บุพเพสันนิวาส: รอยยิ้มแห่งกาลเวลา
บุพเพสันนิวาส: รอยยิ้มแห่งกาลเวลา
สายลมพัดโชยอ่อนๆ พัดพาเอาใบไม้สีทองอร่ามร่วงหล่นลงมา ปกคลุมพื้นดินราวกับพรมผืนใหญ่ ณ หมู่บ้านเล็กๆ ท่ามกลางทุ่งนาเขียวขจี มีหญิงสาวนามว่า "รดา" อาศัยอยู่กับยายแก่ชรา รดาเป็นหญิงสาวที่มีจิตใจดีงาม อ่อนโยน และมีความสามารถในการเย็บปักถักร้อยเป็นเลิศ แต่เธอก็มีความลึกลับบางอย่างซ่อนอยู่ภายในดวงตาสีดำสนิท ดวงตาที่ดูราวกับเคยผ่านร้อนผ่านหนาวมาอย่างมากมาย
วันหนึ่ง ขณะที่รดาเดินไปเก็บดอกไม้ป่า เธอก็ได้พบกับชายหนุ่มรูปงาม นามว่า "ภพ" ภพเป็นนักเดินทาง เดินทางมาจากเมืองไกลโพ้น เขาหลงเข้ามาในหมู่บ้านโดยบังเอิญ ภพมีใบหน้าคมคาย ดวงตาสีน้ำตาลอ่อน และรอยยิ้มที่อบอุ่น ทำให้รดาใจเต้นแรง ราวกับว่า พวกเขารู้จักกันมาช้านาน
รดา: (เสียงแผ่วเบา) คุณ...คุณหลงทางหรือเปล่าคะ
ภพ: (ยิ้มอ่อนโยน) ใช่แล้ว ขอโทษด้วย ฉันหลงทางเข้ามาในหมู่บ้านนี้ คุณช่วยบอกทางไปยังเมืองใกล้ที่สุดได้ไหม
รดา: ได้สิคะ ฉันจะช่วยคุณ แต่ก่อนอื่น คุณพักเหนื่อยที่บ้านฉันก่อนเถอะค่ะ ยายฉันก็คงดีใจที่มีแขกมาเยี่ยม
ภพรับคำ เขาตามรดาไปยังบ้านเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ริมทุ่งนา ยายของรดาต้อนรับภพอย่างอบอุ่น พวกเขาร่วมรับประทานอาหารเย็นด้วยกัน ระหว่างรับประทานอาหาร ภพและรดาได้พูดคุยกันมากมาย พวกเขาพบว่า พวกเขามีความสนใจร่วมกันมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เรื่องราวของประวัติศาสตร์ และตำนานต่างๆ
ภพ: คุณรดา คุณรู้จักเรื่องราวของ "เมืองมนต์ขลัง" หรือเปล่า
รดา: (ตาเป็นประกาย) รู้จักค่ะ ฉันเคยได้ยินเรื่องราวของเมืองนั้นมาจากยาย เป็นเมืองที่เต็มไปด้วยเวทมนตร์ และความลึกลับ
ฉันก็เช่นกัน ฉันเดินทางมาเพื่อค้นหาความจริงเกี่ยวกับเมืองนั้น ฉันเชื่อว่า ในเมืองนั้น มีสิ่งที่เกี่ยวข้องกับอดีตชาติของฉัน
รดาเงียบไปครู่หนึ่ง แล้วพูดว่า
รดา: ฉัน...ฉันรู้สึกเหมือนเคยรู้จักคุณมาก่อน เหมือนกับว่า เราเคยพบกันมาแล้ว ในอดีตชาติ
ภพ: (มองรดาด้วยความประหลาดใจ) ฉันก็รู้สึกเช่นเดียวกัน เหมือนกับว่า เราเคยมีอะไรบางอย่าง ที่ผูกพันกันมาช้านาน
ตั้งแต่นั้นมา ภพก็พักอยู่ที่บ้านของรดา พวกเขาร่วมกันเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ เพื่อค้นหาความจริงเกี่ยวกับเมืองมนต์ขลัง ระหว่างการเดินทาง พวกเขาได้พบเจอกับอุปสรรคมากมาย แต่พวกเขาก็สามารถผ่านพ้นไปได้ ด้วยความช่วยเหลือซึ่งกันและกัน และความรักที่เพิ่มพูนขึ้นเรื่อยๆ
