Share Facebook LINE Twitter
หน้าแรก เว็บบอร์ด Chat ตรวจหวย ควิซ คำนวณ Pageแชร์ลิ้ง
หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

ความรักที่สูญหาย

เนื้อหาโดย อักษราลัย

 

ความรักที่สูญหาย

 

อักษราลัย

 

แสงของแดดยามเย็นสาดส่องผ่านหน้าต่างบานใหญ่ของคอนโดมิเนียมชั้น 15 ทำให้เกิดเงาทอดยาวบนพื้นไม้สีอ่อน เฉดสีส้มอมแดงของดวงอาทิตย์ที่กำลังลับขอบฟ้าทำให้ห้องนั่งเล่นดูอบอุ่น ช่างขัดแย้งเหลือเกินกับความรู้สึกในใจของวรินทร์ที่ เขานั่งอยู่บนโซฟาตัวใหญ่กลางห้อง มือขวาถือแก้ววิสกี้ที่เหลือน้ำแข็งละลายจนเจือจาง ผิวแก้วเปียกชื้นด้วยหยดน้ำที่เกาะอยู่รอบ ๆ สายตาของเขาจ้องไปที่รูปถ่ายครอบครัวบนผนัง ภาพเขา นภัสสร และลูกชายวัยห้าขวบยิ้มอย่างมีความสุขที่ทะเลหัวหิน ภาพนี้ถ่ายเมื่อแปดเดือนก่อน ก่อนที่ทุกอย่างจะเปลี่ยนไป

 

วรินทร์ยกแก้วขึ้นดื่ม รสเหล้าจืดจาง เหมือนความรู้สึกที่มีต่อนภัสสรตอนนี้ ไม่รู้เลยว่ามันเริ่มจางหายไปตั้งแต่เมื่อไร แต่ตอนนี้มันแทบจะไม่เหลืออยู่เลย โทรศัพท์มือถือในกระเป๋ากางเกง สั่นจนร้อนผ่าวราวกับจะเตือนว่ามีข้อความจากมินตรารออยู่

 

ในครัวนภัสสรกำลังเตรียมอาหารเย็น กลิ่นหอมของต้มยำกุ้งน้ำข้นและผัดกะเพราหมูกรอบลอยมาเตะจมูก อาหารโปรดที่เขาเคยร้องขอให้เธอทำในวันที่เขาเหนื่อยล้า แต่วันนี้วรินทร์กลับไม่รู้สึกหิว ไม่รู้สึกอยากกิน ใจของเขาลอยไปอยู่กับมินตรา หญิงสาวที่ออฟฟิศ คนที่ทำให้หัวใจเต้นแรงด้วยความรู้สึกที่เขาแทบลืมไปแล้วว่ามันเป็นอย่างไร

 

"อาหารเย็นเสร็จแล้วค่ะ" เสียงนุ่มของนภัสสรดังขึ้นพร้อมกับที่เธอเดินออกมาจากครัว มือถือจานกับข้าว เธอสวมผ้ากันเปื้อนสีฟ้าอ่อนมีรอยคราบน้ำกระเด็น ผมยาวสีน้ำตาลเข้มถูกมัดเป็นหางม้าอย่างลวก ๆ แต่ก็ไม่อาจปิดบังความอ่อนโยนบนใบหน้า เธอดูเหนื่อยล้าจากงานสอนที่โรงเรียนอนุบาล แต่ยังคงมีรอยยิ้มให้เขาเสมอ "น้องภูมิล้างมือแล้วหรือยังคะ?"

 

วรินทร์ส่ายหน้าเบา ๆ นภัสสรดูเหนื่อยแต่ยังทำหน้าที่ภรรยาและแม่ได้อย่างสมบูรณ์ ความรู้สึกผิดแล่นเข้ามาแทงใจเขาชั่วขณะ แต่เขารีบกดมันลงไป "ผมจะไปตามเอง"

เขาลุกเดินไปที่ห้องลูกชาย แต่ละก้าวที่ย่างเท้ารู้สึกหนักอึ้งราวกับมีตะกั่วถ่วงอยู่ วันนี้เขาตั้งใจว่าจะพูด จะบอกความจริงทั้งหมด ความจริงที่ว่าเขาหมดรักนภัสสรแล้ว ว่าเขามีผู้หญิงอีกคน ว่าเขาต้องการเริ่มต้นชีวิตกับผู้หญิงคนใหม่ที่ไม่มีพื้นที่ให้เธออีกต่อไป เขาซ้อมคำพูดมาตลอดทั้งวัน แต่ยิ่งใกล้ถึงเวลาจริง กลับยิ่งรู้สึกว่ามันยากเหลือเกิน

 

ภูมินั่งเล่นต่อเลโก้อยู่บนพรมนุ่มสีฟ้าในห้องนอนที่ผนังติดดาวเรืองแสงจำนวนมาก โมเดลยานอวกาศที่วรินทร์ช่วยลูกต่อเมื่อสามอาทิตย์ก่อนแขวนอยู่เหนือเตียง เมื่อเห็นพ่อเดินเข้ามา เด็กน้อยก็ยิ้มกว้าง เผยให้เห็นฟันหน้าที่หลุดไปซี่หนึ่ง ดวงตากลมโตสีน้ำตาลเข้มเหมือนของนภัสสรเป็นประกาย

