Share Facebook LINE Twitter
หน้าแรก เว็บบอร์ด Chat ตรวจหวย ควิซ คำนวณ Pageแชร์ลิ้ง
หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

10 เครื่องดื่มช่วยลดไขมันเลว LDL ลดคอเลสเตอรอลในเลือด

เนื้อหาโดย รู้ไว้ใช่ว่า by News Daily TH

ในยุคที่ผู้คนใส่ใจสุขภาพมากขึ้น การควบคุมระดับคอเลสเตอรอลในเลือดถือเป็นประเด็นสำคัญที่หลายคนกำลังมองหาวิธีการจัดการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการลดระดับไขมันเลว LDL (Low-density lipoprotein) ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงหลักของโรคหัวใจและหลอดเลือด บทความนี้จะนำเสนอเครื่องดื่มที่มีงานวิจัยรองรับว่าสามารถช่วยลดระดับ LDL ได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมคำแนะนำในการบริโภคและข้อควรระวังที่ควรทราบ

ไขมันเลว LDL คืออะไร

ไขมัน LDL หรือ Low-Density Lipoprotein เป็นโปรตีนชนิดหนึ่งที่ทำหน้าที่ขนส่งคอเลสเตอรอลจากตับไปยังเซลล์ต่างๆ ทั่วร่างกาย หากมีปริมาณมากเกินไป จะเกิดการสะสมที่ผนังหลอดเลือด ก่อให้เกิดคราบพลัคและตีบตันในที่สุด ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคหัวใจและหลอดเลือด

ตามแนวทางของ American Heart Association ระดับ LDL ที่เหมาะสมควรต่ำกว่า 100 mg/dL สำหรับผู้ที่มีความเสี่ยงต่อโรคหัวใจต่ำ และต่ำกว่า 70 mg/dL สำหรับผู้ที่มีความเสี่ยงสูง

อาหารที่มีไขมันอิ่มตัวสูง ไขมันทรานส์ และคอเลสเตอรอลสูง มักเป็นสาเหตุที่ทำให้ระดับ LDL เพิ่มสูงขึ้น นอกจากนี้ ปัจจัยทางพันธุกรรม การขาดการออกกำลังกาย ความเครียด และอายุที่เพิ่มขึ้น ก็เป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อระดับ LDL เช่นกัน

ไขมันเลว LDL เปลี่ยนเป็นไขมันดี HDL ได้ไหม

ในทางชีวเคมี LDL ไม่สามารถเปลี่ยนเป็น HDL (High-Density Lipoprotein) หรือไขมันดีได้โดยตรง เนื่องจากทั้งสองเป็นโปรตีนคนละชนิดที่มีโครงสร้างและหน้าที่แตกต่างกัน LDL ทำหน้าที่นำคอเลสเตอรอลจากตับไปยังเซลล์ต่างๆ ในขณะที่ HDL ทำหน้าที่นำคอเลสเตอรอลกลับไปยังตับเพื่อกำจัดออกจากร่างกาย

อย่างไรก็ตาม การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต เช่น การรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ การออกกำลังกายสม่ำเสมอ และการหลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ สามารถช่วยลดระดับ LDL และเพิ่มระดับ HDL ได้พร้อมกัน การดื่มเครื่องดื่มที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยปรับสมดุลของไขมันในเลือดได้

10 เครื่องดื่มที่ช่วยลดไขมันเลว LDL พร้อมวิธีการดื่มและข้อควรระวัง

1. ชาเขียว

ชาเขียวอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระที่เรียกว่าคาเทชิน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง EGCG (Epigallocatechin gallate) ซึ่งมีคุณสมบัติในการลดการดูดซึมคอเลสเตอรอลในลำไส้และช่วยเพิ่มการกำจัดคอเลสเตอรอลผ่านทางน้ำดี

