Share Facebook LINE Twitter
หน้าแรก เว็บบอร์ด Chat ตรวจหวย ควิซ คำนวณ Pageแชร์ลิ้ง
หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน กินอะไรดี
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

พันธนาการแห่งความเกลียด

เนื้อหาโดย อักษราลัย

พันธนาการแห่งความเกลียด

โดย อักษราลัย

 

เสียงสายฝนหล่นกระทบหลังคาสังกะสียามค่ำคืนของกรุงเทพฯ ดังกังวานไปถึงหัวใจที่สั่นไหวของนภาทร เธอยืนนิ่งอยู่หน้ากระจก มองภาพสะท้อนของตัวเองที่เปลี่ยนไปในรอบสามปี รอยแผลเป็นที่แก้มขวายังคงย้ำเตือนความทรงจำในวันนั้น วันที่ชีวิตของเธอแตกสลายด้วยน้ำมือคนที่เธอรักที่สุด

 

ข่าวที่ได้รับในวันนี้ว่าสามีเก่าของเธอ กำลังจะได้รับการปล่อยตัวในอีกหนึ่งสัปดาห์ หลังจากรับโทษจำคุกสามปีในโทษทำร้ายร่างกาย

 

"พี่จะทำยังไงต่อ?" นิดา น้องสาวของเธอถามจากโซฟาเก่า ๆ มุมห้อง

 

นภาทรถอนหายใจ "พี่ก็ไม่รู้เหมือนกัน"

 

"พี่เขาเขียนจดหมายขอโทษมาตลอดสามปีที่ติดคุก แต่พี่ก็ไม่เคยตอบกลับเลยสักฉบับ" นิดาถอนหายใจ "หมอบอกว่าเขามีอาการป่วยทางจิต ตอนนี้ก็รักษาตัวมาตลอด"

 

"แล้วพี่ควรจะยกโทษให้เขาอย่างงั้นเหรอ?" นภาทรหันขวับไปถาม น้ำเสียงสั่นเครือ "หลังจากที่เขาเกือบฆ่าพี่ หลังจากที่เขาทำให้พี่แท้งลูก หลังจากที่พี่ต้องย้ายหนีหัวซุกหัวซุนไปทั่วเพราะกลัวเขาจะตามมาทำร้ายอีก"

 

นิดาลุกขึ้นเดินมากอดพี่สาว เอามือตบบ่าเบา ๆ "พี่ไม่ต้องยกโทษให้เขาก็ได้ แต่...พี่อาจต้องปล่อยวาง นั่นเพื่อตัวพี่เอง"

 

คืนนั้น นภาทรนอนไม่หลับ เธอหยิบสมุดบันทึกเก่า ๆ ขึ้นมาเปิดอ่าน บันทึกที่เธอเขียนในวันที่กำลังจะหย่า

 

*'การให้อภัย ก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะต้องกลับไปดีกับเขา'*

 

*'ให้อภัย แต่ไม่สุงสิงด้วย'*

 

*'ยกโทษให้ แต่ไม่กลับไปคบ'*

 

เธอเขียนประโยคเหล่านั้นซ้ำไปซ้ำมา เหมือนพยายามสะกดจิตตัวเอง แต่เธอทำไม่ได้ ความเกลียดชังและความกลัวมันฝังรากลึกเกินกว่าจะถอนออกมาได้ง่าย ๆ

 

😡

 

วันรุ่งขึ้น นภาทรตัดสินใจไปพบจิตแพทย์ ดร.วิชญ์ ที่เคยช่วยเธอในช่วงหลังเกิดเหตุการณ์

 

"คุณกลัวที่จะเจอเขาอีกใช่ไหม?" ดร.วิชญ์ถาม

 

นภาทรพยักหน้า "ค่ะ...ฉันกลัว...แต่มันไม่ใช่แค่ความกลัว ฉันเกลียด โกรธ และแค้นเขา มันเป็นความรู้สึกที่ฉันไม่เคยมีมาก่อน"

 

"ความรู้สึกพวกนั้นกำลังทำร้ายใครมากกว่ากัน? เขา หรือคุณ?"