 

"พ่อครับ! ดูนี่สิ ผมต่อหุ่นยนต์ได้แล้ว!" ภูมิชูหุ่นเลโก้ที่ต่อจนเสร็จอย่างภาคภูมิใจ "แม่บอกว่าพ่อจะกลับมาเล่นกับผมวันนี้ แม่ตกใจรู้ไหมครับ แม่บอกว่าพ่อไม่ค่อยกลับบ้านเร็ว ๆ แบบนี้นานแล้ว"

 

วรินทร์รู้สึกเหมือนมีมือที่มองไม่เห็นมาบีบหัวใจของเขาจนแทบหยุดเต้น เขาพยายามฝืนยิ้มและพยักหน้า รู้สึกได้ถึงรอยยิ้มที่ฝืดฝืนบนใบหน้าของตัวเอง "เก่งมากลูก แต่ตอนนี้ต้องไปล้างมือก่อนนะ แม่ทำอาหารเสร็จแล้ว"

 

"พ่อจะเล่นกับผมหลังกินข้าวใช่ไหมครับ" ภูมิถาม ดวงตาเปล่งประกาย "ผมอยากให้พ่อดูการบ้านด้วย ครูให้วาดรูปครอบครัว ผมวาดพ่อตัวใหญ่มากเลยนะ เพราะพ่อแข็งแรงที่สุดในโลก!"

 

วรินทร์รู้สึกถึงก้อนสะอื้นที่จุกอยู่ในลำคอ เขาแตะศีรษะลูกชายเบา ๆ ไม่กล้าพูดอะไรออกมา ไม่กล้าสัญญาสิ่งที่เขารู้ว่าจะไม่ได้ทำ

 

โต๊ะอาหารถูกจัดไว้อย่างสวยงาม นภัสสรจัดวางจานชามและอาหารร้อน ๆ ไว้ครบถ้วน มีแจกันดอกไม้เล็ก ๆ วางอยู่ตรงกลาง เป็นดอกลิลลี่สีขาวที่วรินทร์เคยซื้อให้เธอเป็นประจำในช่วงเริ่มแต่งงาน ก่อนที่เขาจะคิดว่ามันเป็นเรื่องน่าเบื่อและเลิกทำไปเมื่อหลายปีก่อน

 

ระหว่างมื้ออาหาร นภัสสรเล่าเรื่องราวในโรงเรียนอนุบาลที่เธอสอนอยู่ เธอหัวเราะเบา ๆ เมื่อเล่าถึงเด็กน้อยคนหนึ่งที่วาดรูปครอบครัวโดยวาดให้พ่อของเขามีหัวใหญ่เท่าลูกบอล เสียงหัวเราะของเธอใสกังวาน เหมือนระฆังแก้วที่ถูกเคาะเบา ๆ วรินทร์เคยหลงรักเสียงหัวเราะนั้น แต่ตอนนี้มันกลับฟังดูห่างไกลและไร้ความหมาย

 

เขาพยายามฟัง พยายามยิ้ม ระหว่างกินอาหารกับลูกและภรรยา ภาพที่เขาเคยคิดว่าจะมีตลอดไป แต่ในใจกลับคิดถึงข้อความที่มินตราส่งมาเมื่อเช้า

 

“พี่วรินคะ หนูอยากรู้ว่าพี่ตัดสินใจยังไง มันเป็นเรื่องที่ยากมากสำหรับหนู หนูคิดถึงพี่ทุกวินาที”

 

เขานึกถึงใบหน้าของมินตรา เธออายุน้อยกว่าเขาเกือบสิบปี ผิวขาวเนียน ริมฝีปากอิ่มที่มักจะฉาบด้วยลิปสติกสีแดงเข้ม ดวงตาคมที่มองเขาด้วยความปรารถนา และเสียงหัวเราะที่ทำให้เขารู้สึกเป็นหนุ่มอีกครั้ง หัวใจที่เต้นแรงเหมือนวัยรุ่นเพิ่งค้นพบความรัก

 

นภัสสรสังเกตเห็นความเงียบของสามี เธอวางช้อนลงและมองเขาอย่างพินิจ "เป็นอะไรหรือเปล่าคะ ดูเหม่อ ๆ ตั้งแต่กลับมาบ้านแล้ว ที่ทำงานมีปัญหาอะไรหรือเปล่า?"