การศึกษาในวารสาร Journal of the American Dietetic Association พบว่า การดื่มชาเขียวเป็นประจำช่วยลดระดับ LDL ได้ถึง 2-5% เมื่อดื่มอย่างน้อยวันละ 2-3 ถ้วย

วิธีการดื่ม: ชงชาเขียวด้วยน้ำร้อนประมาณ 70-80 องศาเซลเซียส ทิ้งไว้ 2-3 นาที ดื่มวันละ 2-3 ถ้วย ระหว่างมื้ออาหารหรือหลังอาหาร

ข้อควรระวัง: ไม่ควรดื่มในปริมาณมากเกินไป (เกิน 5 ถ้วยต่อวัน) เนื่องจากอาจทำให้นอนไม่หลับ ใจสั่น หรือปวดท้องได้ ผู้ที่มีโรคกระเพาะ โรคไต หรือสตรีมีครรภ์ควรปรึกษาแพทย์ก่อนดื่มเป็นประจำ

2. น้ำมะเขือเทศ

มะเขือเทศอุดมไปด้วยไลโคปีน (Lycopene) ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยลดการอักเสบและป้องกันการเกิดออกซิเดชันของ LDL ช่วยลดการสะสมของคอเลสเตอรอลที่ผนังหลอดเลือด

งานวิจัยจาก British Journal of Nutrition พบว่า การดื่มน้ำมะเขือเทศวันละ 1 แก้ว (250 มล.) เป็นเวลา 3 สัปดาห์ สามารถลดระดับ LDL ได้ถึง 10%

วิธีการดื่ม: ดื่มน้ำมะเขือเทศสดหรือน้ำมะเขือเทศแปรรูปที่ไม่เติมน้ำตาล วันละ 1 แก้ว (250 มล.) ก่อนอาหารเช้าหรือระหว่างมื้ออาหาร

ข้อควรระวัง: น้ำมะเขือเทศมีรสเปรี้ยวและอาจระคายเคืองกระเพาะในผู้ที่มีอาการกรดไหลย้อน ควรหลีกเลี่ยงน้ำมะเขือเทศที่มีโซเดียมสูงสำหรับผู้ที่มีความดันโลหิตสูง

3. นมถั่วเหลือง

นมถั่วเหลืองมีโปรตีนถั่วเหลือง (Soy Protein) และไอโซฟลาโวน (Isoflavones) ซึ่งมีคุณสมบัติคล้ายฮอร์โมนเอสโตรเจนที่ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือด

การทบทวนวรรณกรรมในวารสาร Journal of Nutrition พบว่า การบริโภคโปรตีนถั่วเหลือง 25 กรัมต่อวัน (ประมาณ 2 แก้วนมถั่วเหลือง) สามารถลดระดับ LDL ได้ 3-5%

วิธีการดื่ม: ดื่มนมถั่วเหลืองไม่เติมน้ำตาลวันละ 1-2 แก้ว แทนนมวัว สามารถดื่มเป็นเครื่องดื่มเช้าหรือหลังออกกำลังกาย

ข้อควรระวัง: บางคนอาจแพ้ถั่วเหลือง ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับไทรอยด์หรือมีประวัติมะเร็งเต้านมในครอบครัวควรปรึกษาแพทย์ก่อนบริโภคเป็นประจำ

4. น้ำผลไม้ตระกูลส้ม

ผลไม้ตระกูลส้มเช่น ส้ม เกรปฟรุต มะนาว อุดมไปด้วยวิตามินซี และสารฟลาโวนอยด์ (Flavonoids) ที่ช่วยต้านการอักเสบและลดการเกิดออกซิเดชันของ LDL

การศึกษาในวารสาร American Journal of Clinical Nutrition พบว่า การดื่มน้ำเกรปฟรุตสดวันละ 1 แก้ว (240 มล.) เป็นเวลา 30 วัน สามารถลดระดับ LDL ได้ถึง 9%