 

คำถามนั้นแทงใจทำให้นภาทรชะงักปากที่กำลังจะตอบกลับด้วยอารมณ์ที่คุกรุ่น

 

"คุณคงเคยได้ยินคำพูดที่ว่า 'ให้อภัยเขา เราสุข โกรธเขา เกลียดเขา เราก็ทุกข์เอง' แต่มันไม่ได้ง่ายแบบนั้นใช่ไหม?" ดร.วิชญ์ถามต่อ

 

"คนพูดประโยคแบบนั้นคงไม่เคยโดนทำร้ายจนเกือบตาย" นภาทรตอบเสียงเครือ

 

"ผมไม่ได้บอกว่าคุณต้องให้อภัยเขานะ ผมเพียงแค่อยากให้คุณเข้าใจความแตกต่างระหว่างการให้อภัยกับการปล่อยวาง การให้อภัยคือการยกโทษให้คนทำผิด แต่การปล่อยวางคือการปลดปล่อยตัวเราเองจากพันธนาการของความเกลียดชัง"

😡

 

สัปดาห์ต่อมา นภาทรยืนนิ่งอยู่หน้าประตูเรือนจำ มือสองข้างสั่นระริก เหงื่อผุดขึ้นที่หน้าผากแม้อากาศจะไม่ได้ร้อน หัวใจของเธอเต้นรัวจนแทบทะลุออกมา หลังจากลังเลอยู่พักใหญ่ เธอสูดลมหายใจลึก ตัดสินใจก้าวเข้าไป

 

ประตูเหล็กปิดลงดังโครมทำให้เธอสะดุ้ง ความทรงจำวันนั้นฉายซ้ำในหัวของเธอ เสียงจานแตก เสียงเธอร้องขอชีวิต เสียงคำสาปแช่งและคำขู่ ความเงียบหลังจากสติของเธอดับวูบลง

 

ยามเรือนจำพาเธอเข้าสู่ห้องเยี่ยมที่มีแต่โต๊ะเหล็กและเก้าอี้สีเทา เธอนั่งลงด้วยขาอ่อนแรง มือกำสร้อยพระที่คอแน่น

 

"คุณมีเวลาสิบนาที" ยามบอกก่อนจะเดินออกไป

 

การรอคอยเหมือนนิรันดร์ แต่ละวินาทีผ่านไปเหมือนชั่วโมง หัวสมองของเธอวนเวียนกับคำถามไม่จบสิ้น ทำไมเธอถึงมาที่นี่? เธอพร้อมที่จะเผชิญหน้ากับเขาจริง ๆ หรือ? จะเกิดอะไรขึ้นถ้าความโกรธของเขากำเริบขึ้นมาอีก?

 

เสียงบานประตูเหล็กเปิดออกดังเอี๊ยด นภาทรรู้สึกเหมือนเลือดในกายหยุดไหล เธอกลั้นหายใจโดยไม่รู้ตัว

 

ชายร่างผอมโซที่ดูโทรมและแก่ไปกว่าอายุจริงเกือบสิบปีเดินเข้ามาช้า ๆ ท่าทีระมัดระวัง ดวงตาที่เคยเต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยวและอาการประสาทหลอนถูกแทนที่ด้วยความเศร้าและความละอายใจอย่างลึกซึ้ง ผมที่เคยดกดำกลายเป็นสีเทาเกือบทั้งศีรษะ ริ้วรอยลึกบนใบหน้าเล่าเรื่องราวของความทุกข์ทรมานที่เขาต้องเผชิญ นภาทรสังเกตเห็นรอยแผลเป็นที่ข้อมือของเขา บาดแผลจากการพยายามฆ่าตัวตาย

 