 

วรินทร์รู้สึกถึงเหงื่อเย็น ๆ ที่ซึมออกมาตามไรผม เขาวางช้อนลงช้า ๆ มือสั่นเล็กน้อย "เรามีเรื่องต้องคุยกัน... หลังจากที่ภูมิเข้านอนแล้ว"

 

ดวงตาของนภัสสรฉายแววกังวล ริ้วรอยเล็ก ๆ ที่หางตาปรากฏชัดขึ้นเมื่อเธอขมวดคิ้ว แต่เธอก็พยักหน้ารับ มือเล็ก ๆ ของเธอกำช้อนแน่น จนข้อนิ้วขาวซีด

 

ภูมิมองพ่อกับแม่ สลับไปมา ความเงียบที่เกิดขึ้นทำให้เด็กน้อยรู้สึกได้ถึงบรรยากาศตึงเครียด "พ่อครับ ทำไมพ่อไม่กินข้าว? แม่ทำอาหารอร่อยมากเลยนะ"

 

วรินทร์หันไปยิ้มให้ลูกชาย "พ่อกินอยู่นี่ไง แค่คิดถึงงานนิดหน่อย"

 

"พ่อทำงานหนักเหรอครับ? คุณครูบอกว่าคุณพ่อของเพื่อนผมบางคนทำงานหนักมาก เลยไม่มีเวลาเล่นกับลูก" ภูมิพูดอย่างไร้เดียงสา "แต่ผมบอกว่าพ่อของผมมีเวลาเล่นกับผมเสมอ"

 

วรินทร์รู้สึกเหมือนถูกแทงด้วยมีดที่หัวใจ เขายกแก้วน้ำขึ้นดื่มเพื่อกลบเกลื่อนความรู้สึกผิดที่ทบทวีคูณ

 

หลังอาหารเย็น นภัสสรพาภูมิไปอาบน้ำและเข้านอน วรินทร์นั่งที่ระเบียง มองไปยังแสงไฟระยิบระยับของตึกสูงในกรุงเทพฯ ท้องฟ้าสีดำสนิทไร้ดวงดาวเพราะมลภาวะทางแสง มีเพียงดวงจันทร์ครึ่งซีกที่ลอยเด่นอยู่เหนือตึกสูง เขานึกถึงวันที่พบนภัสสรครั้งแรกในงานเลี้ยงของเพื่อนสมัยมหาวิทยาลัย ตอนนั้นเธอสวมชุดเดรสสีขาว ยิ้มหวานและพูดจาฉะฉาน มีความมั่นใจในตัวเองอย่างเป็นธรรมชาติ ไม่เหมือนผู้หญิงที่เขาเคยเจอมา เขาตกหลุมรักเธอทันที

 

ตอนนี้... ทุกอย่างเปลี่ยนไปแล้ว ความรู้สึกเหล่านั้นหายไปกับความคุ้นชิน เหลือเพียงความรู้สึกผิดที่ฝังลึก ที่แย่คือเขารู้สึกเหมือนถูกกักขัง เหมือนถูกล่ามโซ่ด้วยความรับผิดชอบและพันธะ โทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงสั่น เขาหยิบขึ้นมาดู เป็นข้อความจากมินตรา

 

“พี่คะ หนูรอพี่อยู่นะ หนูรู้ว่ามันยาก แต่เราจะผ่านมันไปด้วยกัน หนูรักพี่มากนะคะ”

 

เขากำลังจะพิมพ์ตอบ แต่ได้ยินเสียงประตูห้องนอนของภูมิปิดลง

 

"ภูมิหลับแล้วค่ะ" นภัสสรเดินมานั่งบนเก้าอี้อีกตัวข้าง ๆ เขา เธอสวมเสื้อคลุมบางสีครีม กลิ่นแป้งเด็กอ่อน ๆ ลอยมากระทบจมูก กลิ่นที่คุ้นเคยจนเขาแทบไม่ตื่นเต้น "มีอะไรหรือเปล่าคะ? ช่วงนี้วรินเปลี่ยนไปมาก กลับบ้านดึก บางครั้งก็หายไปทั้งคืน..."

 

วรินทร์หายใจเข้าลึก ๆ พยายามรวบรวมความกล้า มือกำโทรศัพท์แน่น "นภัส... ผม... ผมขอโทษ"

 

"ขอโทษเรื่องอะไรคะ?" นภัสสรถาม เสียงเริ่มสั่น ราวกับเธอรู้คำตอบอยู่แล้ว มือเล็ก ๆ ของเธอกำชายเสื้อคลุมแน่น

 

"ผม... ผมมีคนอื่น" วรินทร์พูดออกมาในที่สุด ความรู้สึกผิดและโล่งอกปะปนกัน เขาไม่กล้าสบตาภรรยา "ผมไม่ได้ตั้งใจให้มันเป็นแบบนี้ แต่... ผมหลงรักเธอ... และผมคิดว่าผมไม่สามารถอยู่กับคุณได้อีกต่อไป"

 

นภัสสรนั่งนิ่ง ใบหน้าซีดเผือด เหมือนเลือดทั้งหมดถูกสูบออกไป น้ำตาเอ่อล้นขอบตา ไหลอาบแก้มโดยไม่มีเสียงสะอื้น แต่ในดวงตากลับมีประกายบางอย่างที่ไม่ใช่แค่ความเจ็บปวด มันเป็นความเข้มแข็งที่ซ่อนอยู่ 

 

"วริน... เรามีลูกด้วยกันนะคะ เราคือครอบครัว..." เธอพูดเสียงแผ่ว มือเล็ก ๆ สั่นเล็กน้อย น้ำตายังคงไหล แต่เธอไม่ได้พยายามเช็ดมันออก "คุณรู้อยู่แล้วใช่ไหมคะว่าฉันมองออก ฉันรู้สึกได้... แต่ฉันคิดว่าคุณจะผ่านมันไปได้..."