วิธีการดื่ม: ดื่มน้ำส้มหรือน้ำเกรปฟรุตสดที่ไม่เติมน้ำตาล วันละ 1 แก้ว ตอนเช้าหรือก่อนอาหาร

ข้อควรระวัง: น้ำเกรปฟรุตอาจมีปฏิกิริยากับยาหลายชนิด โดยเฉพาะยาลดคอเลสเตอรอลประเภทสแตติน (Statins) จึงควรปรึกษาแพทย์หากกำลังรับประทานยา น้ำผลไม้ตระกูลส้มมีน้ำตาลธรรมชาติสูง ผู้ป่วยเบาหวานควรระมัดระวังปริมาณการดื่ม


บทความที่น่าสนใจ by News Daily TH
✪ สารให้ความหวานแทนน้ำตาล ทางเลือกเพื่อสุขภาพที่ดีกว่าสำหรับคนรักความหวาน?


5. สมูทตี้ผักโขม

ผักโขมเป็นผักใบเขียวที่อุดมไปด้วยลูทีน (Lutein) และซีแซนทิน (Zeaxanthin) ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยป้องกันการอักเสบของหลอดเลือด นอกจากนี้ ยังมีเส้นใยอาหารที่ช่วยจับไขมันและคอเลสเตอรอลในลำไส้

งานวิจัยจาก Journal of Agricultural and Food Chemistry พบว่า การบริโภคผักโขมเป็นประจำช่วยลดการเกิดออกซิเดชันของ LDL และลดการอักเสบของหลอดเลือด

วิธีการดื่ม: ปั่นผักโขมสด 1 กำมือ กับผลไม้รสหวาน เช่น กล้วย หรือแอปเปิ้ล เติมนมไขมันต่ำหรือนมถั่วเหลือง ดื่มเป็นอาหารเช้าหรือหลังออกกำลังกาย

ข้อควรระวัง: ผักโขมมีสารออกซาเลตสูง ผู้ที่มีปัญหานิ่วในไตควรจำกัดการบริโภค และควรล้างผักโขมให้สะอาดเพื่อลดสารเคมีตกค้าง

6. ชาอู่หลง

ชาอู่หลงมีสารพอลิฟีนอล (Polyphenols) และคาเทชินที่ช่วยลดการดูดซึมไขมันในลำไส้และกระตุ้นการเผาผลาญไขมัน

การศึกษาในวารสาร Chinese Journal of Integrative Medicine พบว่า ผู้ที่ดื่มชาอู่หลงเป็นประจำมีระดับ LDL ต่ำกว่าผู้ที่ไม่ดื่มชาถึง 6.69%

วิธีการดื่ม: ชงชาอู่หลง 1 ช้อนชาด้วยน้ำร้อน 90 องศาเซลเซียส ทิ้งไว้ประมาณ 3-5 นาที ดื่มวันละ 2-3 ถ้วย หลังอาหาร

ข้อควรระวัง: ชาอู่หลงมีคาเฟอีน ไม่ควรดื่มก่อนนอนหรือดื่มมากเกินไปในผู้ที่มีอาการใจสั่นหรือนอนไม่หลับ สตรีมีครรภ์ควรปรึกษาแพทย์ก่อนดื่มเป็นประจำ

7. น้ำแครนเบอร์รี่

แครนเบอร์รี่อุดมไปด้วยแอนโทไซยานิน (Anthocyanins) และโพลีฟีนอลที่ช่วยป้องกันการเกิดออกซิเดชันของ LDL และลดการอักเสบของหลอดเลือด

งานวิจัยจาก British Journal of Nutrition พบว่า การดื่มน้ำแครนเบอร์รี่เป็นประจำช่วยเพิ่มระดับ HDL และลดอัตราส่วน LDL ต่อ HDL ซึ่งเป็นตัวชี้วัดความเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือด

