จับมือมั่น แม้วันหวั่นไหว
จับมือมั่น แม้วันหวั่นไหว
โดย อักษราลัย
"ระยะทางไม่เคยทำให้รักแท้ห่างไกล แต่ความเงียบงันและความไม่เข้าใจ... แม้นั่งข้างกัน ก็อาจสร้างระยะห่างนับพันโล"
"อีกกี่นาทีถึงคะ?"
นภัสส่งข้อความไปหาธนา เธอนั่งจิบกาแฟในร้านเล็ก ๆ กลางสยามสแควร์ ท่ามกลางผู้คนที่เดินผ่านไปมา หน้าจอไอแพดแสดงงานพรีเซนต์ที่เธอต้องส่งพรุ่งนี้ ขณะเพลงอาร์แอนด์บีเปิดคลอเบา ๆ เธอดูนาฬิกา Apple Watch บนข้อมือ 17:46 น. เขาสายไปเกือบชั่วโมง
"ขอโทษ รถติดมาก เครื่องเพิ่งลง จะรีบไปนะ''
นภัสถอนหายใจ นี่เป็นครั้งที่สามในเดือนนี้ที่ธนามาไม่ตรงเวลา เธอปัดนิ้วบนหน้าจอไอแพด ลืมงานที่ค้างอยู่ชั่วขณะ ส่วนหนึ่งของเธออยากโทรไปเพื่อบอกว่า "เลิกกัน" ทุกอย่างจะได้จบลงซะที แต่อีกใจเธอรู้ตัวดีว่าไม่สามารถทำแบบนั้นได้
💔
หกเดือนก่อน ธนาได้งานที่สิงคโปร์ การคบกันทางไกลไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาวางแผนไว้ แต่พวกเขาก็ประคับประคองกันมาได้ หรืออย่างน้อยนภัสก็คิดว่าทำได้ดี จนกระทั่งเดือนที่แล้ว เมื่อเธอเจอ DM ในอินสตาแกรมของธนาโดยบังเอิญ
"เอสเพรสโซ่ร้อน และครัวซองต์อัลมอนด์ค่ะ"
นภัสเงยหน้าขึ้น บาริสต้าวางออเดอร์ลงบนโต๊ะ เธอยิ้มขอบคุณ ก่อนจะหันกลับมาที่หน้าจอโทรศัพท์ แชทกับน้องสาวยังค้างอยู่:
> พี่จะคุยกับพี่ธนามั้ย? เรื่องนั้นอะ
นภัสพิมพ์ตอบ:
> ไม่รู้สิ นัดไว้วันนี้ แต่เขายังไม่มา น่าจะอีกสักพัก
> บางทีมันอาจไม่ใช่เรื่องใหญ่ขนาดนั้น
เธอลังเลก่อนกดส่ง จริง ๆ แล้วเธอรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องใหญ่ แต่เธอกลัวว่าเธออาจคิดมากเกินไป บางทีเธออาจจะกำลังทำให้ตัวเองเครียดโดยไม่จำเป็น สมัยนี้คนเรามี followers มากมาย การแชทกับคนอื่นไม่ได้หมายความว่าจะนอกใจกันเสมอไป แต่ทำไมเขาปิดบังเธอล่ะ?
