กุหลาบขาว
กุหลาบขาว
#อักษราลัย
ร้านดอกไม้เก่าแก่ปลายซอยวัดโบสถ์มีอายุเก่าแก่พอ ๆ กับชุมชนที่นี่ ผนังอิฐสีน้ำตาลอมส้มมีร่องรอยของกาลเวลา และกลิ่นอายความลึกลับแผ่ซ่านออกมาจากประตูไม้สักบานใหญ่ที่มีกระดิ่งทองเหลืองห้อยอยู่ แม้จะเป็นเพียงร้านดอกไม้เล็ก ๆ แต่คนในละแวกนี้ต่างรู้กันว่า ที่นี่ไม่ใช่ร้านดอกไม้ธรรมดา ที่นี่มีความหวังของชีวิตซ่อนอยู่
"ห้าสิบสามวัน" พรพิรุณกระซิบกับตัวเอง ขณะนิ้วเรียวสวยค่อย ๆ ลูบกลีบกุหลาบขาวที่วางอยู่บนแท่นไม้โบราณ กลีบที่สี่กำลังจะร่วงในอีกไม่กี่ชั่วโมง แต่ละกลีบที่ร่วงหล่นลงเสมือนนาฬิกาทรายกำลังนับถอยหลังชีวิตของภูริ ชายที่เธอรัก
ความลับเริ่มขึ้นตอนเธออายุห้าขวบ วันที่เธอล้มป่วยหนักจนหมอบอกว่าไม่มีทางรักษา แม่ใช้กุหลาบขาวดอกนี้ช่วยชีวิตเธอไว้ โดยแลกด้วยชีวิตของท่านเอง ไม่ใช่แค่ชีวิตที่ได้กลับคืนมา เธอได้รับพลังพิเศษในการมองเห็น "เส้นชีวิต" ของผู้คนผ่านดอกกุหลาบแทนแม่ มันคือชะตาที่ส่งต่อมารุ่นต่อรุ่น เป็นมรดกที่ไม่มีใครอยากได้ - การเป็นผู้พิทักษ์กุหลาบขาวแห่งชีวิต
เส้นชีวิตสีเงินบางเฉียบที่โอบล้อมร่างของทุกคนที่เธอพบเจอ ความเข้มของเส้นบ่งบอกถึงพลังชีวิตที่เหลืออยู่ เส้นที่สั่นไหวแสดงถึงความเจ็บป่วย และเส้นที่ริบหรี่คือสัญญาณของความตายที่ใกล้เข้ามา ยิ่งเธอผูกพันกับใครมากเท่าไร เส้นชีวิตของคน ๆ นั้นก็ยิ่งปรากฏชัดเจนในสายตาเธอมากขึ้นเท่านั้น
ในห้องเก็บของด้านหลังร้าน มีสมุดบันทึกเก่าแก่ที่จารึกตำนานของกุหลาบขาวเอาไว้ ทุกรุ่นที่ผ่านมา มักมีเรื่องราวของการเสียสละครั้งยิ่งใหญ่ บางคนแลกชีวิตเพื่อลูก บางคนเพื่อสามี และบางคน... เพื่อคนที่รัก
เสียงกระดิ่งทองเหลืองดังกังวาน
"พิรุณ..." เสียงทุ้มของภูริดังขึ้น ร่างสูงของเขายังคงสง่างามแม้จะซูบลงไปมากจากโรคร้าย ดวงตายังฉายแววอบอุ่นเหมือนวันแรกที่พบกัน
"วันนี้มาเร็วจัง" เธอยิ้มให้เขา พยายามซ่อนความกังวลไว้ในใจ แต่สายตาของเธอเผลอมองไปที่เส้นชีวิตสีเงินริบหรี่ที่พัวพันอยู่รอบตัวเขา เส้นบางเฉียบที่กำลังสั่นไหวและหรี่แสงลงเรื่อย ๆ ทุกครั้งที่เขาไอ เส้นนั้นจะสั่นรุนแรงราวกับจะขาดออกจากกัน สำหรับพรพิรุณแล้ว การมองใครสักคนไม่ใช่เพียงการเห็นรูปลักษณ์ภายนอก แต่เป็นการเห็นความเปราะบางของชีวิต เห็นเวลาที่เหลืออยู่ และเห็นความเจ็บปวดที่ซ่อนอยู่ภายใน
