หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Team Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน ราคาทองคำ กินอะไรดี
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

สิวฮอร์โมนคืออะไร รู้ทันสาเหตุ พร้อมวิธีจัดการให้หายขาด

โพสท์โดย CuteCute

สิวฮอร์โมนคืออะไร รู้ทันสาเหตุ พร้อมวิธีจัดการให้หายขาด
เมื่อร่างกายของเราผลิตฮอร์โมนบางชนิดมากเกินไป ฮอร์โมนเหล่านี้จะไปกระตุ้นให้ต่อมไขมันทำงานหนักขึ้น ส่งผลให้ผิวมัน รูขุมขนดูกว้างขึ้น และกลายเป็นสาเหตุสำคัญของสิวฮอร์โมน หลายคนอาจไม่รู้ว่าสิวฮอร์โมนต่างจากสิวทั่วไป เพราะมักจะขึ้นตามช่วงเวลา เช่น ก่อนมีประจำเดือน หรือช่วงที่ร่างกายมีความเปลี่ยนแปลงด้านฮอร์โมน

การเข้าใจต้นตอของสิวฮอร์โมนเป็นสิ่งสำคัญ เพราะเมื่อเรารู้ว่าสิวฮอร์โมนเกิดจากอะไร ก็จะสามารถหาวิธีรักษาที่เหมาะสมได้มากขึ้น ซึ่งหากเราดูแลตัวเองอย่างถูกวิธี สิวฮอร์โมนที่เคยเป็นอยู่ก็จะค่อยๆ ดีขึ้นและสามารถหายไปได้ในที่สุด

สิวฮอร์โมนคืออะไร ?
หลายคนอาจยังไม่แน่ใจว่าสิวฮอร์โมนต่างจากสิวทั่วไปยังไง จริงๆ แล้วสิวฮอร์โมนเกิดจากความเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนในร่างกาย โดยเฉพาะฮอร์โมนแอนโดรเจน ซึ่งมีผลทำให้ต่อมไขมันผลิตน้ำมันออกมามากเกินไป จนทำให้รูขุมขนอุดตันและกลายเป็นสิวในที่สุด

สิวฮอร์โมนมักจะเกิดในช่วงที่ร่างกายมีความเปลี่ยนแปลง เช่น ช่วงวัยรุ่น วัยเจริญพันธุ์ ช่วงก่อนมีประจำเดือน ขณะตั้งครรภ์ หรือช่วงวัยหมดประจำเดือน โดยจุดที่สิวฮอร์โมนมักขึ้นบ่อยคือบริเวณคาง แนวกราม และลำคอ ซึ่งเป็นจุดที่ตอบสนองต่อฮอร์โมนได้มากกว่าส่วนอื่นบนใบหน้า

ถ้าใครกำลังเจอปัญหาสิวแบบนี้อยู่ มีโอกาสสูงว่านี่คือสิวฮอร์โมน การเข้าใจว่าสิวฮอร์โมนเกิดจากอะไรจะช่วยให้เรารักษาได้ตรงจุดมากขึ้น

วิธีรักษาสิวฮอร์โมนให้หายขาดอย่างปลอดภัย
สิวฮอร์โมนเป็นปัญหาผิวที่เกี่ยวข้องกับความไม่สมดุลของฮอร์โมนในร่างกาย การรักษาสิวฮอร์โมนให้หายจริงๆ จึงไม่ใช่แค่ใช้ครีมทาหรือยาทาภายนอกเท่านั้น แต่ต้องดูแลจากภายในด้วย เพื่อให้การรักษาสิวฮอร์โมนได้ผลในระยะยาว เราสามารถเริ่มจากการปรับพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน ควบคู่กับเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ช่วยจัดการกับสิวฮอร์โมนได้ตรงจุด

1. ปรับสมดุลฮอร์โมนด้วยโภชนาการ
การกินอาหารที่เหมาะสมสามารถช่วยลดสิวฮอร์โมนได้อย่างดี อาหารบางชนิดมีคุณสมบัติช่วยลดการอักเสบ และปรับระดับฮอร์โมนให้สมดุล ซึ่งช่วยให้สิวฮอร์โมนลดลงได้