ความรู้สึกประหลาดกระทบใจนภาทร ไม่ใช่ความสงสาร แต่เป็นความประหลาดใจที่ชายตรงหน้าไม่ได้น่ากลัวอีกต่อไป เขาดูเหมือนเปลือกที่ห่อหุ้มคนที่เธอเคยรู้จัก ความกลัวในใจยังคงอยู่ แต่ถูกแทนที่ด้วยความรู้สึกบางอย่างที่เธอไม่อาจอธิบายได้ ความรู้สึกที่อยู่ตรงกลางระหว่างความโล่งใจและความเจ็บปวด

 

"ขอบคุณที่มา" นครเอ่ยเสียงแผ่ว เสียงของเขาแหบแห้งราวกับไม่ได้ใช้มานาน แววตาของเขามองเธออย่างระมัดระวัง ไม่กล้าสบตาตรง ๆ

 

นภาทรไม่ตอบ ลำคอของเธอแห้งผาก คำพูดติดอยู่ที่ปลายลิ้นแต่ไม่อาจเปล่งออกมา เธอสบตาเขาเป็นครั้งแรกในรอบสามปี ในดวงตานั้น เธอเห็นคนละคนกับสามีเก่าที่เคยทำร้ายเธอ

 

หลังจากความเงียบอันยาวนาน นภาทรรวบรวมความกล้า เธอค่อย ๆ พูดด้วยเสียงที่พยายามควบคุมไม่ให้สั่น

 

"ฉันมาบอกว่าฉันจะไม่ขอความคุ้มครองจากศาลอีกต่อไป" เธอพูดพลางสังเกตปฏิกิริยาของเขาอย่างระมัดระวัง "เธอจะได้รับอิสรภาพเต็มที่เมื่อออกไปจากที่นี่"

 

เธอสูดลมหายใจลึก ก่อนจะพูดต่อ น้ำเสียงแข็งขึ้น "แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าฉันให้อภัยในสิ่งที่เธอทำ"

 

ดวงตาของนครเบิกกว้างด้วยความประหลาดใจ เขาไม่คาดคิดว่าจะได้รับแม้กระทั่งโอกาสนี้ ความรู้สึกผิดที่เขาแบกรับมาสามปีเต็มปรากฏชัดบนใบหน้า เขาพยักหน้าช้า ๆ น้ำตาเอ่อล้นขอบตา

 

"ฉัน...ฉันไม่คาดหวังให้เธออภัย" เสียงเขาสั่นเครือ "ฉันแค่อยากบอกว่า...ฉันเสียใจจริง ๆ ฉันเกลียดตัวเองทุกวันสำหรับสิ่งที่ฉันทำกับเธอ"

 

เขาพยายามกลั้นสะอื้น แต่ไม่สำเร็จ "ฉันเข้ารับการรักษาแล้ว กินยาสม่ำเสมอ ฉันเรียนรู้ที่จะควบคุมตัวเอง คำขอโทษของฉันคงไม่มีความหมายสำหรับเธอ แต่ฉันอยากให้เธอรู้ว่า...ฉันจะไม่มีวันทำร้ายใครอีก"

 

นภาทรนั่งนิ่ง เธอไม่คาดคิดว่าตัวเองจะรู้สึกอะไรในขณะนี้ เธอคิดว่าจะมีแต่ความเกลียดชัง แต่เมื่อเห็นนครร้องไห้ต่อหน้า เธอกลับรู้สึกว่าพลังบางอย่างที่เคยครอบงำชีวิตเธอมาสามปีกำลังคลายออก ไม่ใช่เพราะเธอให้อภัยเขา แต่เพราะเธอเห็นว่าเขาไม่มีอำนาจเหนือเธออีกต่อไป

 

"ดี" นภาทรตอบสั้น ๆ มือของเธอที่วางอยู่บนตักกำเข้าหากันจนเล็บจิกเข้าเนื้อ แต่เธอไม่รู้สึกเจ็บ

 

นครมองรอยแผลเป็นบนใบหน้าของเธอ ความละอายปรากฏชัดในดวงตา "เธอดูดีขึ้น...แผลเป็น..."