วิธีการดื่ม: ดื่มน้ำแครนเบอร์รี่ 100% ที่ไม่เติมน้ำตาล วันละ 1 แก้ว (240 มล.) หรือผสมกับน้ำเปล่าเพื่อลดความเปรี้ยว

ข้อควรระวัง: น้ำแครนเบอร์รี่ที่จำหน่ายทั่วไปมักมีน้ำตาลเพิ่ม ควรเลือกชนิดไม่เติมน้ำตาลหรือทำเอง และผู้ที่รับประทานยาต้านการแข็งตัวของเลือดควรปรึกษาแพทย์ เนื่องจากแครนเบอร์รี่อาจมีปฏิกิริยากับยา

8. น้ำมันมะกอกผสมน้ำมะนาว

น้ำมันมะกอกบริสุทธิ์ชนิดเอ็กซ์ตร้าเวอร์จิน (Extra Virgin Olive Oil) อุดมไปด้วยกรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว (Monounsaturated Fatty Acids) และสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยลดระดับ LDL และเพิ่มระดับ HDL เมื่อผสมกับน้ำมะนาวที่มีวิตามินซีสูง จะช่วยเสริมฤทธิ์ในการต้านออกซิเดชัน

การศึกษาในวารสาร European Journal of Nutrition พบว่า การบริโภคน้ำมันมะกอกเอ็กซ์ตร้าเวอร์จินเป็นประจำช่วยลดระดับ LDL ได้ถึง 8-10%

วิธีการดื่ม: ผสมน้ำมันมะกอกเอ็กซ์ตร้าเวอร์จิน 1 ช้อนโต๊ะ กับน้ำมะนาวครึ่งลูก ในน้ำอุ่น 1 แก้ว ดื่มตอนเช้าก่อนอาหาร

ข้อควรระวัง: น้ำมันมะกอกให้พลังงานสูง (1 ช้อนโต๊ะให้พลังงานประมาณ 120 กิโลแคลอรี) จึงควรคำนึงถึงปริมาณแคลอรี่ที่ได้รับในแต่ละวัน ผู้ที่มีอาการกรดไหลย้อนอาจระคายเคืองกระเพาะจากน้ำมะนาว

9. ชาดอกคาโมไมล์

ดอกคาโมไมล์มีสารฟลาโวนอยด์และเทอร์พีน (Terpenes) ที่ช่วยลดการอักเสบและความเครียดออกซิเดทีฟ (Oxidative Stress) ซึ่งเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดการออกซิเดชันของ LDL

งานวิจัยในวารสาร Journal of Endocrinological Investigation พบว่า การดื่มชาคาโมไมล์เป็นประจำช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดและปรับปรุงโปรไฟล์ไขมัน รวมถึงลดระดับ LDL ในผู้ป่วยเบาหวาน

วิธีการดื่ม: ชงชาคาโมไมล์ด้วยน้ำร้อน ทิ้งไว้ 5-10 นาที ดื่มวันละ 1-2 ถ้วย ก่อนนอนหรือในช่วงพักผ่อน

ข้อควรระวัง: ผู้ที่แพ้พืชตระกูลเดซี่ (Daisy) เช่น ดอกเบญจมาศ ควรหลีกเลี่ยงชาคาโมไมล์ และสตรีมีครรภ์ควรปรึกษาแพทย์ก่อนดื่มเป็นประจำ

10. สมูทตี้อะโวคาโด

อะโวคาโดอุดมไปด้วยกรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว สารต้านอนุมูลอิสระ และเส้นใยอาหาร ซึ่งช่วยลดระดับ LDL และเพิ่มระดับ HDL

การศึกษาในวารสาร Journal of the American Heart Association พบว่า การบริโภคอโวคาโด 1 ผลต่อวันช่วยลดระดับ LDL ได้ถึง 13.5 mg/dL ในผู้ที่มีระดับคอเลสเตอรอลสูง