น้องสาวตอบกลับทันที:
> เชื่อสัญชาตญาณตัวเองบ้างสิพี่ ถ้ารู้สึกว่าไม่โอเค ก็ต้องคุยกัน
💔
นภัสเก็บโทรศัพท์ลงกระเป๋า พยายามกลับไปโฟกัสที่งานบนไอแพด แต่สมาธิหายไปหมด ครัวซองต์ถูกฉีกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยบนจาน แต่เธอแทบไม่ได้หยิบมันเข้าปาก
"นภัส"
เสียงที่คุ้นเคยดังขึ้นพร้อมกับร่างสูงในเสื้อโค้ทสีเทาเข้ม ธนาดูเหนื่อยล้า ผมยาวกว่าที่เธอจำได้ เขายังไม่ได้โกนหนวดด้วย ไม่เหมือนธนาที่เธอรู้จัก ธนาที่เคยเนี้ยบทุกครั้งที่พบกัน
"เรานั่งข้างนอกกันไหม?" เขาถาม "อากาศข้างนอกดี"
จริง ๆ แล้วฝนเพิ่งหยุดตก แต่นภัสพยักหน้า เก็บของใส่กระเป๋า คว้าเสื้อคลุม แล้วเดินตามเขาออกไปที่ลานเล็ก ๆ ด้านหน้าร้าน พวกเขานั่งลงที่โต๊ะตัวหนึ่งใต้ร่มใหญ่
"เราต้องคุยกัน" ทั้งคู่พูดพร้อมกัน
นภัสเลิกคิ้ว "นายพูดก่อนเลย"
ธนาถอนหายใจยาว สายตาเขาไม่ได้มองที่เธอ แต่มองไปยังโทรศัพท์ของเขาที่วางอยู่บนโต๊ะ "เราเป็นยังไงกันบ้าง?" เขาถามในที่สุด
"ถามจริง ๆ เหรอ?" นภัสตอบ เสียงเธอเย็นลง "ฉันว่านายรู้คำตอบอยู่แล้ว"
เขาเงยหน้าขึ้นมาสบตาเธอในที่สุด แววตาของเขามีความกังวลที่นภัสไม่เคยเห็นมาก่อน
"ฉันเจอแชทของนายในไอจี" เธอพูดต่อ ไม่ต้องการรอให้เขาถามว่าเธอหมายถึงอะไร
"เฮ้ย" ใบหน้าของธนาเปลี่ยนไป เขาดูตกใจ แต่ไม่ได้มีท่าทีรู้สึกผิดอย่างที่เธอคาดว่าจะเห็น
"ไม่ต้องปฏิเสธ ฉันเห็นหมดแล้ว" น้ำตาเริ่มคลอ แต่นภัสกัดฟันไว้ "ฉันไม่เคยคิดว่านายจะทำแบบนี้"
"เดี๋ยว ๆ" ธนายกมือขึ้น สีหน้าสับสน "นภัส เธอกำลังพูดถึงอะไร?"
"แชทกับผู้หญิงคนนั้น! ทำไมนายต้องปิดบังด้วย?"
เขามองเธอนิ่ง ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา "นภัส เธอพูดถึงคนนี้ใช่ไหม?" เขาเปิดอินสตาแกรมให้เธอดู แชทกับหญิงสาวคนหนึ่งที่เธอไม่เคยเห็นมาก่อน
นภัสพยักหน้า รู้สึกเจ็บในอก
"นี่คือ Zoey เธอเป็นเจ้าของแกลเลอรี่ที่สิงคโปร์" ธนาอธิบาย "ฉันกำลังติดต่อเรื่องจัดนิทรรศการให้เธอ"
"แล้วทำไมนายไม่เคยเล่าให้ฉันฟัง?"
"เพราะว่า..." ธนาหยุดไปครู่หนึ่ง ก่อนจะเลื่อนหน้าจอต่อ "เพราะมันเป็นส่วนหนึ่งของสิ่งนี้"
เขาเปิดรูปถ่ายแกลเลอรี่เล็ก ๆ แห่งหนึ่ง ด้านในมีผลงานภาพถ่ายหลายชิ้น ภาพถ่ายที่นภัสจำได้ดี ภาพที่เธอถ่ายเอง ภาพที่พวกเขาถ่ายด้วยกัน
"ฉันอยากให้เป็นเซอร์ไพรส์" ธนาพูดเบา ๆ "วันเกิดเธอเดือนหน้า ฉันวางแผนจะพาเธอไปที่สิงคโปร์ แล้วพาไปที่นิทรรศการนี้... นิทรรศการของเธอเอง"
นภัสนิ่งไป ความรู้สึกผิด ความอาย และความโล่งใจพุ่งเข้ามาพร้อมกัน "ฉัน... ฉัน..."
