎ กับ พระโอรส รัก กับ ยม ก็ออกตามหานางพิกุลทอง แต่ในระหว่างทาง ได้เจอสไบของนางพิกุลทองที่ปักไว้เป็นเสาธง เพื่อเป็นเครื่องหมาย และสัญลักษณ์ และได้นกสาลิกาเป็นผู้บอกข่าวของนางพิกุลทอง พระพิชัยมงกุฎกับโอรส ทั้ง 2 จึงตามหานางพิกุลทอง ตามที่นกสาลิกาได้ชี้นำทาง และในระหว่างเดินทางได้เจอกับพระฤาษีในป่า พระฤาษีจึงได้มอบเเหวนวิเศษให้ พระพิชัยมงกุฎ และบอกแก่พระพิชัยมงกุฎว่า จะได้ชายาอีกหนึ่งคน ทั้ง 3 คนจึงใช้แหวนแปลงกายเป็นนก 3 ตัว มาจนถึงอุทยานเมืองของท้าววิรุฬจักร 

ในขณะนั้น นางอรุณวดี ธิดาของท้าววิรุฬจักร ได้ออกมาเดินเล่นในสวนอุทยาน เห็นนก 3 ตัว จึงรู้สึกถูกชะตา จึงนำนกทั้ง 3 ไปไว้ในกรงเพื่อเลี้ยงเอาไว้ในวัง เมื่อได้โอกาส พระพิชัยมงกุฎจึงกลับกลายร่างเป็นมนุษย์ แล้วได้นางอรุณวดีเป็นชายา เมื่อท้าววิรุฬจักรทราบเรื่องก็เกิดความไม่พอใจ จึงเกิดการสู้รบกับพระพิชัยมงกุฎ จนท้าววิรุฬจักรพลาดพลั้งเสียทีจนถึงแก่ชีวิต พระพิชัยมงกุฎจึงกราบขอขมา มเหสียักษ์ผู้เป็นพระมารดาของนางอรุณวดี ที่พลั้งมือต่อสู้กับท้าววิรุฬจักร จนเป็นเหตุให้ท้าววิรุฬจักรถึงแก่ความตาย มเหสียักษ์ของท้าววิรุฬจักร จึงให้อภัยเพราะเชื่อว่า เป็นเรื่องของกฎแห่งกรรม เมื่อเสร็จจากการปลงพระศพของท้าววิรุฬจักร หลังจากนั้นพระพิชัยมงกุฎ กับ โอรส รัก ยม จึงประทับอาศัยอยู่ในเมืองยักษ์ของนางอรุณวดีต่อไปเพื่อปกครองบ้านเมืองแทนท้าววิรุณจักร เมื่อนางพิกุลทองได้ทราบเรื่องว่า มีผู้ที่สามารถปราบท้าววิรุฬจักรได้แล้ว จึงสงสัยว่า คนผู้นั้นอาจจะเป็น พระสวามี กับโอรสทั้ง 2 ปลอมแปลงเข้ามาตามหาตนในวัง นางพิกุลทองจึงพิสูจน์ด้วยการทำอาหารและใส่ดอกพิกุลทองลงในพานเครื่องเสวยลงไป พระพิชัยมงกุฎ กับ 2 โอรส ได้เสวยอาหารและเจอดอกพิกุลทองอยู่ในพานเครื่องเสวย จึงจำดอกพิกุลทองได้ พระพิชัยมงกุฎจึงสั่งให้ผู้ทำอาหารในโรงครัวมาเฝ้า ทำให้พระพิชัยมงกุฎกับโอรสทั้ง 2 ได้พบกับนางพิกุลทอง แต่นางอรุณวดีถูกพระพี่เลีเยงยุยงไม่ให้แสดงความอ่อนน้อมต่อนางพิกุลทอง นางอรุณวดี จึงใส่ร้ายใส่ความว่านาง พิกุลทองได้ตกเป็นมเหสีของท้าววิรุฬจักร แต่นางพิกุลทองประพฤติชั่ว ทำให้ท้าววิรุฬจักรนำนางพิกุลทองมาเป็นทาส ทำงานที่โรงครัว นางพิกุลทองจึงพิสูจน์ความซื่อสัตย์ของตนเองด้วยการลุยไฟ ในขณะที่นางพิกุลทอง กำลังลุยไฟ ทันใดนั้นเทพยดาโปรยดอกไม้ทิพย์ลงมาดับไฟ พระพิชัยมงกุฎจึงได้รู้ความจริง พระพิชัยมงกุฎจึงสั่งให้นางอรุณวดีลุยไฟบ้าง แต่นางอรุณวดีพูดจาบ่ายเบี่ยงไม่ยอมพิสูจน์ความสัตย์ พระพิชัยมงกุฎจึงไล่ทุบตี และด่าว่านางอรุณวดีจนได้รับความอับอาย นางอรุณวดี จึงตัดสินใจคิดผูกคอตาย แต่พระพี่เลี้ยงได้ชีวิตนางอรุณวดีไว้ได้ทัน พระมารดาของนางอรุณวดี จึงสั่งสอนและเตือนให้สติแก่นางอรุณวดี นางอรุณวดีจึงคิดได้ จึงขอโทษนางพิกุลทอง และพระพิชัยมงกุฎ หลังจากนั้น ทั้งนางพิกุลทอง กับนางอรุณวดี จึงปรองดองกันได้ จึงทำให้ทุกคนอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข