เลเซอร์ฝ้า กระ จุดด่างดำ ดีไหม? รักษาด้วย Laser ราคาเท่าไหร่?

เลเซอร์ฝ้า กระ จุดด่างดำ ดีไหม? รักษาด้วย Laser ราคาเท่าไหร่? 

ปัญหาฝ้า กระฝังลึก จุดด่างดำ ถือเป็นปัญหาผิวที่สร้างความหนักใจและลดความมั่นใจให้ใครหลายคนมาอย่างยาวนาน เพราะปัญหาสีผิวที่ไม่สม่ำเสมอนั้นยากที่จะแก้ไขด้วยวิธีการดูแลผิวทั่วไป แต่ในปัจจุบันมีเทคโนโลยีการรักษาผิวด้วยเลเซอร์ฝ้าที่ทันสมัย ซึ่งสามารถช่วยแก้ไขปัญหาสีผิวไม่สม่ำเสมอได้อย่างตรงจุดและมีประสิทธิภาพสูงสุด

เลเซอร์ฝ้าคืออะไร ? 

เลเซอร์ฝ้า คือ เทคโนโลยีที่ใช้พลังงานเลเซอร์เพื่อปรับสภาพสีผิวให้สม่ำเสมอ ลดเลือนรอยฝ้า กระ และจุดด่างดำ โดยหลักการทำงานของเลเซอร์คือการยิงพลังงานแสงที่ความยาวคลื่นเฉพาะเข้าไปยังชั้นใต้ผิวหนัง เพื่อลดการสะสมและทำลายเม็ดสีเมลานินที่มีมากเกินไป ทำให้ผิวกลับมาขาวใสและสีผิวสม่ำเสมอมากขึ้น ซึ่งปัจจุบันมีเลเซอร์ฝ้าหลากหลายรูปแบบที่พัฒนาเพื่อรองรับทุกสภาพผิวและความต้องการในการดูแลรักษา

สาเหตุของการเกิดฝ้าและกระที่ต้องใช้เลเซอร์ฝ้า

ฝ้า กระ และจุดด่างดำ เกิดจากการที่ผิวหนังผลิตเม็ดสีเมลานินมากผิดปกติ โดยมีสาเหตุจากหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็น

1. แสงแดดและรังสี UV การโดนแสงแดดโดยตรงเป็นเวลานาน โดยเฉพาะรังสี UVA จะกระตุ้นให้ผิวผลิตเมลานินออกมามากขึ้น ส่งผลให้เกิดฝ้าหรือกระฝังลึกได้ง่าย เลเซอร์ฝ้าจึงเป็นวิธีที่เหมาะสมที่จะช่วยกำจัดเม็ดสีที่สะสมอยู่ใต้ผิวหนัง
2. ปัจจัยทางพันธุกรรม ผู้ที่มีประวัติครอบครัวที่เป็นฝ้า กระ อาจมีโอกาสเป็นฝ้าได้ง่ายกว่าคนทั่วไป เลเซอร์ฝ้าจึงเป็นทางเลือกที่ช่วยลดเลือนฝ้าและกระที่เกิดจากกรรมพันธุ์ได้ดี
3. ฮอร์โมน ความไม่สมดุลของฮอร์โมน เช่น ในช่วงตั้งครรภ์ การรับประทานยาคุมกำเนิด หรือวัยหมดประจำเดือน อาจส่งผลให้เกิดฝ้าขึ้นได้ ซึ่งเลเซอร์ฝ้าสามารถช่วยบรรเทาความเข้มของรอยฝ้าที่เกิดจากฮอร์โมนได้
4. มลภาวะและแสงสีฟ้า แสงสีฟ้าจากหน้าจอมือถือ คอมพิวเตอร์ หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ สามารถทะลุผ่านเข้าสู่ผิวหนังและกระตุ้นให้เกิดฝ้าได้เช่นกัน การทำเลเซอร์ฝ้าจะช่วยทำลายเม็ดสีที่สะสมในชั้นผิวได้อย่างตรงจุด

เลเซอร์ฝ้ามีกี่ประเภท ?

ในปัจจุบันมีการใช้เลเซอร์ฝ้าหลายชนิดที่เหมาะสมกับสภาพผิวและลักษณะฝ้าแต่ละแบบ ซึ่งการเลือกใช้เลเซอร์ฝ้าที่เหมาะสมกับสภาพผิวและปัญหาฝ้ากระของแต่ละคนจะช่วยให้การรักษามีประสิทธิภาพและเห็นผลลัพธ์ได้ชัดเจนยิ่งขึ้น โดยเลเซอร์ฝ้าที่นิยมใช้กันในปัจจุบันมีดังนี้ค่ะ

