ฝรั่งสาวเที่ยวไทยคนเดียว 2 วันถึงกับพูดว่า "รู้สึกปลอดภัยมาก" กรุงเทพมีดีมากกว่าที่คิด
สวัสดีครับเพื่อนๆ วันนี้ผมมีคลิปน่ารักๆ และฟีลกู้ดสุดๆ มาเล่าให้ฟังกันครับ หลังจากเจอแต่คลิปเครียดๆ มาเยอะ คลิปนี้เหมาะมากสำหรับใครที่อยากรู้ว่า "คนต่างชาติมองเมืองไทยยังไง?" โดยเฉพาะผู้หญิงที่เดินทางลุยเดี่ยว
เรื่องมันเริ่มจากฝรั่งสาวคนหนึ่งชื่อว่า คาย่า เธอมาจากอังกฤษครับ เดินทางมาเที่ยวกรุงเทพคนเดียว ไม่มีเพื่อน ไม่มีไกด์ ไม่มีทัวร์ ไม่มีรถตู้หรูรับส่งอะไรทั้งนั้น ใช้ชีวิตแบบง่ายๆ ลุยเดี่ยวสไตล์นักเดินทางจริงๆ
เธอแค่อยากใช้เวลาอยู่กับตัวเองในเมืองที่ไม่เคยมา… แค่นั้น
แต่สิ่งที่เธอไม่คาดคิดก็คือ... "กรุงเทพฯ ทำให้เธอรู้สึกปลอดภัยแบบบอกไม่ถูกเลยว่าทำไม"
ลงเครื่องปุ๊บ ก็โดนใจคนไทยปั๊บ!
ตั้งแต่วินาทีที่ลงจากเครื่อง คาย่าก็เจอเรื่องประทับใจเลยครับ พนักงานสนามบินเดินเข้ามาช่วยแบบไม่ต้องร้องขอ ไม่มีท่าทีรำคาญ ไม่เบื่อ ไม่รีบ ไม่เหวี่ยง สายตาเป็นมิตร พูดเพราะ ใจดีแบบที่เธอเองยังงง
ต่อมาก็เรียกแท็กซี่จากสนามบิน... หลายคนอาจคิดว่า "เอาแล้วไง" เพราะบางทีเราก็ได้ยินข่าวไม่ดีบ้างใช่ไหมครับ?
แต่ผิดคาด! คนขับแท็กซี่สุภาพมาก ไม่พูดมาก ไม่ขายของ ไม่พาอ้อม ไม่ขับหวาดเสียว เปิดเพลงเบาๆ เล่าเรื่องเมืองไทยให้ฟังระหว่างทาง จนคาย่าบอกว่า “อบอุ่นแบบไม่รู้จะบรรยายยังไง”
เจ้าของที่พักต้อนรับเหมือนเพื่อนเก่า
พอถึงที่พัก เธอไม่คิดว่าจะได้รับการต้อนรับดีขนาดนี้ครับ เจ้าของที่พักออกมาต้อนรับ ยิ้มแย้ม แจ่มใส แนะนำที่เที่ยวใกล้ๆ บอกเส้นทางละเอียดเหมือนรู้จักกันมานาน
คาย่าบอกว่า... แค่วันแรกก็รู้สึกว่า "ฉันเลือกประเทศถูกแล้วว่ะ!"
และที่น่าสนใจกว่านั้นคือ เธอเป็นผู้หญิงผิวขาวที่ดูออกว่าเป็นนักท่องเที่ยวเต็มตัว แต่ไม่เคยมีใครทำให้รู้สึกอันตรายเลยสักนิด ไม่มีใครจ้อง ไม่มีใครเดินตาม ไม่มีใครมาทำตัวแปลกๆ
ประทับใจไม่ใช่เพราะแลนด์มาร์ก... แต่เพราะ "น้ำใจคนไทย"
คาย่าบอกเลยว่า สิ่งที่เธอประทับใจที่สุดไม่ใช่ตึกสูง ห้างหรู หรือแลนด์มาร์กที่ใครๆ ก็รู้จัก แต่เป็น...
