เพิ่มค่าทำฟันจาก 900 บาท เป็น 1,200 บาท ด้านประกันสังคมยันยังไม่มีประกาศ ระวังอาจส่งต่อข้อมูลเท็จ!!!!!
Thai PBS Verify พบผู้ใช้บัญชีเฟซบุ๊กโพสต์อ้าง "ประกันสังคม" เพิ่มค่าทำฟันจาก 900 บาท เป็น 1,200 บาท ด้านประกันสังคมยันยังไม่มีประกาศ ระวังอาจส่งต่อข้อมูลเท็จ
แหล่งที่มา : Facebook
ภาพบันทึกหน้าจอแสดงโพสต์เฟซบุ๊กข้อมูลเท็จ
กระบวนการตรวจสอบ
จากการตรวจสอบพบว่า บัญชีเฟซบุ๊กชื่อ "Phongtarin Butthong" โพสต์ข้อความระบุว่า "ขอบคุณประกันสังคมครับ ที่เพิ่มค่าทำฟันจาก 900 บาท เป็น 1,200 บาท" ซึ่งทำให้มีผู้เข้าใจผิดสอบถามเข้าไปจำนวนหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม เราตรวจสอบไปยังสำนักงานประกันสังคม ซึ่งระบุว่า สำนักงานประกันสังคม ให้สิทธิผู้ประกันตนมาตรา 33 และมาตรา 39 สามารถทำฟัน ด้วยการถอนฟัน อุดฟัน ขูดหินปูนและผ่าตัดฟันคุด โดยไม่ต้องสำรองจ่ายในสถานพยาบาลที่ทำความตกลงกับสำนักงานประกันสังคม โดยสามารถใช้สิทธิได้สูงสุด 900 บาทต่อคนต่อปี ไม่จำกัดจำนวนครั้ง ซึ่งเป็นสิทธิของผู้ประกันตนที่พึงจะได้รับ โดยสามารถขอรับบริการในสถานพยาบาลเอกชนและเครือข่าย หรือสถานพยาบาลของรัฐ (ลิงก์บันทึก)
นอกจากนี้การทำฟันประกันสังคมยังครอบคลุมถึงการใส่ฟันเทียมชนิดถอดได้บางส่วน หรือชนิดถอดได้ทั้งปาก ดังนี้
1. ใส่ฟันเทียมชนิดถอดได้บางส่วน ผู้ประกันตนมีสิทธิได้รับค่าบริการทางการแพทย์และค่าฟันเทียมเท่าที่จ่ายจริงตามความจำเป็นในวงเงินไม่เกิน 1,500 บาท ภายในระยะเวลา 5 ปี นับตั้งแต่วันที่ใส่ฟันเทียมตามหลักเกณฑ์ดังนี้
- จำนวน 1 - 5 ซี่ จ่ายเท่าที่จ่ายจริงตามความจำเป็นในวงเงินไม่เกิน 1,300 บาท
- จำนวนมากกว่า 5 ซี่ จ่ายเท่าที่จ่ายจริงตามความจำเป็นในวงเงินไม่เกิน 1,500 บาท
2. ใส่ฟันเทียมชนิดถอดได้ทั้งปาก ผู้ประกันตนมีสิทธิได้รับค่าบริการทางการแพทย์และค่าฟันเทียมเท่าที่จ่ายจริงตามความจำเป็นในวงเงินไม่เกิน 4,400 บาท ภายในระยะเวลา 5 ปี นับตั้งแต่วันที่ใส่ฟันเทียม ตามหลักเกณฑ์ดังนี้
- ฟันเทียมชนิดถอดได้ทั้งปากบนหรือล่าง จ่ายเท่าที่จ่ายจริงตามความจำเป็นในวงเงินไม่เกิน 2,400 บาท
- ฟันเทียมชนิดถอดได้ทั้งปากบนและล่าง จ่ายเท่าที่จ่ายจริงตามความจำเป็นในวงเงินไม่เกิน 4,400 บาท
หลักเกณฑ์และเงื่อนไขการได้รับสิทธิทันตกรรม มีดังนี้
- ผู้ประกันตนตามมาตรา33 และ มาตรา39 จะได้รับสิทธิเมื่อจ่ายเงินสมทบมาแล้วไม่น้อยกว่า 3 เดือน ภายในระยะเวลา 15 เดือนก่อนวันรับบริการทางการแพทย์
- ผู้ประกันตนตามมาตรา38 และมาตรา41 จะได้รับสิทธิเมื่อจ่ายเงินสมทบมาแล้วไม่น้อยกว่า 3 เดือนภายในระยะเวลา 15 เดือนก่อนวันรับบริการทางการแพทย์ และได้รับสิทธิคุ้มครองภายใน 6 เดือน นับตั้งแต่วันที่สิ้นสุดความเป็นผู้ประกันตน
หลักฐานที่ต้องใช้ในการยื่นคำขอรับประโยชน์กรณีทันตกรรม
1. แบบคำขอรับประโยชน์ทดแทนกรณีทันตกรรม (สปส.2-16)
2. ใบรับรองแพทย์
3. ใบเสร็จรับเงิน
4. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนหรือบัตรอื่นที่ทางราชการออกให้
5. เวชระเบียนของแพทย์ผู้รักษา (กรณีเบิกฟันปลอมฐานอคริลิก)
6. กรณีขอรับเงินทางธนาคาร ให้แนบสำเนาสมุดบัญชีเงินฝากประเภทออมทรัพย์หน้าแรก ซึ่งมีชื่อและเลขที่บัญชี 11 ธนาคาร คลิกที่นี่
สถานที่ยื่นเรื่อง ยื่นได้ที่สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่/สำนักงานประกันสังคมจังหวัดและสาขา ที่สะดวก (ยกเว้นสำนักงานใหญ่ในบริเวณกระทรวงสาธารณสุข)
สำหรับรายชื่อคลินิกทันตกรรม คลิกที่นี่
กรณีผู้ประกันตนเข้ารับบริการกรณีทันตกรรมในสถานพยาบาล ที่ไม่ได้ทำความตกลงกับสำนักงานประกันสังคมเรื่องการเบิกจ่าย ผู้ประกันตนสามารถยื่นขอรับประโยชน์ทดแทนได้ดังนี้
1. ผ่านช่องทางออนไลน์ E-Self Service ผ่านเว็บไซต์ www.sso.go.th พร้อมแนบหลักฐาน ประกอบด้วย
- ใบเสร็จรับเงิน
- ใบรับรองแพทย์
- สำเนาสมุดบัญชีธนาคาร ประเภทออมทรัพย์ หน้าแรกที่มีชื่อและเลขบัญชีของผู้ประกันตน
2. ยื่นที่สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่/จังหวัด/สาขาทั่วประเทศ ภายใน 2 ปี นับตั้งแต่วันที่เข้ารับบริการที่ระบุไว้ในใบเสร็จและใบรับรองแพทย์
ผลกระทบของข้อมูลเท็จนี้เป็นอย่างไร ?
โพสต์ดังกล่าวเป็นเพียงการนำข้อความมากล่าวอ้างเพียงเท่านั้น โดยในความเป็นจริงกระบวนการเพิ่มค่าทำฟันจาก 900 บาท เป็น 1,200 บาท ยังไม่มีการประกาศเพิ่มแต่อย่างใด ซึ่งอาจทำให้ผู้ที่พบเห็นข้อความดังกล่าวเกิดความเข้าใจผิ