 

"ผมรู้" วรินทร์ตอบเสียงแผ่ว ความรู้สึกผิดทำให้เขาพูดต่อไม่ออก "แต่ผมไม่อยากโกหกตัวเองอีกต่อไป ผมอยากจะขอหย่า"

 

คำว่า "หย่า" ที่หลุดออกจากปากทำให้นภัสสรสะดุ้ง ราวกับถูกฟาดด้วยแส้ เธอกัดริมฝีปากแน่นจนเลือดซึม "คุณคิดถึงภูมิบ้างไหม?" นภัสสรถาม น้ำเสียงสั่นเครือแต่มีความหนักแน่น "ลูกจะเป็นยังไงถ้าพ่อแม่แยกทาง? คุณคิดถึงใจเขาบ้างไหม ที่ต้องเห็นพ่อจากไป?"

 

วรินทร์รู้สึกผิดจนแทบหายใจไม่ออก ภาพใบหน้าของภูมิลอยมาในหัว ดวงตากลมโตที่มองเขาด้วยความรัก เสียงหัวเราะใส ๆ คำพูดที่ว่า "พ่อแข็งแรงที่สุดในโลก" คำพูดที่ตอนนี้ฟังดูเหมือนคำกล่าวหา แต่เขาไม่อาจถอนคำพูด ไม่อาจหยุดสิ่งที่เริ่มไปแล้ว

 

"ผมจะดูแลภูมิ ผมจะรับผิดชอบเรื่องค่าใช้จ่ายทั้งหมด ผมจะพาเขาไปเที่ยวทุกสุดสัปดาห์ แต่ผม..."

 

"แต่คุณไม่สามารถบังคับตัวเองให้รักฉันได้อีกต่อไป ใช่ไหม?" นภัสสรถามเสียงเย็น "คุณเลือกความสุขของตัวเองมากกว่าครอบครัว มากกว่าลูก มากกว่าคำสัญญาที่คุณให้ไว้..."

 

วรินทร์พยักหน้า ไม่มีคำแก้ตัวใด ๆ ที่จะช่วยให้สถานการณ์ดีขึ้น

 

"คุณบอกว่าคุณเป็นผู้ชายที่ดี เพราะไม่เคยทำร้ายฉันทางร่างกาย" นภัสสรพูดช้า ๆ เสียงของเธอเริ่มมั่นคงขึ้น แม้น้ำตาจะยังไหลไม่หยุด "แต่คุณกำลังทำร้ายฉันทางใจมากกว่าที่คุณคิด และคุณกำลังจะทำร้ายภูมิด้วย เด็กที่พ่อจากไปมักจะโทษตัวเองตลอดชีวิต คิดว่าตัวเองทำอะไรผิด ทำไมพ่อถึงไม่รักเขาพอที่จะอยู่ต่อ..."

 

"ผมขอโทษ" วรินทร์พูดได้เพียงเท่านั้น คำพูดของนภัสสรทำให้เขารู้สึกเหมือนถูกกรีดด้วยมีดนับร้อยนับพันครั้ง

 

"ฉันโชคดีที่สุดในโลกนี้" นภัสสรพูดด้วยน้ำเสียงที่ทำให้วรินทร์ต้องเงยหน้าขึ้นมอง

 

"อะไรนะ?" วรินทร์งุนงง ไม่เข้าใจว่าเหตุใดเธอถึงพูดเช่นนั้นในสถานการณ์นี้

 

"ฉันโชคดีที่ยังมีความรัก" นภัสสรตอบ น้ำตายังคงไหล แต่มีรอยยิ้มบางเบาบนใบหน้า รอยยิ้มที่เปี่ยมด้วยความเศร้าและความเข้มแข็งในเวลาเดียวกัน "ฉันยังรักคุณ ยังรักลูกของเรา ยังรักครอบครัวนี้ แต่คุณ... คุณสูญเสียทุกอย่างไปแล้ว ทั้งความรัก ครอบครัว และความเป็นคน "

 

วรินทร์รู้สึกถึงความเจ็บปวดที่แล่นผ่านหัวใจ ราวกับมีมือที่มองไม่เห็นกำลังบีบมันอย่างแรง

 

"คุณคิดว่าสิ่งที่คุณรู้สึกกับผู้หญิงคนนั้นคือความรัก?" นภัสสรพูด ดวงตาสีน้ำตาลเข้มจ้องมองเขาอย่างเฉียบคม "ความรักแท้จริงไม่ได้อยู่ที่ความรู้สึกชั่วครู่ที่ผุดขึ้นมา แต่อยู่ที่การเลือกจะรักคน ๆ หนึ่งทุกวัน แม้ในวันที่ยากลำบาก"

 

