ผ่านเลนส์แห่งรัก
ผ่านเลนส์แห่งรัก
โดย #อักษราลัย
กล้องถ่ายรูปตัวเก่าวางอยู่บนโต๊ะทำงาน ฝุ่นจับเป็นคราบบาง ๆ บนเลนส์ ฝนเอื้อมมือไปปัดฝุ่นเบา ๆ นี่เป็นกล้องตัวสุดท้ายที่พ่อให้เธอก่อนที่ทุกอย่างจะเปลี่ยนไป ก่อนที่พ่อจะล้มป่วยและตัดสินใจย้ายกลับไปอยู่บ้านเกิด ทิ้งให้เธอและแม่อยู่ในเมืองใหญ่เพียงลำพัง
"ฝน..." เสียงแม่เรียกแผ่วเบา
ฝนรีบวางกล้องลงแล้วเดินไปที่ห้องนอนของแม่ แม่นอนซีดเซียวอยู่บนเตียง อาการป่วยทำให้ร่างกายผอมลงกว่าเดิมมาก
"หิวน้ำไหมคะแม่" ฝนถาม พลางนั่งลงข้างเตียง
แม่ส่ายหน้าเบา ๆ "แม่อยากคุยกับลูก"
ฝนกุมมือแม่ไว้ มือที่เคยอบอุ่นและเต็มไปด้วยพละกำลังบัดนี้เย็นเฉียบและอ่อนแรง
"แม่อยากให้ครอบครัวเรากลับมาอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันอีกครั้ง" แม่พูดช้า ๆ "ไปรับพ่อกลับมานะลูก"
คำพูดของแม่ทำให้ฝนชะงัก ความรู้สึกหลายอย่างปะทุขึ้นในใจ ทั้งความกลัว ความรู้สึกผิด และความโหยหา เธอยังจำวันที่พ่อบอกว่าจะย้ายกลับบ้านเกิดได้ดี พ่อบอกว่าไม่อยากเป็นภาระ ไม่อยากให้เธอและแม่ต้องลำบากดูแล แต่สำหรับฝน มันเหมือนพ่อกำลังทิ้งเธอไป
"แม่..." น้ำตาของฝนเอ่อล้น
"พ่อรักลูกนะ" แม่บีบมือเธอเบา ๆ "แค่ไม่รู้จะแสดงออกยังไง เหมือนกับที่ลูกรักพ่อ แต่ก็ไม่รู้จะบอกยังไงเหมือนกัน"
คืนนั้น ฝนนั่งดูภาพเก่า ๆ ที่พ่อเคยถ่ายให้ ภาพแต่ละใบเล่าเรื่องราวของความทรงจำ ทั้งภาพที่เธอหัดเดินครั้งแรก ภาพวันเกิดปีแล้วปีเล่า ภาพเธอในชุดครุยวันรับปริญญา ทุกภาพสะท้อนสายตาที่เปี่ยมด้วยความรักของพ่อ แม้ว่าปากของพ่อจะไม่เคยพูดคำว่ารักออกมาตรง ๆ
เช้าวันรุ่งขึ้น ฝนออกเดินทางไปบ้านเกิดของพ่อ ระหว่างทาง เมฆฝนก่อตัวหนาทึบขึ้นเรื่อย ๆ ในที่สุดสายฝนก็เทกระหน่ำลงมา ฝนพยายามขับรถฝ่าพายุ แต่ทัศนวิสัยแย่ลงเรื่อย ๆ จนเธอต้องตัดสินใจแวะพักที่รีสอร์ตเล็ก ๆ แห่งหนึ่งริมทาง
ที่ระเบียงของรีสอร์ต เธอได้พบกับต้น ช่างภาพหนุ่มที่กำลังถ่ายภาพสายฝน เขายืนนิ่งอยู่ใต้ชายคา สายตาจับจ้องไปที่หยดน้ำที่กระทบผิวน้ำในแอ่งเล็ก ๆ
"สนใจการถ่ายภาพเหรอครับ" ต้นทักทายเมื่อเห็นกล้องในมือของฝน
ฝนพยักหน้า "เป็นกล้องของพ่อค่ะ" เธอตอบสั้น ๆ
