10 อาหารสุดแปลกจากทั่วโลก

นี่คือ 10 อาหารสุดแปลก แต่ก็มีคนกิน ที่มาจากหลากหลายประเทศทั่วโลก อาหารแต่ละจานอาจมีความเสี่ยงหรือความแปลกตามธรรมเนียมและวัฒนธรรมของแต่ละท้องถิ่น แต่ก็ยังคงเป็นที่นิยมและได้รับความสนใจจากนักชิมที่ชอบลองสิ่งใหม่ ๆ อยู่เสมอ 

1. ฮาการ์ล (Hákarl) ประเทศไอซ์แลนด์

ถ้าใครเป็นสายอาหารแปลก สายชอบลองของ ต้องเคยได้ยินชื่อนี้แน่นอน ฮาการ์ล (Hákarl) คือ เนื้อปลาฉลามดอง สุดขึ้นชื่อของประเทศไอซ์แลนด์ เป็นเมนูโบราณที่มีมายาวนาน แต่จุดเด่นของมันไม่ได้อยู่ที่รสชาติอย่างเดียว มันอยู่ที่ กลิ่น! ขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งในอาหารที่มีกลิ่นแรงที่สุดในโลก กลิ่นแอมโมเนียคลุ้งแบบน้ำฉี่ผสมกลิ่นปลาร้าหนักๆ ชนิดที่ว่าเปิดถุงมา น้ำตาไหลได้เลย ที่ต้องดองก็เพราะว่าฉลามที่ใช้ทำฮาการ์ลคือ ฉลามกรีนแลนด์ ซึ่งเนื้อของมันมีสารพิษตามธรรมชาติ กินสดๆ ไม่ได้ ต้องผ่านกระบวนการหมักดองและตากแห้งนานหลายเดือน เพื่อให้สารพิษสลายไป และกลายเป็น "ของดี" สำหรับชาวไอซ์แลนด์ ซึ่งเนื้อฉลามที่ผ่านการหมักและตากแห้ง มีรสชาติและกลิ่นที่แรงมาก ถือเป็นอาหารท้าทายสำหรับนักชิมเลย!

2. บะลู๊ท (Balut) ประเทศฟิลิปปินส์

เมนูสุดท้าทายที่เต็มไปด้วยเรื่องเล่าและรสชาติที่ไม่เหมือนใคร บะลู๊ท คือไข่เป็ดที่ได้รับการผสมแล้วนำไปให้ฟักตัวในระยะเวลาที่กำหนด (ประมาณ 14-21 วัน) จากนั้นจึงนำไปต้มให้สุก ภายในไข่จะมีทั้งส่วนของไข่แดง ไข่ขาว และตัวอ่อนที่เริ่มพัฒนาขึ้นเล็กน้อย รูปแบบการรับประทานที่ดูแปลกตานี้ กลายเป็นของว่างยอดฮิตในบางประเทศ เช่น ฟิลิปปินส์และเวียดนาม บะลู๊ทไม่เพียงแต่เป็นอาหาร แต่ยังเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมการกินและการแบ่งปันในชุมชน สำหรับคนในท้องถิ่น ถือเป็นอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการและมักถูกนำเสนอในงานเฉลิมฉลองหรือในตลาดข้างทางที่มีชีวิตชีวา

3. ฟูกุ (Fugu) ประเทศญี่ปุ่น

เมนูสุดหรูที่เต็มไปด้วยความระทึกและความพิถีพิถันในการปรุง ฟูกุ หรือที่รู้จักในภาษาญี่ปุ่นว่า “Fugu” เป็นปลาปักเป้าที่มีสารพิษทรงพลังชื่อ Tetrodotoxin ซึ่งอยู่ในส่วนของอวัยวะบางส่วน เช่น ตับและอวัยวะสืบพันธุ์ สารพิษเพียงเล็กน้อยก็สามารถทำให้เกิดอาการชักหรือถึงแก่ชีวิตได้ ฟูกุไม่เพียงแต่เป็นอาหาร แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของความกล้าและความพิถีพิถันในวงการอาหารญี่ปุ่นอีกด้วย!

4. ซานนากจิ (Sannakji) ประเทศเกาหลี

ซานนากจิ คือเมนูอาหารเกาหลีที่ทำจากปลาหมึกสดที่ถูกหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ แล้วเสิร์ฟทันทีในจาน โดยชิ้นปลาหมึกเหล่านี้อาจยังคงขยับเขยื้อนอยู่เล็กน้อยให้เห็นเป็นภาพที่ทั้งน่าหวาดเสียวและแปลกใหม่ เนื่องจากชิ้นปลาหมึกอาจยังคงเคลื่อนไหวอยู่ การทานซานนากจิจึงต้องใช้ความระมัดระวังในการเคี้ยวให้ละเอียด เพื่อป้องกันไม่ให้หัวดูดติดคออีกด้วย

5. คาสู มาร์ซู (Casu Marzu) ซาร์เดนีย์ ประเทศอิตาลี

ชีสสุดแปลกจากเกาะซาร์ดิเนีย ที่ท้าทายทั้งรสชาติและความคิดของคนชอบลองสิ่งใหม่ คาสู มาร์ซู เป็นชีสที่ทำจากนมแกะ ซึ่งผ่านกระบวนการหมักจนถึงขั้นที่เริ่มเกิดการย่อยสลายอย่างมาก จนเกิดการแทรกซึมของตัวหนอน (แมลงเพลี้ยเล็ก) ที่ยังมีชีวิตอยู่ภายในชีส กระบวนการนี้ไม่เพียงแต่ช่วยย่อยสลายไขมันในชีสให้มีความนุ่มขึ้น แต่ยังให้รสชาติที่เข้มข้นและล้ำลึกในแบบที่หาไม่ได้จากชีสชนิดอื่น เมนูนี้มีทั้งผู้รักและผู้ที่ทนไม่ไหวต่อความแปลกของมัน