  1. ไขมันดี เช่น อะโวคาโด น้ำมันมะกอก และปลาแซลมอน เพราะโอเมก้า-3 ในอาหารเหล่านี้ช่วยลดการอักเสบจากสิวฮอร์โมน
  2. อาหารที่มีไฟเบอร์สูง อย่างผักใบเขียว ธัญพืชเต็มเมล็ด และถั่ว จะช่วยควบคุมระดับอินซูลิน
  3. โปรตีนดีต่อฮอร์โมน เช่น ไก่ ปลา เต้าหู้ และไข่ มีส่วนช่วยให้สิวฮอร์โมนลดลง
  4. ชาเขียว มีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยลดการอักเสบและลดระดับฮอร์โมนแอนโดรเจน ซึ่งเกี่ยวข้องกับสิวฮอร์โมน
  5. โปรไบโอติก เช่น โยเกิร์ต กิมจิ และมิโสะ ช่วยให้ระบบย่อยอาหารดีขึ้น ส่งผลดีต่อผิวและสิวฮอร์โมน

2. ออกกำลังกายเพื่อควบคุมฮอร์โมน
การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอช่วยลดสิวฮอร์โมนได้มากกว่าที่คิด เพราะช่วยลดฮอร์โมนคอร์ติซอล ซึ่งเป็นฮอร์โมนความเครียดที่ทำให้สิวฮอร์โมนแย่ลง และยังช่วยให้ระดับอินซูลินในร่างกายสมดุล ไม่กระตุ้นการผลิตน้ำมันมากเกินไป

ประเภทของการออกกำลังกายที่ดีต่อสิวฮอร์โมน ได้แก่

  1. คาร์ดิโอ เช่น เดินเร็ว วิ่งเบาๆ หรือว่ายน้ำ ช่วยกระตุ้นการเผาผลาญและลดความเครียด
  2. โยคะและพิลาทิส ช่วยให้จิตใจสงบ ลดความเครียด และปรับสมดุลฮอร์โมน
  3. เวทเทรนนิ่ง ช่วยปรับระดับอินซูลินและลดการอักเสบจากสิวฮอร์โมน
  4. HIIT หรือการออกกำลังกายแบบเข้มข้นสั้นๆ ช่วยลดไขมันและควบคุมฮอร์โมนแอนโดรเจน

3. รักษาสิวฮอร์โมนด้วยเทคโนโลยีทางการแพทย์
นอกจากการดูแลร่างกายด้วยอาหารและการออกกำลังกาย ยังมีนวัตกรรมที่ช่วยจัดการกับสิวฮอร์โมนได้โดยตรง เช่น

Aviclear
เลเซอร์ Aviclear ใช้พลังงานเฉพาะเจาะจงที่เข้าไปลดการทำงานของต่อมไขมัน โดยไม่ทำร้ายผิวชั้นบน ช่วยลดการผลิตน้ำมันส่วนเกินที่เป็นต้นเหตุของสิวฮอร์โมน เหมาะสำหรับคนที่ไม่อยากพึ่งยา และได้รับการรับรองจาก FDA อีกด้วย เห็นผลภายใน 3-6 เดือน และในบางรายอาจช่วยลดสิวฮอร์โมนได้ถาวร

Pico Laser
สำหรับคนที่ผ่านช่วงสิวฮอร์โมนมาแล้ว แต่ยังมีรอยแดงหรือรอยดำ Pico Laser เป็นอีกตัวช่วยที่น่าสนใจ เพราะช่วยลดรอยสิวและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้อย่างอ่อนโยน เหมาะกับทุกสภาพผิว และช่วยให้ผิวกลับมาเรียบเนียนเร็วขึ้น
หากดูแลครบทั้ง 3 ด้าน ทั้งภายในและภายนอก การรักษาสิวฮอร์โมนให้หายขาดอย่างปลอดภัยก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป

ยารักษาสิวฮอร์โมนที่แพทย์แนะนำ
สำหรับคนที่มีปัญหาสิวฮอร์โมนแบบเรื้อรัง หรือสิวฮอร์โมนที่รุนแรงจนการดูแลผิวหรือปรับพฤติกรรมยังเอาไม่อยู่ การรักษาด้วยยาถือว่าเป็นอีกทางเลือกที่ได้ผลจริง โดยเฉพาะเมื่อสิวฮอร์โมนส่งผลกระทบต่อความมั่นใจและการใช้ชีวิตประจำวัน ซึ่งมียาหลักๆ อยู่ 3 กลุ่มที่แพทย์มักแนะนำ ได้แก่ ยาคุมกำเนิด Spironolactone และ Isotretinoin

1. ยาคุมกำเนิดกับการรักษาสิวฮอร์โมน
ยาคุมกำเนิดสามารถช่วยเรื่องสิวฮอร์โมนได้ เพราะมีฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสตินที่ช่วยลดระดับฮอร์โมนแอนโดรเจน ซึ่งเป็นตัวกระตุ้นการผลิตน้ำมันส่วนเกินในผิว เมื่อระดับน้ำมันลดลง สิวฮอร์โมนก็จะค่อยๆ ลดลงด้วย
ยาคุมที่ใช้รักษาสิวฮอร์โมนมีหลายตัว เช่น

  1. Diane-35 มีฤทธิ์ลดแอนโดรเจนโดยตรง เหมาะกับผู้ที่มีภาวะฮอร์โมนแอนโดรเจนสูง เช่น PCOS แต่ควรระวังผลข้างเคียงอย่างบวมน้ำ ปวดหัว และความเสี่ยงเรื่องลิ่มเลือด
  2. Yasmin / Yaz มีสาร Drospirenone ที่ช่วยลดแอนโดรเจนและลดการผลิตน้ำมันใต้ผิวหนัง เหมาะสำหรับคนที่มีแนวโน้มเป็นสิวฮอร์โมนแต่ไม่อยากเจอผลข้างเคียงจากยาคุมรุ่นแรง

ข้อควรระวังคือ ยาคุมอาจต้องใช้เวลาประมาณ 2-3 เดือนถึงจะเห็นผล และไม่เหมาะกับคนที่มีปัญหาสุขภาพเกี่ยวกับหัวใจหรือความดันสูง

2. Spironolactone ยาที่ลดฮอร์โมนเพศชาย
Spironolactone เดิมเป็นยาความดันที่มีฤทธิ์ขับปัสสาวะ แต่แพทย์ผิวหนังนิยมนำมาใช้กับผู้หญิงที่มีสิวฮอร์โมน เพราะมันช่วยลดการออกฤทธิ์ของฮอร์โมนเพศชาย ทำให้ต่อมไขมันผลิตน้ำมันน้อยลง และสิวฮอร์โมนก็จะลดตาม
ยานี้เหมาะกับผู้หญิงที่มีสิวฮอร์โมนขึ้นเฉพาะบริเวณคาง กราม และลำคอ หรือผู้ที่มีภาวะ PCOS โดยตรง

แต่ Spironolactone ก็มีผลข้างเคียง เช่น ความดันต่ำ อ่อนเพลีย รอบเดือนผิดปกติ หรือทำให้ร่างกายขาดโพแทสเซียม และไม่ควรใช้ในผู้ชาย เพราะอาจทำให้เกิดภาวะเต้านมโตได้

3. Isotretinoin กรดวิตามินเอสำหรับสิวฮอร์โมนรุนแรง
Isotretinoin เป็นยาที่แรงที่สุดในกลุ่มรักษาสิวฮอร์โมน ช่วยลดขนาดต่อมไขมันและการผลิตน้ำมันได้มากถึง 70-90% ซึ่งทำให้สิวฮอร์โมนลดลงอย่างชัดเจน และในหลายกรณีสามารถหายขาดได้เลย
เหมาะกับคนที่มีสิวฮอร์โมนชนิดรุนแรง เป็นซ้ำๆ หรือรักษาด้วยวิธีอื่นแล้วยังไม่ได้ผล เช่น ยาปฏิชีวนะ ยาคุม หรือ Spironolactone

