ฤดูกาลของเรา
ฤดูกาลของเรา
#อักษราลัย
สายฝนกระทบหลังคาสังกะสีดังเป็นจังหวะสม่ำเสมอ ลมพัดแรงจนหน้าต่างไม้เก่า ๆ ส่งเสียงเอี๊ยดอ๊าด บัวนั่งกอดเข่าอยู่ริมหน้าต่าง มองดูสายฝนที่เทลงมาไม่หยุดราวกับฟ้าร้องไห้ไปพร้อมกับเธอ
สามเดือนแล้วที่ชีวิตเธอพลิกผัน นับตั้งแต่วันที่ร้านอาหารที่ทำงานอยู่ปิดกิจการ ทุกอย่างเหมือนพังครืนลงมาในชั่วข้ามคืน เธอส่งใบสมัครไปหลายแห่ง แต่ไม่มีใครเรียกสัมภาษณ์ เงินเก็บที่มีเริ่มร่อยหรอ ค่าห้องเช่ายังค้าง ค่าไฟเดือนนี้ยังไม่ได้จ่าย และในตู้เย็นเหลือเพียงไข่สองฟอง
เธอไม่ได้อยากร้องไห้ แต่ความเงียบในห้องสี่เหลี่ยมนี้มันกดดันเหลือเกิน
สองสัปดาห์ก่อน เธอเดินเข้าไปสมัครงานที่ร้านกาแฟใกล้ห้องเช่า เจ้าของร้านมองเธอตั้งแต่หัวจรดเท้า ก่อนจะส่ายหน้าพร้อมกับบอกว่า
"ขอโทษนะ แต่ร้านเราอยากได้เด็กที่ดูมีพลังมากกว่านี้หน่อย"
คำพูดนั้นทำให้เธอรู้สึกเหมือนถูกตีตราว่าเธอ "หมดไฟ" ไปแล้วจริง ๆ
วันก่อน เธอพยายามหางานพาร์ทไทม์ที่ไม่เลือกมาก ขอแค่ให้มีรายได้พอซื้อข้าว แต่เมื่อเดินไปที่ร้านสะดวกซื้อเพื่อกรอกใบสมัคร พนักงานบอกว่า "ตอนนี้ไม่มีตำแหน่งว่างเลยค่ะ" ทว่าในวันเดียวกัน เธอกลับเห็นป้าย "รับสมัครพนักงาน" แปะอยู่หน้าร้าน
เธอเริ่มสงสัย หรือว่าเธอไม่น่าไว้ใจพอสำหรับบางคน หรือบางทีเธออาจดูอ่อนแอเกินไป
เธอถอนหายใจยาว ก้มลงมองมือของตัวเอง—มือที่เคยทำงานหนักมาตลอด แต่ตอนนี้กลับไม่มีงานให้ทำ
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น เธอเหลือบมองหน้าจอ เป็นแม่โทรมา
"บัว แม่ฝากโอนเงินให้หน่อยได้ไหม ลูกชายป้าพรต้องเข้าโรงพยาบาล แม่อยากช่วยเขาหน่อย"
บัวเงียบไปชั่วอึดใจ รู้สึกเหมือนมีก้อนแข็ง ๆ จุกอยู่ในลำคอ เธอหลับตา สูดลมหายใจลึก ๆ ก่อนตอบเสียงแผ่วเบา
“แม่…ตอนนี้บัวก็กำลังลำบากอยู่เหมือนกัน”
ปลายสายเงียบไป ก่อนที่แม่จะพูดเบา ๆ “ไม่เป็นไรลูก ถ้าไม่ได้ก็ไม่เป็นไร”
เสียงของแม่ไม่ได้มีความน้อยใจอะไร แต่ยิ่งทำให้บัวรู้สึกแย่
แม่ไม่เคยขออะไรจากเธอเลยตลอดหลายปีที่ผ่านมา