วิธีการดื่ม: ปั่นอโวคาโดครึ่งผล กับนมไขมันต่ำหรือนมถั่วเหลือง ผสมน้ำผึ้งหรือผลไม้รสหวานเล็กน้อย ดื่มเป็นอาหารเช้าหรือหลังออกกำลังกาย

ข้อควรระวัง: อโวคาโดมีแคลอรี่สูงและไขมันสูง (แม้จะเป็นไขมันดี) ผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนักควรจำกัดปริมาณการบริโภค

คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

1. การดื่มเครื่องดื่มเหล่านี้สามารถทดแทนการรับประทานยาลดคอเลสเตอรอลได้หรือไม่?

ไม่ การดื่มเครื่องดื่มเหล่านี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของการปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตเพื่อสุขภาพที่ดี แต่ไม่สามารถทดแทนการรักษาด้วยยาในผู้ที่มีระดับคอเลสเตอรอลสูงมากหรือมีความเสี่ยงต่อโรคหัวใจสูง ควรปรึกษาแพทย์เพื่อการรักษาที่เหมาะสม

2. จะเห็นผลเมื่อใดหลังจากเริ่มดื่มเครื่องดื่มเหล่านี้?

โดยทั่วไป ต้องใช้เวลาอย่างน้อย 3-4 สัปดาห์ในการเห็นผลเบื้องต้น และ 2-3 เดือนเพื่อเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น ระดับคอเลสเตอรอลเริ่มต้น พันธุกรรม และการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมอื่นๆ ร่วมด้วย

3. ควรดื่มเครื่องดื่มเหล่านี้ปริมาณเท่าใดจึงจะได้ผล?

ปริมาณที่แนะนำแตกต่างกันไปตามชนิดของเครื่องดื่ม โดยทั่วไปควรดื่มชา 2-3 ถ้วยต่อวัน น้ำผลไม้ 1 แก้ว (240 มล.) ต่อวัน และสมูทตี้ 1 แก้วต่อวัน การดื่มในปริมาณที่มากเกินไปอาจไม่เพิ่มประสิทธิภาพและอาจเกิดผลเสียได้

4. มีข้อควรระวังอะไรบ้างสำหรับผู้ที่มีโรคประจำตัว?

ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคไต โรคตับ หรือผู้ที่รับประทานยาเป็นประจำ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเริ่มดื่มเครื่องดื่มเหล่านี้เป็นประจำ เนื่องจากอาจมีปฏิกิริยากับยาหรือส่งผลกระทบต่อโรคที่เป็นอยู่

5. ทำไมการดื่มน้ำเปล่าธรรมดาไม่อยู่ในรายการเครื่องดื่มลดไขมันเลว?

แม้ว่าน้ำเปล่าจะไม่มีสารอาหารที่มีผลโดยตรงต่อการลดระดับ LDL แต่การดื่มน้ำเปล่าเพียงพอมีความสำคัญต่อการทำงานของตับและไต ซึ่งเกี่ยวข้องกับการกำจัดไขมันและคอเลสเตอรอลออกจากร่างกาย การดื่มน้ำเปล่า 8-10 แก้วต่อวันจึงเป็นพื้นฐานสำคัญของการมีสุขภาพดี

6. ทางเลือกอื่นนอกจากการดื่มเครื่องดื่มเพื่อลดระดับ LDL มีอะไรบ้าง?

นอกจากการดื่มเครื่องดื่มที่มีประโยชน์แล้ว ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่ช่วยลดระดับ LDL ได้ เช่น การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ (อย่างน้อย 30 นาทีต่อวัน 5 วันต่อสัปดาห์) การรับประทานอาหารที่มีไฟเบอร์สูง เช่น ธัญพืชไม่ขัดสี ผัก และผลไม้ การลดอาหารที่มีไขมันอิ่มตัวและไขมันทรานส์ การงดสูบบุหรี่ และการลดความเครียด การวิจัยจาก American Heart Association แนะนำให้รับประทานกรดไขมันโอเมก้า-3 จากปลาทะเลน้ำลึกหรือจากอาหารเสริม ซึ่งช่วยปรับสมดุลไขมันในเลือดได้ดี

7. หากต้องการเห็นผลเร็วขึ้น ควรเลือกดื่มเครื่องดื่มชนิดใด?