"แต่ฉันก็เข้าใจนะ ทำไมเธอถึงสงสัย" ธนาพูดต่อ "ระยะทางไกล การนัดที่ไม่ตรงเวลา การซ่อนข้อความ... มันคงดูแย่มาก"
"ฉันควรจะเชื่อใจนายมากกว่านี้" นภัสกล่าว รู้สึกละอายใจ
"ไม่หรอก" ธนาจับมือเธอ "ฉันเองก็ทำให้มันดูน่าสงสัย และที่จริง... นั่นเป็นเหตุผลที่ฉันอยากคุยกับเธอวันนี้ด้วย"
หัวใจของนภัสเต้นแรง "คุยเรื่องอะไร?"
"เรื่องพวกเรา" ธนาบีบมือเธอเบา ๆ "ความสัมพันธ์ทางไกลมันยากกว่าที่ฉันคิด ฉันไม่ได้ให้เวลากับเธอเท่าที่ควร เราแทบไม่ได้คุยกันจริง ๆ จัง ๆ แล้วก็..."
"ฉันเข้าใจ" นภัสพูดแทรก คิดว่าเธอรู้ว่าเขากำลังจะพูดอะไร "นายต้องการพื้นที่มากขึ้น หรือว่า..."
"ไม่ใช่" ธนาส่ายหน้า "ฉันกำลังจะบอกว่า ฉันได้งานที่กรุงเทพฯ แล้ว ฉันจะกลับมาเดือนหน้า"
นภัสอ้าปากค้าง "จริงเหรอ? แล้วงานที่สิงคโปร์ล่ะ?"
"มันไม่คุ้มค่าหรอก ถ้าต้องเสียเธอไป" เขายิ้ม "เราผ่านมาได้หกเดือนแล้ว แต่ฉันไม่อยากให้มันยาวไปกว่านี้ บางทีเราอาจจะไม่ได้เข้าใจกันเสมอไป แต่ฉันรู้ว่าฉันอยากอยู่ข้าง ๆ เธอ"
นภัสรู้สึกเหมือนน้ำหนักมหาศาลถูกยกออกจากอก เธอโน้มตัวข้ามโต๊ะไปหาเขา
"ฉันเสียใจนะ ที่สงสัยนาย" เธอกระซิบ "แต่ฉันดีใจที่เราได้คุยกัน"
"อย่าขอโทษเลย" ธนากุมมือเธอแน่นขึ้น "บางทีนี่คือบททดสอบของเรา ใช่ไหม? เราจะรู้ว่าความรักของเราแข็งแกร่งแค่ไหน ไม่ใช่ตอนที่ทุกอย่างราบรื่น แต่ตอนที่มันยากลำบาก แล้วเรายังเลือกที่จะอยู่ด้วยกัน"
ท้องฟ้าเริ่มมืดลง ไฟถนนเริ่มสว่าง เสียงเมืองดังรอบตัว ผู้คนเดินผ่านไปมา แต่สำหรับพวกเขาสองคน โลกตอนนี้มีเพียงแค่โต๊ะเล็ก ๆ ตัวนี้
"ว่าแต่ ก่อนหน้านี้เธอบอกว่าอยากคุยอะไรกับฉันนะ?" ธนาถาม
นภัสยิ้ม "ไม่มีอะไรแล้วล่ะ" เธอบีบมือเขากลับ "ตอนนี้ไม่มีอะไรแล้ว"
💔
ฝนเริ่มตกอีกครั้ง เม็ดฝนเล็ก ๆ ลอดผ่านร่มเข้ามาบ้าง แต่ไม่มีใครในสองคนสนใจจะย้ายที่ พวกเขานั่งอยู่อย่างนั้น มือประสานกัน รู้ว่าไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น พวกเขาจะก้าวผ่านมันไปด้วยกัน
"ความรักที่แท้จริงไม่ใช่การไม่ทะเลาะกันเลย แต่คือการเรียนรู้
ที่จะเข้าใจกันท่ามกลางความไม่เข้าใจ และเลือกที่จะก้าวไปข้างหน้าด้วยกัน แม้ในวันที่พายุชีวิตโหมกระหน่ำ"
💔💔💔💔




