หลั่งไวเกิดจากอะไร มีวิธีชะลอการหลั่งได้แนะนำ 6 วิธี แก้อาการผู้ชายหลั่งเร็ว
ภาวะหลั่งเร็วหลั่งไว เป็นปัญหาการหลั่งน้ำอสุจิที่เร็วเกินไป ภาวะดังกล่าวเกิดขึ้นได้ตั้งแต่ก่อนสอดใส่หรือสอดใส่ได้ไม่นาน ไม่สามารถควบคุมการหลั่งได้ มีผลทำให้อีกฝ่ายไม่ถึงจุดสุดยอดได้
โดยปกติการหลั่งเร็วสามารถเกิดขึ้นได้เมื่อมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรก เนื่องจากความตื่นเต้นหรือวิตกกังวล แต่หากมีเพศสัมพันธ์บ่อยครั้งแล้วยังเกิดปัญหาเดิม อาจเป็นผลมาจากปัญหาสุขภาพร่างกายและจิตใจ โดยเฉลี่ยแล้วปัญหาดังกล่าวมักพบได้ 1 ใน 3 ของผู้ชายไทย ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 20-50 ปี
แค่ไหนถึงเรียว่า “ภาวะหลั่งเร็ว”
ผู้ชายไทยโดยทั่วไปจะหลั่งน้ำอสุจิขณะมีเพศสัมพันธ์ประมาณ 5-7 นาที แต่ผู้ที่มีปัญหาส่วนใหญ่มักจะหลั่งน้ำอสุจิประมาณ 1-2 นาที ก่อนหรือหลังจากสอดใส่
ภาวะหลั่งเร็วเกิดจาก
- ร่างกายหลั่งสารเซโรโทนิน (Serotonin) น้อยกว่าคนทั่วไป
- ระบบประสาทรับรู้ความรู้สึกบริเวณอวัยวะเพศทำงานผิดปกติ
- เกิดความรู้สึกตื่นเต้น หรือ ความกังวล ในการมีเพศสัมพันธ์
- สุขภาพร่างกายไม่แข็งแรงเหมือนเดิม
- มีปัญหาหย่อนสมรรถภาพทางเพศ
ภาวะหลั่งเร็ว ในปัจจุบันพบปัญหาการหลั่งทั้งหมด 4 แบบ ได้แก่
1.Lifelong (primary) premature ejaculation “ภาวการณ์หลั่งน้ำอสุจิเร็วมาก” แทบจะทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ อาจหลั่งขณะเล้าโลม ก่อนสอดใส่ หรือ แม้กระทั่งอวัยวะเพศไปสัมผัสกับช่องคลอด โดยระยะเวลาเฉลี่ยจะอยู่ที่ 1 นาที
2.Acquired (secondary) premature ejaculation “ภาวการณ์หลั่งน้ำอสุจิเร็วในช่วงหนึ่ง” ทั้งที่ก่อนหน้านี้มีระยะเวลาการหลั่งอสุจิเหมือนคนทั่วไป โดยอาการจะค่อยเป็นค่อยไปหรือเป็นในทันที สำหรับภาวะดังกล่าวเกิดจากปัญหาสุขภาพกายและจิตใจ หรือ มีโรคอื่นร่วมด้วย เช่น ผู้ป่วยโรคทางจิตเวช ต่อมลูกหมากอักเสบ ไทรอยด์เป็นพิษ
3.Natural variable premature ejaculation “ภาวการณ์หลั่งน้ำอสุจิเร็วในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง” ไม่เกิดขึ้นทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ ถือเป็นภาวะที่สามารถควบคุมการหลั่งได้ แต่จะต้องฝึกชะลอการหลั่ง และ เสริมสร้างความมั่นใจ ซึ่งจะช่วยให้อาการหลั่งเร็วหายไป
4.Premature like ejaculation dysfunction (subjective) premature ejaculation “ภาวะการหลั่งน้ำอสุจิเหมือนคนทั่วไปแต่ชะลอการหลั่งได้น้อยลง” มักคิดไปเองว่าตัวเองหลั่งเร็วเกินไป เป็นภาวะที่เกิดจากการรับรู้ผิดปกติซึ่งมีต้นตอมาจากภาวะความเครียดเป็นหลัก
วิธีที่ช่วยให้หลั่งช้าลง