จากงานวิจัยที่มีอยู่ การดื่มน้ำมันมะกอกผสมน้ำมะนาวและการดื่มน้ำมะเขือเทศให้ผลในการลดระดับ LDL เร็วที่สุด (ประมาณ 2-3 สัปดาห์) ตามด้วยชาเขียวและน้ำแครนเบอร์รี่ อย่างไรก็ตาม ประสิทธิภาพขึ้นอยู่กับปัจจัยส่วนบุคคล และการดื่มหลายชนิดสลับกันอาจให้ผลดีกว่าการดื่มชนิดเดียวเนื่องจากได้รับสารอาหารที่หลากหลาย ทั้งนี้ ควรดื่มควบคู่กับการปรับเปลี่ยนอาหารและการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

บทสรุป

การดื่มเครื่องดื่มที่ช่วยลดระดับไขมัน LDL เป็นวิธีหนึ่งที่ง่ายและได้ผลดีในการปรับปรุงสุขภาพหัวใจและหลอดเลือด เครื่องดื่มทั้ง 10 ชนิดที่กล่าวถึงในบทความนี้ล้วนมีงานวิจัยรองรับถึงประสิทธิภาพในการลดระดับคอเลสเตอรอลและป้องกันการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด

อย่างไรก็ตาม การดื่มเครื่องดื่มเหล่านี้ควรเป็นส่วนหนึ่งของการปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตโดยรวม ซึ่งประกอบด้วยการรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ การออกกำลังกายสม่ำเสมอ การรักษาน้ำหนักที่เหมาะสม การงดสูบบุหรี่ และการจัดการความเครียด

สำหรับผู้ที่มีระดับคอเลสเตอรอลสูงมากหรือมีความเสี่ยงต่อโรคหัวใจสูง ควรปรึกษาแพทย์เพื่อการประเมินและการรักษาที่เหมาะสม การตรวจวัดระดับไขมันในเลือดเป็นประจำยังเป็นสิ่งสำคัญในการติดตามสุขภาพหัวใจและหลอดเลือดในระยะยาว

การเลือกดื่มเครื่องดื่มที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพเป็นก้าวเล็กๆ แต่สำคัญในการดูแลสุขภาพของตนเอง เริ่มต้นวันนี้ด้วยการเลือกเครื่องดื่มที่ช่วยลดไขมัน LDL และคอเลสเตอรอล เพื่อหัวใจที่แข็งแรงและสุขภาพที่ดีในระยะยาว


บทความที่น่าสนใจ by News Daily TH
✪ ปลาไทยที่มีไขมันดีไม่แพ้ปลาแซลมอน โปรตีนสูง สร้างกล้ามเนื้อและบำรุงสมอง


✪ เคยสงสัยกันไหม ผลไม้รถเข็นถึงหวานฉ่ำจัง? ความลับการเพิ่มความหวานผลไม้อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพ


✪ โรคเก๊าท์ อย่าโทษไก่ รู้ไหมเนื้อแดงทำให้เป็นเก๊าท์ได้มากกว่าไก่?