-
รอยยิ้มของคนไทยในซอยเล็กๆ
-
การโบกมือของพี่วินมอเตอร์ไซค์
-
แม่ค้าขายน้ำที่เดินออกมาบอกทางให้ ทั้งที่เธอไม่ได้ซื้ออะไรเลย
-
สาวไทยที่เดินเข้ามาช่วยแปลเมนูในร้านอาหาร แบบไม่ได้หวังสิ่งตอบแทน
ทั้งหมดนี้คือสิ่งเล็กๆ ที่เธอบอกว่า “มันหายากมากในประเทศอื่น”
“ปลอดภัย” ไม่ใช่แค่ทางกาย... แต่ “อุ่นใจ” ด้วย
คาย่าไม่ได้รู้สึกแค่ปลอดภัยตอนเดินถนน แต่เธอรู้สึก “ไม่เดียวดาย” ด้วย แม้จะไม่มีเพื่อนร่วมทาง ไม่มีใครคอยช่วย แต่ทุกครั้งที่มีปัญหา ก็มีคนไทยยื่นมือเข้ามาเสมอ โดยที่ไม่มีใครต้องร้องขอเลยสักครั้ง
แม้แต่ตอนเดินแถวเยาวราช ชิมสตรีทฟู้ด หรือนั่ง BTS ไปเที่ยวแถวสยาม เธอบอกว่าไม่เคยรู้สึกไม่ปลอดภัยเลย
คนไทยทำให้เธอ “มั่นใจในตัวเอง” มากขึ้น
ที่ฟังแล้วรู้สึกอบอุ่นมากคือ… คาย่าบอกว่า ประเทศไทยไม่ได้แค่ทำให้เธอรู้สึกดี แต่ยังทำให้ เธอมั่นใจในตัวเองมากขึ้น เพราะได้กล้าก้าวเท้าออกจากที่พักทุกวันโดยไม่ต้องกลัวอะไร
แค่การเดินเล่น เจอคนยิ้มให้ เจอคนพยักหน้าทัก หรือเจอคุณลุงที่ช่วยเรียกรถตุ๊กตุ๊กให้ โดยไม่ขอค่าตอบแทน มันทำให้เธอรู้ว่า โลกใบนี้ยังมีมิตรภาพที่แท้จริงอยู่
คอมเมนต์เพื่อนต่างชาติก็อบอุ่นไม่แพ้กัน
ในคลิปของคาย่า มีชาวต่างชาติมาคอมเมนต์เพียบเลยครับ บางคนบอกว่า...
-
“ผมอยู่ไทยมา 16 วัน รู้สึกเหมือนอยู่บ้าน”
-
“แค่ยิ้มให้คนแปลกหน้า คุณจะได้รับรอยยิ้มที่จริงใจกลับมา”
-
“ที่นี่เป็นประเทศเดียวที่ฉันในฐานะ LGBTQ รู้สึกปลอดภัยกว่าบ้านเกิด”
บางคนบอกว่าเมืองไทยอาจจะวุ่นวาย รถติด เสียงดัง แต่ภายใต้ความวุ่นวายนั้น... มีความอ่อนโยนบางอย่างที่จับต้องได้
คนไทยก็ร่วมต้อนรับด้วยหัวใจ
คอมเมนต์จากคนไทยเองก็น่ารักมาก หลายคนบอกว่า...
