ด้านของใจ...หลังม่านฝนพรำ
ด้านของใจ...หลังม่านฝนพรำ
โดย อักษราลัย
เม็ดฝนหล่นกระทบกระจกร้านกาแฟ วาดเส้นคดเคี้ยวไหลรินลงไป ธาดาเอานิ้วแตะตามหยดน้ำที่เกาะอยู่อีกฝั่ง ปลายนิ้วเย็นเฉียบ ขมวดคิ้วมุ่น เขาดึงมือกลับมากุมแก้วกาแฟที่เย็นชืดไปแล้วครึ่งแก้ว
ในร้านมีเพียงเสียงเพลงบรรเลงแผ่วเบา กลิ่นกาแฟคั่วอ่อน ๆ ลอยอวลในอากาศ ธาดากวาดตามองไปรอบร้าน พบแต่คนแปลกหน้าจมอยู่กับโลกของตัวเอง ทุกคนมีเรื่องราว มีความลับ มีด้านที่ไม่อยากให้ใครเห็น
เสียงสั่นจากโทรศัพท์ดึงความสนใจของเขากลับมา หัวใจกระตุกวูบเมื่อเห็นชื่อผู้ส่ง เป็นเพียงการแจ้งเตือนจากแอพข่าว ไม่ใช่ข้อความจากคนที่รอคอย เขาปัดนิ้วลบการแจ้งเตือนนั้นทิ้ง แล้วเลื่อนกลับไปดูข้อความสุดท้ายที่เขาส่งไป
"อยากคุยด้วย"
สามคำง่าย ๆ ที่ไม่ได้รับคำตอบมาสามวันแล้ว
มันเจ็บ เขาไม่อยากยอมรับ แต่มันเจ็บจริง ๆ มือของเขากำแก้วกาแฟแน่นขึ้น นิ้วชี้เคาะลงบนขอบแก้วเป็นจังหวะถี่ ก่อนจะปล่อยมือและยกขึ้นมาลูบใบหน้าที่ไม่ได้โกนหนวดมาสองวัน
เสียงกระดิ่งที่ประตูร้านดังกรุ๊งกริ๊ง ธาดาสะดุ้ง สายตาพุ่งไปที่ประตูทันที ร่างของหญิงสาวในเสื้อคลุมสีเขียวมะกอกก้าวเข้ามา น้ำหยดจากชายเสื้อลงบนพื้นไม้ หัวใจเขาเต้นรัวเมื่อเธอหันมา แล้วก็ชะงักเมื่อพบว่าไม่ใช่แก้ว ไม่ใช่ใบหน้าที่คุ้นเคย ไม่ใช่ดวงตาคู่นั้น
เขากลืนน้ำลายที่ฝืดคอ หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา เลื่อนไปที่อัลบั้มภาพ ภาพแก้วยิ้มกว้างริมทะเลปีที่แล้ว แสงแดดส่องกระทบผิวของเธอฃเป็นประกาย ตาของเธอสุกใสราวกับท้องฟ้าวันนั้น มือของธาดาสั่นเล็กน้อย เขาคลิกไปที่รูปถัดไป ภาพเธอกำลังหัวเราะกับมุกตลกของเขา แก้มแดงระเรื่อ ริมฝีปากอิ่มเต็ม...