"ผมชอบถ่ายภาพสายฝน" ต้นพูดต่อ "โดยเฉพาะตอนที่มันตกกระทบผิวน้ำ มันทำให้เห็นว่าบางครั้งความงามก็ซ่อนอยู่ในความวุ่นวาย เหมือนกับชีวิตเรา ที่บางครั้งต้องผ่านพายุฝนถึงจะเห็นแสงสว่าง"
คำพูดของต้นทำให้ฝนนิ่งคิด เธอนึกถึงพ่อที่นั่งเงียบอยู่ในห้องพัก ตลอดการเดินทางที่ผ่านมา ทั้งคู่แทบไม่ได้พูดคุยกัน
"คุณพ่อของคุณคงเป็นช่างภาพที่เก่งมากเลยนะครับ" ต้นพูดขึ้น หลังจากที่ฝนเล่าเรื่องราวของเธอให้ฟัง "ผมเห็นภาพที่คุณถ่ายเมื่อกี้ มันมีอะไรบางอย่างที่พิเศษ เหมือนกับภาพที่ถ่ายด้วยหัวใจ"
"พ่อสอนฉันเองค่ะ" ฝนยิ้มบาง ๆ "แต่ตอนนี้..." เธอเงียบไป
"ลองไปคุยกับท่านดูไหมครับ" ต้นเสนอ "บางทีสายฝนวันนี้อาจเป็นโอกาสดีที่จะได้เริ่มต้นใหม่"
ฝนเดินกลับเข้าไปในห้องพัก พ่อนั่งอยู่ที่เก้าอี้ริมหน้าต่าง สายตาจับจ้องไปที่สายฝนภายนอก
"พ่อคะ..." ฝนเรียกเบา ๆ "หนูขอโทษนะคะ"
พ่อหันมามองเธอ แววตาเศร้า ๆ
"ที่ผ่านมา หนูโกรธพ่อที่ทิ้งหนูกับแม่ไป" น้ำตาของฝนไหลอาบแก้ม "แต่จริง ๆ แล้ว หนูโกรธตัวเองมากกว่า ที่ทำอะไรให้พ่อไม่ได้เลย"
พ่อลุกขึ้นยืน เดินมาหาเธอช้า ๆ "พ่อขอโทษ" เสียงของพ่อสั่นเครือ "พ่อคิดว่าการจากไปจะทำให้ลูกกับแม่สบายใจขึ้น พ่อไม่อยากให้ลูกต้องเหนื่อย..."
"แต่หนูอยากดูแลพ่อนะคะ" ฝนสะอื้น "หนูคิดถึงพ่อ คิดถึงตอนที่เราไปถ่ายรูปด้วยกัน"
พ่อดึงเธอเข้ามากอด เป็นอ้อมกอดที่อบอุ่นและคิดถึง "พ่อก็คิดถึงลูกมาก"
คืนนั้น ฝนกับพ่อใช้เวลาดูรูปเก่า ๆ ด้วยกัน แต่ละภาพเต็มไปด้วยความทรงจำและเรื่องราว พ่อเล่าให้ฝนฟังว่าทำไมถึงถ่ายภาพแต่ละภาพ ความรู้สึกที่อยู่เบื้องหลัง และความหมายที่แฝงอยู่ ต้นนั่งฟังอย่างตั้งใจ พลางถ่ายภาพบรรยากาศอบอุ่นตรงหน้า
เมื่อกลับถึงบ้าน แม่ร้องไห้ด้วยความดีใจที่เห็นทุกคนกลับมาอยู่พร้อมหน้า แต่ความสุขนั้นก็ไม่ได้อยู่นาน เมื่อพ่อมีอาการทรุดหนักกะทันหัน หมอบอกว่าต้องผ่าตัดด่วน แต่เป็นการผ่าตัดที่มีความเสี่ยงสูง
"พ่อไม่เป็นไรหรอก" พ่อปฏิเสธการผ่าตัด "พ่อไม่อยากให้ลูกกับแม่ต้องกังวล"