หากอ่านแล้วบทความมีประโยชน์ กดโหวต ⭐️⭐️⭐️⭐️⭐️ ให้ด้วยนะคะ

เนื้อหาโดย: News Daily TH
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
15 VOTES (5/5 จาก 3 คน)
VOTED: News Daily TH x โหนกระแสไฟฟ้า, News Daily TH x เปิด War, รู้ไว้ใช่ว่า by News Daily TH
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
เวียดนามเดือด! สั่งแบนตุ๊กตาจีน สาเหตุมาจากเส้นประ 9 เส้นนี้?ทันตแพทย์เผยสัญญาณเตือนมะเร็งช่องปาก ที่สังเกตได้แม้ไม่ต้องมองเข้าไปในปากกรมอุตุฯ แจ้งเตือนพายุฤดูร้อน! เช็กพื้นที่เสี่ยงและวิธีเอาตัวรอดอุบัติเหตุ!รถตู้ทีมงาน "ยูทูบเบอร์ดัง" ชนยับ แม่-ทีมงานบาดเจ็บระนาวชาวบ้านพบเงินสดกองอยู่ข้างถนน แต่ไม่มีใครกล้าเก็บเลยแจ้งตำรวจขแมร์เล่นใหญ่ ลั่น คนไทยกล้าดียังไง มาก็อปปี้เขมร?!!ดาราดังขายไส้กรอก ได้ปีละพันล้าน“ชาวไซย่าส่วนใหญ่มักประสบปัญหา”: อากิระ โทริยามะ อธิบายเหตุผลที่แท้จริงว่าทำไมโกคูถึงแข็งแกร่งกว่าเบจิต้าเสมอแล้ว"นักล่าพระเจ้า": วายร้ายตัวต่อไปของ Dragon Ball น่าจะเป็นชาวไซย่าที่สามารถแข่งขันกับโบรลี่ได้บรรณาธิการของ Dragon Ball ประณามสำนักพิมพ์ Shueisha กรณีไม่ให้เกียรติการตๅยของ Akira Toriyama: "ไร้สาระและไร้ความเป็นส่วนตัวเกินไป""ลียา" ลูกสาว "เป๊ก สัณณ์ชัย" เปิดศึกชิงคุณพ่อ!ดาว OnlyFans โดนแฟนทิ้ง หลังจากที่เธอหาเงินได้มากว่า
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
ปังไม่หยุด! “ปุ้ย Lกฮ” ไลฟ์สด fc แห่เปย์ของขวัญฉ่ำ“ชาวไซย่าส่วนใหญ่มักประสบปัญหา”: อากิระ โทริยามะ อธิบายเหตุผลที่แท้จริงว่าทำไมโกคูถึงแข็งแกร่งกว่าเบจิต้าเสมอแล้ว
กระทู้อื่นๆในบอร์ด ทั่วไป
เรื่องราวของซูเปอร์ไซยานตัวแรกจาก Dragon Ball ช่างยิ่งใหญ่อลังการจนต้องมีภาคต่อเป็นของตัวเอง“ชาวไซย่าส่วนใหญ่มักประสบปัญหา”: อากิระ โทริยามะ อธิบายเหตุผลที่แท้จริงว่าทำไมโกคูถึงแข็งแกร่งกว่าเบจิต้าเสมอแล้ว"นักล่าพระเจ้า": วายร้ายตัวต่อไปของ Dragon Ball น่าจะเป็นชาวไซย่าที่สามารถแข่งขันกับโบรลี่ได้10 ปีต่อมา ฉันยอมรับ: Black Clover คือหนึ่งในซีรีส์ที่ดีที่สุดของ Shonen Jump ในทุกยุคทุกสมัย
ตั้งกระทู้ใหม่
หน้าแรกเว็บบอร์ดหาเพื่อนChatหาเพื่อน Lineหาเพื่อน SkypePic PostตรวจหวยควิซคำนวณPageแชร์ลิ้ง
Postjung
เงื่อนไขการให้บริการ ติดต่อเว็บไซต์ แจ้งปัญหาการใช้งาน แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม ข่าวประชาสัมพันธ์ ลงโฆษณา
เว็บไซต์นี้ใช้ Cookie
เพื่อประสบการณ์ที่ดีและการใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ดูข้อมูลเพิ่มเติม อ่านนโยบายการใช้งาน
ตกลง