"เราต้องคุยกัน" น้ำเสียงของเขาจริงจัง "พี่รู้ว่าพิรุณกำลังจะทำอะไร"
หัวใจของพรพิรุณเต้นแรง เธอไม่คิดว่าเขาจะรู้เรื่องกุหลาบขาว
"และพี่จะไม่ยอมให้ทำแบบนั้นเด็ดขาด" ภูริจับมือเธอ น้ำตาคลอในดวงตาของเขา "เพราะพี่เคยสูญเสียมิ้นท์ไปกับกุหลาบดอกนี้มาแล้ว"
พรพิรุณเบิกตาโต ไม่คาดคิดว่าจะได้ยินเรื่องนี้
ภูริเล่าว่า เมื่อห้าปีก่อน เขาประสบอุบัติเหตุรถชนจนอาการสาหัส มิ้นท์ คู่หมั้นของเขาในตอนนั้นได้ใช้กุหลาบขาวช่วยชีวิตเขา โดยที่เขาไม่รู้เรื่อง เขาตื่นขึ้นมาพร้อมข่าวว่าเธอเสียชีวิตกะทันหันด้วยโรคหัวใจ ความจริงเปิดเผยเมื่อเขาพบบันทึกของเธอ นั่นเป็นเหตุผลที่เขาตามหาต้นตอของกุหลาบขาว จนมาพบพรพิรุณ
"แต่ภูริจะตาย..." เธอสะอื้น
"พี่ยอมรับมันแล้ว" เขายิ้มอย่างสงบ "ความตายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต พี่ไม่อยากให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย ไม่อยากให้คนที่พี่รักต้องตายเพื่อพี่อีก"
ทันใดนั้น กุหลาบขาวในแจกันก็เปล่งแสงสว่างจ้า กลีบดอกที่กำลังจะเหี่ยวกลับสดใส และค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นสีรุ้งงดงาม แสงสีทองอ่อน ๆ แผ่ซ่านไปทั่วห้อง
"นี่มัน..." พรพิรุณอุทานอย่างตกใจ
เธอนึกถึงตำนานโบราณที่คุณย่าเคยเล่า ตำนานที่ถูกจารึกในหน้าสุดท้ายของสมุดบันทึก - เมื่อผู้ที่กำลังจะตายยอมรับความตายด้วยหัวใจที่เต็มเปี่ยมด้วยความรัก และคนที่รักเขายอมปล่อยวาง พลังของความรักที่แท้จริงจะทำลายคำสาปได้
วันต่อมา ผลการตรวจของภูริออกมา มะเร็งในร่างกายเขาหายไปอย่างน่าอัศจรรย์ ไม่มีใครอธิบายได้ นอกจากพรพิรุณและภูริที่รู้ดีว่า พลังของความรักที่แท้จริงนั้นยิ่งใหญ่กว่าความตาย
กุหลาบสีรุ้งยังคงอยู่ในร้านของพรพิรุณจนถึงทุกวันนี้ วางอยู่ในตู้กระจกโบราณที่เคยเป็นที่อยู่ของกุหลาบขาว เส้นชีวิตของคนรอบ
ตัวเธอยังคงปรากฏให้เห็น แต่มันไม่ได้น่ากลัวอีกต่อไป แต่กลายเป็นเครื่องเตือนใจให้เธอเห็นคุณค่าของทุกวินาทีที่มีร่วมกัน เธอเรียนรู้ว่าบางครั้งการยอมรับและปล่อยวาง กลับเป็นหนทางที่จะรักษาทุกสิ่งไว้ได้ และความรักที่แท้จริงนั้น ไม่จำเป็นต้องพิสูจน์ด้วยการเสียสละชีวิต แต่อยู่ที่การกล้าเผชิญหน้ากับความจริง และเดินไปด้วยกัน ไม่ว่าเส้นทางนั้นจะสั้นหรือยาว .... 🌹
