เธอปาดน้ำตาที่ไหลอาบแก้มด้วยหลังมือ แต่น้ำตาก็ยังคงไหลไม่หยุด เหมือนสายน้ำที่ไม่อาจกั้น "สิบปีที่เราอยู่ด้วยกัน ฉันเห็นคุณทุกอย่าง ทั้งยามมีความทุกข์ ความสุข ยามล้มเหลว และตอนประสบความสำเร็จ ฉันรักคุณในทุกวัน ไม่มีวันไหนเลยที่ฉันจะไม่รักคุณ แม้ในวันที่คุณเป็นคนไม่น่ารักแบบตอนนี้"

 

วรินทร์นั่งนิ่ง คำพูดของนภัสสรกระทบใจเขาอย่างรุนแรง ก้อนอะไรบางอย่างจุกอยู่ในลำคอ ทำให้เขาพูดอะไรไม่ออก

 

"แต่สำหรับคุณ" นภัสสรพูดต่อ น้ำเสียงเข้มแข็งขึ้นทั้งที่ยังสั่นเครือ "ความรักเป็นแค่ความรู้สึก เป็นแค่อารมณ์ชั่ววูบที่เกิดขึ้นแล้วดับลง และเมื่อมันหายไป คุณก็พร้อมจะทิ้งทุกอย่างโดยไม่มองกลับมา ไม่คิดถึงสิ่งที่เราสร้างมาด้วยกัน"

 

เธอเงียบไปครู่หนึ่ง ขมวดคิ้วราวกับกำลังตัดสินใจบางอย่าง ก่อนจะพูดต่อด้วยน้ำเสียงที่นิ่งขึ้น "ฉันจะไม่ขัดขวางคุณ" นภัสสรลุกขึ้นยืน ไฟจากตึกรอบข้างส่องให้เห็นแววตาที่แข็งกร้าวแต่เปี่ยมด้วยศักดิ์ศรี "ถ้านั่นคือสิ่งที่คุณต้องการ แต่ก่อนที่คุณจะไป คุณต้องเป็นคนบอกภูมิเอง บอกลูกว่าทำไมพ่อถึงไม่อยากอยู่กับเขาอีกต่อไป"

 

วรินทร์รู้สึกเหมือนถูกตบหน้าด้วยคำพูดนั้น เขานึกภาพไม่ออกว่าจะพูดกับลูกชายอย่างไร จะอธิบายอย่างไรให้เด็กวัยห้าขวบเข้าใจว่าทำไมพ่อถึงต้องจากไป

 

"แล้วก็อีกอย่าง" นภัสสรพูดต่อ จ้องตาเขาอย่างไม่หวั่นเกรง "ถ้าคุณทิ้งเราไป คุณจะไม่มีสิทธิ์กลับมาเมื่อผู้หญิงคนนั้นทำให้คุณผิดหวัง เมื่อความตื่นเต้นมันจางหาย และคุณพบว่าความรักที่แท้จริงไม่ได้อยู่ที่ความรู้สึกหวือหวา แต่อยู่ที่การเคียงข้างกันผ่านทุกอย่าง"

 

เธอหมุนตัวเดินเข้าไปในห้อง เสียงฝีเท้าของเธอหนักแน่นและมั่นคง ทิ้งให้วรินทร์นั่งอยู่คนเดียวบนระเบียง ท่ามกลางแสงไฟเมืองที่สว่างไสว ทว่าหัวใจกลับมืดมิด

 

ในมือถือของเขา มีข้อความจากมินตราเด้งขึ้นมา “พี่วริน เป็นไงบ้างคะ คุยกับภรรยาหรือยัง หนูรอพี่อยู่ เรื่องโรงแรมที่จะไปพักกันสุดสัปดาห์นี้หนูจองไว้แล้วนะคะ”

 

วรินทร์มองข้อความนั้นแล้วรู้สึกถึงความว่างเปล่าบางอย่าง ความตื่นเต้นที่เคยมีเมื่อเห็นชื่อของเธอหายไป เขามองไปที่ประตูห้องนอนที่นภัสสรเพิ่งเดินเข้าไป เขาได้ยินเสียงสะอื้นเบา ๆ จากข้างใน และเสียงภูมิที่ตื่นขึ้นมาถามแม่ว่าเป็นอะไร

 

"แม่ครับ ทำไมแม่ร้องไห้" เสียงเล็ก ๆ ของภูมิดังมาจากในห้อง "แม่เป็นอะไรครับ? พ่ออยู่ไหน?"

 

"ไม่มีอะไรจ้ะลูก แม่แค่เศร้านิดหน่อย" เสียงของนภัสสรพยายามปลอบลูก "พ่ออยู่ข้างนอก เดี๋ยวก็เข้ามานะจ๊ะ"

 

"ทำไมแม่เศร้าล่ะครับ? ใครทำให้แม่เศร้า? ผมจะไปบอกให้เขาขอโทษ!" เสียงของภูมิฉายแววกล้าหาญ ทำให้วรินทร์รู้สึกเหมือนถูกแทงที่หัวใจ

 

"ไม่มีใครทำให้แม่เศร้าหรอกจ้ะ" นภัสสรตอบ เสียงสั่นเครือ "บางครั้งผู้ใหญ่ก็เศร้าได้ เหมือนที่หนูเศร้าตอนตุ๊กตาหมีหาย แต่ไม่เป็นไร แม่จะไม่เป็นอะไร"