ในที่สุด พวกเขาก็ได้เดินทางไปถึงเมืองมนต์ขลัง เมืองที่เต็มไปด้วยเวทมนตร์ และความลึกลับ ที่นั่น พวกเขาได้ค้นพบความจริงเกี่ยวกับอดีตชาติของพวกเขา พวกเขาเคยเป็นคู่รักกัน ในอดีตชาติ แต่ด้วยเหตุการณ์บางอย่าง ทำให้พวกเขาต้องพลัดพรากจากกัน
ภพ: (น้ำตาคลอเบ้า) ฉันจำได้แล้ว เราเคยรักกัน ในอดีตชาติ แต่เราต้องพลัดพรากจากกัน เพราะสงคราม
รดา: (น้ำตาไหล) ฉันก็จำได้แล้ว เราเคยสัญญาว่า จะกลับมาพบกันอีก ในชาติหน้า
ภพและรดา กอดกันอย่างแนบแน่น พวกเขารู้สึกขอบคุณฟ้าดิน ที่ทำให้พวกเขาได้กลับมาพบกันอีกครั้ง ในชาตินี้ พวกเขาใช้ชีวิตร่วมกันอย่างมีความสุข ด้วยความรัก และความเข้าใจ ซึ่งกันและกัน และรอยยิ้มของพวกเขา ก็เป็นสัญลักษณ์แห่งบุพเพสันนิวาส ที่ผูกพันพวกเขามาช้านาน
หลังจากค้นพบความจริงอันน่าตื้นตันใจในเมืองมนต์ขลัง ภพและรดาตัดสินใจใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขในหมู่บ้านเล็กๆ ท่ามกลางทุ่งนาเขียวขจี บ้านหลังเล็กๆ ที่เคยเป็นเพียงที่พักชั่วคราว กลับกลายเป็นรังรักที่อบอุ่น เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและความรักอันบริสุทธิ์
แต่ความสุขนั้น ก็ไม่ราบรื่นเสมอไป อดีตชาติที่พวกเขาเคยพลัดพรากจากกัน ยังคงทิ้งร่องรอยไว้ บางครั้ง รดาจะฝันร้าย เห็นภาพสงคราม และความตาย ทำให้เธอตื่นขึ้นมาด้วยความหวาดกลัว ภพจะคอยปลอบโยน และอยู่เคียงข้างเธอเสมอ
รดา: (สะดุ้งตื่นกลางดึก เหงื่อท่วมตัว) ภพ...ฉันฝันร้ายอีกแล้ว
ภพ: (ลุกขึ้นมาโอบกอดรดา) ไม่เป็นไรนะ ฉันอยู่กับเธอนี่ ฝันร้ายอะไร บอกฉันสิ
รดา: ฉันเห็น...เห็นสงคราม เห็นคนตาย ฉันเห็น...เห็นเราพลัดพรากจากกัน
ภพ: มันเป็นเพียงแค่ฝัน เราอยู่ด้วยกันแล้ว ไม่มีอะไรต้องกลัวอีกแล้ว
ภพคอยดูแลรดาอย่างเอาใจใส่ เขาพาเธอไปเที่ยวชมสถานที่ต่างๆ เพื่อให้เธอคลายความกังวล เขาสอนเธอเล่นดนตรี และร้องเพลง เสียงเพลงไพเราะ ช่วยให้รดาผ่อนคลาย และลืมความทรงจำอันเลวร้ายไปได้บ้าง
วันหนึ่ง ขณะที่ภพและรดาเดินทางไปยังป่าลึก พวกเขาก็ได้พบกับหญิงชราคนหนึ่ง หญิงชราผู้นั้น มีใบหน้าที่แสนเศร้า และดวงตาที่เต็มไปด้วยความทุกข์
หญิงชรา: ท่านทั้งสอง ช่วยฉันด้วยเถอะ
ภพ: เกิดอะไรขึ้นหรือครับ
หญิงชรา: ฉันถูกสาป ให้ต้องวนเวียนอยู่ในป่าแห่งนี้ ตลอดไป ไม่มีวันได้กลับบ้าน
รดา: สาป? สาปด้วยอะไรหรือคะ
หญิงชรา: ฉันเคยทำบาปไว้ ในอดีตชาติ ฉันจึงต้องรับกรรม โดยการถูกสาปให้วนเวียนอยู่ในป่าแห่งนี้
ภพและรดา สงสารหญิงชรา พวกเขาจึงช่วยเหลือหญิงชรา โดยการทำพิธีกรรม เพื่อปลดปล่อยหญิงชราจากคำสาป พิธีกรรมนั้น ต้องใช้พลังแห่งความรัก และความเมตตา ภพและรดา ร่วมมือกัน ทำพิธีกรรมอย่างตั้งใจ และด้วยพลังแห่งความรัก หญิงชรา ก็ได้รับการปลดปล่อย จากคำสาป