• Q-Switched Laser เป็นเลเซอร์ฝ้าที่มีประสิทธิภาพสูง สามารถลดเลือนรอยฝ้า กระ และจุดด่างดำได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยการยิงคลื่นแสงที่ความยาวคลื่นเฉพาะ ทำลายเม็ดสีเมลานินที่สะสมใต้ผิวได้อย่างตรงจุด โดยไม่ทำให้ผิวบอบบางหรือบางลง
• Picosecond Laser เป็นเลเซอร์ฝ้ารุ่นใหม่ที่ทันสมัยที่สุด ช่วยสลายเม็ดสีเมลานินที่ฝังลึกใต้ผิวหนังได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ สามารถจัดการฝ้า กระฝังลึก จุดด่างดำได้อย่างเห็นผลชัดเจน พร้อมกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ ฟื้นฟูผิวให้กระจ่างใสและสุขภาพดีขึ้นได้เร็วขึ้น
• Fractional Laser เลเซอร์ฝ้าชนิดนี้เน้นการผลัดเซลล์ผิวเก่าที่มีเม็ดสีเมลานินสะสมอยู่ ให้หลุดออกอย่างอ่อนโยน พร้อมกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ที่แข็งแรงขึ้น ช่วยฟื้นฟูโครงสร้างผิวให้แข็งแรง ลดรอยฝ้า กระ และช่วยให้ผิวกลับมาเรียบเนียนสม่ำเสมอ

เครื่องเลเซอร์ฝ้าแต่ละชนิดแตกต่างกันอย่างไร ?

เทคโนโลยีเลเซอร์ฝ้าในปัจจุบันถูกพัฒนาอย่างต่อเนเนื่อง ทำให้มีเครื่องเลเซอร์ฝ้าหลายชนิดที่สามารถรักษาฝ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยแต่ละชนิดจะมีคุณสมบัติและความเหมาะสมในการรักษาฝ้าที่แตกต่างกัน ดังนี้

• Dual Yellow Laser เลเซอร์ฝ้าแสงสีเหลือง

Dual Yellow Laser คือ เลเซอร์ฝ้าที่รวมคลื่นแสง 2 ชนิดไว้ด้วยกัน เพื่อรักษารอยดำ ฝ้า กระ จุดด่างดำ รอยสิว และสีผิวที่ไม่สม่ำเสมออย่างมีประสิทธิภาพ

• เลเซอร์แสงสีเหลือง (578 นาโนเมตร) เหมาะสำหรับรักษารอยแดงต่างๆ เช่น รอยแดงจากสิว เส้นเลือดฝอย ปัญหาหน้าแดงที่มักมาพร้อมกับฝ้า
• เลเซอร์ฝ้าแสงสีเขียว (511 นาโนเมตร) หรือเลเซอร์ฝ้าแสงสีเหลือง (578 นาโนเมตร) ช่วยจัดการเม็ดสีส่วนเกินใต้ชั้นผิว เช่น ฝ้า กระ และรอยดำจากสิวหรือจุดด่างดำต่างๆ ทำให้ผิวหน้ากลับมาเนียนใสอย่างเป็นธรรมชาติ

อ่านเพิ่มเติมได้ที่ https://www.romrawinclinic.com/brightening-face-laser/melasma-expert-laser

• Q-Switch Laser เลเซอร์ฝ้าพลังงานสูง

Q-Switch Laser คือ เลเซอร์ฝ้าที่มีการปล่อยพลังงานสูงในช่วงเวลาสั้นๆ โดยมีช่วงคลื่นแสงสำคัญ 2 ระดับ ได้แก่

• เลเซอร์ฝ้าที่ 1,064 นาโนเมตร ซึ่งช่วยกำจัดฝ้า รอยดำ ฝังลึกใต้ชั้นผิวได้ดี รวมถึงช่วยลดปัญหารอยฝ้าลึก กระ และจุดด่างดำที่ยากต่อการรักษา
• เลเซอร์ฝ้าที่ 532 นาโนเมตร ช่วยลดรอยแดง ฝ้าตื้น และปรับสีผิวที่ไม่สม่ำเสมอให้ดูเรียบเนียนขึ้น

Q-Switch Laser เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาฝ้า กระ รอยดำ และสีผิวไม่สม่ำเสมออย่างเห็นได้ชัด

• Pico Laser เลเซอร์ฝ้าแบบความเร็วสูง

Pico Laser เป็นเทคโนโลยีเลเซอร์ฝ้าสมัยใหม่ที่มีการปล่อยพลังงานคลื่นแสงที่รวดเร็วมาก (ความเร็ว 1 ต่อล้านล้านวินาที) ลดโอกาสการสะสมความร้อนใต้ผิว จึงช่วยลดความเสี่ยงผิวไหม้หรือผลข้างเคียงอื่นๆ

Pico Laser มีช่วงคลื่นแสงที่หลากหลายสำหรับรักษาฝ้าได้แก่ 532 นาโนเมตร, 755 นาโนเมตร และ 1,064 นาโนเมตร โดยสามารถรักษาฝ้าได้ทุกชนิด ตั้งแต่ฝ้าตื้นจนถึงฝ้าลึก รวมถึงสามารถช่วยจัดการรอยดำ กระ และจุดด่างดำที่มีความซับซ้อน ช่วยทำให้ฝ้าจางลง และผิวหน้ากลับมากระจ่างใสอย่างปลอดภัย

ทั้งนี้ ก่อนเลือกใช้เลเซอร์ฝ้า ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อประเมินสภาพผิวและชนิดของฝ้า เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่เหมาะสมกับสภาพผิวของคุณมากที่สุดค่ะ

