ยอดพุ่งไม่หยุด! แผ่นดินไหวเมียนมายอดตายทะลุ 1,000 คาดสูงกว่านี้อีกมาก
อัปเดตแผ่นดินไหวเมียนมา: ยอดผู้เสียชีวิตพุ่งทะลุ 1,000 ราย คาดอาจสูงถึง 10,000 ราย
สถานการณ์แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นในประเทศเมียนมายังคงเป็นที่จับตาของทั่วโลก โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2568 รัฐบาลเมียนมาได้ออกแถลงการณ์ระบุว่ายอดผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว ขนาด 7.7 แมกนิจูด ที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ (28 มีนาคม 2568) ได้พุ่งสูงทะลุ 1,000 ราย แล้ว ขณะที่จำนวนผู้บาดเจ็บพุ่งเกิน 2,300 ราย และยังมีผู้สูญหายอีก กว่า 30 ราย โดยตัวเลขดังกล่าวมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากภารกิจค้นหาและกู้ภัยยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง
แผ่นดินไหวขนาดใหญ่ สร้างความเสียหายมหาศาล
แผ่นดินไหวครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2568 โดยมีศูนย์กลางอยู่ที่เขตชายแดนระหว่างเมียนมากับอินเดีย และส่งผลกระทบเป็นวงกว้างไปทั่วหลายเมืองสำคัญของเมียนมา โดยเฉพาะ เมืองมัณฑะเลย์ ซึ่งเป็นเมืองใหญ่ลำดับที่สองของประเทศ และอยู่ใกล้กับศูนย์กลางแผ่นดินไหวมากที่สุด
รายงานระบุว่าบ้านเรือนหลายพันหลังถล่มลงมา อาคารสูงเสียหายอย่างหนัก โครงสร้างพื้นฐาน เช่น ถนน สะพาน และระบบสาธารณูปโภคได้รับผลกระทบเป็นวงกว้าง อีกทั้งยังเกิดไฟไหม้ในบางพื้นที่จากการรั่วไหลของก๊าซและไฟฟ้าลัดวงจร ทำให้สถานการณ์ทวีความรุนแรงขึ้นไปอีก
ผู้นำทหารเมียนมาลงพื้นที่ ตรวจสอบความเสียหาย
พลเอกอาวุโส มิน อ่อง หล่าย ผู้นำรัฐบาลทหารเมียนมา ได้ลงพื้นที่เมืองมัณฑะเลย์เพื่อตรวจสอบสถานการณ์ความเสียหาย พร้อมทั้งสั่งการให้เจ้าหน้าที่เร่งค้นหาผู้รอดชีวิตและให้การช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบอย่างเต็มกำลัง นอกจากนี้ ทางกองทัพเมียนมายังได้ประกาศภาวะฉุกเฉินในหลายพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายหนัก และเปิดศูนย์พักพิงชั่วคราวให้กับประชาชนที่สูญเสียที่อยู่อาศัย
เจ้าหน้าที่และนานาชาติระดมกำลังช่วยเหลือ
ขณะนี้ เจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วน รวมถึงอาสาสมัคร และหน่วยกู้ภัยจากนานาชาติ เช่น จีน รัสเซีย และอินเดีย ได้ทยอยส่งกำลังพลและสิ่งของบรรเทาทุกข์เข้ามาช่วยเหลือเพิ่มเติม โดยมีการตั้งจุดอพยพหลายจุดเพื่อนำประชาชนออกจากพื้นที่เสี่ยงภัย อย่างไรก็ตาม การให้ความช่วยเหลือยังคงเป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากโครงสร้างพื้นฐานที่ได้รับความเสียหายทำให้การเข้าถึงพื้นที่บางแห่งเป็นไปอย่างยากลำบาก
