หน้าฝนระวังอะไรบ้าง? โรคยอดฮิตที่มาพร้อมสายฝน

เมื่อฝนเริ่มโปรยลงมา อากาศเย็นลงและความชื้นในอากาศเพิ่มขึ้น สิ่งที่มักตามมาคือปัญหาสุขภาพที่หลายคนอาจมองข้าม เพราะหน้าฝนไม่ได้แค่ทำให้เสื้อผ้าเปียกหรือรองเท้าเฉอะแฉะ แต่ยังพาเอาโรคต่าง ๆ มาด้วย ทั้งโรคติดเชื้อจากเชื้อแบคทีเรีย เชื้อไวรัส รวมถึงโรคที่มากับยุงและน้ำท่วมขัง แล้วมีโรคอะไรบ้างที่ต้องระวังในช่วงฤดูฝน? มาดูกันเลยค่ะ

1. ไข้หวัด และไข้หวัดใหญ่

สภาพอากาศที่เย็นและชื้นในช่วงฝนตกเป็นบรรยากาศที่เหมาะกับการแพร่กระจายของเชื้อไวรัส เมื่อฝนตกติดต่อกันหลายวัน คนส่วนใหญ่จะอยู่ในที่แออัด หรือมีการใช้สิ่งของร่วมกันมากขึ้น ทำให้มีโอกาสติดเชื้อได้ง่าย โดยเฉพาะในกลุ่มเด็ก ผู้สูงอายุ และผู้ที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ

2. ไข้เลือดออก

เมื่อฝนตก น้ำจะขังตามภาชนะ กระถางต้นไม้ หรือถังขยะที่ไม่ได้ปิดฝา กลายเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ของยุงลาย ซึ่งเป็นพาหะของโรคไข้เลือดออก อาการของโรคนี้จะคล้ายไข้หวัด แต่จะมีไข้สูงเฉียบพลัน ปวดศีรษะ ปวดกระบอกตา และปวดเมื่อยตามตัวอย่างรุนแรง หากปล่อยไว้โดยไม่รักษาอาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนถึงชีวิตได้

3. โรคน้ำกัดเท้า และเชื้อราที่ผิวหนัง

เมื่อต้องเดินลุยน้ำ หรือต้องใส่รองเท้าเปียกชื้นติดต่อกันนาน ๆ ผิวหนังบริเวณเท้าอาจเริ่มลอก แดง หรือมีอาการคัน ซึ่งอาจพัฒนาไปเป็นเชื้อราได้ง่าย ยิ่งถ้าไม่รีบล้างทำความสะอาดและเปลี่ยนเป็นรองเท้าแห้ง ก็จะยิ่งทำให้อาการหนักขึ้นและแพร่ลามไปยังส่วนอื่นของร่างกาย

4. โรคฉี่หนู (Leptospirosis)

นี่เป็นอีกโรคที่คนเมืองอาจไม่คุ้นเคย แต่จริง ๆ แล้วอันตรายมาก เพราะเชื้อโรคมาจากฉี่ของสัตว์ โดยเฉพาะหนูที่ปะปนอยู่ในน้ำสกปรก หากเราเดินลุยน้ำท่วมที่มีบาดแผล แม้เพียงเล็กน้อย ก็อาจทำให้เชื้อเข้าสู่ร่างกายได้ อาการจะเริ่มจากไข้ หนาวสั่น ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ แล้วลามไปถึงตับและไตหากไม่รีบรักษา

5. โรคอาหารเป็นพิษ

หลายคนอาจคุ้นเคยว่าอาหารเป็นพิษเกิดขึ้นบ่อยในหน้าร้อน ซึ่งก็จริง เพราะอุณหภูมิที่สูงทำให้อาหารเสียได้ง่าย แต่ในความเป็นจริง หน้าฝนก็เป็นอีกช่วงที่ต้องระวังไม่แพ้กัน เนื่องจากความชื้นในอากาศสูง ทำให้เชื้อแบคทีเรียและเชื้อราบางชนิดเจริญเติบโตได้ดี หากวัตถุดิบสัมผัสกับน้ำสกปรก หรืออาหารปรุงสุกแล้วเก็บไว้นานโดยไม่ได้แช่เย็น โอกาสที่จะปนเปื้อนก็สูงขึ้นโดยไม่รู้ตัว

อีกปัจจัยหนึ่งคือ “พฤติกรรมของคนในหน้าฝน” ที่มักไม่อยากออกจากบ้านไปตลาด จึงหันไปพึ่งอาหารสำเร็จรูปหรือของปรุงสำเร็จจากร้านค้าข้างทางมากขึ้น ซึ่งบางครั้งอาจไม่ได้ผ่านกระบวนการเก็บรักษาที่ถูกสุขลักษณะ ส่งผลให้เกิดอาหารเป็นพิษได้ง่าย อาการที่พบบ่อยคือคลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง ท้องเสีย หรือในบางรายอาจมีไข้ร่วมด้วย หากอาการรุนแรงควรรีบพบแพทย์ทันทีเพื่อป้องกันภาวะขาดน้ำ