 

"แม่ต้องการกอดไหมครับ? ตอนผมเศร้า แม่บอกว่ากอดช่วยให้หายเศร้าได้" เสียงของภูมิอ่อนโยน

 

"จ้ะลูก แม่ต้องการกอด" นภัสสรตอบ

 

บางสิ่งบางอย่างในใจของวรินทร์สั่นไหว ความแน่ใจที่เคยมั่นคงเริ่มสั่นคลอน นึกถึงภาพลูกชายกอดแม่ที่กำลังร้องไห้ แม่ที่เขาเป็นคนทำให้เจ็บปวด ทำให้เขารู้สึกอึดอัดจนแทบหายใจไม่ออก เขาลุกขึ้นยืน เดินไปที่ราวระเบียง มองลงไปเบื้องล่างที่ผู้คนเดินกันขวักไขว่ ตึกรามบ้านช่องเรียงรายสว่างไสวด้วยแสงไฟ ทุกคนต่างมีเรื่องราวของตัวเอง มีความสุข ความทุกข์ ความรัก และความผิดหวัง วรินทร์คิดถึงชีวิตที่ผ่านมากับนภัสสร ความทรงจำทั้งดีและร้ายที่เคยมีร่วมกัน ความยากลำบากที่ผ่านมาด้วยกัน การที่เธอเคียงข้างเขาในยามที่เขาตกต่ำที่สุด และรอยยิ้มของภูมิตอนที่เขากลับถึงบ้าน

 

"พ่อ?" เสียงเล็ก ๆ ดังมาจากด้านหลัง

 

วรินทร์หันไปเห็นภูมิยืนอยู่ตรงประตูระเบียง ในมือถือตุ๊กตาหมีตัวโปรด ดวงตากลมโตมองเขาด้วยความสงสัยและความกังวล

 

"พ่อครับ ทำไมแม่ร้องไห้?" ภูมิถาม "แม่บอกว่าไม่มีอะไร แต่แม่ยังร้องไห้อยู่เลย"

 

วรินทร์คุกเข่าลงตรงหน้าลูกชาย มองใบหน้าเล็ก ๆ ที่เหมือนเขาและนภัสสรผสมกัน ดวงตาใสซื่อที่มองเขาด้วยความรักอันบริสุทธิ์ ความรักที่ไม่ต้องการเงื่อนไข ไม่ต้องการข้อแลกเปลี่ยน

 

"พ่อทำให้แม่เสียใจ" วรินทร์ตอบตามตรง เสียงแหบแห้ง "พ่อทำผิดพลาด"

 

"แล้วพ่อขอโทษแม่หรือยังครับ?" ภูมิถาม ด้วยความเข้าใจง่าย ๆ แบบเด็ก ๆ "ครูบอกว่าเวลาทำผิด เราต้องขอโทษ แล้วพยายามทำให้มันดีขึ้น"

 

วรินทร์มองข้อความจากมินตราอีกครั้ง แล้วปิดโทรศัพท์ลง เขาโอบกอดลูกชายไว้แน่น สัมผัสถึงความอบอุ่นของร่างเล็ก ๆ ได้กลิ่นแชมพูเด็กจากผมนุ่ม ๆ ของลูก

 

"ใช่ ลูกพูดถูก" วรินทร์พูดเสียงสั่น "พ่อต้องขอโทษแม่ และพยายามทำให้มันดีขึ้น"

 

"แม่รักพ่อมากนะครับ" ภูมิพูดพลางกอดพ่อแน่น "แม่บอกผมว่า ถึงบางทีพ่อจะทำให้แม่โกรธ แม่ก็ยังรักพ่อเสมอ แม่รักพ่อทุกวัน"

 

คำพูดของลูกชายที่สะท้อนคำพูดของนภัสสรทำให้หัวใจของวรินทร์สั่นไหว เขาอุ้มลูกชายเดินกลับเข้าไปในห้อง ผ่านห้องนั่งเล่นที่เต็มไปด้วยความทรงจำของครอบครัว ภาพถ่ายเก่า ๆ ของทั้งสามคน ของเล่นของลูกที่วางเกลื่อนกลาด โซฟาที่เขาเคยนั่งดูทีวีกับนภัสสรในคืนที่เงียบสงบ เขาเดินไปที่ห้องนอน ประตูเปิดแง้มไว้ ข้างในนภัสสรนั่งอยู่บนเตียง หน้าซีดเซียว ดวงตาบวมช้ำจากการร้องไห้ เธอเงยหน้าขึ้นมองเมื่อได้ยินเสียงประตู สีหน้าของเธอเปลี่ยนเป็นประหลาดใจเมื่อเห็นวรินทร์อุ้มลูกเข้ามา

 

"ผมต้องการคุย" วรินทร์พูดเสียงเบา พลางวางภูมิลงบนเตียง "ภูมิ ลูกเข้านอนก่อนนะ พ่อกับแม่มีเรื่องต้องคุยกัน"

 

ภูมิมองพ่อแม่สลับกันไปมา แล้วพยักหน้า "พ่อจะขอโทษแม่ใช่ไหมครับ?"