 

คำพูดนั้นกระตุกความทรงจำอันเจ็บปวด นภาทรสัมผัสแผลเป็นบนใบหน้าตัวเองโดยไม่รู้ตัว ความโกรธพลุ่งขึ้นมาชั่วขณะ

 

"มันจะอยู่กับฉันไปตลอดชีวิต" นภาทรพูดตัดบท เสียงเย็นชา "เหมือนกับความทรงจำเกี่ยวกับเธอ"

 

คำพูดนั้นทิ่มแทงนครอย่างจัง เขาก้มหน้าลงต่ำ น้ำตาหยดลงบนโต๊ะ ความเงียบอันหนักอึ้งเข้าปกคลุมห้องเยี่ยม มีเพียงเสียงเครื่องปรับอากาศดังหึ่ง ๆ และเสียงนาฬิกาที่เดินช้าราวกับเวลาหยุดนิ่ง

 

นภาทรรู้สึกถึงน้ำตาที่กำลังจะไหลออกมา แต่เธอกลั้นมันไว้ เธอไม่ยอมให้เขาเห็นความอ่อนแอของเธออีก ต้องไม่ใช่ตอนนี้ ไม่ใช่ที่นี่

 

หลังความเงียบอันยาวนาน นภาทรเช็ดเหงื่อที่ผุดขึ้นบนหน้าผาก เธอรู้สึกหายใจลำบาก ห้องนี้แคบขึ้นเรื่อย ๆ ผนังทุกด้านเหมือนกำลังบีบเข้าหาตัวเธอ อากาศตอนนี้หนักและข้นเกินไป ความทรงจำยังตอกย้ำความเจ็บปวด

 

"ฉันจะย้ายไปเชียงใหม่พรุ่งนี้" นภาทรบอกด้วยน้ำเสียงที่พยายามทำให้มั่นคง "นิดาบอกว่าเธอจะกลับไปอยู่บ้านแฟนที่ภาคใต้"

 

เธอพยายามควบคุมเสียงไม่ให้สั่นเครือ สายตายังจับจ้องไปที่ประตูทางออก ราวกับกลัวว่ามันจะปิดล็อคไม่ให้เธอออกไป

 

"เราต่างจะเริ่มชีวิตใหม่" เธอกลืนน้ำลายที่แห้งผาก ก่อนจะสบตาเขาตรง ๆ ครั้งนี้ด้วยสายตาที่แข็งกร้าว "ฉันแค่อยากให้เธอรู้ว่า ถ้าเธอตามหาฉันอีก ฉันจะไม่ลังเลที่จะแจ้งตำรวจทันที"

 

นครมองเธอด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดและความเสียใจอย่างแท้จริง น้ำตาไหลอาบแก้มที่ซูบตอบของเขา มือของเขาสั่นระริกบนโต๊ะ

 

"ฉันสัญญาว่าจะไม่รบกวนชีวิตเธออีก" เขาพูดเสียงแผ่ว "ฉันสาบาน"

 

นภาทรลุกขึ้นยืนช้า ๆ ขาของเธอยังสั่น แต่ไม่ใช่จากความกลัวอีกต่อไป เธอรู้สึกว่าบางสิ่งกำลังเกิดขึ้นในตัวเธอ ความรู้สึกเหมือนเชือกที่รัดแน่นรอบหัวใจเริ่มคลายออก เธอรู้สึกถึงน้ำหนักมหาศาลที่เริ่มถูกยกออกจากบ่า

 

เธอจ้องมองชายที่เคยเป็นสามี คนที่เธอเคยรักมากที่สุด คนที่ทำให้เธอเจ็บปวดที่สุด และเห็นบางสิ่งที่ไม่เคยคาดคิด เขาเองก็เจ็บปวดเช่นกัน ไม่ใช่แค่จากโรคที่เขาเป็น แต่จากความสำนึกผิดที่จะตามหลอกหลอนเขาไปตลอดชีวิต