แม่เป็นคนที่แม้จะมีน้อยแค่ไหน ก็ยังอยากช่วยเหลือคนอื่นเสมอ หากเป็นเมื่อก่อน เธอคงโอนเงินให้ทันทีโดยไม่ต้องคิด แต่เธอในตอนนี้ แม้แต่ค่าข้าวของตัวเองยังแทบจะไม่มี
บัวกดวางสาย น้ำตาหยดลงไหลรินบนใบหน้า ไม่ใช่เพราะเสียใจที่ช่วยแม่ไม่ได้ แต่เพราะไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองอ่อนแอได้ถึงขนาดนี้มาก่อน
เธอเคยคิดว่าตัวเองเป็นคนเข้มแข็ง แต่ในช่วงเวลานี้ เธอรู้สึกเหมือนคนที่กำลังจมน้ำ ไม่ว่าดิ้นรนแค่ไหนก็ไม่อาจพาตัวเองขึ้นสู่ผิวน้ำได้
ฝนยังตกหนักอยู่ข้างนอก แต่เธอสังเกตเห็นบางสิ่งที่เปลี่ยนไป สายฝนเริ่มซาลงทีละน้อย เมฆดำที่เคยปกคลุมเริ่มแหวกออกให้เห็นท้องฟ้าสีเทาอ่อน
เธอจ้องมองมันอยู่นาน นานพอที่จะนึกขึ้นได้ว่า...
"ฤดูฝน...มันไม่ได้อยู่ตลอดไป"
เธอสูดลมหายใจลึก ๆ ก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์ เปิดดูประกาศรับสมัครงานอีกครั้ง คราวนี้ เธอจะเดินไปหาโอกาสเอง ไม่ว่าต้องเริ่มใหม่อีกกี่ครั้ง เธอก็จะทำ
เธอคว้าเสื้อกันฝนตัวเก่ามาสวม แม้เมฆบนฟ้าจะยังครึ้มอยู่ แต่เธอก็พร้อมจะก้าวออกไปหาแสงแดดด้วยตัวเอง
และเมื่อเธอเปิดประตูออกไป ลมเย็นพัดมาปะทะใบหน้า และไอแดดอ่อน ๆ เริ่มลอดผ่านช่องเมฆ
เสียงเด็กหัวเราะดังมาจากบ้านเช่าหลังถัดไป
บัวเงยหน้ามองฟ้าแล้วอมยิ้ม
ฤดูฝนอาจยาวนาน และอากาศหนาวอาจรออยู่ข้างหน้า แต่เธอจะไม่ยอมแพ้
เพราะเธอรู้ดีว่า...
ทุกคนมีฤดูกาลของตัวเอง และวันหนึ่ง…ฤดูของเธอจะมาถึง
..........
BBC ยกให้ "กรุงพนมเปญ" ติด TOP20..ปลายทางที่ดีที่สุดในโลก
เจาะสถิติสลากกินแบ่งรัฐบาล ย้อนหลัง 10 ปี (งวด 2 มกราคม)
APC M113 รถเกราะ 60 ปี ลุยสมรภูมิช่องอานม้า เสริม "เกราะไม้" กันจรวดสุดแกร่ง
ช่องอานม้าแตก! ทหารไทยรุกยึดบังเกอร์ ปักธงชาติคืนพื้นที่
นัดแล้วเปลี่ยน! กัมพูชาขอย้าย GBC ไปมาเลเซีย โยนเหตุผลกลัวไทยไม่ปลอดภัย
อาเซียนเนื้อหอม! เจาะเหตุผลทำไม บังกลาเทศ-ปาปัวนิวกินี-ฟิจิ อยากเข้าใกล้ครอบครัวเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ไทยซื้อระบบป้องกันทางอากาศใหม่ !
มิตรภาพใต้สมุทร เมื่อ "วาฬเพชฌฆาต" จับมือ "โลมา" ร่วมทีมล่าล่าเหยื่อ