หญิงชรา: ขอบคุณท่านทั้งสอง ท่านมีจิตใจที่งดงาม และความรักที่บริสุทธิ์ ขอให้ท่านทั้งสอง มีความสุขตลอดไป
หลังจากนั้น ภพและรดา ก็ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข พวกเขาช่วยเหลือผู้คน และทำความดี เพื่อตอบแทนบุญคุณ ที่ได้รับ ความรักของพวกเขา เป็นเหมือนแสงสว่าง ส่องสว่างให้กับชีวิตของผู้คน และเป็นเครื่องพิสูจน์ ว่า บุพเพสันนิวาส นั้น เป็นความจริง และความรัก สามารถข้ามผ่านกาลเวลาได้
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว ท่ามกลางความสุขและความอบอุ่น รดาเริ่มแสดงอาการของการตั้งครรภ์ ความยินดีเปี่ยมล้นเข้ามาแทนที่ความกังวลใจในอดีต ภพดูแลรดาอย่างเอาใจใส่ ยิ่งกว่าเดิม เขาคอยปรนนิบัติ และเฝ้าดูแลอย่างไม่ห่างกาย ความรักของทั้งคู่ ยิ่งทวีคูณขึ้น เมื่อมีชีวิตน้อยๆ กำลังเติบโตอยู่ในครรภ์ของรดา
ภพ: (ลูบคลำท้องของรดาอย่างแผ่วเบา) ลูกของเรา กำลังเติบโตขึ้นทุกวัน พ่อรักลูกนะ
รดา: (ยิ้มหวาน) ฉันก็รักลูก และฉันรักคุณ ภพ
การตั้งครรภ์ของรดา เป็นช่วงเวลาที่แสนสุข แต่ก็ไม่ปราศจากความกังวล รดาเป็นห่วงสุขภาพของตนเอง และความปลอดภัยของลูกน้อย ภพคอยปลอบโยน และให้กำลังใจเธอเสมอ เขาพาเธอไปพบหมอ และดูแลอย่างใกล้ชิด ความรักและความห่วงใย ของทั้งคู่ เป็นสิ่งที่มั่นคง และอบอุ่น
เมื่อถึงกำหนดคลอด รดาได้ให้กำเนิดทารกน้อย ที่มีใบหน้าที่น่ารัก และดวงตาที่สดใส ทั้งภพและรดา ต่างก็มีความสุขอย่างบอกไม่ถูก พวกเขาตั้งชื่อลูกน้อยว่า "ดารา" ซึ่งมีความหมายว่า ดวงดาว ส่องสว่าง และนำทาง
การเลี้ยงดูดารา เป็นประสบการณ์ใหม่ และแสนวิเศษ สำหรับภพและรดา พวกเขาเรียนรู้ที่จะเป็นพ่อแม่ อย่างเต็มที่ พวกเขาแบ่งปันหน้าที่ และช่วยเหลือกัน อย่างไม่เหน็ดเหนื่อย ดารา เติบโตขึ้นท่ามกลางความรัก และความอบอุ่น ของพ่อแม่
วันหนึ่ง ขณะที่ภพ รดา และดารากำลังเล่นอยู่ด้วยกัน ดาราก็ได้หยิบเอาสร้อยคอ เส้นหนึ่งขึ้นมา สร้อยคอ เส้นนั้น เป็นสร้อยคอ ที่ทำจากหยกสีเขียว สวยงาม และลึกลับ
ดารา: (ชี้ไปที่สร้อยคอ) พ่อ แม่ นี่คืออะไร
รดา: นั่น...นั่นเป็นสร้อยคอ ที่ฉันได้มาจากเมืองมนต์ขลัง
ภพ: มันเป็นสิ่งของ ที่มีความสำคัญ มาก นะลูก
ดารา มองสร้อยคอ ด้วยความสงสัย แล้วพูดว่า
ดารา: มันสวยจังเลย
ภพและรดา มองหน้ากัน แล้วต่างก็ยิ้ม พวกเขารู้ว่า บุพเพสันนิวาส ของพวกเขา จะยังคงดำเนินต่อไป และความรัก ของพวกเขา จะสืบเนื่อง ไปยังรุ่นลูก และรุ่นหลาน ต่อไป
















