ไขความจริงเบื้องหลังต้นไม้ในพุทธประวัติ "ต้นสาละ" และ "ต้นโพธิ์"
เรื่องราวของต้นไม้สำคัญในพุทธประวัติอย่าง ต้นสาละ และ ต้นโพธิ์ อาจทำให้หลายคนสับสน แต่การทำความเข้าใจที่ถูกต้องจะช่วยให้เราเข้าถึงพุทธประวัติได้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น
ต้นสาละ ที่พระพุทธเจ้าประสูตินั้น แท้จริงแล้วคือ สาละพันธุ์อินเดีย ซึ่งเป็นไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ ให้ร่มเงาดี ตรงกันข้ามกับ สาละลังกา ที่เราคุ้นเคยตามวัดต่างๆ ซึ่งมีถิ่นกำเนิดในอเมริกาใต้ ถูกนำไปปลูกที่ศรีลังกา และเข้ามาในไทย สาละลังกามีลักษณะเป็นต้นไม่สูงนัก กิ่งก้านระย้า มีดอกสวยงาม และลูกกลมใหญ่สีน้ำตาล ทำให้คนไทยเข้าใจผิดว่าเป็นต้นไม้ที่พระพุทธเจ้าประสูติ
ความเข้าใจผิดนี้เกิดขึ้นจากการที่คนไทยในอดีตอาจไม่ทราบรูปลักษณ์ที่แท้จริงของสาละอินเดีย ประกอบกับความศรัทธาในพระพุทธศาสนาที่เชื่อมโยงกับศรีลังกา ทำให้สาละลังกาถูกนำไปปลูกและเชื่อว่าเป็นต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์แห่งการประสูติ
ขณะที่เรื่องของ ต้นโพธิ์ ก็มีความน่าสนใจไม่แพ้กัน ความจริงคือคำว่า "ต้นโพธิ์" ไม่ได้หมายถึงชื่อของต้นไม้ชนิดใดชนิดหนึ่ง แต่เป็น ตำแหน่ง ที่แสดงว่าพระพุทธเจ้าได้ตรัสรู้ ณ ต้นไม้นั้น หากพระพุทธเจ้าองค์ใดก็ตามเสด็จไปตรัสรู้ใต้ต้นไม้ใด ต้นไม้นั้นก็จะได้รับสถานะเป็น "ต้นโพธิ์" ในขณะนั้น
สำหรับพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน พระโคตมพุทธเจ้า ทรงตรัสรู้ใต้ ต้นอัสสัตถพฤกษ์ ซึ่งมีลักษณะใบคล้ายรูปหัวใจ แต่เนื่องจากเป็นสถานที่ตรัสรู้ จึงถูกเรียกว่า "ต้นโพธิ์" เช่นเดียวกับพระพุทธเจ้าในอนาคต พระศรีอริยเมตไตรย ที่มีคำทำนายว่าจะตรัสรู้ใต้ต้นกากะทิง ซึ่งแสดงให้เห็นว่าตำแหน่ง "ต้นโพธิ์" เปลี่ยนแปลงไปตามพระพุทธเจ้าแต่ละพระองค์
ดังนั้น ต้นสาละที่เราเห็นตามวัดส่วนใหญ่จึงไม่ใช่ต้นเดียวกับที่พระพุทธเจ้าประสูติ และ "ต้นโพธิ์" ก็ไม่ใช่ชื่อเฉพาะ แต่เป็นตำแหน่งของต้นไม้ที่พระพุทธเจ้าแต่ละพระองค์ทรงตรัสรู้ อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญที่ควรตระหนักคือ ทั้งต้นสาละและต้นโพธิ์เป็นเพียงวัตถุภายนอก เป็นสัญลักษณ์ที่นำทางไปสู่ พระธรรมคำสั่งสอน อันเป็นแก่นแท้ที่ชาวพุทธควรให้ความเคารพและปฏิบัติตามอย่างแท้จริง