 

"ใช่ลูก" วรินทร์ตอบ ขณะที่นภัสสรมองเขาด้วยความแปลกใจ

หลังจากที่ภูมิเข้านอนไปแล้ว วรินทร์นั่งลงข้างๆ นภัสสร บนเตียงที่พวกเขาเคยแบ่งปันกันมาเกือบสิบปี ใจเขายังสับสนวุ่นวาย แต่มันเริ่มชัดเจนขึ้น

 

"ผมขอโทษ" เขาพูดเบา ๆ "สำหรับความเจ็บปวดที่ผมทำให้คุณ สำหรับคำพูดที่ผมเพิ่งพูดออกไป"

 

นภัสสรมองเขาด้วยความสงสัย "คุณกำลังขอโทษ แต่คุณยังต้องการจะไปใช่ไหม?"

 

วรินทร์หายใจเข้าลึก ๆ "ผมไม่รู้ ผมสับสน แต่สิ่งที่คุณพูด และสิ่งที่ภูมิพูด... ทำให้ผมคิดหลายอย่าง"

 

"อะไรที่ภูมิพูด?" นภัสสรถาม

 

"เขาบอกว่าคุณบอกเขาว่า ถึงบางทีผมจะทำให้คุณโกรธ คุณก็ยังรักผมเสมอ เพราะคุณเลือกที่จะรักผมทุกวัน" วรินทร์ตอบ น้ำตาเอ่อที่ขอบตา "และผมรู้สึกเหมือนผมไม่เคยทำแบบนั้นเลย ผมไม่เคยเลือกที่จะรักคุณในวันที่มันยาก ผมแค่รออารมณ์ความรู้สึกช่วงแรก ๆ กลับมา และเมื่อมันไม่กลับมา ผมก็พร้อมที่จะทิ้งทุกอย่าง"

 

นภัสสรมองเขานิ่ง ไม่พูดอะไร

 

"ผมไม่รู้ว่าผมยังสามารถซ่อมแซมสิ่งที่ผมทำลายลงไปได้หรือเปล่า" วรินทร์พูดต่อ "แต่ผมอยากลอง... ไม่ใช่เพราะความรู้สึกผิด แต่เพราะผมเริ่มเข้าใจว่าความรักที่แท้จริงคืออะไร"

 

นภัสสรเงียบไปพักใหญ่ ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงเรียบ แต่หนักแน่น "ฉันไม่ยอมเป็นทางเลือกสำรองของใคร วริน คุณต้องตัดสินใจ และต้องรับผิดชอบกับการตัดสินใจนั้น"

 

"ผมรู้" วรินทร์ตอบ "และผมเลือกลูก เลือกคุณ เลือกความรักที่จริงแท้ ไม่ใช่แค่ความหลงใหลชั่วครู่ แต่ผมต้องการเวลา... เวลาที่จะเรียนรู้ที่จะรักคุณอีกครั้ง เรียนรู้ที่จะเลือกรักคุณทุกวัน เหมือนที่คุณทำกับผม"

 

นภัสสรมองเขาด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดและความหวังในเวลาเดียวกัน "คุณต้องตัดขาดกับผู้หญิงคนนั้น ไม่มีการติดต่อ ไม่มีข้อแก้ตัว"

 

วรินทร์พยักหน้า หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา พิมพ์ข้อความสั้นๆ ถึงมินตรา ผมขอโทษ แต่ผมไม่สามารถพบคุณอีกต่อไป ผมเลือกครอบครัวของผม จากนั้นก็บล็อกเบอร์เธอ แล้วเก็บโทรศัพท์ลง

 

"ผมไม่คาดหวังให้คุณให้อภัยผมในทันที" วรินทร์พูด "แต่ผมอยากขอโอกาสได้พิสูจน์ตัวเองอีกครั้ง"

 

นภัสสรพยักหน้า น้ำตาไหลอาบแก้มอีกครั้ง แต่ครั้งนี้เป็นน้ำตาแห่งความโล่งอก ผสมความกลัวและความหวัง "ฉันไม่ได้ต้องการสามีที่สมบูรณ์แบบ วริน ฉันแค่ต้องการสามีที่เลือกจะอยู่และเลือกที่จะรัก แม้ในวันที่มันยากที่สุด"

 

วรินทร์ยื่นมือออกไปจับมือของนภัสสร มือที่เคยให้ความอบอุ่นแก่เขามาเกือบสิบปี มือที่เขาเกือบปล่อยให้หลุดลอยไปอย่างโง่เขลา เขารู้ว่าหนทางข้างหน้ายังอีกยาวไกล เขาไม่อาจลบความเจ็บปวดที่เขาสร้างให้เธอได้ในชั่วข้ามคืน การซ่อมแซมความไว้ใจที่แตกสลายต้องใช้เวลาและความพยายามมหาศาล แต่ตอนนี้ เขารู้แล้วว่าความรักที่แท้จริงคืออะไร มันไม่ใช่ความตื่นเต้นหรือความหลงใหลที่ลุกโชนแล้วมอดดับ แต่เป็นการเลือกที่จะรัก เลือกที่จะอยู่ เลือกที่จะซ่อมแซมแทนที่จะทิ้งไป และนั่นคือสิ่งที่เขาจะต้องเรียนรู้ที่จะทำ ทุกวันนับจากนี้ไป