6. เอสคาโมเลส (Escamoles) ประเทศเม็กซิโก

เอสคาโมเลสคืออาหารสุดพิเศษที่ได้มาจากตัวอ่อนของแมลงสังคม ซึ่งส่วนใหญ่จะพบในรังใต้ดินในเขตพื้นที่เพาะปลูกของแม็กซิโก ด้วยประวัติความเป็นมาที่ยาวนานและการสืบทอดในวัฒนธรรมท้องถิ่น ทำให้เมนูนี้เป็นที่ต้องลองสำหรับผู้ที่ชื่นชอบอาหารแปลกใหม่ ถือเป็นอาหารหรูในบางพื้นที่ของเม็กซิโก

7. ไข่เย็น (Century Egg) ประเทศจีน

อาหารสุดแปลกในโลกอาหารจีน ที่เปลี่ยนไข่ธรรมดาให้กลายเป็นงานศิลปะแห่งรสชาติและกลิ่นที่น่าจดจำ ไข่เย็นหรือที่เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า “ไข่พันปี” นั้นมักทำจากไข่เป็ด ไข่ไก่ หรือไข่นกกระทา โดยนำไปแช่ในส่วนผสมของดินเหนียว, เถ้าจากไม้, เกลือ, น้ำยาล้างที่มีส่วนผสมของแร่ธาตุ และบางครั้งอาจเติมสารอลคาไลน์ลงไปด้วย กระบวนการนี้จะใช้เวลาตั้งแต่ไม่กี่สัปดาห์จนถึงหลายเดือน

ในระหว่างกระบวนการถนอม ไข่ขาวจะเปลี่ยนเป็นเนื้อเจลลี่สีเข้มคล้ำ ส่วนไข่แดงจะกลายเป็นครีมมี่สีเขียวหรือสีเทา ด้วยรสชาติและกลิ่นที่เฉพาะตัว มักใช้ในอาหารจีนทั้งในสลัดและขนมหวาน

8. ซูร์สตรอมมิง (Surströmming) ประเทศสวีเดน

เมนูปลาหมักสุดโดดเด่นจากสวีเดนที่มีชื่อเสียงในด้านกลิ่นที่จัดจ้านและรสชาติที่แปลกใหม่ ซูร์สตรอมมิง ทำจากปลาฮริงชนิดหนึ่งที่จับได้ในทะเลบอลติก กระบวนการผลิตเริ่มด้วยการนำปลามาล้างและเกลือเพื่อกระตุ้นการหมัก หลังจากนั้นปลาจะถูกใส่ในกระป๋องและปล่อยให้หมักต่อเนื่องเป็นเวลาหลายเดือน กระบวนการนี้จะเกิดการเปลี่ยนแปลงของโปรตีนและไขมัน ทำให้ปลามีรสเปรี้ยว เค็ม และมีกลิ่นที่แรงจนเป็นที่พูดถึง

9. ร็อคกี้เมาน์เทนออสเตอร์ (Rocky Mountain Oysters) สหรัฐอเมริกา

ร็อคกี้เมาน์เทนออสเตอร์ ไม่ได้เป็นหอยทะเลแต่อย่างใด แต่คือส่วนหนึ่งของอาหารที่ทำจากอัณฑะของวัว ซึ่งเป็นของกินที่มีชื่อเสียงในภูมิภาคตะวันตกเฉียงเหนือของสหรัฐอเมริกาและบางพื้นที่ในแคนาดา ชื่อนี้ถูกตั้งขึ้นในเชิงขำขันเพื่อเพิ่มความน่าสนใจให้กับเมนูที่ดูแปลกตาในสายตาของผู้ที่ไม่คุ้นเคย ซึ่งอวัยวะสืบพันธุ์ของวัวที่ถูกปรุงสุก เป็นอาหารที่มีความนิยมในบางชุมชนของภูมิภาคตะวันตกอีกด้วย

10. สติงกี้ตูฟู (Stinky Tofu) ไต้หวัน

ผลิตจากเต้าหู้ที่ถูกหมักในส่วนผสมของเกลือ ยีสต์ และเครื่องเทศต่าง ๆ กระบวนการหมักนี้ช่วยให้เต้าหู้พัฒนากลิ่นที่เข้มข้น ซึ่งบางครั้งอาจทำให้ผู้ที่ไม่คุ้นชินต้องเตรียมใจ แต่เมื่อนำมาปรุง (เช่น ทอดจนกรอบหรือเสิร์ฟในซุป) กลับกลายเป็นรสชาติที่หอมอร่อยและมีมิติ ถือเป็นอาหารข้างทางยอดนิยมที่ไม่ควรพลาด

หากคุณเป็นคนที่ชอบลิ้มลองสิ่งใหม่ๆ และไม่กลัวการท้าทาย อาหารเหล่านี้อาจเป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ทางอาหารที่คุณควรลองดู อาหารเหล่านี้คือการเดินทางผ่านวัฒนธรรมและประเพณี ที่แฝงไปด้วยความเป็นเอกลักษณ์และความดั้งเดิมของการทำอาหารแบบบ้านๆ อย่างแท้จริง!