"พ่อคะ" ฝนคุกเข่าลงข้างเตียง น้ำตาไหลอาบแก้ม "อย่าทิ้งหนูไปอีกนะคะ เราเพิ่งจะได้กลับมาเจอกัน หนูยังมีเรื่องอยากเล่าให้พ่อฟังอีกเยอะ ยังอยากถ่ายรูปกับพ่ออีก..." เธอกำมือพ่อแน่น "หนูรักพ่อนะคะ"
พ่อนิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะพยักหน้าช้า ๆ "พ่อจะสู้...เพื่อลูก"
การผ่าตัดผ่านพ้นไปด้วยดี ในระหว่างที่พ่อพักฟื้น ต้นแวะมาเยี่ยมบ่อย ๆ เขาชวนฝนออกไปถ่ายรูป สอนเทคนิคใหม่ ๆ และคอยรับฟังเวลาที่เธอต้องการระบายความรู้สึก ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ค่อย ๆ พัฒนาขึ้น จากเพื่อนกลายเป็นคนพิเศษ
วันนี้ ครอบครัวของฝนกลับมาอยู่พร้อมหน้าพร้อมตาอีกครั้ง พ่อแข็งแรงขึ้นมาก และเริ่มกลับมาถ่ายรูปอีก แม่ก็มีรอยยิ้มบนใบหน้าเสมอ ส่วนฝนกับต้นก็คบหากันอย่างจริงจัง พวกเขามักจะพากันออกไปถ่ายรูปในวันฝนตก เพราะต้นบอกว่า "สายฝนทำให้เราเห็นโลกในมุมที่ต่างออกไป สายฝนทำให้ภาพแต่ละครั้งไม่เหมือนเดิมแม้จะเป็นสถานที่เดิม หรือมุมเดิม ๆ นี่แหละเสน่ห์ของสายฝน"
ในวันที่ฝนตกพรำ ฝนนั่งอยู่ที่ระเบียงบ้าน มือถือกล้องถ่ายรูปของพ่อ เธอกำลังถ่ายภาพสายฝนที่หล่นกระทบผิวน้ำในสระเล็ก ๆ หน้าบ้าน พ่อเดินมานั่งข้าง ๆ
"สวยไหมคะ" ฝนหันไปถามพ่อ พลางยื่นกล้องให้ดู
พ่อพยักหน้า รอยยิ้มบาง ๆ ปรากฏบนใบหน้า "เหมือนที่พ่อเคยสอนเลย... บางครั้งความงามก็ไม่ได้อยู่ที่ตัววัตถุ แต่อยู่ที่เงาสะท้อนของมัน"
ฝนนึกถึงคำพูดของต้นในวันที่พวกเขาเจอกันครั้งแรก และเข้าใจในที่สุดว่าความรักก็เหมือนกับเงาสะท้อนในสายฝน บางครั้งมันอาจดูพร่าเลือน ไม่ชัดเจน แต่ถ้าเรามองให้ลึกซึ้ง เราจะเห็นความงดงามที่ซ่อนอยู่
ความรักมีหลายรูปแบบ ทั้งความรักที่เงียบงันของพ่อที่แสดงออกผ่านเลนส์กล้อง ความรักที่อดทนและเสียสละของแม่ที่คอยประคับประคองครอบครัว และความรักที่เข้าใจของต้นที่ช่วยให้เธอมองเห็นความงามในความไม่สมบูรณ์แบบ
"พ่อคะ" ฝนวางกล้องลง หันไปกอดพ่อ "ขอบคุณนะคะ ที่สอนให้หนูรู้จักมองโลกผ่านเลนส์แห่งความรัก"
พ่อลูบศีรษะลูกสาวเบา ๆ น้ำตาคลอ เขาไม่ต้องพูดอะไร เพราะบางครั้งความรักก็ไม่จำเป็นต้องอธิบายด้วยคำพูด เหมือนกับสายฝนที่ไม่จำเป็นต้องบอกว่าทำไมถึงสวยงาม
*.:。✿*゚゚・✿.。.:*✿.。.:* *.:。.✿˜*





