"เราก็แค่คน" เขาพึมพำ เสียงแหบแห้ง รสขมของกาแฟเย็นชืดยังติดอยู่ที่ลิ้น
🍷
เขาไม่มีวันลืมสีหน้าของแก้วในวันนั้น พวกเขานั่งอยู่ในร้านอาหารท่ามกลางแสงไฟสลัว ไวโอลินบรรเลงอยู่ที่มุมหนึ่ง กลิ่นอาหารฝรั่งเศสหอมกรุ่น แต่ธาดาไม่รู้สึกหิว มือของเขาเย็นเฉียบขณะจับแก้วไวน์ ของขวัญวันเกิดสำหรับแก้วอยู่ในกระเป๋า กล่องกำมะหยี่สีแดงใส่สร้อยคอที่เขาเก็บเงินมาหกเดือน
"มีอะไรคะ สีหน้าไม่ดีเลย?" แก้วถาม ริมฝีปากแดงของเธอพยายามยิ้ม แต่ส่งไม่ถึงดวงตา มือที่กำลังคีบช้อนส้อมชะงักกลางอากาศ
"พี่รู้เรื่องของเขาแล้ว"
ใบหน้าของแก้วเปลี่ยนไปทันที สีเลือดหายไปจากใบหน้า ดวงตาเบิกกว้าง ช้อนส้อมในมือของเธอหล่นกระทบจานเสียงดัง เธอคว้าแก้วไวน์ขึ้นมาดื่มรวดเดียวหมด ก่อนจะวางลงอย่างแรง
"อธิบายได้ไหม ว่าทำไม?" เสียงของธาดาสั่น เขาเกลียดตัวเองที่เสียงสั่น เกลียดที่หัวใจยังเต้นแรงเมื่อมองเธอ
แก้วมองไปที่อื่น ไม่สบตา ไหล่ของเธอตกลงเล็กน้อย ปลายนิ้วเล่นกับผ้าเช็ดปากบนตัก
"บางทีแก้ว..." เธอเงียบไปครู่หนึ่ง กัดริมฝีปากล่าง "บางทีแก้วอาจไม่ใช่คนที่พี่คิด"
คำตอบนั้นทำให้ธาดารู้สึกเหมือนถูกตบ แรงกว่าที่เขาคาดไว้ เขาไม่ได้โกรธ แต่รู้สึกเหมือนมีบางอย่างแตกสลายในอก เหมือนถูกทอดทิ้งกลางทะเลที่เย็นเยียบ โลกรอบตัวพร่าเลือน เสียงไวโอลินกลายเป็นเสียงหึ่ง ๆ ในหู
"เขามีความสำคัญยังไง?" เขาถามอีกครั้ง พยายามมองสบตาเธอ แต่เธอยังคงหลบสายตา
แก้วยกมือขึ้นปาดน้ำตาที่เอ่อขึ้นมา ไม่ใช่น้ำตาของความเสียใจ ธาดารู้ มันเป็นน้ำตาของความอับอาย ของการถูกจับได้
"ขอโทษ" เธอพูดเบา ๆ พร้อมลุกขึ้น คว้ากระเป๋าบนโต๊ะ "พี่เป็นคนดี... ดีเกินไป"
นั่นคือประโยคสุดท้ายที่เขาได้ยินจากเธอ ก่อนที่เธอจะหันหลังและเดินออกไปจากร้าน ทิ้งให้เขานั่งอยู่คนเดียวท่ามกลางเสียงเพลงและแสงจากเปลวเทียนที่ยังคงสว่างไสว กล่องของขวัญในกระเป๋ายังคงอยู่ที่เดิม เย็นซีดเหมือนหัวใจของเขา
🍷
ธาดาสะดุ้งเมื่อฝนตกหนักขึ้นฉับพลัน กระดาษทิชชู่ในมือเปียกชื้นไปด้วยหยดน้ำที่เขาไม่รู้ตัวว่าไหลออกมาจากดวงตา เขาใช้หลังมือเช็ดออก รู้สึกโง่ที่ยังคงเสียใจกับเรื่องที่ผ่านมาเกือบเดือนแล้ว
เสียงกระดิ่งดังขึ้นอีกครั้ง คราวนี้เขาไม่มองไปที่ประตู เขารู้ดีว่าแก้วไม่มีทางมาที่นี่ เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาชอบมานั่งที่ร้านนี้ พวกเขาไม่เคยมาด้วยกัน
"ธาดา?"
