เพราะเด็กในวัยเด็กเล็ก ต้องการเล่นและปล่อยพลังที่เหลือล้น
เด็กในวัยเด็กเล็กเป็นช่วงวัยที่เต็มไปด้วยพลังงานและความอยากรู้อยากเห็น พวกเขาไม่สามารถอยู่นิ่งได้นาน และมักจะวิ่งเล่น สำรวจสิ่งรอบตัว หรือขยับตัวอย่างต่อเนื่อง การเล่นจึงเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ในชีวิตของเด็กเล็ก เพราะนอกจากจะช่วยให้พวกเขาได้ปลดปล่อยพลังงานที่เหลือล้นแล้ว ยังเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยส่งเสริมพัฒนาการทางร่างกาย อารมณ์ สังคม และสติปัญญา เด็กเล็กมักมีพลังงานที่ดูเหมือนไม่มีวันหมด พวกเขาสามารถวิ่งเล่น กระโดดโลดเต้น หรือหมุนตัวซ้ำ ๆ ได้เป็นเวลานานโดยไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย นี่เป็นเพราะร่างกายของพวกเขาอยู่ในช่วงที่มีการเผาผลาญพลังงานสูง อีกทั้งสมองของเด็กเล็กยังต้องการการกระตุ้นอย่างต่อเนื่องเพื่อเรียนรู้และพัฒนา ซึ่งการเล่นเป็นช่องทางที่ดีที่สุดสำหรับพวกเขาในการใช้พลังงานและพัฒนาทักษะที่สำคัญ เด็กในวัยเด็กเล็กต้องการเล่นและปล่อยพลังงานที่เหลือล้นเพื่อเสริมสร้างพัฒนาการทั้งทางร่างกาย อารมณ์ สังคม และสติปัญญา การเล่นเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับเด็ก เพราะมันเป็นวิธีธรรมชาติที่ช่วยให้พวกเขาเติบโตอย่างสมบูรณ์ ผู้ปกครองและครูจึงควรสนับสนุนให้เด็กได้เล่นอย่างเต็มที่ เพื่อให้พวกเขามีวัยเด็กที่มีความสุขและพัฒนาไปเป็นผู้ใหญ่ที่แข็งแรงและสมบูรณ์ในอนาคต
การเคลื่อนไหวผ่านการเล่น เช่น การวิ่ง กระโดด ปีนป่าย และการเล่นเกมต่าง ๆ มีบทบาทสำคัญในการพัฒนากล้ามเนื้อและการทำงานของระบบประสาทของเด็ก การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอช่วยให้เด็กมีสมรรถภาพทางกายที่แข็งแรง ระบบไหลเวียนโลหิตและระบบเผาผลาญทำงานได้ดี อีกทั้งยังช่วยให้เด็กพัฒนาทักษะการทรงตัว และสิ่งสำคัญคือ วัคซีนเด็ก ที่จะต้องฉีดตามคำแนะนำของแพทย์เสมอ การประสานงานระหว่างมือและตา และความคล่องแคล่วของร่างกาย เด็กเล็กยังอยู่ในช่วงวัยที่ต้องเรียนรู้วิธีจัดการกับอารมณ์ของตนเอง การเล่นเป็นช่องทางหนึ่งที่ช่วยให้เด็กได้แสดงออกถึงความรู้สึกของตนเอง เช่น ความตื่นเต้น ความสนุก ความกลัว หรือความโกรธ ผ่านการเล่น เด็กสามารถเรียนรู้วิธีจัดการกับความรู้สึกเหล่านี้ได้อย่างเป็นธรรมชาติ นอกจากนี้ การเล่นยังช่วยลดความเครียดและความกดดันที่เด็กอาจพบเจอในชีวิตประจำวัน เด็กไม่ได้เล่นเพียงลำพังเท่านั้น แต่พวกเขามักจะเล่นกับเพื่อน พี่น้อง หรือผู้ใหญ่ที่อยู่รอบตัว การเล่นกับผู้อื่นช่วยให้เด็กเรียนรู้ทักษะการเข้าสังคม เช่น การแบ่งปัน การรอคิว การทำงานร่วมกัน และการแก้ไขความขัดแย้ง การเล่นบทบาทสมมติ เช่น การเล่นเป็นคุณหมอ คุณครู หรือพ่อแม่ ยังช่วยให้เด็กเรียนรู้วิธีการทำงานและพฤติกรรมในสังคมที่พวกเขาจะต้องเผชิญในอนาคต การเล่นไม่ได้มีประโยชน์แค่ด้านร่างกายและอารมณ์ แต่ยังมีผลต่อพัฒนาการทางสติปัญญาด้วย การเล่นที่เกี่ยวข้องกับการแก้ปัญหา เช่น การต่อบล็อก การเล่นเกมจับคู่ หรือการเล่นซ่อนหา ช่วยกระตุ้นการคิดวิเคราะห์และการแก้ไขปัญหา การเล่นที่ต้องใช้จินตนาการ เช่น การเล่นบทบาทสมมติ หรือการวาดภาพ ช่วยพัฒนาความคิดสร้างสรรค์และความสามารถในการคิดเชิงนามธรรม เนื่องจากการเล่นเป็นสิ่งสำคัญสำหรับพัฒนาการของเด็กเล็ก ผู้ปกครองและครูจึงควรให้การสนับสนุนโดยการจัดสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยและเหมาะสมกับการเล่น ควรให้เด็กมีอิสระในการเล่นโดยไม่จำกัดมากเกินไป แต่ในขณะเดียวกันก็ควรดูแลให้การเล่นของเด็กเป็นไปอย่างปลอดภัยและเหมาะสมกับวัย
