เตรียมตัวก่อนทำเลเซอร์ฝ้า เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

ก่อนที่จะทำเลเซอร์ฝ้า การเตรียมตัวที่ถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้การรักษามีประสิทธิภาพมากขึ้น ช่วยลดความเสี่ยงของผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้ และทำให้ผลลัพธ์ของเลเซอร์ฝ้าออกมาตรงตามเป้าหมายมากที่สุด ซึ่งมีขั้นตอนการเตรียมตัวที่ควรรู้ ดังต่อไปนี้

1. หลีกเลี่ยงการสัมผัสแสงแดดโดยตรง ก่อนการรักษาด้วยเลเซอร์ฝ้าประมาณ 4-6 สัปดาห์ ควรหลีกเลี่ยงแสงแดดโดยตรง เนื่องจากแสงแดดมีรังสี UV ที่สามารถกระตุ้นการผลิตเม็ดสีเมลานินเพิ่มมากขึ้น หากผิวถูกแสงแดดทำลายจนผิวหมองคล้ำหรือมีสีผิวไม่สม่ำเสมอ การทำเลเซอร์ฝ้าอาจได้ผลไม่ดีเท่าที่ควร
2. ทาครีมกันแดดที่มี SPF สูง การทาครีมกันแดดเป็นประจำก่อนการทำเลเซอร์ฝ้าจะช่วยป้องกันไม่ให้รังสี UV ทำร้ายผิว และช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดการระคายเคืองหรือการอักเสบหลังจากการทำเลเซอร์ฝ้าได้ค่ะ
3. งดใช้ผลิตภัณฑ์ที่อาจทำให้ผิวบาง ก่อนที่จะทำเลเซอร์ฝ้า ควรงดใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีส่วนผสมของสารผลัดเซลล์ผิว เช่น กรดผลไม้ AHA, BHA หรือผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของเรตินอล ประมาณ 1-2 สัปดาห์ก่อนเข้ารับการรักษา เพื่อลดความเสี่ยงของผิวบอบบางหรือระคายเคืองหลังการรักษา
4. ดื่มน้ำให้เพียงพอ ควรดื่มน้ำให้เพียงพออย่างน้อย 8 แก้วต่อวันก่อนทำเลเซอร์ฝ้า เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นของผิว และช่วยลดความรู้สึกเจ็บหรือแสบผิวในขณะทำเลเซอร์ฝ้า
5. ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ก่อนการตัดสินใจทำเลเซอร์ฝ้า ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญอย่างละเอียด เพื่อวางแผนการรักษาอย่างตรงจุด รวมถึงการวิเคราะห์และประเมินสภาพผิวหน้าอย่างละเอียด แพทย์จะได้กำหนดชนิดของเลเซอร์ฝ้าและระดับพลังงานที่เหมาะสมกับสภาพผิวและระดับความรุนแรงของปัญหา

ขั้นตอนการทำเลเซอร์ฝ้าที่ควรรู้

1. ขั้นตอนการปรึกษาและประเมินสภาพผิว ก่อนทำเลเซอร์ฝ้า แพทย์จะให้คำปรึกษา วิเคราะห์ และประเมินสภาพผิวอย่างละเอียด เพื่อเลือกชนิดเลเซอร์ฝ้าและวางแผนการรักษาที่ตรงกับความต้องการของแต่ละบุคคล
2. ทำความสะอาดผิวหน้า ก่อนเริ่มขั้นตอนเลเซอร์ฝ้า แพทย์จะทำความสะอาดผิวหน้าของคุณให้สะอาดเพื่อกำจัดสิ่งสกปรกและลดความเสี่ยงจากการติดเชื้อ
3. ทายาชาหรือเจลเย็น เพื่อลดความรู้สึกเจ็บหรือแสบผิวขณะทำเลเซอร์ฝ้า แพทย์อาจทายาชาหรือเจลเย็นเพื่อให้คุณรู้สึกสบายขึ้นระหว่างการรักษา
4. สวมแว่นตาป้องกัน แพทย์จะสวมแว่นตาป้องกันให้แก่คุณในระหว่างการทำเลเซอร์ฝ้า เพื่อป้องกันดวงตาจากแสงเลเซอร์
5. เริ่มทำเลเซอร์ฝ้า แพทย์จะเริ่มยิงพลังงานเลเซอร์ลงบนบริเวณที่มีฝ้าหรือกระตามแผนที่วางไว้ โดยแพทย์จะปรับระดับพลังงานให้เหมาะสมกับสภาพผิวและปัญหาของแต่ละบุคคล
6. การดูแลหลังทำเลเซอร์ฝ้า หลังจากทำเลเซอร์ฝ้าเสร็จ แพทย์จะทาครีมหรือผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่เหมาะสมเพื่อฟื้นฟูผิวหลังเลเซอร์ พร้อมแนะนำวิธีการดูแลผิวหลังทำเลเซอร์ฝ้าอย่างถูกต้อง เพื่อให้ผลลัพธ์การรักษาฝ้า กระ จุดด่างดำ เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุดค่ะ