เสียงทุ้มคุ้นหูดังขึ้นใกล้ ๆ ธาดาเงยหน้าขึ้นอย่างรวดเร็ว พบกับร่างสูงโปร่งในเสื้อกันฝนสีดำ ใบหน้าเปียกชื้น ผมยาวปรกหน้า
"ตุลย์?" เขาเอ่ยชื่อเพื่อนสนิทสมัยมหาวิทยาลัยอย่างประหลาดใจ
ตุลย์ยิ้ม รอยบุ๋มที่แก้มปรากฏชัด น้ำฝนหยดจากปลายจมูก เขาถอดเสื้อกันฝนแขวนไว้ที่ราวข้างโต๊ะก่อนจะทรุดตัวลงนั่งตรงข้ามธาดา
"นายดูแย่ชะมัด" ตุลย์พูดตรง ๆ สายตาสำรวจใบหน้าของธาดา "สภาพเหมือนไม่ได้นอน"
ธาดาหัวเราะเบา ๆ เป็นเสียงหัวเราะที่แห้งผาก "มากพอที่จะทำให้ฉันเริ่มเห็นภาพหลอน เห็นเพื่อนเก่าที่ไม่ได้เจอกันเกือบสองปีโผล่มาในร้านกาแฟกลางสายฝน"
ตุลย์พยักหน้าให้พนักงานที่เดินมา ก่อนจะสั่งกาแฟดำ เขาหันกลับมาหาธาดาอีกครั้ง ดวงตาฉายแววเป็นห่วง
"มีคนบอกว่านายกำลังแย่"
ธาดาขมวดคิ้ว "ใคร?"
"ไม่สำคัญหรอก" ตุลย์ตัดบท "สำคัญที่นายเป็นยังไง ว่าแต่... มันเกี่ยวกับผู้หญิงหรือเปล่า?"
ธาดาอึ้งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะถอนหายใจยาว เขาเล่าเรื่องทั้งหมดให้ตุลย์ฟัง ทุกอย่างที่เกิดขึ้นระหว่างเขากับแก้ว ตั้งแต่วันที่พวกเขาเจอกันในห้องสมุด วันที่พวกเขาคบกัน ไปจนถึงวันที่เขาพบว่าเธอมีคนอื่น
เหมือนแผลถูกเปิดออกอีกครั้ง แต่คราวนี้มันเจ็บน้อยลง อาจเพราะเขาได้พูดมันออกมาดัง ๆ หรืออาจเพราะตุลย์ฟังอย่างตั้งใจ ไม่ขัดจังหวะ ไม่ตัดสิน เพียงแค่พยักหน้าเป็นระยะ
ธาดาถอนหายใจเบา ๆ ยกแก้วกาแฟขึ้นจรดริมฝีปาก กลิ่นหอมขมตลบอวลอยู่ในลมหายใจ แต่รสชาติกลับจืดชืดอย่างน่าประหลาด บางทีไม่ใช่เพราะกาแฟ...แต่เพราะความว่างเปล่าข้างใน
“ขอบใจนะ ที่รับฟัง” เขาเอ่ยเบา ๆ
ตุลย์ไม่ตอบทันที เขามองเพื่อนเก่าที่นั่งตรงหน้า เพื่อนที่ครั้งหนึ่งเคยเดินไปเรียนด้วยกันทุกเช้า แบ่งข้าวกล่องกันกินในมหา’ลัย เถียงกันเรื่องเพลง เรื่องหนัง เรื่องใครจีบใคร
...แล้ววันหนึ่ง พวกเขาก็แยกย้ายไปตามทางของตัวเอง อย่างไม่มีคำลา
“บางทีมันก็แปลกดีนะ” ตุลย์เอ่ยขึ้น “เราคุยกันแบบนี้ครั้งสุดท้าย...ตอนไหนนะ?”
