แจกสูตรขนมครกแบบโบราณ หอม มัน อร่อยไม่ซ้ำใคร ทำกินในครอบครัวหรือจะทำขายก็ดี
ขนมครกเป็นขนมพื้นบ้านที่กินกันมาตั้งแต่รุ่นคุณตาคุณยาย เป็นของว่างที่ทั้งหอมทั้งอร่อย กลิ่นหอมของแป้งร้อน ๆ ผสมกลิ่นใบเตยอ่อนๆ กับกะทิสดที่เดือดปุดๆ อยู่ในเบ้ากระทะ มันมีเสน่ห์จนใครก็อดใจไม่ไหว
บางทีดิฉันแค่ได้ยินเสียงหยอดแป้งลงกระทะก็หิวขึ้นมาแล้วค่ะ…
สูตรขนมครก (ฉบับโบราณแต่ทำง่าย)
แบ่งเป็น 2 ส่วน: แป้งด้านล่าง และหน้ากะทิ
ส่วนผสมแป้งด้านล่าง
แป้งข้าวเจ้า 1 ถ้วย
แป้งสาลี (เพิ่มความนุ่ม) 1 ช้อนโต๊ะ
ข้าวสุกบดละเอียด 1/4 ถ้วย (ทำให้แป้งกรอบนุ่ม)
น้ำเปล่า 1 ถ้วย
น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
เกลือ 1/4 ช้อนชา
ส่วนผสมหน้ากะทิ:
หัวกะทิสด 1 ถ้วย (ถ้าได้กะทิคั้นสด จะหอมที่สุด)
น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
เกลือ 1/2 ช้อนชา (ต้องออกเค็มนิด ๆ ตัดกับแป้ง)
แป้งข้าวเจ้า 1 ช้อนโต๊ะ (เพื่อให้หน้ากะทิไม่แยกชั้น)
หน้าโรยต่างๆ แล้วแต่ชอบ เช่น
ต้นหอมซอย
ข้าวโพดหวาน
เผือกหั่นเต๋าเล็ก ๆ
ฟักทอง
หรือถ้าอยากทำแบบโมเดิร์น ใส่ชีสหรือไข่เค็มก็ได้ค่ะ
วิธีทำแบบทีละขั้นตอน
1. ผสมแป้งด้านล่าง: เอาแป้งข้าวเจ้า แป้งสาลี ข้าวสุก น้ำเปล่า น้ำตาล และเกลือมาผสมให้เข้ากัน คนจนเนื้อเนียนไม่เป็นเม็ด
2. ทำหน้ากะทิ: ผสมหัวกะทิกับน้ำตาล เกลือ และแป้งข้าวเจ้า คนให้ละลายดี
3. ตั้งเตา: ใช้กระทะขนมครก (เบ้าหลุม) ทาน้ำมันบาง ๆ พอร้อน
4. หยอดแป้ง: หยอดแป้งด้านล่างลงก่อนประมาณครึ่งหลุม แล้วตามด้วยหน้ากะทิ และโรยหน้าตามชอบ
5. ปิดฝาอบ: อบให้แป้งด้านล่างกรอบ และหน้ากะทิสุก ตั้งไว้ประมาณ 3–5 นาที
6. แคะเบา ๆ แล้วเสิร์ฟร้อน ๆ: จะเสิร์ฟเดี่ยวหรือจับคู่ประกบกันก็ได้
เคล็ดไม่ลับจากดิฉัน
ถ้าอยากให้แป้งกรอบนาน แนะนำให้ผสม “ข้าวสุกบด” กับน้ำปูนใสเล็กน้อย
กะทิห้ามขาดความเค็มค่ะ เพราะมันจะทำให้รสกลมกล่อม
กระทะขนมครกต้องร้อนจัดก่อนหยอดแป้ง
ถ้าไม่มีเตาถ่าน ใช้เตาแก๊สหรือเตาไฟฟ้าก็ได้ แต่ต้องใจเย็นค่ะ ใช้ไฟกลางๆ อย่าแรง ย้ำนะคะว่าอย่าแรง