-
“ยินดีต้อนรับนะคะ”
-
“ขอให้มีความสุขกับทริปนะครับ”
-
“ดีใจที่เธอเห็นมุมดีๆ ของบ้านเรา”
แม้แต่คนที่อยู่ต่างจังหวัด ไม่ได้อยู่กรุงเทพฯ ยังเข้ามาคอมเมนต์ด้วยความภาคภูมิใจที่ "ประเทศไทยได้กลายเป็นที่พักใจให้ใครบางคน"
สรุปส่งท้าย… เมืองไทยอาจไม่ได้เพอร์เฟกต์ แต่แม่ง “จริงใจ”
คาย่าไม่ได้ตั้งใจจะตกหลุมรักกรุงเทพฯ ตั้งแต่แรก เธอแค่หนีความเครียดจากยุโรปมาแป๊บเดียว แต่สิ่งที่เธอได้กลับไปคือ ความรู้สึกดีๆ ที่จะอยู่ในความทรงจำไปอีกนาน
จากแค่ 2 วันที่ดูเหมือนจะสั้นเกินไปสำหรับการเที่ยวในเมืองใหญ่… มันกลับกลายเป็นช่วงเวลาที่พอเหมาะพอดีสำหรับการ “เปิดใจ”
คาย่าบอกว่า... เมืองไทยอาจไม่ได้เปลี่ยนโลกของเธอ แต่ ทำให้เธอเชื่ออีกครั้งว่าโลกใบนี้ยังมีที่ที่อบอุ่น และมิตรภาพแบบไม่ต้องแปลภาษาก็เข้าใจกันได้
ถ้าเพื่อนๆ เคยเจอประสบการณ์อบอุ่นจากต่างชาติ หรืออยากแบ่งปันมุมมองของไทยที่เรารู้สึกภูมิใจ คอมเมนต์กันได้เลยครับ
ปิดตำนานรถ EV ราคาถูก ทิ้งลูกค้า, ดีลเลอร์ หอบเงินจากภาครัฐฯ กลับจีนหน้าตาเฉย
เซียนหวยคึกคัก ม้าสีหมอกปล่อยแนวทางเลขเด็ด งวด 2 มกราคม 2568
เจ้าของบริษัทขายกิจการ แจกโบนัสพนักงานคนละ 443,000 ดอลลาร์
เขมรวิเคราห์ "จุดอ่อนของ T-50TH คืออะไร?"
วิเคราะห์หวยงวดวันที่ 2 มกราคม 69 โดยใช้ AI..เลขไหนมีสิทธิ์ถูกรางวัล
10 พรรณไม้สวยพิษร้าย: ความงดงามที่ต้องแลกด้วยอันตรายถึงชีวิต
"ซินแสดัง" เผยดวงเมืองประเทศไทย ปี 2569..ยิ่งรบ ยิ่งแข็งแกร่ง ศัตรูแพ้ราบคาบ
ปักธงผืนสุดท้ายเหนือ "ปราสาทคนา" ทัพไทยบุกยึดคืนสำเร็จเป็นที่แรก แต่ปักธงสถาปนาชัยชนะเป็นที่สุดท้าย
เปิดตัวอย่างเป็นทางการ นัททิว+เจฟ คบกันมาแล้ว 8 เดือน
AI วิเคราะห์เลขท้าย 2 ตัว งวดวันที่ 2 มกราคม 69..โดยใช้สถิติย้อนหลัง 20 ปี
จะว่าไปแล้ว "น้ำผึ้ง" นั้นคือ อุจจาระของผึ้งหรือไม่ ?
ทัพภาค 2 จัดหนัก งัดจรวดไทย DTI-1G รับใช้ชาติ ถล่ม BM-21 เขมรให้กระจาย
แกงกระด้าง:อาหารเหนือหน้าหนาว
ขนมหม้อทอง ขนมสมัยพระนารายณ์
ปักธงผืนสุดท้ายเหนือ "ปราสาทคนา" ทัพไทยบุกยึดคืนสำเร็จเป็นที่แรก แต่ปักธงสถาปนาชัยชนะเป็นที่สุดท้าย
ย้อนตำนาน “ขันทีหัวใจพระโพธิสัตว์” อ่านราชโองการผิดเพียงคำเดียว แต่ช่วยชีวิตผู้บริสุทธิ์นับพัน
หญิงสาวกินผมตัวเองมาตั้งแต่สมัยอนุบาลเป็นเวลา 20 ปี เจอ"ก้อนผม"หนัก 1 กิโลกรัมในท้อง
เผยโฉม "Dracula’s Chivito": จานก่อกำเนิดดาวเคราะห์ที่ใหญ่ที่สุดในจักรวาลเท่าที่เคยพบ
“ทำไมคนขยันหลายคนยังไม่ประสบความสำเร็จ? ความจริงที่ไม่มีใครบอกคุณ”
ทึ่งทั่วโลก : "ทะเลสาบเพโท" ทะเลสาบสีฟ้าเทอร์ควอยซ์แสนสดใสที่มองจากมุมสูงแล้วมีรูปร่างเหมือน "หัวสุนัขจิ้งจอก" ด้วยน๊า
จะว่าไปแล้ว "น้ำผึ้ง" นั้นคือ อุจจาระของผึ้งหรือไม่ ?