ธาดายิ้มบาง แต่แฝงแววเศร้า “น่าจะตอนที่นายย้ายบ้านไปมั้ง...หลังจากนั้นก็คุยกันแค่ในไลน์ บ้างก็อ่านไม่ตอบ บ้างก็ตอบสั้น ๆ”
ตุลย์พยักหน้าเบา ๆ “ชีวิตมันไหลเร็วเนอะ แป๊บ ๆ ก็มีงาน มีภาระ มีคนรัก...แล้วก็มีคนที่หายไปจากชีวิตโดยที่เราก็ไม่ได้ตั้งใจจะปล่อยเขาไป”
ประโยคนั้นเหมือนหย่อนลงในใจธาดาอย่างแผ่วเบา แต่ทิ้งคลื่นสะเทือนเอาไว้
“ดีใจนะที่นายยังอยู่ตรงนี้” ธาดาว่า
“เราทั้งคู่ต่างเคยหายไป แต่ก็ยังกลับมาเจอกันได้” ตุลย์ยิ้ม “บางที...มันก็พอแล้วมั้ง”
"แล้วตอนนี้นายคิดจะทำยังไงต่อ?" ตุลย์ถาม เขาจิบกาแฟที่เพิ่งถูกเสิร์ฟมา ไอร้อนลอยขึ้นจากแก้ว
ธาดานิ่งคิด หันไปมองออกไปนอกหน้าต่าง ฝนเริ่มซาลงแล้ว มีแสงอาทิตย์ลอดผ่านก้อนเมฆเป็นลำแสงบาง ๆ ทอดยาวลงมาบนถนน
"ฉันไม่รู้... บางทีฉันอาจต้องการคนที่..." เขาหยุดกลางคัน
โทรศัพท์ของเขาสั่น จอสว่างขึ้นด้วยการแจ้งเตือนข้อความใหม่ ชื่อของแก้วปรากฏชัดเจนบนหน้าจอ
"เจอกันที่สวนได้ไหม? ฉันมีเรื่องต้องบอก"
มือของธาดาชะงักค้างเหนือโทรศัพท์ หัวใจเต้นแรงจนรู้สึกได้ที่ลำคอ ปากแห้งผาก เขาไม่แน่ใจว่าควรรู้สึกอย่างไร ความโกรธ ความเสียใจ ความสับสน และความหวังเล็ก ๆ ปะปนกันไปหมด
ตุลย์มองสีหน้าของเพื่อน "แก้วเหรอ?"
ธาดาพยักหน้า มือยังคงลอยค้างเหนือโทรศัพท์ เหมือนไม่กล้าแตะต้อง
"นายจะไปเจอเธอไหม?"
ธาดาไม่ตอบ เขามองออกไปนอกหน้าต่างอีกครั้ง ฝนหยุดตกแล้ว ท้องฟ้าเริ่มเปลี่ยนเป็นสีครามอ่อน แสงอาทิตย์ส่องลอดผ่านก้อนเมฆมากขึ้น ละอองน้ำบนใบไม้สะท้อนแสงเป็นประกาย
ธาดาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา นิ้วสั่นเล็กน้อยเมื่อปลดล็อกหน้าจอ เขานึกถึงคำสอนของอาม่า
"อยู่ใกล้คนดี ชีวิตก็จะเจริญรุ่งเรือง เลี่ยงให้พ้นจากคนไม่ดี ชีวิตก็จะดีขึ้นไปอีก..."
แต่คำถามที่ยากกว่าคือ เขาจะรู้ได้อย่างไรว่าใครคือ "คนดี"? แก้วที่ทำให้เขาเจ็บปวดใช่หรือไม่? หรือตุลย์ที่นั่งตรงหน้าเขาตอนนี้? และอะไรคือนิยามของคำว่า "ดี" สำหรับเขา?