1.เลือกใช้ถุงยางลดความรู้สึก ปัจจุบันมีผู้ผลิตถุงยางอนามัยผลิตถุงยางอนามัยที่มีส่วนผสมของสารเบนโซเคน (Benzocaine) ซึ่งเป็นสารช่วยชะลอการหลั่ง ทำให้รู้สึกชาบริเวณน้องชายเล็กน้อย จึงช่วยลดความรู้สึกขณะสอดใส่ได้ดียิ่งขึ้น
2.Stop-Start Technique เทคนิคการฝึกควบคุมการหลั่งโดยการช่วยตัวเอง หากรู้สึกว่าใกล้ถึงจุดสุดยอดแล้วให้หยุดช่วยตัวเองก่อนอย่างน้อย 15-30 วินาที พอความรู้สึกใกล้ถึงจุดสุดยอดแล้วค่อยช่วยตัวเองอีกประมาณ 3-5 ครั้ง เพื่อเรียนรู้และสังเกตว่าลิมิตของตัวเองอยู่ตรงไหน ทั้งนี้อาจให้คู่ใช้มือช่วยได้เช่นกัน เพื่อเพิ่มความรู้สึกมั่นใจในการมีกิจกรรมทางเพศให้ได้ดีขึ้น
3.Squeeze Technique เทคนิคการฝึกควบคุมการหลั่งโดยการช่วยตัวเองเช่นเดียวกับ Stop-Start Technique เพียงแต่มื้อใกล้ถึงจุดสุดยอดแล้วให้ใช้นิ้วโป้งกับนิ้วชี้ข้างที่ถนัด บีบคอคอดของอวัยวะเพศประมาณ 3-4 วินาที จนกว่าจะรู้สึกว่าน้ำอสุจิไม่ไหลอีกต่อไปแล้ว จึงค่อยช่วยตัวเองอีก 3-5 ครั้ง
4.ขมิบก้น (Butt clenching) บริหารกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน ด้วยการฝึกขมิบก้นค้างไว้ประมาณ 5-10 วินาที เหมือนตอนเราอั้นอุจจาระ แล้วนับ 1-10 ในใจช้า ๆ แล้วคลายออกนับเป็น 1 ครั้ง ทำเป็นประจำ 10-20 ครั้งต่อวัน ก็จะช่วยให้กล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ส่งผลให้ควบคุมการหลั่งได้ดียิ่งขึ้น
5.หลั่งเร็วนัก ลองแก้ด้วยการให้ “Women on Top” ท่าร่วมรักที่ให้อีกฝ่ายเป็นผู้คุมเกม จะช่วยทำให้ฝ่ายชายผ่อนคลาย ควบคุมการหลั่งเร็วได้ง่ายขึ้น ถึงจุดสุดยอดช้ากว่าปกติ เนื่องจากการไม่ต้องออกแรงอะไรมาก แต่ถ้าอีกฝ่ายไม่ชำนาญการในการนี้ ก็จะมีอันตรายอยู่พอสมควร เพราะหากเร่งเครื่องเร็วมาก ๆ หรือ ผิดจังหวะก็อาจเกิดอุบัติเหตุได้ หรืออีกกรณีก็คือ Women on Top แต่กลับหลั่งเร็วกว่าเดิม! ถ้าใครเจอแบบนี้ไม่ใช่เพราะอีกฝ่ายมีความสามารถสูง ก็เป็นที่ฝ่ายชายเองที่ความรู้สึกไวเสียเหลือเกิน
6.วิธีแก้หลั่งเร็ว ต้องรู้จัก “เล้าโลม (Foreplay)” ให้เป็น ไม่ว่าจะมีความต้องการมากแค่ไหนก็ตาม แทนที่จะเริ่มภารกิจการสอดใส่ทันที ลองเริ่มต้นด้วยการเล้าโลมก่อนเพื่อลดความเขินอายและความกังวล แต่ระวังอย่าเล้าโลมนานเกินไป เพราะอาจทำให้หลั่งเร็วได้เหมือนกัน ดังนั้น เมื่อรู้สึกตัวว่าใกล้จะเสร็จกิจแล้วให้ชะลอความเร็วลง ลดการปลุกเร้า เมื่อความรู้สึกลดลงค่อยเริ่มทำต่อ
สามารถทดลองทำทั้ง 6 วิธีด้วยตัวเอง แต่หากยังไม่ได้ผล ควรพบแพทย์เฉพาะทางด้านสุขภาพเพศ เพราะอาจจำเป็นต้องใช้ยาช่วยรักษา การที่ผู้ชายส่วนใหญ่ยังอายที่จะไปพบแพทย์จะทำให้เสียโอกาสในการได้รับการรักษาอย่างรวดเร็ว เพราะยิ่งรักษาเร็วเท่าไหร่ การกลับมาหายดีก็จะง่ายและเร็วกว่า อีกทั้งยังได้คุณภาพชีวิตทั้งของตนเองและคู่สมรสกลับมาก่อนสายเกินแก้
