 

"ฉันไม่เคยคิดว่าวันนี้จะมาถึง" เธอพูดเสียงเบา น้ำตาเริ่มไหลออกมาโดยไม่ได้ตั้งใจ "วันที่ฉันจะมองเธอและไม่รู้สึกกลัวอีกต่อไป"

 

เธอสูดลมหายใจลึก กำมือแน่น น้ำตายังคงไหลลงมาไม่หยุด แต่ครั้งนี้มันเป็นน้ำตาแห่งการปลดปล่อย

 

"การที่ฉันไม่เกลียดเธอแล้ว ไม่ได้หมายความว่าฉันให้อภัยเธอ" เธอพูดเสียงสั่น แต่เด็ดเดี่ยว "แต่การที่ฉันกำลังก้าวต่อไปกับชีวิตของตัวเอง นั่นหมายความว่าเธอไม่มีอำนาจเหนือฉันอีกต่อไป"

 

เธอสังเกตเห็นบางสิ่งในดวงตาของนคร ความโล่งใจ ความเข้าใจ และความหวังริบหรี่ที่เขาอาจจะได้รับการอภัยในสักวันหนึ่ง ไม่ใช่วันนี้ ไม่ใช่พรุ่งนี้ แต่อาจจะสักวันหนึ่ง

 

"ฉันไม่ได้มาที่นี่เพื่อเธอ" เธอพูดเป็นครั้งสุดท้าย น้ำเสียงสงบลง "ฉันมาเพื่อตัวฉันเอง เพื่อที่จะไม่ต้องมีชีวิตอยู่ในความกลัวอีกต่อไป"

 

😡

 

สามเดือนต่อมา ในห้องพักเล็ก ๆ ที่เชียงใหม่ นภาทรนั่งเขียนบันทึกประจำวัน

 

*วันนี้ฉันไม่ได้คิดถึงเขาเลย นี่เป็นครั้งแรกในรอบเกือบสี่ปี ฉันไม่ได้ตื่นมาพร้อมกับฝันร้าย ไม่มีเสียงของเขาดังก้องในหัว ไม่มีความกลัวเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าตามหลัง*

 

*ฉันไม่รู้ว่านี่คือการให้อภัยหรือไม่ แต่ฉันรู้ว่านี่คือการปล่อยวาง*

 

*ฉันเข้าใจแล้วว่าทำไมคนถึงพูดว่า "ให้อภัย แต่ไม่สุงสิงด้วย" มันไม่ใช่เรื่องของการกลับไปมีปฏิสัมพันธ์กับคนที่ทำร้ายเรา แต่เป็นเรื่องของการปลดปล่อยตัวเองจากความเกลียดชัง*

 

*ทุกข์ตกอยู่ที่คนเกลียด*

*กรรมตกอยู่ที่คนเคียดแค้น*

 

*วันนี้ฉันไม่เกลียดใคร ฉันไม่เคียดแค้นใคร ฉันแค่...เป็นอิสระ*

 

นภาทรวางปากกาลง เธอเงยหน้าขึ้นมองภูเขาที่เห็นได้จากหน้าต่างห้อง ฝนเริ่มตกเป็นสายบนยอดดอยสุเทพ เธอเดินไปที่กระจก มองใบหน้าของตัวเอง นิ้วมือลูบแผลเป็นที่แก้มเบา ๆ

 

เป็นครั้งแรกที่เธอมองแผลเป็นนั้นโดยไม่รู้สึกว่ามันคือสัญลักษณ์ของความอ่อนแอ แต่มันคือเครื่องหมายของการเอาชีวิตรอด มันคือสัญลักษณ์ของพลังที่เธอไม่เคยรู้ว่าตัวเองมี