กลิ่นกาแฟหอมกรุ่นลอยมาปะทะจมูก เสียงฝนที่หยุดตกทำให้ร้านเงียบลง แสงแด
ดอ่อน ๆ จากภายนอกสาดเข้ามาทางหน้าต่าง ทอดยาวบนพื้นไม้เป็นลำมองดูสว่างและงดงาม
ธาดากลืนน้ำลาย มือกดบนหน้าจอโทรศัพท์ ... 🍷
🔍 ถอดรหัสปี 2568! คนไทยค้นหาอะไรบน Google มากที่สุด สะท้อนภาพสังคมแห่งปี
"ฮุนเซน" เงินหมด ทหาร BHQ คู่ใจทรยศ แอบซบอก "สมรังสี"
ชาว เกษตรกร เขมร กดดันไทยเปิดด่าน ควบรถไถเหยียบนาข้าวทิ้ง ราคาตกต่ำสุดขีด
พบเครื่องบิน "โบอิ้ง 737" ที่หายไป 13 ปี ถูกจอดทิ้งกลางสนามบิน
พืชที่มีพิษร้ายแรงเทียบเท่าพิษงูเห่า
ชาวนาเขมรยกมือไหว้วอนคนไทย “เปิดด่านช่วยด้วย” หลังราคาข้าวทรุดหนัก สวนทางคำพูดในอดีตที่เคยดูแคลนไทย
แคปซูลกาลเวลา 1,700 ปี การค้นพบหลุมศพโรมันที่ "สมบูรณ์แบบ" ในฮังการี
'ฮุนเซน' ควันออกหู หลังลาวฉวยโอกาสขายของตัดหน้า แย่งสัมปทานจีน
ตรงนี้มีคำตอบคนละครึ่งพลัสเฟส 1 ใช้ไม่หมดสามารถนำไปใช้เฟส 2 ได้หรือไม่
2569 ตรงกับเป็นปีนักษัตรอะไร สีนำโชค พร้อมปีชง
กัมพูชา ซัดไทย ไร้ความพร้อม ขาดศักยภาพในการเป็นเจ้าภาพซีเกมส์แนะ ไม่พร้อมอย่าจัด ให้ดูปี 2023 ที่กัมพูชาเป็นเจ้าภาพ ปีนั้นไร้ที่ติ นานาชาติล้วนชื่นชม
ตำรวจเรียกสอบเพื่อนสนิทที่อยู่ในเหตุการณ์คืนที่ "นัทปง" เสียชีวิต
"ซีรี่ย์จีนแนวตั้ง" เทรนด์ใหม่ที่คนไทยติดกันงอมแงม
ตำรวจเรียกสอบเพื่อนสนิทที่อยู่ในเหตุการณ์คืนที่ "นัทปง" เสียชีวิต
สยอง! งูยักษ์ 5 เมตรหนัก 60 กิโลฯ พังเพดานห้องน้ำ จู่โจมบ้านชาวมาเลเซีย
หัวใจแตกสลายทั้งโซเชียล! "สาวญี่ปุ่น" สุดคิวท์ถูกแมวป่วนใต้กระโปรง แท้จริงคือคุณพ่อลูกสอง วัย 48
จัดอันดับแมลงมีพิษที่สุดในไทย
"บัวเพอร์เพิลจอย"ลูกผสมสีสันดอกสีม่วงนั้นโดดเด่นค่อยๆไล่สีจนไปถึงเกสรสีขาว
ชีวิตอยากสบายอย่าทำอะไรแบบนี้ เสี่ยงชีวิตพัง
การเดินทางที่ไม่สามารถที่จะระบุเวลาที่จะถึงได้ "แล้วแต่สถานการณ์ระหว่างทาง"
ความรู้นั้นมีการรวบรวม ส่วนของวรรณกรรมและเรื่องราวความเป็นมา (ปราสาทหินพิมาย)
"อย่าเดินเหยียบธรณีประตู" สิ่งที่ติดหูเรานั้นมาตลอด คำบอกเล่าจากยาย