ข้อควรระวังคือ ยานี้อาจทำให้ผิวแห้ง ปากแตก ตาแห้ง และต้องใช้มอยส์เจอไรเซอร์เป็นประจำ อีกทั้งยังต้องระวังภาวะซึมเศร้า อารมณ์แปรปรวน และห้ามใช้ในหญิงตั้งครรภ์เด็ดขาด เพราะอาจกระทบต่อทารกในครรภ์

ก่อนใช้ Isotretinoin ต้องตรวจเลือดเพื่อตรวจค่าตับและไขมัน และระหว่างการรักษาต้องติดตามผลอย่างใกล้ชิด โดยระยะเวลาการใช้ยานี้อยู่ที่ประมาณ 4-6 เดือน และเมื่อจบคอร์สรักษา สิวฮอร์โมนอาจไม่กลับมาอีกเลยในหลายกรณี

สรุปทุกเรื่องเกี่ยวกับสิวฮอร์โมน
สิวฮอร์โมนเป็นปัญหาผิวที่กวนใจใครหลายคน โดยเฉพาะเมื่อเกิดขึ้นซ้ำๆ และรักษาเท่าไรก็ไม่หายสักที ถ้ารักษาไม่ถูกวิธี สิวฮอร์โมนอาจลุกลามและทิ้งรอยไว้บนใบหน้าได้ง่ายๆ เพราะฉะนั้นถ้าใครกำลังเผชิญกับสิวฮอร์โมน และยังไม่แน่ใจว่าควรรักษาแบบไหนถึงจะได้ผล

⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
CuteCute's profile


โพสท์โดย: CuteCute
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
🔮คุณเกิดวันไหน? มาทายนิสัย เปิดดวง ความรัก การเงิน ครบทั้ง 7 วันเกิดไทยระงับประกาศให้แรงงานกัมพูชาพาสปอร์ตหมดอายุอยู่ต่อ — ทำแรงงานสับสนทั้งประเทศ!แนวทางเลขเด็ด แม่น้ำหนึ่ง งวด 16 พ.ย. 68 เตรียมลุ้นรวยกลางเดือนหนุ่มๆเห็นแล้วตะลึง"ปิ่น เก็จมณี"มาใน ลุคนางแบบบนรันเวย์ทำเอาหนุ่มๆข้างเวทีเชียร์ดังมากสิบเลขขายดีแม่จำเนียร งวด 16/11/68ทายนิสัย ความ Introvert โลกส่วนตัวสูง ของคนแต่ละราศี ตอนที่ 2 ราศีกรกฎ – ราศีธนู“เครื่องหวาน” ที่จัดถวายรัชกาลที่ 6 มีอะไรบ้างเขมรเตรียมกู้เงินจากต่างชาตินับพันล้านดอลลาร์"สายมูต้องระวัง" 7 สิ่งที่ควรเลี่ยงกินในวันหวยออก เพื่อไม่ให้โชคลาภหลุดมือแจกสูตร 5 คู่อาหาร "สุดยอดหัวใจแข็งแรง" ที่แพทย์และนักโภชนาการแนะนำนักแสดงอาวุโสและนักมนุษยธรรม "โรซา โรซาล" เสียชีวิตแล้ว
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
หนุ่มๆเห็นแล้วตะลึง"ปิ่น เก็จมณี"มาใน ลุคนางแบบบนรันเวย์ทำเอาหนุ่มๆข้างเวทีเชียร์ดังมากจีนแนะนำไม่ให้พลเมืองเดินทางไปญี่ปุ่น"สายมูต้องระวัง" 7 สิ่งที่ควรเลี่ยงกินในวันหวยออก เพื่อไม่ให้โชคลาภหลุดมือ
กระทู้อื่นๆในบอร์ด โฆษณา ประชาสัมพันธ์
5 อันดับ บริการพ่นฆ่าเชื้อ ที่ดีที่สุด ปี 2025Sculptra คือรหัสลับของผิวเด็กในวงการแพทย์ผิวหนังจริงไหม?ยื่นประกันสังคมออนไลน์ สรุปครบทุกขั้นตอนสำหรับนายจ้าง!ความสำคัญของภาพลักษณ์ในยุค AI ปั้มไลค์: กลยุทธ์ใหม่ที่ช่วยปลดล็อกแบรนด์ให้เติบโตบนโซเชียล
ตั้งกระทู้ใหม่