"นายกอิ้งค์" รอดฉลุย! โพสต์ขอบคุณทุกคะแนนเสียง หลังอภิปรายไม่ไว้วางใจ
นายกอิ้งค์ รอดอภิปรายไม่ไว้วางใจ โพสต์ขอบคุณทุกคะแนนเสียง พร้อมเดินหน้าทำงานเพื่อประชาชนต่อไป
เมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2568 นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีของประเทศไทย ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว หลังจากผ่านการลงมติอภิปรายไม่ไว้วางใจ โดยเธอได้รับความไว้วางใจจากเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร ทำให้สามารถดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีต่อไปได้
ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ พรรคฝ่ายค้านได้ตั้งข้อกล่าวหาเกี่ยวกับการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาล รวมถึงประเด็นทางเศรษฐกิจ นโยบายต่างประเทศ และข้อสงสัยเกี่ยวกับความโปร่งใสในการบริหารงบประมาณ อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีสามารถชี้แจงข้อกล่าวหาทั้งหมดต่อที่ประชุมได้
นายกฯ ขอบคุณทุกฝ่ายที่ทำหน้าที่ตัวแทนประชาชน
ภายหลังการลงมติ นายกฯ ได้โพสต์ข้อความว่า
"การอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ ทุกอย่างผ่านไปได้ด้วยดีค่ะ ดิฉันขอขอบคุณทุกฝ่ายที่ทำหน้าที่ตัวแทนประชาชนอย่างเต็มที่ ทั้งคณะรัฐมนตรีที่ร่วมชี้แจงทุกประเด็น สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านที่ร่วมกระบวนการตรวจสอบเพื่อประโยชน์ของประเทศ ทุกคะแนนเสียง ทั้งสนับสนุนและเสียงไม่ไว้วางใจ จะเป็นพลังให้ดิฉันและคณะรัฐมนตรีมุ่งมั่นทำงานเพื่อพี่น้องประชาชนต่อไป ขอบคุณเจ้าหน้าที่รัฐสภา ข้าราชการ สื่อมวลชน ทีมงาน และพี่น้องประชาชนทุกท่านที่ติดตามและให้ความสำคัญกับการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ค่ะ"
ผลการลงมติ นายกฯ ได้รับความไว้วางใจจากเสียงข้างมาก
จากผลการลงมติในสภาผู้แทนราษฎร มีจำนวนผู้ลงมติทั้งหมด 487 คน โดยมีรายละเอียดดังนี้
เห็นชอบกับการอภิปรายไม่ไว้วางใจ: 162 คน
ไม่เห็นชอบ: 319 คน
งดออกเสียง: 7 คน
ส่งผลให้นายกรัฐมนตรีได้รับความไว้วางใจให้ดำรงตำแหน่งต่อไป เนื่องจากคะแนนเสียงไม่ถึงกึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกทั้งหมด
ฝ่ายค้านตั้งข้อสังเกตมี "งูเห่า" ในการลงมติ
แม้ฝ่ายค้านจะมั่นใจว่ามีเสียงสนับสนุนเพียงพอในการอภิปรายครั้งนี้ แต่จากการตรวจสอบพบว่า มีสมาชิกฝ่ายค้านบางส่วนที่ไม่ได้ลงมติตามแนวทางพรรคของตนเอง ซึ่งทำให้เกิดข้อครหาเกี่ยวกับ "งูเห่า" หรือสมาชิกที่อาจเปลี่ยนขั้วทางการเมืองในช่วงการลงมติ
ผู้นำฝ่ายค้านได้ให้สัมภาษณ์หลังการลงมติว่า พรรคจะตรวจสอบอย่างละเอียดเกี่ยวกับจำนวนสมาชิกที่ไม่ลงมติไปตามแนวทางของพรรค และอาจมีมาตรการดำเนินการภายในเพื่อลงโทษสมาชิกที่ฝ่าฝืนมติของพรรค
นายกฯ มุ่งมั่นเดินหน้าทำงานต่อไป
แม้จะผ่านการอภิปรายไม่ไว้วางใจไปได้ แต่นายกฯ และคณะรัฐมนตรีก็ยังคงเผชิญความท้าทายในการบริหารประเทศต่อไป โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจที่ประชาชนจับตามองอย่างใกล้ชิด
ในโพสต์ของเธอ นายกรัฐมนตรีเน้นย้ำว่า การได้รับความไว้วางใจครั้งนี้ถือเป็นพลังในการทำงานเพื่อประชาชน และเธอจะเดินหน้าทำงานต่อไปอย่างเต็มที่
ขณะเดียวกัน ประชาชนและสื่อมวลชนยังคงติดตามการดำเนินนโยบายของรัฐบาลอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะในเรื่องเศรษฐกิจ ค่าครองชีพ และโครงการพัฒนาประเทศที่เคยให้คำมั่นสัญญาไว้
ท้ายที่สุดแล้ว ผลการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงกลไกประชาธิปไตยที่เปิดโอกาสให้ฝ่ายค้านตรวจสอบรัฐบาล และให้ประชาชนได้รับทราบข้อมูลเกี่ยวกับการทำงานของรัฐบาลอย่างโปร่งใส
การเมืองไทยในช่วงหลังจากนี้ยังคงน่าจับตามอง ว่ารัฐบาลจะสามารถบริหารประเทศให้ผ่านพ้นวิกฤตต่างๆ และรักษาความเชื่อมั่นจากประชาชนได้มากน้อยเพียงใด