 

ข้า

 

งนอกหน้าต่าง ดวงจันทร์ครึ่งซีกส่องแสงอ่อน ๆ ลอดผ่านม่านบางเข้ามาในห้อง อาบไล้ใบหน้าของภูมิที่หลับสนิทอยู่บนเตียง ใบหน้าที่ไร้เดียงสา ไม่รู้ถึงพายุที่เกือบกระหน่ำครอบครัวของเขา …

เนื้อหาโดย: อักษราลัย
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
อักษราลัย's profile


โพสท์โดย: อักษราลัย
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
มาเป็นคนแรกที่ VOTE ให้กระทู้นี้
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
ต้นจามจุรียักษ์ กาญจนบุรี – มหัศจรรย์แห่งธรรมชาติ อายุกว่า 100 ปีรวม เลขปฏิทินจีน งวด 1/4/68หัวรถจักรรถไฟหลุดหลังออกจากสถานีได้ไม่นาน ทำผู้โดยสารแตกตื่นทั้งคัน 🥲บรรยากาศงานแต่ง "วู้ดดี้-โอ๊ต" สุดโรแมนติกและอลังการ..คนบันเทิงร่วมยินดีเพียบ"ที่เที่ยวสุดอันซีน เมืองกาญจนบุรี"“แทน ลิปตา” คุกเข่าขอ “พราว โอลีฟส์” แต่งงานหลังจบคอนเสิร์ตของตัวเองนางแบบชาวไนจีเรียเดินบนรันเวย์เป็นระยะทางที่ยาวที่สุดในโลก ระยะทาง 125.11 กิโลเมตรพาต้าปิ่นเกล้า: ตำนานห้างเก่าแก่ที่ยังยืนหยัด กับความทรงจำในอดีตตรวจคนเข้าเมืองรวบหนุ่มจีน แปลงโฉม-เปลี่ยนสัญชาติ หนีคดียักยอกเงิน 11,000 ล้าน“เขื่อนกันคลื่นที่ยาวที่สุดในโลก” – สถิติโลกแห่งอิรัก ที่ท่าเรือฟอว์"หมูย่างเมืองตรัง" มีต้นกำเนิดจากหมูย่างที่เกิดขึ้นในประเทศจีน "สมัยราชวงศ์ถัง""จุดชมวิวส้างร้อยบ่อ" จุดชมวิวแปลก แต่วิวสวยแห่งภูสิงห์ จ.บึงกาฬ
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
ตรวจคนเข้าเมืองรวบหนุ่มจีน แปลงโฉม-เปลี่ยนสัญชาติ หนีคดียักยอกเงิน 11,000 ล้าน"จุดชมวิวส้างร้อยบ่อ" จุดชมวิวแปลก แต่วิวสวยแห่งภูสิงห์ จ.บึงกาฬหัวรถจักรรถไฟหลุดหลังออกจากสถานีได้ไม่นาน ทำผู้โดยสารแตกตื่นทั้งคัน 🥲"หมูย่างเมืองตรัง" มีต้นกำเนิดจากหมูย่างที่เกิดขึ้นในประเทศจีน "สมัยราชวงศ์ถัง"รีวิวตลับเกมเก่า Dragon Quest l ll lll Remake ที่หลายคนอาจไม่เคยรู้ขับรถจี้คันหน้าบนมอเตอร์เวย์ โดนปรับเงินกว่า 3.3 ล้านบาท
กระทู้อื่นๆในบอร์ด ความรัก, ประสบการณ์ชีวิต
หัวรถจักรรถไฟหลุดหลังออกจากสถานีได้ไม่นาน ทำผู้โดยสารแตกตื่นทั้งคัน 🥲“แทน ลิปตา” คุกเข่าขอ “พราว โอลีฟส์” แต่งงานหลังจบคอนเสิร์ตของตัวเองจดหมายลายมือแม่ของคิมแซรน ถึงลูกสาวที่จากไปอย่างไม่มีวันกลับจีนจัดให้!! แบนรูบิโอ รมต. สหรัฐฯ ห้ามเข้าจีนตลอดชีวิต แถมยังถูกใส่ชื่อในบัญชีดำของรัสเซียด้วย
ตั้งกระทู้ใหม่
หน้าแรกเว็บบอร์ดหาเพื่อนChatหาเพื่อน Lineหาเพื่อน SkypePic PostตรวจหวยควิซคำนวณPageแชร์ลิ้ง
Postjung
เงื่อนไขการให้บริการ ติดต่อเว็บไซต์ แจ้งปัญหาการใช้งาน แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม ข่าวประชาสัมพันธ์ ลงโฆษณา
เว็บไซต์นี้ใช้ Cookie
เพื่อประสบการณ์ที่ดีและการใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ดูข้อมูลเพิ่มเติม อ่านนโยบายการใช้งาน
ตกลง