 

ารให้อภัยไม่ใช่การลืมเลือน แต่เป็นการเลือกที่จะไม่ให้ความเจ็บปวดจากอดีตมากำหนดอนาคต และบางทีนั่นอาจเป็นชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเธอ ...😡

เนื้อหาโดย: อักษราลัย
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
อักษราลัย's profile


โพสท์โดย: อักษราลัย
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
มาเป็นคนแรกที่ VOTE ให้กระทู้นี้
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
5 ธุรกิจเสือนอนกิน ที่คุณก็เริ่มได้เลขเด็ด "แพนแพนพารวย" งวดวันที่ 2 พฤษภาคม 68..สูตรหวยเด็ด ส่องกันเลย!เลขเด็ด สำนักดัง อ.พี+ระเด่น+รัชนกมีโชค งวดวันที่ 2 พฤษภาคม 25684 เครื่องดื่มชะลอวัย หน้าใสไร้ริ้วรอย ถ้าไม่อยากแก่ก่อนวัย ต้องดื่ม 3 เครื่องดื่มสร้างสมดุลฮอร์โมนเพศหญิง 3 เครื่องดื่มเพิ่มฮอร์โมนเพศชายน้องงูจงอางจ้องหน้ากู้ภัย หลังหลุดจากกล่องระหว่างทางไปปล่อย วุ่นวายทั้งคันรถ! เพราะน้องจ้องอย่างแรง พร้อมเซ็ตย่อห่อใส่ใข่ให้แน่ๆ ถ้ามีโอกาศไขข้อเท็จจริง! แถบสีหลอดยาสีฟันไม่ได้บอกส่วนผสมอย่างที่มีคนเคยบอกสมองขาดเลือด"เบียร์ เดอะวอยซ์" สงสัย! ใครคือ "ดัง พันกร"..งานนี้เอฟซีออกมาเฉลยเลขเด็ด สำนักดัง ดับล่าง+มาเหนือ+เส้นหมี่+เเพนเเพนพารวย งวดวันที่ 2 พฤษภาคม 2568ยิ้มทั้งที่เหนื่อย: ศาสตร์ลับเติมพลังใจที่คนเก่งเขาทำกัน
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
เมียนมาจับกุม "หมอดู TikTok" หลังทำนายจะเกิดแผ่นดินไหวซ้ำ ทำผู้คนตื่นตระหนกยิ้มทั้งที่เหนื่อย: ศาสตร์ลับเติมพลังใจที่คนเก่งเขาทำกัน"เบียร์ เดอะวอยซ์" สงสัย! ใครคือ "ดัง พันกร"..งานนี้เอฟซีออกมาเฉลย
กระทู้อื่นๆในบอร์ด ความรัก, ประสบการณ์ชีวิต
การพนันทำลายชีวิตได้จริงไหม? เรื่องเล่าจากประสบการณ์ตรงเข็มทิศจากหัวใจสหรัฐฯ จัดการแข่งขันoสุจิ วัดพลังความเป็นยอดชาย เพื่อให้คนตระหนักถึงการดูแลสุขภาพทางเพศมากขึ้นชวนอ่านเรื่องสั้น อยากให้เธอเป็นตัวแทนเขาจะได้ไหม
ตั้งกระทู้ใหม่
หน้าแรกเว็บบอร์ดหาเพื่อนChatหาเพื่อน Lineหาเพื่อน SkypePic PostตรวจหวยควิซคำนวณPageแชร์ลิ้ง
Postjung
เงื่อนไขการให้บริการ ติดต่อเว็บไซต์ แจ้งปัญหาการใช้งาน แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม ข่าวประชาสัมพันธ์ ลงโฆษณา
เว็บไซต์นี้ใช้ Cookie
เพื่อประสบการณ์ที่ดีและการใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ดูข้อมูลเพิ่มเติม อ่านนโยบายการใช้งาน
ตกลง