USGS คาดยอดเสียชีวิตอาจทะลุ 10,000 ราย
ทาง สำนักสำรวจธรณีวิทยาของสหรัฐฯ (USGS) ได้ประเมินสถานการณ์ผ่านแบบจำลองคาดการณ์ พบว่าจากความรุนแรงของแผ่นดินไหวครั้งนี้ อาจทำให้ยอดผู้เสียชีวิตพุ่งสูงเกินกว่า 10,000 ราย และอาจทำให้ความเสียหายทางเศรษฐกิจสูงถึง หลายหมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือมากกว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของเมียนมาเสียอีก เนื่องจากภาคการเกษตรและอุตสาหกรรมในพื้นที่ได้รับผลกระทบอย่างหนัก
แรงสั่นสะเทือนรู้สึกถึงหลายประเทศ
นอกจากในเมียนมาแล้ว แรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหวครั้งนี้ยังสามารถรับรู้ได้ในหลายประเทศ เช่น ไทย ลาว บังคลาเทศ และอินเดีย โดยในประเทศไทยมีรายงานว่าประชาชนในกรุงเทพมหานคร เชียงใหม่ เชียงราย และแม่ฮ่องสอนได้รับรู้ถึงแรงสั่นสะเทือน ทำให้ประชาชนบางส่วนตื่นตระหนกและออกจากอาคารเพื่อความปลอดภัย
ประชาชนหวั่นอาฟเตอร์ช็อก
อีกหนึ่งความกังวลในขณะนี้คือ อาฟเตอร์ช็อก (Aftershock) ที่อาจตามมา โดยผู้เชี่ยวชาญคาดว่าอาจมีแรงสั่นสะเทือนรองเกิดขึ้นอีกหลายระลอกภายในช่วง 48-72 ชั่วโมงข้างหน้า ซึ่งอาจก่อให้เกิดอันตรายเพิ่มเติม โดยเฉพาะกับอาคารที่มีโครงสร้างเสียหายอยู่แล้ว
ข้อควรปฏิบัติเมื่อเกิดแผ่นดินไหว
ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงควรปฏิบัติตามแนวทางความปลอดภัยดังนี้:
1. อยู่ในที่โล่งแจ้ง หลีกเลี่ยงอาคารสูง ต้นไม้ใหญ่ และสิ่งของที่อาจหล่นลงมา
2. ปิดแก๊สและเครื่องใช้ไฟฟ้า เพื่อลดความเสี่ยงจากไฟไหม้
3. ติดตามข่าวสาร จากหน่วยงานทางการอย่างใกล้ชิด
4. เตรียมอุปกรณ์ยังชีพ เช่น น้ำ อาหาร ยา และไฟฉาย
5. อย่าใช้ลิฟต์ หากอยู่ในอาคาร ให้ใช้บันไดแทน
6. หลีกเลี่ยงสะพานและอุโมงค์ เนื่องจากโครงสร้างอาจไม่มั่นคง
สรุปสถานการณ์
ยอดผู้เสียชีวิต: ทะลุ 1,000 ราย (คาดว่าอาจสูงถึง 10,000 ราย)
ผู้บาดเจ็บ: มากกว่า 2,300 ราย
ผู้สูญหาย: กว่า 30 ราย
เมืองที่ได้รับผลกระทบหนัก: มัณฑะเลย์และเมืองใกล้เคียง
แรงสั่นสะเทือนรับรู้ได้: ในหลายประเทศ รวมถึงไทย อินเดีย บังคลาเทศ และลาว
รัฐบาลและนานาชาติเร่งช่วยเหลือ เจ้าหน้าที่กู้ภัยจากจีน รัสเซีย และอินเดีย เริ่มเข้าพื้นที่ช่วยเหลือ
สถานการณ์ยังคงต้องติดตามอย่างใกล้ชิด และประชาชนในพื้นที่เสี่ยงควรเตรียมพร้อมรับมือกับอาฟเตอร์ช็อกที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ
อ้างอิงจาก: ภาพและข้อมูลจาก edition.cnn