ขนมครกเป็นขนมที่ขายง่ายมาก คนไทยชอบ เพราะราคาน่ารัก กินได้ทุกวัย ทำใส่กล่องใสๆ โรยหน้าให้หลากหลาย ใครเดินผ่านเป็นต้องมีแวะแน่นอนค่ะ
ใครลองแล้วมาเล่าให้ฟังด้วยนะคะ หรือถ้ามีสูตรคุณยายบ้านไหนเด็ดๆ มาแบ่งปันกันก็ยินดีมากค่ะ😊😉
เขมรไม่มีคิดหยุด แต่คิดว่าจะรบไทยให้ชนะด้วย F-35 ได้อย่างไรในอนาคต
อื้อหือ อย่างโหด กรงเล็บของ "มังกรโคโมโด" ตะกวดยักษ์แห่งอินโดนีเซีย
เขมรยอมแล้ว ระดมเครื่องจักรรื้อเขื่อนล้ำทะเลไทย หลังนาวิกฯ ยื่นคำขาดตัดเสบียงเกาะกง
สูตรคำนวณงวด 2/1/69
สอยอีกหนึ่ง นายพลเขมรร่วง อีกราย
ทำไมคนค้าขายสินค้าที่ผิดศีลธรรมจึงร่ำรวย?
จักรวาลร่วมฉลองส่งท้ายปี! NASA อวดโฉม "ต้นคริสต์มาสยักษ์" แห่งห้วงอวกาศลึก 2,500 ปีแสง
กินตามใจปาก เสี่ยงสารพัดโรค
ลุกขึ้นไได้...ก็ชนะ
อย่าเป็น "วัวลืมตีน" !! "ณวัฒน์" รับ เตีอน "ชาล็อต" เพราะระอาพฤติกรรมลืมตัว
เจาะลึกลำดับเหตุการณ์โศกนาฏกรรมซาวน่าญี่ปุ่น เมื่อพื้นที่ส่วนตัวกลายเป็นกับดักมรณะ
ศุลกากรจับมือ 5 แพลตฟอร์มยักษ์ ดีเดย์ 1 ม.ค. 69 เก็บภาษีสินค้านำเข้าออนไลน์ตั้งแต่บาทแรก
อาชีพออนไลน์แปลกๆ ที่คนไม่ค่อยรู้ แต่ทำเงินได้จริง
เจาะลึกลำดับเหตุการณ์โศกนาฏกรรมซาวน่าญี่ปุ่น เมื่อพื้นที่ส่วนตัวกลายเป็นกับดักมรณะ
"สาละ" ดอกไม้ในตำนานเกี่ยวกับพุทธประวัติของพระมหาศาสดาของศาสนาพุทธ (สาละในหลวงพระบาง)
อย่าเป็น "วัวลืมตีน" !! "ณวัฒน์" รับ เตีอน "ชาล็อต" เพราะระอาพฤติกรรมลืมตัว
โฆษก "ฮุนเซน" โม้หนัก!! เคยผ่านการรบมาแล้วนับ 100 ครั้ง!!
ลุกขึ้นไได้...ก็ชนะ
"สังขละบุรี" เส้นทางเดินลงสะพานไม้ที่ยาวเป็นอันดับที่สามของโลก สวยงามแข็งแรงอากาศหนาวไอหมอกสวยในยามเช้ามืด
"สาละ" ดอกไม้ในตำนานเกี่ยวกับพุทธประวัติของพระมหาศาสดาของศาสนาพุทธ (สาละในหลวงพระบาง)
เราอยู่ได้เพราะว่ามีเธอ ไม่ว่าจะไปไหนก็อยู่ได้ ฉายาลูกชิ้นกินได้ตลอด (ในพนมเปญ)
ท่องตลาดราตรี วันอังคารและวันพฤหัสบดี สีสันยามเย็นของอาหารและแฟชั่นจากไทย (พนมเปญ)




